มาหดหู่กันมะ....แต่อยากฟังความคิดเห็น เพราะคิดว่า....
|
|
>>ในอนาคตก็คงเป็นเหมือนๆกัน
คือผมมีความเห็นว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆในห้องนี้หลายๆคนล้วนแต่เกิดมาในช่วงรอยต่อของครอบครัวยุคเก่ากับยุคใหม่ ขอยกตัวอย่างของผมแล้วกันครับ พ่อและแม่ของผมทั้งคู่ล้วนเกิดในตอนปลายของรัชกาลที่เจ็ด ทั้งพ่อและแม่มีพี่น้องคนละเก้าและสิบคน
ตอนเด็กๆผมและน้องๆมีลูกพี่ลูกน้องของทั้งสองฝั่งรวมกันเกือบห้าสิบคน มีคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายรวมๆกันเป็นสิบๆ คุณลุงป้าน้าอาหลายสิบมาก สงกรานต์แต่ละปีรดน้ำกันซะแฉะ เอ๊ย เมื่อย แต่พอนานๆไปผู้ใหญ่ที่เรารดน้ำก็ค่อยๆลดจำนวนลงไป แม้ว่าตระกูลผมแต่ละท่านอายุยืนยาวมาก เรียกว่าเก้าสิบขวบนี่จิ๊บๆ คุณย่าผมเสียตอนอายุหนึ่งร้อยพอดี มีคุณปู่คุณย่าที่อยู่ถึงร้อยสาม ร้อยห้า อีกห้าหกท่าน แต่สุดท้ายทุกท่านก็ลาลับจากไป ทิ้งไว้แต่ภาพภ่ายเก่าๆขาวดำที่ซีดจาง แต่ทุกท่านล้วนแต่ได้รับการดูแลจากลูกหลานและบริวารจนวันสุดท้าย
สำหรับพวกเรา(หมายถึงที่อายุสามสิบสีสิบ ห้าสิบก่าๆ) ในปัจจุบัน ครอบครัวได้แปรเปลี่ยนไป พวกญาติๆจะเจอกันก็แต่ในงานศพและทำบุญสงกรานต์ พวกหลานๆวัยรุ่นที่เป็นลูกของลูกพี่ลูกน้องที่เข่ามาไหว้ผมเวลาเจอก็ล้วนแต่คนแปลกหน้าที่บังเอิญมีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด ตอนพ่อผมเสียเมื่อสามปีก่อนท่านอายุแปดสิบ มีญาติๆมามากมายเพราะญาติรุ่นท่านนั้นสนิทกันตอนเด็กๆวิ่งเล่นกันมาในบ้านของปู่ย่าตายาย หนังสืองานศพพิมพ์แปดร้อย แจกไปเกือบหมด....แต่เดี๋ยวนี้พวกหลานๆแทบไม่รู้จักกันเลย หลานบางคนเรียนโรงเรียนเดียวกันมาหลายปียังไม่รู้ว่าเป็นญาติๆกัน เพราะไม่มีบ้านศูนย์กลางมารวมญาติเหมือนสมัยพวกผม
ที่บอกว่าชวนหดหู่ก็คือ วันนี้ผมจัดบ้านครับ... ผมเห็นอัลบั้มรูปพวกผมพี่น้องที่พ่อแม่ถ่ายเอาไว้ตั้งแต่แรกเกิด มีเกือบยี่สิบอัลบั้ม จดหมายที่พวกผมเขียนถึงพ่อแม่ตอนที่พวกเราเรียนเมืองนอกอีกเป็นร้อยฉบับ ถ้วยรางวัลกีฬาเป็นสิบๆใบ ประกาศนียบัตรต่างๆ ยังไม่รวมข้าวของใช้อีกมากมายที่ล้วนมีคุณค่าทางใจสำหรับครอบครัวเรา แต่ถ้าพวกผมพี่น้องไม่แต่งงานล่ะครับ(มีแววสูง) ....
เมื่อพวกผมพี่น้องตายของเหล่านี้มันคงจะเป็นขยะ คงไม่มีหลานๆมาเก็บเอาไว้ เพราะไม่ใช่สายตรง และอัฐิของพ่อล่ะ มันจะไปอยูที่ไหน เมื่อก่อนตอนผมเด็กๆ พวกลุงป้า ย่า ยายที่ไม่แต่งงาน ก็จะมี"เรือน"อยู่ในบ้านปู่ทวด แล้วเรือนก็ปิดไปทีละหลัง ทีละหลัง..... คนที่อยู่ก็แบ่งข้าวของกันไป ที่เหลือก็อยู่ในห้องเก็บของ เฟอร์นิเจอร์ก็ถวายวัดไป.... ตอนขายบ้านทวดนี่ผมไม่รู้เขาทำอย่างไรกับสมบัติมหึมา แต่ก็คงแบ่งกันไปตามบ้านๆ
บอกแล้วไงครับว่ากระทูนี้ชวนให้จิตตก ครอบครัวแตกกระสานซานเซ็นกันไปตามยุค ขนาดลูกพี่ลูกน้องใกล้ชิดยังไม่เจอกันเลย ไอ้เรื่องจะมาดูแลยามจ็บไข้ หรือจัดการเรื่องงานศพก็คงยากแล้วล่ะ ผมคงต้องกำหนดไว้ว่าตอนตรูอายุสักเจ็ดสิบห้า ถ้ายังไม่ตายคงจะต้องเอากระดูกพ่อแม่ไปบรรจุที่วัด หรือลอยน้ำ ข้าวของก็คงต้องหาที่ไป รูปต่างๆที่ทิ้งไม่ลงก็คงต้องรวบรวมให้มันเป็นหมวดหมู่ แล้วบอกให้คนที่จัดการงานศพให้เผาไปด้วยเลย เพราะคงไม่อยากให้รูปพ่อแม่ไปอยู่ในขยะ เฮ้อ บอกแล้วครับว่ากระทู้ชวนจิตตก
จัดของอยู่ดีๆ ทำไมเพี้ยนได้ขนาดนี้ตรู
แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 53 20:56:58
แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 53 20:51:01
แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 53 20:50:21
จากคุณ |
:
ผู้ชายซอยสิบ
|
เขียนเมื่อ |
:
22 มี.ค. 53 20:41:50
|
|
|
|