PANTIP.COM : M8400516 อัพเดท กระทู้ ที่ถูกพนง.แจกเฮ้ ที่ Zense of joy spa ค่ะ []

ความคิดเห็นที่ 12

สวัสดีคุณ จขกท อีกครั้งครับ พอดีได้รับหลังบ้านจากคุณจขกท เลยนึกเคสนี้ขึ้นมาได้ จากที่ผมเคยได้แนะนำข้อกฎหมายต่างๆ ในกระทู้ที่แล้ว
(แปบเดียวความเห็นปาเข้าไป 800 กว่าเยอะจริงๆ อ่านจนตาลาย)
----------------------------------------------------------------
ก่อนอื่น ก็ขอแสดงความยินดีกับ จขกท ด้วยครับที่สามารถยืนยัดต่อสู้ได้ตามเจตนารมณ์ของตน ไม่ว่าจะเป็นเช็คเอย เงินที่เสียไปให้กับ spa ห่วยๆ แห่งหนึ่งเอย รวมไปถึงการดำเนินการนัดไกล่เกลี่ยของ สคบ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 ตค นี้ (ผมคงขอออกตัวก่อนว่าผมคงติดงานประจำด้านกฎหมาย คงปลีกตัวไม่ได้นะครับ T_T)
------------------------------------------------------------------
ขอแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการนัดไกล่เกลี่ยทั่วไปหละกันนะครับ
(อ้างอิงมาจากหลักการของการนัดไกล่เกลี่ยของศาลยุติธรรม)
การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท

1. การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทสำคัญอย่างไร ?
ศาลยุติธรรมมีหน้าที่อำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน โดยมีเป้าหมายสำคัญที่จะทำให้การยุติข้อพิพาทให้แก่ประชาชนเป็นไปโดยสะดวก รวดเร็ว และเป็นธรรม นอกเหนือจากการสืบพยานและพิพากษาคดีแล้ว การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเป็นวิธีการยุติข้อพิพาทอีกวิธีหนึ่งที่ศาลในประเทศต่าง ๆ นำมาใช้มาก เนื่องจากเป็นวิธีการที่สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ โดยคู่ความสามารถยุติข้อพิพาทได้ด้วยความพึงพอใจร่วมกัน ไม่มีฝ่ายใดแพ้หรือฝ่ายใดเป็นผู้ชนะ แต่ถือว่าคู่ความทั้งสองฝ่ายชนะด้วยกันทั้งคู่ และทั้งสองฝ่ายยังสามารถรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันได้ต่อไป นอกจากนี้ยังเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยก่อให้เกิดความสงบสุขในสังคม ลดปริมาณคดีที่เข้าสู่การพิจารณาของศาล และยังเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามีมีส่วนร่วมในการระงับข้อพิพาทด้วยตนเองอีกด้วย

2. การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทคืออะไร ?
การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เป็นวิธีการระงับข้อพิพาทโดยบุคคลที่สามซึ่งเป็นกลางในการทำหน้าที่ช่วยเหลือเสนอแนวทางและหาทางออกที่คู่พิพาทน่าจะยอมรับและพึงพอใจเสนอแก่คู่พิพาท หากตกลงเห็นชอบด้วยกับข้อเสนอ ก็จะนำไปสู่การตกลงประนีประนอมยอมความกัน โดยการทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ซึ่งจะมีผลผูกพันให้คู่พิพาทต้องปฏิบัติตาม

3. การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทจะเกิดขึ้นได้เมื่อไหร่ ?
1. มีข้อพิพาทหรือข้อขัดแย้งเกิดขึ้น หรือจะเกิดขึ้น
2. มีคู่พิพาทตั้งแต่สองฝ่ายขึ้นไป
3. มีคนกลางช่วยเหลือในการเจรจาโดยไม่ได้ตัดสินชี้ขาดข้อพิพาทให้
4. คู่พิพาทสมัครใจให้มีคนกลางช่วยเหลือ
5. ผลการไกล่เกลี่ยเกิดจากการตัดสินใจของคู่พิพาทเอง

4. ข้อพิพาทที่สามารถไกล่เกลี่ยได้มีอะไรบ้าง ?
ข้อพิพาทที่เหมาะสำหรับการใช้วิธีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ได้แก่
1. ข้อพิพาททางแพ่งและพานิชย์ทั่วไป
2. ข้อพิพาททางอาญาที่ยอมความได้
3. ข้อพิพาทอื่นที่ยุติได้โดยวิธีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท

5. ผู้ไกล่เกลี่ยคือใคร ?
"ผู้ไกล่เกลี่ย" คือ คนกลางที่คู่พิพาทตกลงให้ช่วยเหลือในการเสนอแนะหาทางออกให้คู่พิพาทสามารถตกลงประนีประนอมยอมความกัน ซึ่งหากเป็นการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในศาล จะเรียกว่า "ผู้ประนีประนอม" โดยอาจจะเป็นบุคคลภายนอก หรือเจ้าหน้าที่ศาล หรือผู้พิพากษาก็ได้

6. ประเภทการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทมีอะไรบ้าง ?
1. การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทนอกศาล คือ การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนมีการฟ้องร้องคดีต่อศาล หรือแม้จะฟ้องร้องต่อศาลแล้ว แต่คู่ความขอให้มีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทกันเองโดยไม่ให้ดำเนินการในศาลก็ได้
2. การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในศาล คือ การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล โดยศาลเป็นผู้ดำเนินการให้ ซึ่งหากคู่ความตกลงกันได้ก็จะมีการถอนฟ้อง หรือทำสัญญาประนีประนอมยอมความ และศาลจะมีคำพิพากษาไปตามที่ตกลงกัน หรือหากตกลงกันเพียงบางส่วนศาลก็จะสืบพยานในเฉพาะประเด็นที่ตกลงกันไม่ได้เท่านั้น

7. กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเป็นอย่างไร ?
1. การเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทนอกศาล คู่พิพาทตกลงให้คนกลางช่วยเหลือในการระงับข้อพิพาทโดยจะตกลงกันเองหรือมอบข้อพิพาทให้สำนักงานหรือหน่วยงานที่มีหน้าที่ดำเนินการไกล่เกลี่ยให้ก็ได้ เช่น ยื่นคำร้องขอต่อศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท สำนักระงับข้อพิพาทสำนักงานศาลยุติธรรม เป็นต้น
2. การเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในศาล หลังจากฟ้องร้องคดีหรือระหว่างการพิจารณาคดีของศาล คู่พิพาทตกลงให้มีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท หรือศาลเห็นควรจัดให้มีการไกล่เกลี่ยคดีทั้งก่อนวันศาลนัด เช่น วันชี้สองสถานหรือนัดสืบพยาน หรือหลังวันนัดดังกล่าวก็ได้ โดยคู่ความที่ประสงค์จะไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้ติดต่อได้ที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทประจำศาลทั่วประเทศ

8. ขั้นตอนในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
1. การเตรียมคดีก่อนไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
- ผู้ไกล่เกลี่ยจะศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับคดีก่อน อาจจะดูจากพยานหลักฐานที่มี หรือสอบถามคู่พิพาท
2. การเริ่มประชุมไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
- ผู้ไกล่เกลี่ยกล่าวเปิดการไกล่เกลี่ย โดยการแนะนำตัวเอง และสร้างบรรยากาศในการเจรจา ตลอดจนชี้แจงถึงบทบาทหน้าที่ของผู้ไกล่เกลี่ย และอธิบายขั้นตอนกระบวนการ รวมถึงกฎกติกามารยาทต่าง ๆ ในการเจรจาให้คู่พิพาททราบ
3. การค้นหาความต้องการที่แท้จริงของคู่พิพาท
- ผู้ไกล่เกลี่ยต้องค้นหาความต้องการที่แท้จริงของคู่พิพาทจากข้อมูลและข้อเท็จจริงที่ได้รับจากคู่พิพาทซึ่งอาจจะเป็นการเจรจาร่วมกันทุกฝ่าย หรือประชุมแบบแยกเจรจาทีละฝ่ายก็ได้
4. การหาทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง
- ผู้ไกล่เกลี่ยมีหน้าที่ลดประเด็นข้อขัดแย้ง และเสนอทางออกในการยุติข้อขัดแย้งให้แก่คู่พิพาท

