 |
ความคิดเห็นที่ 5 |
อ่ะ ลุงแก่
สำนวนที่ว่ามาเนี่ยะ เพิ่งเห็นหมาดๆจากกระทู้นี้เลยจริงๆครับ ด้วยปัญญาเท่าหางอึ่ง ขออนุญาต อรรถาธิบายครับ
๑. พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง
หน่วยเงินตราไทยสมัยก่อน มี สลึง บาท ตำลึง ชั่ง ต่ำกว่าสลึง ก็ ไพ ต่ำกว่า ไพ ก็เบี้ย
คำว่า พูดไปสองไพเบี้ย หมายถึง ถ้าเราพูดออกไป อาจจะมีความเสียหาย แค่ ไพ แค่เบี้ย
แต่ถ้า นิ่ง เสียตำลึงทอง ความเสียหายเยอะกว่ากันมาก เพราะฉนั้น พูดออกไปซะ จะดีกว่านิ่งเงียบ
(อันนี้จงใจแปลอรรถาธิบายกลับกับความหมายของภาษิตครับ ห้ามเอาไปใช้อ้างอิง)
๒. เข้าเมืองตาหลิ่ว บางทีก็ไม่ต้องหลิ่วตาตาม ภาษิตนี้ก็เพิ่งเห็นที่นี่แหละ
อนุมานได้เลย ว่ามาจากภาษาอังกฤษ
In Rome, do as the Romans do.
ซึ่งก็ยังไม่ตรงความนัก ในภาษิตอังกฤษ มีอีกอันน่าจะตรงความกว่า
ในเมืองของคนตาบอดสองข้าง คนตาบอดข้างเดียวย่อมเป็นกษัตริย์
เพราะฉนั้น เมื่อเค้าตาหลิ่วกันทั้งเมือง เราจะไปหลิ่วตามเค้าทำหยังล่ะครับ ก็ไม่เกิดความดังความแตกต่างสิ (นี่ก็ห้ามเอาไปใช้อ้างอิงเหมือนกัน)
๓. ได้คืบจะเอาศอก ได้คอกจะเอาวัว ได้คืบจะเอาศอก อันนี้เปรียบเทียบกับวัวตัวเมียครับ พอได้วัวตัวผู้มาผสมพันธุ์ ก็ไม่พอใจ หันไปเหล่ม้าตัวผู้
ได้คอกจะเอาวัว อันนี้เป็นเรื่องของชายจิตเภท คิดจะเอาวัว
๔. ยามศึกเราร่วมกันรบ ยามสงบเราก็หันมารบกันเอง
เรียนชี้แจง อันนี้ไม่ใช่สำนวนครับ มันเป็นคำขวัญประจำชาติ ของชาว สารขันธ์
๕. ทำอะไรได้ตามใจ คือไทยแท้
ก็คนไทยไม่เคยเป็น( ^o^ )ใคร ไม่มีนายหัวมาคอยกำกับ เลยไม่ต้องเกรงใจใคร
สมัยก่อน คนไทยติดนิสัย กินตรงไหน ทิ้งตรงนั้น ซึ่งก็ไม่แปลก ภาชนะห่ออาหาร ก็คือใบตอง กินเสร็จ ทิ้ง ไม่กี่วันมันก็ย่อยสลายไปตามธรรมชาติ ทุกภาชนะสมัยก่อนก็เป็นแบบนี้ คนไทยถึงได้มีนิสัย นึกจะทิ้งก็ทิ้ง
หนักหน่อย ก็ด่ากัน ทิ้งของทิ้งๆขว้าง ไม่ใช่ ศาลาวัด นะ แสดงว่าสมัยก่อน ศาลาวัด ก็โดนน่วมอยู่เหมือนกัน
มาถามสำนวนต่อมั่งครับ
๑. รำไม่ดี หมูไม่กิน ๒. สอนหนังสือจระเข้ สอนสังฆราชว่ายน้ำ ๓. ไก่งามเพราะย่าง ร่างงามเพราะโป๊
มีอรรถาธิบายยังไงกันมั่งครับ
จากคุณ |
:
ท่านขุนเดชา
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ก.พ. 53 19:23:38
|
|
|
|
 |