Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
[[[ โลกของเธอ ...คือความฝัน -- โลกของฉัน ...คือความจริง ]]] ++มิตรภาพที่แสนยิ่งใหญ่++  

อยากเล่าเรื่องนึงให้ฟังค่ะ...

ในเทอมนี้ มีเรียนวิชาภาษาอังกฤษตัวนึง
ที่ลงเรียนเพราะเป็นวิชาบังคับ (เพราะถ้าไม่บังคับ ก็จะไม่ลงเด็ดขาด)

วิชานี้ ทำให้เราได้เจอกับเพื่อนคนนึง   เธอชื่อว่า...แอร์

แอร์ เป็นนักศึกษาชั้นปีที่2 คณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาศาสตร์
ผิวขาว  และมีรูปร่างท้วมนิดๆ สูงประมาณ160กว่าๆ

ประตูห้องถูกเปิด ...แอร์เดินเข้ามาในห้อง
เธอค่อยๆเดินเข้ามา ในขณะที่มือก็กวาดไปมารอบๆตัว
เรารีบลุกจากโต๊ะ เพื่อไปจับมือเธอ

หลายคนคงสงสัยว่าทำไมเราต้องลุกไปหา
ก็เพราะว่าเธอ          มองไม่เห็น...

เราพาแอร์มานั่งที่โต๊ะเดิม ที่เธอเคยนั่ง
แล้วเราก็กลับไปนั่งที่เดิม อีก2ที่ถัดไป เพื่อเว้นที่ให้เพื่อนแอร์มานั่ง
เวลาผ่านไปสักพัก เพื่อนของแอร์ไม่มา เราเลยย้ายไปนั่งข้างแอร์

เราแอบมองไปที่ สิ่งที่แอร์เรียกว่า “หนังสือ”
มันเป็นกระดาษวาดเขียนสีขาวๆ เย็บด้วยแม็ก หลายๆแผ่น
แต่ละแผ่นก็มีปุ่มๆเต็มไปหมด ทั้งนูนเข้า และนูนออก
(อยากบอกว่าเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นอักษรเบล)

เมื่อเริ่มเรียน อาจารย์ให้ช่วยกันตอบคำถาม
แอร์เริ่มอ่านหนังสือ
มือของเธอสัมผัสกับกระดาษอย่างรวดเร็ว  บรรทัดแล้ว บรรทัดเล่า
ถึงแม้อาจจะไม่เร็วเท่าสายตาของคนทั่วไป แต่สำหรับเราแล้ว แค่นี้ก็สุดยอดแล้วล่ะ

ในขณะที่อาจารย์สอน แอร์สามารถเข้าใจเนื้อหาได้อย่างรวดเร็ว
เมื่ออาจารย์ถาม เธอตอบอย่างฉะฉาน (ในขณะที่เรากำลังงงกับคำถามอยู่)

ถ้าแอร์จะส่งการบ้าน ต้องให้คนพิมพ์เป็นอักษรเบลให้ และแอร์จะส่งการบ้านทางคอมพิวเตอร์
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นคอมพิวเตอร์แบบไหนเหมือนกัน แต่คิดว่าคงใช้สำหรับผู้พิการทางสายตา

มีคำศัพท์คำนึงที่ไม่รู้ความหมาย
แอร์หยิบของชิ้นนึงขึ้นมา ลักษณะคล้ายๆกับ MP3 แต่เมื่อกดแล้วจะมีเสียงออกมา
แอร์เอาแนบข้างหู มันคือดิคนั่นเอง เพื่อเอาไว้แปลความหมายศัพท์ที่ไม่เข้าใจ

แอร์คลำมือไปหยิบของในกระเป๋าใต้โต๊ะประมาณ2ครั้ง
สิ่งที่เธอหยิบมานั้น เหมือนกับไม้บรรทัดเหล็ก
แต่มันเอาไว้ใช้ช่วยสำหรับเวลาเขียนนั่นเอง
“ต๊อกๆๆๆๆๆๆ ต๊อกๆๆๆๆ” เสียงแอร์กำลังเขียนดังขึ้น
ทั้งๆที่รู้ว่ายังไงแอร์ก็ไม่รู้ว่าเราจะแอบดูเค้ารึเปล่า แต่มันก็ไม่กล้ามองอยู่ดี
เพราะมีบางสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกผิดหวังกับตัวเอง
เราเกิดมาครบ32 ยังไม่พยายามเท่าที่ตัวเองจะทำได้
ขนาดเค้ามีไม่ครบ เรายังสู้ความพยายามของเค้าไม่ได้เลย

แอร์ถามว่าทำไมต้องเว้นที่ว่างระหว่างแอร์กับเพื่อนไว้ด้วย
เราบอกว่า คงเว้นให้เพื่อนแอร์อีกคนมั๊ง แต่แอร์บอกว่า คนนั้นถอนวิชานี้แล้ว
เราคิดในใจว่าคราวหน้าจะเขยิบมานั่งข้างแอร์ เพราะถ้าเป็นเราก็คงเหงาเหมือนกัน...

