ความคิดเห็นที่ 1 ดีครับป้า เพราะการเรียนแบบปัจจุบันเด็กไม่คิดว่าตนเองผิด เพราะได้ขึ้นชั้นตามเพื่อนไปเรื่อยๆไปแก้ที่ติดตอนจบ บางคนไม่ได้แก้ที่ติดเพราะคิดว่าตนเองจบพร้อมกับเพื่อน จากคุณ : ผู้ผ่านทาง เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 12:15:44

ความคิดเห็นที่ 2 เด็กบางคน  ห่วยแตก จนครูก็เอาไม่อยู่ คือ  จะไม่ยอมทำอะไรเลย   พละศึกษา ก็ไม่ลง  อ้างว่า ขี้เกียจ ครูใหญ่ก็เรียกไปอบรม เรียกลูก ทุกคำ ถ้าแบบว่า สอบได้ไม่ถึง  45 % ให้ซ้ำชั้น  ก็น่าจะใช้ได้ 46-49 % ให้ซ่อมได้ ก็คิดไปงั้นหละครับ   ไม่ใช่ครูนิ  ว่ามันลำบากลำบนเพียงไหน ทำยังไง  เด็กดื้อด้านก็ไม่เรียน หนังสือไม่อ่าน เป็นตัวถ่วงความเจริญของห้อง จากคุณ : ~ทิดฉ่ำ~ เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 12:16:04

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าสมควรซ้ำชั้นก็ควรจะทำ เพราะมันหมายถึงความเข้าใจในการเรียนมีมากขึ้น จากคุณ : ชากีร่า เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 12:24:12

ความคิดเห็นที่ 4 ป้าจอย-จอยคิดว่า..พ่อแม่..เป็นครูคนแรกของลูก ถ้าลูกจะต้องซ้ำชั้น อาจเป็น **เหตุ**ให้พ่อแม่หาเวลา..ช่วยดูแลลูกทำการบ้านทบทวนบทเรียน จึงเกิด **ผล**..ให้ลูกสอบผ่านไปได้ทุกปีแหละจ้ะ จากคุณ : ป้าจอยเอง เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 12:25:43

ความคิดเห็นที่ 5   ถ้าบอกว่าอยากให้มีการซำชั้น ??? เพราะ เด็กบางคนไม่ตั้งใจเรียน  (หรือระดับสมองไม่ได้) รู้ว่ายังไงๆก็ผ่าน ผลคือ ไม่มีความรู้อะไรเลย คิดเลขไม่ได้ ภาษาอังกฤษไม่เข้าใจ เมื่อขึ้นชั้นไปก็เป็นการส่งต่อปัญหาเป็นทอดๆ ในที่สุดก็ดันกันให้จบแบบเฉียดฉิว ถ้ามี อาจทำให้เด็กตั้งใจขึ้น มากกว่ากดดันเด็กนะ จากคุณ : nes_w เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 12:28:10

ความคิดเห็นที่ 6 ของผมมีเรื่องตรงกันข้ามเลยครับ ป้าเห็ด สมัยผมเรียนอยู่ชั้นประถม 4   มีเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งเรียนเก่งมาก ความประพฤติก็ดีครับ สอบได้ที่ 1 มาตลอด  แต่เค้าเป็นเด็กเรียนก่อนเกณฑ์ 1 ปี สอบไล่ชั้น ป.4 ภาคสุดท้าย เค้าก็ได้ที่ 1 อีก แต่พ่อแม่ ไม่ยอมให้เค้าเลื่อนชั้นไปเรียน ป.5 เหมือนเพื่อนคนอื่นๆ พ่อแม่ต้องการให้เค้าเรียนซ้ำชั้น ป.4 อีกปีหนึ่งนะครับ ตอนนั้นผมยังเด็กก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน  แต่เพื่อนผมคนนี้ก็ไม่ได้เสียใจอะไรนะครับ พ่อแม่คงอธิบายเหตุผลให้เค้าเข้าใจ  สุดท้ายเพื่อนผมคนนี้จบแพทย์จากมหิดล นะครับ จากคุณ : นฤรัตน์ เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 12:44:41

ความคิดเห็นที่ 7 อายุ 15 แต่ต้องมานั่งเรียน ม.1 น่าอึดอัดนะครับ เผลอๆ พาลไม่อยากเรียนเอาจะยุ่ง ผมว่า ม.ปลาย น่าจะพอซ้ำได้นะครับ อาจใช้วิธีเรียนแบบ มหาลัยฯ เก็บเป็น วิชา วิชา ไป เด็กจะได้ไม่รู้สึกแปลกแยกเกินไป เช้าเรียนกับเพื่อน บ่ายไปเรียนกับน้อง(หรือเด็กโข่งเหมือนกัน) เย็นกลับมาเรียนกับเพื่อนอีกที ....ยังพอทน นะครับ จากคุณ : monkeynumber4 เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 12:45:26

