ไม่รู้จะไปตั้งห้องไหนครับ เลยขออนุญาตมาตั้งที่ห้องไร้สังกัดแล้วกันนะครับ
ต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่าเรื่องที่ผมเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงทุกประการ ไม่มีแต่งขึ้นเพื่อกลั้นแกล้งหรือทำลายชื่อเสียงแต่อย่างใดครับ
เรื่องนี้เกิดขึ้นได้มาตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนปีนี้(2551) คือว่าแฟนผมเธอได้รับเป็นติวเตอร์ที่สถาบันกวดวิชาอบาคัสครับ เธอสอนภาษาเยอรมัน โดยสาขาที่เธอไปสอนเป็นสาขางามวงศ์วานครับ ตอนแรกที่ไปสอนก็สอนไปตามปกติครับ คอร์สนี้ปิดวันที่ 28 กันยายนครับ ประมาณสองเดือนเท่านั้น เนื่องจากเธอไปต่อจากอาจารย์คนเดิมที่เลิกสอนไป โดยตกลงกับทางสถาบันว่าเธอจะได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 2,880 บาทครับ โดยจะโอนให้หลังจากปิดคอร์สแล้วครับ เมื่อแฟนผมเธอสอนเสร็จปิดคอร์สแล้วก็ได้เอาสำเนาสมุดบัญชีที่ต้องการให้ทางสถาบันโอนเงินให้ไปให้ ซึ่งเป็นไปตามคำขอทางสถาบันครับว่าต้องการให้เอาสำเนาไปให้
แต่ว่าเมื่อปิดคอร์สไปแล้ว 1 สัปดาห์ เงินที่ต้องโอนให้ยังไม่เข้าเลยครับ แฟนผมเธอเลยโทรไปถาม ทางสถาบันก็ตอบว่าต้องรอ 30 วันจึงจะโอนเข้าได้ ดังนั้นเงินที่แฟนผมจะต้องได้รับจะโอนเข้าได้เมื่อถึงวันที่ 28 ตุลาคม แต่เมื่อรอถึงวันที่ 28 ตุลาคมแล้วเงินยังไม่ได้โอนให้ แฟนผมเธอก็โทรไปหาทางสถาบันอีกครับ ปรากฎว่าทางสถาบันบอกว่าจะโอนให้ในวันที่ 5 พฤศจิกายน เมื่อรอถึงวันที่ 5 พฤศจิกายน ทางสถาบันก็ไม่ได้โอนเงินให้ แฟนผมเธอก็เลยโทรไปหาทางสถาบันอีก ทางสถาบันก็ได้อ้างว่าผู้ที่มีอำนาจเบิกจ่ายเงินได้(ประมาณว่าเป็นเจ้าของอ่ะครับ) ไม่อยู่ไปดูงานที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งผู้ที่มีอำนาจนี้ได้ใช้ชื่อว่าอาจารย์อุ๊(บังเอิญไปเหมือนกับอาจารย์ชื่อดังอีกคน) ซึ่งเมื่อได้ขอเบอร์โทรเพื่อติดต่ออาจารย์อุ๊คนนี้ ทางสถาบันก็อ้างว่าอาจารย์อุ๊คนนี้ไม่ได้ให้เบอร์ติดต่อไว้ แล้วเมื่อถามว่าเมื่อจะกลับมาเมื่อไหร่จะได้ติดต่อกลับไปอีกที ก็ปรากฎว่าทางสถาบันบอกว่าไม่ทราบว่าอาจารย์ผู้นี้จะกลับเมือไหร่อีก ซึ่งตอนที่แฟนผมเธอโทรไปติดต่อผมก็อยู่ด้วย ผมรู้สึกได้ทันทีเลยครับว่าสถาบันแห่งนี้น่าจะคิดไม่ซื่อแล้วครับ ผมก็เลยถามเค้าไปว่าอย่างนี้ผมก็ได้ทำได้แค่รอ เค้าก็ตอบกลับมาแบบไม่มีความรับผิดชอบว่า "ใช่" ผมที่ไม่ใช่คู่กรณียังหงุดหงิดเลยครับ