9. ช่วงเวลาในการจัดคดีเข้าสู่ระบบไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในศาล
- การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนวันนัด (ก่อนนัดชี้สองสถานหรือสืบพยาน) ศาลจะจัดให้คู่ความสามารถนำคดีเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทได้ในช่วงเวลาตั้งแต่เริ่มฟ้องคดี และจัดให้มีการไกล่เกลี่ยจนเสร็จก่อนวันนัดครั้งแรกของศาลก็ได้
- การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในวันนัดหรือหลังวันนัด (นัดชี้สองสถานหรือสืบพยาน) ในวันนัดดังกล่าวหรือนัดพร้อมของศาล ศาลจะสอบถามคู่ความว่าประสงค์จะให้มีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท หรือคู่ความประสงค์จะให้มีการไกล่เกลี่ยฯ ศาลจะมีคำสั่งในกระบวนการพิจารณาให้คู่ความติดต่อศูนย์ไกล่เกลี่ยประจำศาลเพื่อนัดไกล่เกลี่ยฯ ต่อไป

10. ผลการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเป็นอย่างไร ?
1.ไม่ว่าคู่พิพาทจะตกลงกันได้หรือไม่ การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทย่อมสิ้นสุดลงข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานใด ๆ ที่เกิดขึ้นในชั้นไกล่เกลี่ยข้อพิพาทไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงในศาลได้ เว้นแต่คู่พิพาทจะตกลงกันเป็นอย่างอื่น
2. การดำเนินกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเป็นความลับ ทั้งผู้ไกล่เกลี่ยและคู่พิพาทต้องเก็บรักษาความลับ ไม่เปิดเผยให้บุคคลภายนอกได้รู้ถึงข้อมูลหรือเงื่อนไขในการเจรจาระหว่างกัน เว้นแต่จะตกลงกันเป็นอย่างอื่น

11. การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทใช้เวลานานเท่าใด ?
ระยะเวลาในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทขึ้นอยู่กับความยากง่ายของข้อพิพาทหรือคดี ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 1 - 6 เดือน

12. การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทมีค่าใช้จ่ายหรือไม่ ?
การไกล่เกลี่ยข้อพิพาททั้งในศาลและนอกศาล คู่พิพาทไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้น

ต่อความเห็นถัดไปครับ
แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 52 13:22:52

จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท

เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 13:10:31

ความคิดเห็นที่ 13

ต่อจากความเห็นที่แล้วครับ
13. ประโยชน์ของการไกล่เกลี่ยมีอะไรบ้าง
การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งกับคู่พิพาทและเป็นการเสริมสร้างประสิทธิภาพในการพิจารณาคดีของศาล ซึ่งพอสรุปได้ดังนี้
1. ลดปริมาณคดีที่จะเข้าสู่การพิจารณาของศาล
2. แบ่งเบาภาระงานพิจารณาคดีของผู้พิพากษา
3. ช่วยสนับสนุนการพิจารณาคดีแบบต่อเนื่อง
4. ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
5. ทำให้ข้อพิพาทได้ข้อยุติ ลดปัญหาการอุทธรณ์
6. ข้อยุติที่ได้มีความเหมาะสมกับคู่พิพาท
7. กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเป็นความลับ ทำให้รักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคู่พิพาทไว้ได้
8. ข้อตกลงระหว่างคู่พิพาทสามารถบังคับได้
9. คู่พิพาทสามารถใช้การไกล่เกลี่ยข้อพิพาททั้งหมด หรือประเด็นใดประเด็นหนึ่งในคดีก็ได้
10. คู่พิพาทยังคงมีสิทธิในการดำเนินคดีในศาลต่อไป

14. หากฟ้องคดีและต้องการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทต้องทำอย่างไร ?
- ถ้าเป็นการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทนอกศาล คู่ความสามารถตกลงกันให้คนกลางช่วยไกล่เกลี่ยข้อพิพาทดังกล่าวให้ก็ได้ หรืออาจขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่รับผิดชอบงานด้านการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยตรงเพื่อดำเนินการไกล่เกลี่ยให้ เช่น ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทสำนักระงับข้อพิพาท สำนักงานศาลยุติธรรม หรือการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน กระทรวงยุติธรรม หรือสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เป็นต้น
- ถ้าเป็นการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในศาล คู่ความสามารถติดต่อศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทประจำศาลได้ทั่วประเทศ เพื่อขอให้ศูนย์ไกล่เกลี่ยฯ ดำเนินการให้ทั้งก่อนวันศาลนัด และระหว่างการพิจารณาคดีของศาล ไม่ว่าจะเป็นศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ หรือศาลฎีกาก็ได้

15. ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?
- รวบรวมข้อมูลหรือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาข้อพิพาท ตลอดจนพยานหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- บุคคลที่จะเข้าร่วมการเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ควรมีอำนาจตัดสินใจในปัญหาข้อพิพาทนั้นโดยตรง
- ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานไกล่เกลี่ยข้อพิพาท หรือผู้ไกล่เกลี่ย ในการสอบถามข้อมูลหรือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อพิพาท

16. การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทจำเป็นต้องมีทนายความหรือไม่ ?
- ในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทไม่จำเป็นต้องมีทนายความก็ได้ เพราะอำนาจตัดสินใจอยู่ที่คู่พิพาทโดยตรงอยู่แล้ว

17. กรณีคดีเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแล้ว ยังต้องยื่นคำให้การ หรือไปศาลตามหมายเรียกหรือไม่ ?
- แม้จะเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ถ้าหากคดียังไม่สามารถตกลงกันได้และอยู่ภายในระยะเวลายื่นคำให้การ หรือต้องไปศาลตามหมายเรียก ก็ต้องปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด เว้นแต่จะอ้างเหตุดังกล่าวขอขยายระยะเวลายื่นคำให้การหรือเลื่อนวันนัดของศาลออกไปจนกว่าจะไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเสร็จสิ้น

18. การยอมความนอกศาลกับในศาลต่างกันหรือไม่ อย่างไร ?
- การยอมความนอกศาล คือ การที่คู่พิพาทตกลงยุติ หรือระงับข้อพิพาทกันเองแล้วทำหลักฐานเป็นหนังสือไว้เรียกว่า "สัญญาประนีประนอมยอมความ" เพื่อให้มีผลบังคับตามข้อตกลงใหม่ที่ได้ตกลงกัน หากฝ่ายใดไม่ปฏิบัติตาม อีกฝ่ายก็สามารถนำไปเป็นหลักฐานฟ้องร้องคดีให้ปฏิบัติตามต่อได้
- การยอมความในศาล คือ การที่คู่ความสามารถตกลงยุติหรือระงับข้อพิพาทกันได้ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาล โดยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน แล้วให้ศาลพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าว หากอีกฝ่ายไม่ปฏิบัติ ก็สามารถบังคับคดีได้ทันที โดยไม่ต้องไปฟ้องร้องเป็นคดีใหม่อีก

19. การยอมความและการถอนฟ้องต่างกันหรือไม่ อย่างไร ?
- การยอมความกันสามารถทำได้ทั้งในศาลและนอกศาล โดยคู่ความยังต้องผูกพันและปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความอยู่ ส่วนการถอนฟ้องถือว่าคดีความที่ฟ้องร้องกันระงับไปโดยไม่ต้องดำเนินการใด ๆ ต่อกันอีก

20. ผลการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณา หากตกลงกันได้ คดีที่อยู่ในศาลจบไปด้วยหรือไม่ ?
- เมื่อคดีตกลงกันได้โดยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ไม่ว่าจะเป็นการยอมถอนฟ้อง หรือให้ศาลพิพาทตามสัญญาประนีประนอมยอมความก็ตาม คดีที่ฟ้องร้องกันอยู่ย่อมยุติหรือจบไปด้วย

21. เมื่อคดีตกลงกันได้โดยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท คู่ความยังต้องเสียค่าขึ้นศาล หรือค่าทนายความอยู่หรือไม่ เพียงใด?
- กรณีถอนฟ้อง ศาลจะคืนค่าขึ้นศาลให้บางส่วน ทำให้ไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาลเต็มจำนวน โดยศาลจะไม่สั่งเรื่องค่าทนายความ
- กรณียอมความ ศาลจะคืนค่าขึ้นศาลให้บางส่วน สำหรับค่าทนายความคู่ความอาจตกลงกันในสัญญาประนีประนอมยอมความให้ค่าทนายความของทั้งสองฝ่ายเป็นพับ หรือให้ฝ่ายหนึ่งใช้ค่าทนายความของอีกฝ่ายก็ได้
------------------------------------------------------------------------
ก็หวังว่าข้อมูลทั้งหมดนี้จะเป็นประโยชน์ในการไกล่เกลี่ยของ จขกท ไม่มากก็น้อย สุดท้ายนี้ก็ขอให้ได้รับความเป็นธรรมตามที่คุณ จขกท หวังไว้หละกันนะครับ สู้ๆๆ ^_^
แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 52 13:21:41

จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท

เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 13:10:50