|
เอ้า.. เล่าต่อ..
งานที่ 6 ตอนที่เปิด นสพ หางานน่ะ.. ป้าดูโลเคชั่นเป็นหลัก ขอใกล้บ้านเอาไว้ก่อน.. ก็จับพลัดจับผลู ได้งาน บริษัทเกาหลี เป็น trading company คือเค้ามีธุรกิจหลากหลายตั้งแต่โรงงานทอผ้า ไปจนถึงโรงกลั่นน้ำมัน.. แล้วตัวบริษัทเทรดดิ้ง ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นตัวกลางในการจัดจำหน่ายสินค้าของบริษัทในเครือ
ป้าแก่ได้เข้าไปทำในตำแหน่ง Assistant Manager ฟังดูดีเนอะ.. แต่ที่นี่ นายเป็นคนเกาหลี ส่วนคนไทยก็เป็นผู้ช่วยกันทุกคนแหละ ยกเว้นเลขา..
ป้าทำในแผนก Textile เขาให้ขายผ้าเอาหน้ารอด.. ปีนึง จะมี new design 3 รอบ winter, spring, summer ซึ่งทาง head office ก็จะส่งผ้ามาให้ เราก็ตัดๆ ให้เป็นชิ้นขนาดสัก A4 แล้วเอาติดกับกระดาษ ส่งให้ลูกค้า..
ที่ต้องตัดผืนใหญ่ๆ หน่อย เพราะว่า.. เวลาลูกค้าจับ มันจะได้มีมากพอให้รู้ feeling ของผ้า.. หลังจากนั้น บรรดา staff จาก head office แต่ละแผนก ก็เวียนกันมา Business Trip ป้าก็ต้องพาไปหาลูกค้า.. คุยราคา ลงออเดอร์กัน.. ชีวิต วนเวียนอยู่แต่แถว สำเพ็ง คุยกับแขกขายผ้า, โรงงานการ์เม้นท์, โรงงานทำตุ๊กตา..
เวลาไปโรงงานตุ๊กตาทีไร ป้าถูกใจ๊ถูกใจ เพราะไปทำหน้าอยากได้ เค้าก็ให้ตุ๊กตามาทุกที.. แหะๆ ไม่ต้องซื้อ.. คือ.. จริงๆ เราไปหาลูกค้า เพื่อจะขาย PSF (Polyester Staple Fiber) .. งง กันล่ะสิ.. ถ้าบอกว่า.. ปุยขาวๆ ที่เค้าใช้ยัดใส้ในนั่นแหละ.. คงจะอ๋อกันหมด.. คือเวลายัดใส้ตุ๊กตา.. ถ้าใช้นุ่น มันจะหนัก แล้วก็อาจมีเชื้อรา.. PSF จะดีกว่า..
ตอนนั้น.. จากที่ไม่มีประสบการณ์ เจ้านายที่เป็นคนเกาหลีแผนกผ้า ก็ไม่มี.. เลยต้องอาศัยเรียนเอาจาก staff ที่มา Business Trip นั่นแหละ.. ไปหาลูกค้า กลับมาออฟฟิศ ก็4-5 โมงเย็น..มานั่งทำรายละเอียดออเดอร์ เสร็จแล้วก็นั่งเรียนกะเค้าต่อ กว่าจะได้กลับบ้าน 4-5 ทุ่ม ทุกที
ตอนทำเดือนแรกๆ ภาษาอังกฤษก็ยังง่อยอยู่มาก.. ลูกค้าโทรมาตาม.. คุณคะ ผ้าที่ส่งมามีปัญหา ด้ายขาด คุณเข้ามาดูเร็ว ทำเคลมให้ด้วย..
เอาล่ะสิ.. ตอนนั้นเพิ่งเข้าไปได้เดือนเดียว.. เลยต้องไปกับนายใหญ่ แล้วเค้าบอกอะไรมาก็จดเป็นภาษาไทยมาก่อน.. นายใหญ่เองก็ไม่รู้เรื่องผ้าสักเท่าไหร่นัก.. จดเสร็จ กลับเข้าออฟฟิศ ได้แต่คิด.. แล้วนี่ ตรูจะเขียนว่าไงดีฟระ.. ปัญหาพวกนี้ มันต้องมีคำศัพท์เฉพาะของมัน.. defect อะไรยังไง..
สรุปว่า.. เขียน fax ไป มันคงอ่านไม่รู้เรื่อง โทรมาด่า โล้งเล้งๆ ไอ้เราก็เถียงไม่เป็น (แค่ให้ด่าเป็นภาษาไทย ยังด่าไม่เป็น นี่ให้ด่าเป็นภาษาอังกฤษ.. สลดสิ..) เลยได้แต่นั่งน้ำตาตกใน.. พลางคิดในใจ.. เดี๋ยวเหอะเมิง.. 3 เดือน ตูต้องรู้เรื่องให้ได้.. คราวนี้ ถ้าด่ามา กรูด่ากลับ..
คราวนี้ เวลาไปหาลูกค้า.. ที่เป็นพวกคนแขก.. (พวกนี้หน้าตาดูฉลาด ภาษาอังกฤษเก่งอยู่แล้ว) ป้าแก่ไม่เคยเก๊กท่าว่าเก่ง.. ป้าบอกเลย.. คุณขา.. เราไม่มีประสบการณ์ ไม่มีความรู้เรื่องผ้าเลย.. คุณช่วยสอนเราหน่อยได้ไหม.. ไอ้จะเรียนเป็นภาอังกฤษเลย.. มันก็จะไม่รู้เรื่อง.. สาวน้อยแสนน่ารัก ขอร้อง มีรึหนุ่มๆ จะปฏิเสธ.. คราวนี้ ครูเยอะค่ะ.. คำไหนไม่รู้ โทรถาม..
ไปหาซื้อหนังสือเกี่ยวกับ Textile เอามาอ่าน.. ให้มันรู้เรื่อง.. ใครที่คิดว่าจะเป็นพี่เลี้ยงได้.. โทรหาบ่อยๆ.. น้องๆ หนูๆ จำไว้.. อยากได้ความรู้ อย่าอายครู ถามไปเลย.. ไม่รู้ก็บอกไม่รู้.. ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด..
หลังจากนั้น แค่ 3-4 เดือน ก็เริ่มเถียงกะอีนังเกาหลีได้แล้ว.. อ้อ.. เดี๋ยวมีเรื่องอีนายใหญ่ลามกมาเล่าคั่นเวลา..
จากคุณ |
:
ป้าแก่ (elastigirl)
|
เขียนเมื่อ |
:
15 ก.ค. 52 09:51:40
|
|
|
|
|