ความคิดเห็นที่ 1 ที่เห็นทั้งหมดนี้ สามารถนำมาทำส้มตำได้ จริงๆค่ะ... อยากทานทั้งหมดทั้งมวล  แต่ไม่สามารถได้.. จากคุณ : ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง - [ 31 ส.ค. 51 20:19:32 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตำหัวปลี  ค่ะ นำหัวปลีฝาดๆมาตำใส่มะเขือ กลบรสเฝื่อน  ใส่เปรี้ยวมะขาม  หวานอมเปรี้ยว...จริงๆต้องมีหอยต้มใส่ด้วย แต่วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ คนส่งหอยหยุดค่ะ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 51 20:22:30 จากคุณ : ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง - [ 31 ส.ค. 51 20:22:07 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อันนี้ตำกล้วย...เอากล้วยตานี ดิบมาตำค่ะจริงๆแล้วจะใช้ความเปรี้ยวของมะยมมาดับความฝาด..เดี๋ยวนี้ใช้น้ำมะขามอย่างเดียวเลย.. จากคุณ : ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง - [ 31 ส.ค. 51 20:24:19 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จานซ้ายมือคือตำลูกยอดิบ...(ผู้หญิงกินเลือดลมดี  คนท้องห้ามกินเด็ดขาดอาจแท้งได้..จริงๆค่ะ) อีกจานคือตำลูกจัน  เอาผลไม้ทั้งสองวางไว้ใกล้ๆ  เพื่อให้นึกภาพออกนะคะ..ลูกจันถ้าสุกจะมีสีเหลืองส่งกลิ่นหอมค่ะ จากคุณ : ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง - [ 31 ส.ค. 51 20:26:46 ]

ความคิดเห็นที่ 5 จานนี้คือตำเมี่ยงข่า.. คำว่าเมี่ยงนี้คือต้องใช้ผักห่อรับประทานค่ะ... ตำเมี่ยงข่านี้ใช้ลำต้นของต้นข่า..ซึ่งปรกติเราจะรู้จักแค่หัวข่ามาใส่ต้มยำ แต่ทางอีสานเขานำลำต้นข่ามาทำอาหารได้ด้วยค่ะ.. ใบที่ใช้ทานคู่ส่วนมากจะเป็นใบไม้ที่มีรสฝาด เช่นใบผักกระโดนค่ะ.. จากคุณ : ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง - [ 31 ส.ค. 51 20:29:38 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เบื้องหลังการกิน...สองคนพี่น้องกินๆๆๆ บู้บี้ ท้องเสีย ถ่ายรูปอย่างเดียว..อ้อ..แจมนิดหน่อย..ค่ะ.. มื้อนั้น ห้าจานห้าสิบค่ะ..กินๆๆไม่หมดก็ทิ้ง..บอกคนขายว่าอยากกิน ทุกอย่างอย่างละนิดละหน่อย..เฮ้อ  ชื่นใจ.. เป็นวัฒนธรรมการกินของอีสานที่ป้าพอเพียงภูมิในนำเสนอมากๆๆๆๆๆ หลายๆท่าน คงไม่เคยพบเคยเห็น...แต่ป้าพอเพียง เจอมาตั้งแต่เด็กๆค่ะ... มันเป็นสิ่งหนึ่งที่ภูมิใจมาก... จากคุณ : ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง - [ 31 ส.ค. 51 20:33:10 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อ้าวลืมรูป.. จากคุณ : ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง - [ 31 ส.ค. 51 20:33:49 ]

