ความคิดเห็นที่ 1   เคยมีเพื่อนคนหนึ่งมาเล่าเชิงปรึกษาว่า แฟนจะไปบวชเป็นพระ ทีนี้แฟนเป็นคนชอบถ่ายรูป ช่างระหว่างบวช ก็เลยอยากจะหาซื้อหนังสือเกี่ยวกับการถ่ายรูป ไปศึกษา (ทำยังกะการบวชเป็นการพักร้อน) เพื่อนถามว่าทำได้ไหม ถึงจะตอบแบบถนอมน้ำใจแค่ไหน ก็ต้องตอบว่า น่าจะไม่เหมาะ เพราะพระก็ควรศึกษาธรรมะ อีกอย่างหนึ่ง หนังสือเกี่ยวกับการถ่ายรูป นอกจากจะมีภาพประกอบ เป็นสถานที่ วัตถุ แล้ว อาจจะมีภาพสีกาด้วย ซึ่งมีทั้งสีกาใส่เสื้อ สีกาเปลือย พระไม่ควรดูด้วยประการทั้งปวง แต่สุดท้าย ไม่ทราบเหมือนกันว่า เพื่อนไปบอกแฟนว่ายังไง แต่ตอนนี้คงจะสึกออกมาแล้วละ จากคุณ : โสดในซอย เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 53 21:03:23

ความคิดเห็นที่ 2   สวัสดีครับท่านขุนฯ อยากทราบว่าวิบากกรรมของอาบังจะลงยังไง มีต่ออีกมั้ยครับ ปล. ชอบการนำเสนอเรื่องราวของท่านขุนครับ อ่านไปก็ยิ้มไป จากคุณ : วิรุฬห์ (บ้านหนองจันสอน) เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 53 21:45:41

ความคิดเห็นที่ 3   ขอบคุณครับ คุณ วี  คุณ วิรุฬห์  น้อง มังน้อย แบบว่า มาว มาว น่ะครับ เคยนั่งคัดลายมือพู่กันจีน ดึกๆ มีอยู่วัน เกิดอาการ รำลึกถึวพระคุณ ครูบาอาจารย์ขึ้นมา นั่งๆคิดย้อนหลังแล้วมีความสุข หลังจากนั้น ก็ถามแม่ " แม่ เกิดเวลาหนูกินเบียร์ มาว ตอนดึกๆอยู่คนเดียว เกิดมีจิต กุศล ยกมือไหว้ ท่องบท ปาเจรา  ไหว้ครู ไหว้พ่อแม่ รำลึกถึงคุณ  ทำแบบนี้ตอน มาว มันจะเกิดกุศลมั่งไม๊แม่ " " ก็คงจะมีอยู่มั่งหรอกลูกเอ๊ย   ดีกว่า มาวแล้วบ้าใบ้ไปหาเรื่องทะเลาะกะคน "  แม่บอก "ก็หนูอยู่ดึกๆ คนเดียวหง่ะ  เวลามาวแล้วจิตเกิดคิดเรื่องกุศลจริงๆ  ยังจะพอมีผลไม๊แม่ " " มีมั๊ง แต่ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยหรอกหว่ะขุน" " ทำไมล่ะแม่ " " ขนาดไม่มาว ก่อนทำพิธีอะไร พระท่านก็จะให้ศีลห้าเรามาถือไว้ก่อน  แล้วค่อยทำพิธี   ลูกมาว แล้วเกิด จิต ลักษณะนี้ มันเหมือนไม้ปักอยู่บนเลนบนโคลน  พื้นฐานไม่แน่น ไม่มีศีล ไม่มีความสะอาด คิดดียังไงตอนมาว ไม่ส่งผลเท่าไหร่หรอก " พี่ชายของกระผม สองคน คุยเรื่องธรรมะ คุยเรื่องพระได้ขอรับ ทั้งสองคน นั่งสมาธิ ยี่สิบสี่ชั่วโมง หลังจากนั้น สึกมา  แดรกเหล้า กราจาย แต่บอกให้ กระผม บวชเณรให้แม่ตั้งแต่ ประถมสี่  ก่อนพี่ชายทั้งคู่ พี่ชายคนโต แต่งเพลงรณรงค์  เรื่องเลิกบุหรี่ กรมประชาสัมพันธ์ ประกวดได้ที่หนึ่ง  ตัวเองดูดหรี่ปุ๋ยเลย เกิดเป็นคน  กว่าจะเกิดมาได้ ยากแสนยาก ท่านบอกว่า เหมือนเต่าใหญ่ ดำน้ำอยู่ในทะเลกว้างไกล ร้อยปี จะโผล่ขึ้นมาผิวน้ำซะที เอาขอนไม้ เขวี้ยง ไปกลางทะเลใหญ่นั้น รอเต่าใหญ่ ที่จะโผล่ขึ้นมา แล้ว หัวโดนกราบาน โป๊ะ โอกาสแบบนั้นและครับถึงจะได้มาเกิดเป็นคน มนุษย์ เกิดมาได้จากแรง แห่ง ศีลห้า ทำบุญมากกว่านี้ ก็เป็นเทวดา ทำบาป ก็ลงไปตามภพภูมิ มีเพื่อน เป็น คริสเตียน   มาถามกระผมว่า  ศาสนาพุทธ ไม่มีพระเจ้าสูงสุด แล้วใครจะมาตัดสินว่า ใครทำดีทำชั่ว ใคร จะขึ้นสวรรค์ หรือ ลง นรก กระผมก็บอกว่า ไม่มีใครตัดสินหรอก  มันอยู่ที่ตัวของตัวเอง ถ้ามรึงเชือดคอหมูอยู่ทุกวัน  เอาเป็นซักสิบปี ตอนวาระสุดท้าย ก่อนมรึงจะตาย มรึงจะคิดถึงเรื่องอะไร ตามหลักพุทธ ที่กรูพอเรียนรู้ ก็เป็นแบบนี้แหละ มาเล่าแค่นี้ก่อนครับ ยัยแฉ่ง เป็นคริสต์ กระผมเป็นพุทธ เข้าโบสถ์คริสต์ กะบ้านยัยแฉ่งได้  ไม่มีปัญหา สมัยเด็กกระผมก็ศึกษาคริสต์ กับผู้ประกาศข่าวประเสริฐ เคารพ นับถือกันไปตามเรื่อง ยัยแฉ่งเคยถามว่า เป็นพุทธ์ มาเข้าพิธีคริสต์ ไม่มีปัญหาเหรอ กระผมก็ตอบไป  ไม่มีปัญหาหรอก  ศาสนาพุทธ มีบอกไว้อย่างนึงหง่ะ บูชา ผู้ที่ควรบูชา จากคุณ : ท่านขุนเดชา เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 53 22:49:04