ความคิดเห็นที่ 8   ผมว่าดีต่อเด็กมากกว่าครับความรู้จะได้แน่นจบออกมามีคุณภาพที่เห็นกัน อยู่อย่าว่ายังงี้เลยครับจบ ป.6 แล้วยังอ่านหนังสือไม่คล่องเลยสงสารเด็ก ก็ควรให้เขาเก่งตั้งแต่เด็กครับโตขึ้นจะได้สบาย จากคุณ : นายธุรการ เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 12:46:21

ความคิดเห็นที่ 9 สวัสดีค่ะ ป้าเห็ดและทุกท่าน แว่บมาอ่านกระทู้ของป้าเห็ด  ทำให้ต้องวางมือจากงานทันทีเลยค่ะ ที่โรงเรียนกำลังรณรงค์เรื่องนี้อย่างเข้มงวดเลยทีเดียว เรื่องนโยบายการเรียนซ้ำชั้น เนื่องด้วยปีการศึกษาที่ผ่านๆ มา เด็กไม่จบหลักสูตรมากมายเหลือเกิน หายไปดื้อๆ จะมาอีกครั้งก็ต่อเมื่อเป็นหนุ่มสาว  ไปทำงาน หรือมีครอบครัวแล้ว อยากได้วุฒิการศึกษา  เพื่อไปเรียน กศ.น.  บางคนเพราะนายจ้างเรียกหาวุฒิฯ  เพื่อนำไปยกระดับการทำงาน  ฯลฯ โรงเรียนได้รณรงค์มาตั้งแต่ต้นภาคเรียน  เรื่องการสอบแก้ตัว หากมีผลการเรียนถึงเกณฑ์  (มากกว่า ๑.๐๐)  จึงจะให้ขึ้นชั้น  ไม่เช่นนั้นได้เรียนซ้ำชั้น  มีการเชิญผู้ปกครองทุกรายมาร่วมประชุมทำความเข้าใจ  ปรากฏว่าเด็กกลุ่มหนึ่งต้องได้เรียนซ้ำชั้น  แต่ผู้ปกครองและเด็กไม่ยอมรับแนวคิดนี้  ซึ่งได้ยื่นใบลาออกไว้นับ ๑๐ รายแล้ว  โดยจะให้ไปเรียนที่ กศ.น. ปัญหาที่เกิดขึ้น  อาจมองได้หลายแง่ด้วยกัน  เช่น  เป็นการผลักดันให้เด็กในวัย ๑๔-๑๕ ปี  ออกนอกระบบโรงเรียนหรือไม่  ทั้งที่ในวัยดังกล่าวควรได้รับการฝึกฝนด้านระเบียบวินัยในโรงเรียน  การเข้าสังคมกับเพื่อนในวัยเดียวกัน  แทนที่จะไปเรียนกับผู้ใหญ่  จะเป็นการซ้ำเติมปัญหาให้กับเด็กที่ขาดความรับผิดชอบหรือไม่ คำตอบของเรื่องนี้  คงต้องใช้เวลาและการประเมินผลอีกสักระยะค่ะ (วันนี้  ป้าเห็ดออกกำลังกายหรือยังคะ.....) จากคุณ : nawaporn169 เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 13:06:40

ความคิดเห็นที่ 10 คิดว่าการเรียนซ้ำชั้นเป็นสิ่งดีค่ะ เหล็กเนื้อไม่ดี  ฝนเรื่อยๆก็ยังคมได้  ถ้าเนื้อดีแต่ไม่ฝนก็ทื่อได้เช่นกัน ไม่ต้องดูอื่นไกล  เปรียบตัวเองได้เลยเพราะไม่ชอบเรียนหนังสือถึงไม่มีปริญญาพ่วงท้ายซ๊ากกใบ  เพื่อนบางคนสมัยเด็กๆเรียนได้ลำดับที่แย่กว่าเยอะ  ได้โทก็เยอะ   เอกก็มี จากคุณ : อยากรู้อยากพูด เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 13:09:44