ความคิดเห็นที่ 8 กินเสร็จ..บู้บี้..ขับรถค่ะ..ไปไหน.. ก็ตามคันนี้ไปนั่นแหล่ะ..จ้า.. ปล.  มีภาพการกินที่จ.สกลนครและจ.ร้อยเอ็ด  อีกนิดหน่อย.. เดี๋ยวตอนเช้ามาโพสดีกว่า..ลูกไล่ไปนอนแล้ว..ค่า จากคุณ : ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง - [ 31 ส.ค. 51 20:37:08 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สวัสดียามค่ำค่ะ จขกท. แวะมาดูรูป กับแอบปาดน้ำลาย ซี้ด!!! น่ากินชะมัด นี่ขนาดกินมื้อค่ำแล้วนะคะ จากคุณ : หนึ่งในคนใกล้ตัว - [ 31 ส.ค. 51 20:39:18 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ป ร๊ า ด ด ด ด..........ก ร ะ ทู้ ..ของดอง..  นี่ นาาา ....... (ล้อเล่น นะคะ อย่าเคืองล่ะ) วันนี้สิ้นเดือนละ เอา แต้ม มาแจกให้หมดคืนนี้เลย อยาก จะ ให้ ซัก  ..ห้าแต้ม..  ก็เกิน ลิมิต ซะ นี่.. จากคุณ : หนูออน (Oncidium.) - [ 31 ส.ค. 51 20:39:59 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตามมาดู และคงไม่ได้ปาดนะคุณบุ๋ม..คนแถวอีสาน เขามีอาหารแปลกกินเสมอครับเพราะคนทาง โน้นเข้าใจดัดแปลงอาหารท้องถิ่น จนมาเป็นอาหารที่คนชอบทั่วไป เช่นตำบักหุ่ง(ส้มตำ)และซุป หน่อไม้ ซุปขนุนฯลฯ ขอบคุณครับที่นำภาพมาเสนอ จากคุณ : ขวัญชัยอิศรา (kwanchaiisra) - [ 31 ส.ค. 51 20:41:34 ]

ความคิดเห็นที่ 12 หิวข้าวขึ้นมาทันทีครับ เป็นตาแซ่บ น้อ จากคุณ : บ้านชนบท - [ 31 ส.ค. 51 21:06:19 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แง่มๆ เปรี้ยวปาก จากคุณ : PANAJA - [ 31 ส.ค. 51 21:24:04 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เอื๊ออออก......... จากคุณ : ท่านขุนเดชา - [ 31 ส.ค. 51 21:29:43 ]

ความคิดเห็นที่ 15 มายั่วให้หิวยามดึกอีกแล้ว จากคุณ : Pleng-Ticha-korn - [ 31 ส.ค. 51 21:45:38 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ลุงอ่ำ เคยไปสุรินทร์ โดยขึ้นเครื่องบินไปลงที่อุบลราชธานี แล้วทางสุรินทร์ เขาเอารถมารับลุงอ่ำจากสนามบินอุบล ไปที่สุรินทร์ ระหว่างที่นั่งสับปะหงก อยู่บนรถที่เขาเอามารับ พอตื่นขึ้นมาอีกที ขณะนั้นรถอยู่ใกล้สี่แยกแห่งหนึ่ง ลุงอ่ำพบว่า ริมถนนข้างซ้ายของรถ มีร้านขายส้มตำร้านหนึ่ง มีเมนูแขวนไว้ หน้าร้าน เมนูตำไทย ตำลาว ตำมั่ว ตำซั่ว ตำกล้วย ฯลฯ มีอยู่เมนูหนึ่ง ที่น่าติดใจสงสัยมาก คือ "ตำพม่า" . จากคุณ : ลุงอ่ำ - [ 31 ส.ค. 51 22:34:22 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สวัสดีครับ แวะมาดูสารพัดตำ  เกิดความหิวยามดึกขึ้นมาทันที... แต่พอไล่ลงมาเจอ  ตำมั่ว ตำซั่ว ของลุงอ่ำเข้า.... กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก...เอิ๊ก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ เจ้าตำมั่ว  ตำซั่ว  นี่มัน ตำยังไงอ่ะ ลุงอ่ำ เจ้าตำพม่า เนี่ยพอเข้าใจ  เพราะดูหนัง เห็นพระนเรศวร ไล่ตำพม่า แตกกระเจิง..!! ฮ่า...ฮ่า... ตำมั่ว  ตำซั่ว.... นึกออกแล้ว  เจ้าสองคำนี่พอเอามารวมกัน  มันเลยกลายเป็น "ตำมั่วซั่ว" ...อ่ะ.. 5555555555555....... จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ - [ 31 ส.ค. 51 23:20:40 ]