แฟนผมเธอไม่ยอมครับแล้ววันที่ 9 พฤศจิกายน แฟนผมเธอก็ได้เข้าไปที่สถาบันเลยครับ วันนี้ผมไม่ได้ไปกับเธอด้วยครับ เมื่อเธอกลับมาก็เล่าให้ผมฟังว่า เมื่อเธอเข้าไปก็ได้ไปหาพนักงานที่อยู่ที่เคาร์เตอร์ครับ(คาดว่าเป็นคนละคนกับที่รับโทรศัพท์ครับ แล้วเดี๋ยวจะรู้ครับว่าทำไมคาดว่าเป็นละคนกัน) พนักงานคนนี้ก็บอกว่าอาจารย์อุ๊อยู่สอนจะเสร็จแล้วให้รอพบได้เลย เมื่ออาจารย์อุ๊ลงมาพี่พนักงานก็บอกให้แฟนผมไปพบครับ เธอก็ได้ถามถึงเรื่องเงินครับ ปรากฎว่าอาจารย์คนนี้เดินหนีครับ เดินหนึ!!! ไม่ยอมคุยด้วย พี่พนักงานเลยบอกให้แฟนผมโวยวายครับ เนื่องจากว่าพี่เค้าบอกว่าตั้งแต่ที่พี่เค้ามาทำงานที่นี่ก็มีน้องๆที่มาเป็นติวเตอร์ที่นี่โทรมาถามเรื่องเงินที่ยังไม่ได้รับเยอะมากครับ(ตอนนี้ผมก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าพี่พนักงานเนี่ยบอกได้ยังไง หรือว่าอาจารย์อุ๊เดินหนีแล้วพี่พนักงานก็บอกให้แฟนผมไปตามโวยวาย)แฟนผมเธอเลยโวยวายเสียงดังเลยครับ เธอบอกว่าเธอโวยวายเสียงมากๆครับ แบบคนโมโหอะไรประมาณนี้ครับ(ให้นึกภาพคนเเถียงกันแรงๆอ่ะครับ) เมื่อเธอโวยวายอย่างนี้แล้วอาจารย์อุ๊คนนี้ก็อยู่ไม่ได้ละครับ พยายามหนีออกไปข้างนอกทำเป็นคุยโทรศัพท์หาตำรวจครับว่าโดนคุกคามอะไรประมาณนี้ แฟนผมเธอเลยตอบไปว่า "ก็ดีสิค่ะ ตำรวจจะมาจับคนโกงเงิน" พอได้ยินแบบนี้อาจารย์คนนี้ก็ไม่รู้จะทำยังไงละมั้งครับ ก็เลยได้ให้เบอร์โทรของคนที่อ้างว่าฝ่ายบัญชีของที่นี่มาให้ชื่อว่า "ธีระ" เมื่อได้เบอร์โทรแฟนผมเธอก็ได้กลับบ้านเลยครับ เพราะว่าตอนนั้นเย็นมากแล้ว เธอต้องเตรียมตัวกลับไปหอที่มหาลัยครับ(เธอเรียนอยู่ธรรมศาสตร์ รังสิตครับ)
แต่เมื่อโทรติดต่อหาคนที่ชื่อ "ธีระ" ปรากฎว่าโทรไม่ติดบ้าง ไม่มีคนรับบ้าง แฟนผมเธอเลยตัดสินเข้าไปที่สถาบันอีกในวันที่ 29 พฤศจิกายน(ที่เข้าไปช้าเพราะว่าเธอติดสอนพิเศษทุกวันเสาร์อาทิตย์เลยครับ) เข้าไปคราวนี้ได้คำตอบกลับมาว่าให้ไปรับเชคที่สถาบันกวดวิชาอบาคัสสาขาบางกะปิครับ!!! ให้ไปเอาที่สาขาบางกะปิวันที่ 4 ธันวาคม ก็คือวันนี้ครับ ซึ่งวันนี้เนี่ยผมก็ได้โดดเรียนไปกับเธอด้วย(เพราะรู้สึกว่าต้องมีอะไรผิดปกติแน่) ไ้อธีระ(ขอใช้คำนี้นะครับ เพราะว่ามันเหมาะกับคำนี้จิงๆ ครับ) ได้นัดเวลาไว้บ่าย 2 ครับ ผมกับแฟนก็ได้ออกจากธรรมศาสตร์รังสิตเพื่อไปสถาบันที่ว่าซึ่งตั้งอยู่บริเวณปากซอยลาดพร้าว 101/2 เมื่อถึงประมาณเซนทรัลลาดพร้าวแฟนผมได้โทรไปหา