ความคิดเห็นที่ 11 แหม  คุณลิงฯ  แถว ๆ บ้านยาย  คนแก่คนเฒ่ายังนั่งเรียนกับคนหนุ่มคนสาวได้เลย ไม่เห็นมีใครเขาอึดอัด อ้อ  ลืมไปว่าไม่ใช่ที่เมืองไทย ซ้ำชั้นเสียบ้างก็ดี บางคนจบด็อกเตอร์  แค่บวกลบธรรมดา  ยังต้องควักเครื่องคิดเลข เขียนภาษาไทยก็ผิดแหลกเหลวไปหมด ความรู้รอบตัวก็หดหาย  และ ฯลฯ จากคุณ : Mochica เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 13:11:45

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่ค่อยเห็นด้วยอะค่ะ ไม่รุ้ดิ เหมียวว่ามันไม่ใช่คำตอบเดียว จากคุณ : ปลาตะป๋อน เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 13:15:33

ความคิดเห็นที่ 13 น่าเป็นห่วงอย่างที่ครูตุ๊ว่านะคะ เด็กในวัยนี้ น่าจะได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานและคบหาเพื่อนในวัยเดียวกัน มากกว่ากระโดดข้ามขั้นไปเรียนกับผู้ใหญ่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ป้าเห็ดก็เห็นว่าการเรียนซ้ำชั้นจะทำให้เด็กได้มีพื้นฐานที่แน่น ไม่เบาโหวงอย่างที่ผ่านมา เพราะเด็กบางคนยังเขียนหนังสือภาษาไทยไม่ถูกต้อง อย่างที่เห็นๆกัน สมัยป้าเห็ดยังโดนซ้ำชั้นตอนป. 5 ด้วยคะแนนเลขคณิตไม่ถึง 50% แต่ก็ทำให้ตั้งใจเรียนมากขึ้น.. อ้อ.. ช่วงนี้ยังออกมากไม่ได้ค่ะ รอผ่าตัดก่อน = =' จากคุณ : ป้าชื่อเห็ดโคน เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 13:18:09

ความคิดเห็นที่ 14 สวัสดีครับ ป้า เรื่องนี้ ถ้าจะแก้ ต้องแก้ที่ ระดับนโยบาย ก่อนเลย คือ  ตอนนี้ เกณฑ์การผ่านชั้น ต้อง 100  %  อ่ะ แล้วไหน จะนโยบายสำหรับนักเรียนเรียนร่วมอีก  คือ นักเรียนที่พิการ  หรือว่า เด็ก ที่สูงกว่าออทิสติกนิดหนึ่งเนี่ย ถ้าเค้ามีความประสงค์จะมาเรียนที่สถาบันแห่งนี้  เค้าต้องได้เรียน    แล้วจะทำไงล่ะทีนี้ เฮ้อออออ บลา ๆ ๆ ๆ ๆ ไหนจะสารพัดปัญหาอีก ครูไม่พอบ้างล่ะ   ห้องเรียนไม่พอ   อุปกรณ์การเรียนการสอนไม่พร้อม จากคุณ : Dthue เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 13:19:28

ความคิดเห็นที่ 15 ดีนะครับป้าเห็ดฯ เพราะเด็กยุคใหม่เขียน สะกดภาษาไทยบางคำยังไม่ถูกเลย ไม่รู้ผ่านมาได้ยังไง ภาษาไทย ทีกะเรื่องบ้าแฟชั่นตามเกาหลี หรือซื้อของแพง ตามแฟชั่น ทั้งๆที่ตัวเองยังไม่ได้ทำงาน ยังแบมือขอผู้ปกครองอยู่นี่ถนัด เอาแค่ นี้คนจะหมั่นใส้เอาน่ะ จากคุณ : ขวัญชัยอิศรา (kwanchaiisra) เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 13:28:50

ความคิดเห็นที่ 16 ซ้ำชั้นก็ดีค่ะ แต่เปลี่ยนโรงเรียน ดีมั้ยคะ เด็กสมัยนี้ปากไม่ค่อยดีค่ะ เป็นผลต่อเด็กที่โดนซ้ำชั้นค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ ล้อ เค้าก็ไม่อยากเรียน แทนที่จะได้ความรู้ จะกลายเป็นเด็กมีปัญหามากกว่าเดิมค่ะ จากคุณ : เพลิดเพลิน เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 13:46:27

