เลี้ยงลูกอย่างดี ไหงกลายเป็นเด็กขี้ขโมย
|
|
ลูกสาวของผมเธอเป็นเด็กน่ารัก เจ้าเนื้อ ตัวป้อมๆ ไม่ขาวไม่ดำ ช่างพูดช่างเจรจา ชอบกระโดดโลดเต้นไปมาเมื่อได้ยินเสียงเพลง เป็นที่รักของพ่อแม่และญาติๆยิ่งนัก อยากได้อะไรซื้อหามาให้ ตุ๊กตาตัวโตๆ เสื้อผ้าสวยๆ ของเล่นสำหรับเด็กผู้หญิง ต่างซื้อหามาเอาใจ เรียกว่าเธอได้รับจนเกินพอดีในขณะที่ไม่ได้ร้องขออะไรเลย มันมากไปจริงๆ ต่างช่วยกันเติมให้จนล้นก่อนจะรู้ว่ามันมีอะไรบางสิ่งที่น่ากลัวแฝงอยู่
เหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเมื่อลูกสาวของผมถูกกล่าวหาว่าเป็นขโมยตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 3 ขวบ ในห้างใหญ่ของวันนั้น พนักงานสุภาพสตรีท่านหนึ่งเดินตามผมกับลูกมาที่ช่องจ่ายเงิน เธอบอกว่าลูกสาวของผมแอบเอาตุ๊กตาตัวเล็กๆใส่ไว้ในกระเป๋าถือของตัวเองโดยไม่ให้ใครเห็น ตอนแรกผมรู้สึกงงและแอบโกรธเคืองพนักงานสุภาพสตรีคนนั้นอย่างแรงแต่ไม่พูดอะไร พนักงานแนะให้ผมลองค้นในกระเป๋าถือของลูกดูก่อน เธอบอกว่ามีตุ๊กตาอยู่ในนั้นจริงๆ ผมทำตาม และเจอตุ๊กตาผู้หญิงตัวเล็กๆตัวหนึ่งอยู่ในกระเป๋าเธอจริงๆ ติดป้ายราคา 299 บาท ผมบอกกับพนักงานว่าจะจ่ายเงินเพื่อเป็นค่าตุ๊กตาตัวเล็กนี้พร้อมกันกับของที่ซื้อด้วย พนักงานไม่ได้ว่าอะไร ไม่เอาความ ผมไม่วายที่จะพูดให้ท้ายลูก บอกว่าเด็กทำไปเพราะไม่รู้
เหตุการณ์ในตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไร เหมาเอาเองว่าลูกยังเด็กและคงไม่รู้เรื่องอะไร ผมไม่ได้อบรมอะไรลูกมากนักเพียงแค่บอกว่าทีหลังอย่าทำแบบนี้นะมันไม่ดี อยากได้ต้องซื้อเอา พฤติกรรมที่บ้านลูกก็ยังสนุกสนานเฮฮากระโดดโลดเต้นไปมาตามประสาของเด็ก ลูกไม่แสดงพฤติกรรมซึมเศร้าสำนึกผิดอะไรออกมาให้เห็น ผมเองก็ลืมมันไปในที่สุด ส่วนบรรดาญาติๆก็ยังซื้อของให้จนไม่มีที่จะเก็บ บางชิ้นลูกยังไม่ได้เล่นด้วยซ้ำ เล่นไม่ทัน
หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นผ่านมายังไม่ถึงปีก็เกิดเหตุซ้ำอีกจนได้ ตอนนี้เกิดขึ้นในห้างโลตัส วันนั้นพวกเรามาด้วยกันหลายคน ลูกสาวเดินกับบรรดาน้าๆของเค้า ผมเดินเที่ยวลำพังอีกที่หนึ่ง ตอนขากลับที่ลานจอดรถ ขณะที่ผมกำลังเดินมาที่รถอยู่นั้นกลุ่มน้าๆที่มาด้วยกัน ถือรองเท้าของเด็กสีสันน่ารักคู่ใหม่มาให้ บอกว่าลูกสาวผมไปหยิบรองเท้าคู่นี้ออกมาเมื่อไรไม่รู้ เธอเอาซุกไว้ในเสื้ออย่างดี มิดชิดมาก ทำหน้าตาเฉยไม่ส่อแววพิรุธอะไรให้ใครเห็นเลย มาเห็นอีกทีตอนออกมาจากห้างกันแล้วเพราะเธอกำลังจะเอารองเท้าคู่ที่ขโมยมานั้นใส่แทนคู่เก่า
จากเหตุการณ์ครั้งที่สองนี้ผมต้องหันมาอบรมสั่งสอนลูกแนะกับลูกอีกว่า พฤติกรรมแบบนี้เค้าเรียกกันว่าขี้ขโมย ไม่ควรทำและมันผิด ไม่มีเด็กที่ไหนเค้าทำกันหรอก เธอเชื่อ พยักหน้าตอบรับกับผมอย่างมั่นใจ และบอกว่าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว
แต่แล้วไม่นาน เหตุการณ์แบบเดียวกันครั้งที่ 3 ก็เกิดขึ้นอีกเมื่อพนักงานหญิงของห้างคนหนึ่ง เดินจูงมือลูกสาวของผมมาหาหลังจากที่เธอแอบไปวิ่งเล่นตามบู๊ทขายของซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก พนักงานคนนั้นบอกว่าเธอเอาของเล่นใส่กระเป๋าไว้ พอดีเห็นก่อนก็เลยบอกให้น้องเค้าเอาออกมา แล้วก็ถามหาผู้ปกครองจนลูกพาเดินมาหาในที่สุด ผมก็ได้แต่กล่าวคำขอโทษ ซึ่งเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร ได้แต่หยิกแก้มของลูกสาวเล่น แล้วบอกว่าต้องเอาไปจ่ายตังค์ก่อนนะคะหนู
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 3 ครั้งด้วยกันนั้นผมเริ่มหันมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า ลูกมีพฤติกรรมแบบนี้ได้อย่างไรขณะที่มีพร้อม ซึ่งตอนนั้นผมสรุปเอาเองว่า ลูกอาจคิดว่าของทุกอย่างย่อมได้มาด้วยง่ายดายเหมือนของที่พ่อแม่ น้าและยาย ซื้อหามาให้หรือเปล่าจึงสามารถหยิบอะไรของใครที่ไหนใส่กระเป๋าหรือถือออกมาเฉยๆก็ได้ พฤติกรรมที่เกิดขึ้นกับลูกเหล่านี้เองตอนหลังทำเอาผมต้องระมัดระวังอย่างหนัก ผมต้องจูงมือลูกตลอดเวลาในขณะไปไหนมาไหนด้วยกัน ต้องอยู่ในสายตาโดยตลอด กลัวจะเกิดเหตุการณ์เดิมๆซ้ำอีก จนในที่สุดพฤติกรรมเหล่านี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้นกับลูกอีกเลย
วันนี้ผมถามลูกว่า จำเหตุการณ์ต่างๆเหล่านั้นได้หรือไม่ ? ลูกตอบว่าจำไม่ได้เลย และรู้สึกแปลกใจด้วยว่า "ตัวเองเคยเป็นเด็กขี้ขโมยด้วยหรือ ... ไม่น่าเชื่อเลย"
ท่านว่าพฤติกรรมขโมยที่เกิดขึ้นกับเด็กแบบนี้เราเรียกว่าอะไรครับและจะเกิดขึ้นอีกไม๊?
  ...
จากคุณ |
:
Resource of life
|
เขียนเมื่อ |
:
28 ส.ค. 52 10:58:54
|
|
|
|