ความคิดเห็นที่ 4   สวัสดีค่ะท่านขุน มาว มาว มาว หรือคะ ว่าจะคัดเพลงอะไรดีวันนี้ ไม่เอาดีกว่า เพราะเดี๋ยวไม่มีคนมาช่วยแจง จากคุณ : เปปเปอร์แสนซน เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 00:19:39

ความคิดเห็นที่ 5   เคยได้ยินพระท่านเทศก์สอนว่า คนที่ฆ่าตัวตายจะไปเกิดใหม่เป็นหมา คนขี้อิจฉาตายไปจะเกิดเป็นคนที่เบี่ยงเบนทางเพศ สำหรับพระที่ชอบเดินชอบปิ้งเทคโนโลยี่ และหนังสือนั้น ท่านอาจจะเป็นพระบวชไม่นานก็ได้ ศึกษาแต่ธรรมะ ทำให้ตามไม่ทันโลก กลายเป็น"ความไม่รู้"ของสงฆ์ไปในที่สุด จากคุณ : กรกฏ (Alway love you) เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 05:42:47

ความคิดเห็นที่ 6   สวัสดีจ้า คือว่าซัดเซพเนจรมาจากห้องฝั่งโน๊นค่ะ ห้องซอฟแวร์ ไม่เคยผ่านมาทางนี้เลยจ้า วันนี้ผ่านมาแล้วสะดุดชื่อ ท่านขุนเดชา เลยเข้ามาอ่านจ้า ประทับใจมาก ๆ ธรรมะแบบสนุกสนาน  ่ ปกติจะชอบอ่านนิทานธรรมะเหมือนกัีน อ่านเรื่องของท่านขุนเดชาแล้วชอบมาก ๆ ต่อไปคงจะแวะมาเยี่ยมอีก ฝากตัวด้วยคนจ้า จากคุณ : gang (skhonchom) เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 08:55:41

ความคิดเห็นที่ 7   สวัสดีค่ะ คุณลุงขุน ได้เข้าใจ ได้ความรู้ ประทับใจมากค่ะ ขอบพระคุณมาก ๆ นะคะ จากคุณ : siansian (siansian) เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 09:27:48