ไ้อธีระ ซึ่งเวลาตอนนั้นประมาณ 1.45 ครับ บอกว่าจะเข้าช้าประมาณครึ่งชั่วโมง แต่ไ้อธีระกลับบอกกลับมาว่าให้เข้ามาตอน 5 โมงเย็นแทนเพราะว่าตอนนี้มันยังไม่ได้อาบน้ำ(ดูเหตุผลมันซิครับ) แฟนผมเลยบอกว่าขอเป็น 4 โมงเย็นได้รึป่าว มันก็บอกกลับมาว่าไม่แน่ใจแต่จะพยายาม ดูสิครับนัดไว้บ่าย 2 เลื่อนไป 5 โมงเย็นโดยไม่บอกไม่กล่าวก่อน เมื่อผมกับแฟนได้ไปถึงที่สถาบันก็มีพนักงานผุ้หญิงคนนึงอยู่ที่เคาร์เตอร์ ผอมๆอายุประมาณ 30 ปลายๆ ก็ถามเลยครับว่ารับเชครึป่าว แฟนผมก็ตอบว่าใช่ไป ผู้หญิงคนนี้ก็ขอสำเนาบัตรฯครับ ผมก็เลยไปถ่ายสำเนาบัตรให้ที่ร้านเนตข้างๆ เมื่อถึงเวลาที่จะรับเชคพนักงานคนนี้ก็ขอให้เซ็นชื่อรับเชคกับแนบสำเนาบัตรให้ แต่ด้วยความที่ไม่ไว้ใจผมเลยบอกว่าขอดูเชคก่อน พนักคนนี้ก็ตอบกลับมาว่า "ต้องเซ็นชื่อรับก่อนแล้วค่อยมายื่นหมูยื่นแมว" ดูมันตอบสิครับ ผมเลยตอบไปว่า "ขอดูเชคก่อนก็ได้ ดูชื่อ ดูจำนวนก่อน" มันก็ยอมโดยดีครับ แล้วแฟนผมเธอก็เซ็นรับไป เชคที่ได้มานั้นเป็นเชคของธนาคารไทยพานิชณ์ครับ ซึ่งไม่ตรงกับสำเนาบัญชีที่แฟนผมส่งไปให้คือธนาคารกรุงไทย ดูมันทำสิครับ
ยังไม่จบแค่นี้ครับเรื่องมันยังมีต่อ เมื่อได้เชคแล้วผมกับแฟนก็รีบไปขึ้นเงินเลยครับ โดยไปที่บิ๊กซีลาดพร้าว ปรากฎว่าเชคที่ได้มาต้องฝากเข้าบัญชีเท่านั้น ซึ่งผมและแฟนต่างก็ไม่มีบัญชีของธนาคารไทยพานิชณ์ แฟนผมเธอเลยเปิดบัญชีใหม่เลยครับ แล้วเมื่อจะเอาเชคขึ้นเงินปรากฎว่าเงินในบัญชีนั้นมีไม่พอครับ แฟนผมเธอเลยโทรไปหาไ้อธีระ ไ้อธีระเลยขอคุยกับพนักงานธนาคารแล้วได้ผลมาว่า เชคนั้นลงวันที่ที่สามารถขึ้นได้วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552 ครับ พนักงานธนาคารเห็นยัง ''งง" เลยครับ เมื่อรู้อย่างนี้แฟนผมก็โทรไปหาไ้อธีระใหม่ แต่ว่ามันตัดสายทิ้งตลอดเลยครับ ดูความ เ-ล-ว ของมันสิครับ ดูความ ั่ชว ของสถาบันกวดวิชาแห่งนี้สิครับ แฟนผมต้องรอให้จนถึงวันที่ 23 กุมภากันธ์ปีหน้าเพื่อขึ้นเงินค่าสอนที่สอนไปแล้วตั้งแต่เดือนกันยายน 5 เดือนครับ หลังจากสอนเสร็จถึงจะได้เงินค่าสอน ก็มาเล่าให้เป็นคำเตือนครับ ใครที่อยากไปเป็นติวเตอร์ก็ระวังกันหน่อยนะครับ สำหรับสถาบันกวดวิชา เ-ล-ว ๆ แบบนี้
ผมอยากให้ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำครับ เพื่อจะได้เป็นการเตือนพี่ๆเพื่อนๆจะได้ไม่ต้องมาเจอเหตุการณ์แย่ๆแบบนี้
จากคุณ :
ToI-II2u
- [
วันพ่อแห่งชาติ 00:58:36
]