ความคิดเห็นที่ 18 บ่ะ..น่ากินไปซะทุกอย่างเลย แต่ก็กินไม่เป็นสักอย่างเลย ขนาดกินไม่เป็นแค่เห็นรูปก็น้ำลายไหลแล้ววววววว ว่าแล้วก็ไปหาไรกินดีกว่าเรา..หิวกระทันหันเลย จากคุณ : แจ็ค จัง - [ 31 ส.ค. 51 23:37:52 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นรูปแล้วรีบกลืนน้ำลายเลยค่ะป้าบุ๋ม อาหารแบบนี้ชอบ ถ้ามีขนมจีนด้วย ยิ่งชอบใหญ่ เอิ๊กส์ หิวววววววววววว จากคุณ : ป้าซิ่ง (Naomichan) - [ 1 ก.ย. 51 06:31:24 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ตอบทุกท่านเลยนะคะ..ว่า..ตอนนี้รีบๆๆๆๆๆลูกจะไปโรงเรียนแล้ว.. ตำพม่า..แห่ะๆๆไม่เคยได้ยินค่ะ.. แต่ตำซั่ว..เป็นการดัดแปลงจากส้มตำผสม ขนมจีนน้ำยาป่า   สาบานได้และมั่นใจว่าเริ่มต้นที่กาฬสินธ์ ค่ะ.. เดิมแรกๆมีคนอยากทานส้มตำกับขนมจีนน้ำยา..ซึ่งมีผักกาดดองเป็นเครื่องเคียง เลยผสมกัน แต่น้ำยาไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับรสชาติเลยตัดน้ำยาออก และใส่ผักกาดดองแทน นี่คือแรกเริ่มเดิมทีของตำซั่ว(ที่ตัวเองสามารถยืน ยันได้เมื่อเกือบสามสิบปีก่อน..ว๊าว..โถ  อายุ) ขอตัวก่อนนะคะ.. ยังอยากโพส..อยู่เลย..แต่ไม่มีเวลาแล้ว..ค่า จากคุณ : ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง - [ 1 ก.ย. 51 07:06:24 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เจอผู้เชี่ยวชาญวิชาการตำแหลกละ อิอิ เอาไว้อิฉันกลับบ้าน จะให้พาไปหาตำมั่วมั่งนะป้าพอเพียง จุ้บ จุ้บ จากคุณ : ศิริรักษ์ - [ 1 ก.ย. 51 15:08:52 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สวัสดีค่ะป้าพอเพียง แวะมากินส้มตำด้วยคนค่ะ จากคุณ : เด็กแนวแถวชายแดน - [ 1 ก.ย. 51 15:21:25 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ป้าพอเพียงก็บอกเขาไปสิว่า ตอนเด็กๆ อยู่บ้านนอกแห้งแล้ง มะละกอก็ไม่มีแต่อยากกินส้มตำ ต้องเอากะหล่ำปลีมาตำแทนมะละกอ ส่วนของแปลกๆ ถ้าไม่ลาวจริง ไม่บ้านนอกจริง ก็จะไม่ได้กินหรอก และกินที่ไหนก็ไม่อร่อย ต้องไปกินที่เถียงนา (ไปแย่งตากับยายที่ไปทำนากิน) และที่ประทับใจจำได้ไม่รู้ลืม และไม่คิดว่าคนสมัยนี้จะยังกินอีกอยู่หรือเปล่า คือ ตำบักคันลิ้น เป็นลูกสีเหลือง เนื้อก็ไม่ค่อยมีหรอก ตำใส่มดแดง เพราะไม่มีมะนาว ได้ความเปรี้ยวจากตัดมดแดงแทนเนี้ยแหละ ถ้าไม่เปรี้ยว กินแล้วก็จะคันลิ้น จากคุณ : บู้บี้ สาวกป้าพอเพียง - [ 21 ก.ย. 51 19:53:05 A:118.172.42.8 X: TicketID:171818 ]