ความคิดเห็นที่ 8   ขอบคุณทุกท่านครับ อ่านๆพระอภิธรรม  ดูแล้วก็มีความคิดเห็นอยู่อย่างนึง มนุษย์ ให้ความเคารพนับถือเทวดา ท่านให้คุณให้โทษกับมนุษย์ได้ แต่ขณะเดียวกัน เทวดา ก็มีความเกรงใจในมนุษย์ ภพภูมิของมนุษย์ เป็นภพภูมิกลางแห่งเดียวเท่านั้น ที่แต่ละคนสามารถบำเพ็ญเพียรจนถึงขั้น นิพพานได้ เทวดา เปรต อสุรกาย โอปปาติกะ เดียรัจฉาน พวกนี้ไม่มีโอกาส การฆ่าตัวตาย  ถือเป็นบาปหนักในทุกศาสนา ได้เกิดมาเป็นคน ถือว่าโอกาสน้อยสุดๆแล้ว อย่างน้อยไม่ทำผู้อื่นให้เดือดร้อนก็ถือว่าเป็นกุศลแล้วครับ เตยนั่งเถียงกับยัยแฉ่ง ยัยแฉ่งเป็นคนเคร่งศาสนาคนนึง  นั่งอ่านพระคัมภีร์ทุกเช้า คุยเรื่อง ไบเบิ้ลกันสนุกครับ ยัยแฉ่งบอกว่า ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาที่อะไรก็ได้  หยวนๆหมด นึกจะถือศีลห้า ก็ถือ พอศีลขาด ก็ต่อใหม่ ไม่มีการตั้งใจ ปวารนาตัวเคร่งครัด ตลอดชีวิต นึกจะบวชก็บวช นึกจะสึกก็สึก เดี๋ยวก็บวชใหม่กี่ครั้งก็ได้ สอนสั่งให้คนไปนิพพาน  ดับสูญ ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ถ้าทุกคนดำเนินตามแนวนี้กันหมด ก็คงไม่ต้องกินอะไรกัน กระผมบอกยัยแฉ่งว่า รัฐบาล ตัดถนนพหลโยธิน ไปเชียงใหม่ จะแปลว่า รัฐบาล ส่งเสริมให้คนกรุงเทพเดินทางไปเชียงใหม่ทั้งหมดเหรอ รัฐบาลสร้างโรงพยาบาล จะแปลว่า รัฐบาลส่งเสริมให้คนเจ็บไข้ได้ป่วยเหรอ ศาสนาพุทธ แนวคำสอนมีไว้ให้คนดำเนินตาม ในกรณีที่ต้องการ มีความจำเป็นแห่งชีวิต ก็ดำเนินตามแนวศาสนาขอรับ จากคุณ : ท่านขุนเดชา เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 09:45:09

ความคิดเห็นที่ 9   == สวัสดีค่ะท่านขุนฯ อ่านแล้วสนุกปนคำสอน.. แบบเจ็บๆคันๆ ชอบค่ะ จากคุณ : คำหยาดฟ้า เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 09:46:28

ความคิดเห็นที่ 10   คุณลุงขุน    สร่างหรือยังน้อ   ขนาดฝากข้อคิดตอน มาว มาว ยังคมกริป.. จากคุณ : รัตน์แปลว่าแก้ว เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 09:53:25

ความคิดเห็นที่ 11   เพิ่งรู้ว่าภรรยาของลุงขุนเป็นคริสต์ก็วันนี้นะคะ มิน่า  ลุงขุนถึงได้รู้คำสอนในพระคัมภีร์บ้าง แต่ขอบคุณนะคะ ที่นำเรื่องราวน่าสนใจมานำเสนอให้ได้อ่านค่ะ จากคุณ : คนไม่สวยอยากเล่า เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 11:06:52

ความคิดเห็นที่ 12   ชอบจังครับ คำนี้ บูชา ผู้ที่ควรบูชา จากคุณ : Ultrataro เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 12:01:36

ความคิดเห็นที่ 13   ขอบคุณ ท่านขุนเดชา มาก ๆ ครับ . ไม่ทราบว่า โอปปาติกะ นี้ทางพระอภิธรรมนั้น เกิดจากเทวดาได้หรือเปล่าครับ ?????? คือผมไม่มีความรู้เรื่องนี้เลยครับ  แต่เคยดูหนังเรื่อง โอปปาติกะ ผมว่า หนังมันเพี้ยน ๆ ยังไงอยู่ครับ จากคุณ : วังเหนือ เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 13:25:35

ความคิดเห็นที่ 14   โอปปาติกะ  เป็นคำเรียกทั่วไปสำหรับพวกที่เกิดปุ๊บโตเลยครับ สัตว์นรก  เปรต อสุรกาย สัมภเวสี วิญญาณเร่ร่อน พระภูมิ เจ้าที่ เทวดา ล้วนเป็นโอปปาติกะ มีที่ไม่ใช่โอปปาติกะอยู่สองอย่าง คือมนุษย์ กับ สัตว์เดียรัจฉาน โอปปาติกะ มีตัวตนที่ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเนื้อ ตาธรรมดาของพวกเรา บางครั้งสามารถปรากฏร่างให้เห็นได้ถ้ามี แรงแก่กล้าพอ หรือมนุษย์ที่มีพลังจิตสูงถึง มีฌาณ ก็สามารถเห็นได้ พวกนี้โดยมากจะมาปรากฏตัวเพื่อขอความช่วยเหลือ ขอส่วนบุญ  มากกว่าที่จะหลอกหลอนครับ จากคุณ : ท่านขุนเดชา เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 14:17:47

ความคิดเห็นที่ 15   สวัสดีครับ ลุงขุน ... รอฟังภาคต่อนะครับ ^ ^ จากคุณ : แมวเหมียวตัวอ้วน เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 18:00:57

ความคิดเห็นที่ 16   ได้รับความรู้และสบายใจในเรื่องธรรมะของท่านขุน ขอบคุณครับ จากคุณ : qsys เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 23:34:19

ความคิดเห็นที่ 17   อ่านเพลินเลยค่ะ ~ จากคุณ : ป้าหนาสองนิ้ว เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 05:20:52

ความคิดเห็นที่ 18   จากคุณ : หม๋องแหม๋ง เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 09:04:33