“แอร์ เดี๋ยววันนี้เราไปส่งที่ห้องนะ”
“อืม”
“แอร์เรียนห้องไหนอ่ะ”
“ชั้น2 แต่จำไม่ได้ว่าห้อง 13 หรือ 31”
เราแอบคิดในใจว่า ทำไมแอร์ถึงจำห้องเรียนไม่ได้ ทั้งๆที่ก็เคยเรียนหลายครั้งแล้ว
แต่พอมาคิดอีกที เราเองก็จำไม่ค่อยได้เหมือนกัน ส่วนใหญ่เคยชิน รู้ตำแหน่งห้อง ก็ไปถูกแล้ว
แล้วแอร์ล่ะ แอร์จะรู้เหรอว่าห้องอยู่ตรงไหน...

เมื่อเลิกเรียน
เราจับมือแอร์ในตอนแรก และแอร์ได้ขยับมาจับที่แขนแทน
เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ได้มีโอกาสแบบนี้
เหมือนมีแรงกดที่แขนเล็กน้อย
เราพาแอร์เดินไปเรื่อยๆ
และถามว่าขึ้นบันไดหรือลิฟต์ แอร์ก็บอกว่า อยู่แค่ชั้น2เอง ขึ้นบันไดก็ได้
เราคิดว่า ขนาดคนตาดีๆยังชอบขึ้นลิฟต์ แต่กับแอร์ เพื่อนที่มองไม่เห็น ยังเลือกที่จะเดินขึ้นบันได

แอร์เดินมาเรื่อยๆ เราไม่รู้ว่ามีสายตาใครที่จับจ้องมาทางเราบ้าง
แต่มันมีความรู้สึกที่ดีตลอดทางที่เดิน
เราพาแอร์ขึ้นบันได แอร์ไม่สะดุดเลย เหมือนกำลังเดินไปเรียนกับเพื่อนยังไงยังงั้น
ด้วยสัญชาตญาณ แอร์บอกว่าคงเป็นอีกห้องนึง เพราะห้องนี้ถึงเร็วเกินไป
ก็เลยพาไปอีกห้องนึง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
มีนักศึกษาคนนึงนั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าห้องเรียน
เป็นคนรูปร่างเล็ก ผิวสีแทน
เราถามคนที่อยู่บริเวณนั้นว่า แอร์เรียนห้องนี้รึเปล่า
เค้าถามแอร์ว่า เรียนกับดาวหรือเปล่า พร้อมชี้ไปยังนักศึกษาคนนั้นที่นั่งอยู่
แอร์บอกใช่
เรามองไปที่คนชื่อดาวคนที่นั่งอยู่ตรงนั้น
ดาวก้มหน้า และดูเหมือนว่า ดาวก็มองไม่เห็น... เหมือนกับแอร์

แอร์และดาวเป็นเพื่อนกัน
เค้าทั้งคู่ไม่เคยเห็นหน้ากัน แต่ทำไมเค้าถึงเป็นเพื่อนกันได้
เพราะเค้าใช้ “ใจ” ไงล่ะ

เราบอกลาแอร์
“ขอบคุณมากนะ” แอร์พูด
“อืม” เราบอกก่อนเดินกลับออกมา

ตลอดทางที่เดินนั้น มีความรู้สึกว่า ตัวเองกำลังยิ้มในใจ
ความภูมิใจ ความตื้นตัน ความยินดี มันปนๆกันหมด
ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน....

“แต่อาจเป็นเพราะมิตรภาพดีๆ ที่เราสามารถสัมผัสได้ด้วยใจ... ไม่ใช่มองเห็นด้วยตา”

ขอบคุณแอร์ที่ทำให้เราคิดอะไรได้หลายๆอย่าง
คำว่า “เพื่อน” แม้ไม่ต้องเห็นหน้า ก็เป็นเพื่อนกันได้

ที่เล่าเรื่องราวทั้งหมดนี้ เพื่ออยากให้หลายๆคน ได้เห็นมุมมองของคำว่า มิตรภาพ และความจริงใจ ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งทุกวันนี้หาได้ยากนัก

คนบางคนเห็นหน้ากันทุกวัน
แต่ก็แทบจะไม่มีความจริงใจให้กันเลยสักนิด
ต่อหน้าพูดดี ลับหลังนินทาก็มี

อยากให้พวกเค้าลอง “ปิดตา และเปิดใจ” ดูบ้าง
เผื่อจะได้เห็นมุมมองใหม่ๆ
และจะได้เข้าใจ ถึงความหมายของคำว่า “มิตรภาพ” เสียที

ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ ^^

จากคุณ : LOVEPUNCHCLUB
เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 17:18:36




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com