 |
,,,,,,,,,,, สมัยเรียน มัธยมปลาย .......... ยันเรียนอุดมศึกษา ........ แต่ละท่าน วางแผนชีวิตกันยังไงบ้างครับ .........
ตั้งแต่เรียนประถมปลาย พี่ชายพี่สาว ต่างก็อยู่อุดมศึกษา เรียนมาจากสายวิทย์ กันหมด ตอนนั้นผมไม่รู้เรื่องรู้ความ
เรียนๆไป รับมอบหมายการบ้านครู ไม่ได้มองการบ้านเหมือนเป็นเรื่องหน้าเบื่อ
ไม่ทำการบ้านส่งครู หรือทำแล้วโหลยโท่ย ไม่ทำ กลัวครูท่านจะเสียใจ ไม่เคยเขี่ยการบ้านส่งครูครับ
ตอนเด็กๆ ผมลอกโจทย์การบ้านครูจากกระดานดำมาผิด แค่โจทย์บวกลบเลขธรรมดา
กลายเป็น เอาตัวตั้ง ลบด้วยจำนวนที่มากกว่า ทำไม่ได้ พี่ๆ มาช่วยกันระดมมันสมอง ผลลัพท์ ออกมา พี่ๆบอกได้ค่าติดลบ
ตอนนั้นยังเรียนไม่ถึงหรอกครับ ตัวเลขค่าติดลบ
นอนร้องไห้ เพราะทำเลขข้อนี้ไม่ได้ ลบแล้ว ลบอีก ไม่รู้จะแก้โจทย์ยังไง รุ่งขึ้น อีกวัน แข็งใจ เอาการบ้านไปส่งครู เพราะโจทย์ข้อนี้ข้อเดียว
ครูท่านกรุณามากเลยครับ เห็นรอยลบของผม ท่านบอกว่า
"ขยันแก้โจทย์แบบนี้ ก็ดีแล้วนะ ขุน แต่โจทย์นี้คัดจากครูมาผิดน่ะ ไม่เป็นไรหรอก "
ผมเห็นพี่ชายคนเล็กสอบเข้า สวนกุหลาบได้ ตอนนั้นแกเล่น อิเลคทรอนิคส์ มีหลอดวิทยุเพียบ เต็มๆสองลิ้นชักแก ไม่มีอะไร หยิบอะไหล่ ตัวโน้นตัวนี้มาถามพี่ชายคนเล็ก
"ไอ้นี่ อะไรหง่ะ " " คอนเดนเซ่อร์ (สมัยนี้เรียก คาปาซิเต้อร์ ) " " ไอ่นี่อะไรหง่ะ " " รีซิสเต้อร์ " " แล้วไอ้นี่หล่ะ " " คอล์ย เฟร้ยยยยยย"
ถามกี่ที กี่ที ก็ได้คำตอบ วนไปวนมาอยู่แค่นี้ พอเริ่มรู้เรื่องรู้ความ ต่อวงจร ทำเครื่องส่งวิทยุ กับพี่ชาย เอาไปกวนชาวบ้านข้างๆเล่น เริ่มสนใจแล้วครับ
พี่ชายคนเล็ก เอ็นท์ติด วิศวะจุฬา แผนกไฟฟ้า ประมาณรุ่นเดียวกับ ลุงอ่ำ
ตอนนั้นผมคิดเลย กราผม จะเรียน วิศวะ ไฟฟ้า สื่อสาร หรือ อิเลคทรอนิคส์ ก็ได้ครับ ตามพี่ผม วางแผนไว้เลย จบมามีแถมไฟฟ้ากำลังอีก
อีตาพี่ชายคนเล็ก บอก " เฮ้ย มรึง เลือกเรียนหมอมั่งดิวะ " " ไม่อยากเอาชีวิตคน มาอยู่ในความรับผิดชอบ ให้มันมาตายคามือเค้าหว่ะ "
สุดท้ายก็ตามพี่ชายคนเล็กเข้ามาเรียน วิศวะ ไฟฟ้า เหมือนกันเด๊ะ เสียดาย พอผมเข้ามาเรียน พี่ก็ จบ ออกไป
เรียนมาถึงปลายปีสอง
วันนั้น ส่งการบ้านให้อาจารย์เสร็จ หยอดการบ้าน รายงาน ใส่กล่องหน้าห้องท่าน อาจารย์ท่านนี้เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาผม ผมสนิทกับท่านพอสมควร เคาะประตูเข้าไปหาท่านเลย
" อาจารย์ครับ ผมเรียนปรึกษาหน่อยดิ ครับ ถ้าผมอยากจะย้ายคณะน่ะ เป็นไปได้ไม๊ครับ " " แล้ว คุณ อยากจะย้ายไปคณะไหนหล่ะ " " อยากย้ายไปเรียนคณะ อักษรศาสตร์น่ะครับ " " จีบหญิงเหรอ " " ปล่าวครับ อาจารย์ วิศวะ ยิ่งเรียน ยิ่งยาก ยิ่งพอผมจบปีสองแล้ว วิชาช่วยแบบ ภาษาอังกฤษ ไม่มี ยิ่งโหด น่ะครับ อาจารย์ "
อาจารย์ เหล่ ลอดแว่นเลย " คุณ ภาษาอังกฤษที่เรียนๆกันน่ะ คณะเรา บางคนเค้าเรียกเป็นวิชาฉุด นะ " " แล้วถ้าผม อยากย้ายคณะเรียนหล่ะครับ ไปเรียนอักษร หง่ะ อาจารย์ " " มองไปข้างหลังคุณสิ นั่น ประตู มาทางไหน กลับไปทางนั้นเลย "
คร๊าบ อาจารย์ จบมาจนได้
จบมาแล้วก็ได้โลดแล่น ใช้ความรู้ที่เรียนมา ไม่ใช่ตามที่เรียนทั้งหมด มีการ ค้นคว้า ศึกษาเพิ่มเติม
ตอนเริ่มทำงาน เรียนรู้มากกว่าตอนเรียนอีกครับ
เจริญ ก้าวหน้า
สุดท้าย ผมบอกกับตัวเอง
ถ้ากราผมยังเป็นช่าง ต่อไปเรื่อยๆ ผมก็จะจบอย่างสวยหรู อย่างเก่ง ก็ ผู้อำนวยการฝ่ายช่าง
ยี่สิบกว่าปีที่แล้ว แผนการชีวิตผม
เขวี้ยงไขควงช่างทิ้ง มาทำงานที่เกี่ยวกับช่าง แล้วให้น้องๆช่างมันจัดการ ผมดูแลทั่วไป ตามอัตภาพ
ชั่วโมงนี้ ผมไม่ใช่ช่างอีกต่อไปแล้ว (ถ้าไม่จำเป็น)
ทำมาหากินแบบธุรกิจ สบายใจ
บอกๆพวกเรากันนะครับ ถ้าอยากให้ลูกหลาน เป็น วิศวกร
มันไม่รวยหรอกครับ สบาย แต่ไม่รวยกันแบบจะ จะ
แผนชีวิต ผม มาเป็นเถ้าแก่ ณ ชั่วโมงนี้ พออยู่พอกิน ตาม อัตภาพ
ก็เลยมาเล่าให้ฟัง
ท่านอื่นๆล่ะครับ
เรียนอยู่ ทำงานอยู่
มีแผนชีวิตกันยังไงมั่งครับ
เอาเล่ากันเล่นๆนะครับ
แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 52 02:54:50
แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 52 02:27:18
จากคุณ :
ท่านขุนเดชา
- [
11 มิ.ย. 52 02:03:31
]
|
|
|
|
|