ความคิดเห็นที่ 17 พ่อแม่เป็นครูคนแรกของลูก แต่ปัจจุบันพ่อแม่บังคับให้เด็กเรียนพิเศษ คือกวดวิชา พอครูให้การบ้าน "พ่อแม่ตัวดี" ก็ช่วยเด็กทำการบ้าน สอนการบ้านนะสอนได้ แต่ส่วนมากช่วยทำให้เด็ก จนผมไม่รู้ว่า ครูให้การบ้านเด็กทำ หรือให้พ่อแม่ของเด็กทำ พ่อแม่หลายคน ทำการบ้านไม่ได้ ก็ขวนขวาย โทรถามเพื่อน ถามผม ผมด่ากลับทุกที การบ้านของลูก ไม่ใช่ของพ่อแม่มัน ลูกทำไม่ได้ ก็คือ ทำไม่ได้ กลับไปบอกครู เท่ากับ feedback ไปให้ครูได้รู้ว่า ผลงานสอนของครูท่าน นั่น เด็กไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจ อย่างไร เพราะอะไร ครูช่วยกันคิดอ่าน แก้ไขปรับปรุง การเรียนการสอนซิครับ เด็กทุกวันนี้ ทำตัวเหมือนเครื่องจักร หรือ หม้อแบตเตอรี่รถยนต์ เรียนทั้งวัน 7-8 ชั่วโมง รวมเวลานั่งรถ 2 ชั่วโมง เท่ากับ 10 ชั่วโมง เวลา 10 ชั่วยาม ยังไม่พอ  ยังครับ กลับมาถึงบ้าน รีบอาบน้ำ ....เอ้า ลูกไปเรียนกวดวิชาต่ออีกยกสองยก พวกเราทำอย่างนี้ ทำตามๆกัน เขาเรียนกวดวิชาก็ไปเฮ แห่ตามขบวนกับเขา โดยไม่คิดว่า ถ้าเรียนกวดวิชา 2-3 ชั่วโมง ได้ผลจริง ทำไม เราไม่เอาเวลาไปโรงเรียน 7-8 ชั่วโมง ให้เด็กนอนตีลังกา อยู่กับบ้าน เรียนแค่กวดวิชา ไม่ดีกว่าหรือ ? จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 13:59:06

ความคิดเห็นที่ 18 คิดยังไงกับการให้เด็กเรียนซ้ำชั้น.... ก่อนจะตอบว่าคิดอย่างไร ขอข้ามไปที่ข้อความที่ป้าเห็ดที่บอกว่า.....ก็ต้องมีการพัฒนาตัวบุคคลากรคือครูด้วย และนักเรียนแต่ละห้องก็ต้องลดจำนวนลง เห็นว่าบางห้องมีเด็กมากถึง 55 คน = ='.......ก่อนได้ไหมคะ คือเห็นด้วยกับข้อความนั้นค่ะค่ะว่า น่าจะมีการปรับปรุงตรงนี้ก่อนเลย อย่างที่โรงเรียนของลูก ระดับชั้น ม.1 มี 10 กว่าห้อง บางวิชา คุณครู 1 คนสอนทั้ง 10 กว่าห้อง....แล้วอย่างนี้คุณครูจะรู้จักเด็ก และช่วยเด็กแก้ปัญหาได้อย่างไร.... ถ้าอะไร ๆ ก็ไปลงที่เด็กก่อน เด็ก ๆ เราถึงต้องสอบโน้น สอบนี่ สอบนั้น กันอยู่ตลอดเวลาไงคะ ลองถามเด็ก ๆ ดูบ้างไหมคะว่า เขาอยากซ้ำชั้นไหม เขาอยากได้การเรียนการสอนแบบไหน..... การเรียนซ้ำชั้น เด็กจะรู้สึกแย่จนไม่อยากจะเรียนไหม เพราะการเรียนการสอนบ้านเรา แค่การเลือกสายการเรียนที่ต่างกัน ยังทำให้เด็กเกิดความรู้สึกได้เลยว่า ถ้าไม่เลือกสายการเรียนนี้ เขาจะเป็นเด็กนักเรียนชั้นสองไป .... ถ้าจะทำอะไรกับเด็ก ก็อยากให้เด็กเขาได้แสดงความคิดเห็นบ้างเหมือนกัน จากคุณ : ทะเลสวย น้ำใส เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 14:13:56

ความคิดเห็นที่ 19   การเรียนซ้ำชั้น นั่นหมายถึงปัญหาได้สะสมจนครบปีแล้ว ครู และผู้ปกครอง ได้ช่วยกันแก้ตั้งแต่เริ่ม ตั้งแต่รู้ หรือยัง ทำแต่ละโรงเรียนให้มีคุณภาพ เท่าเทียมกันแล้วหรือยัง ทุกวันนี้ ผู้ปกครองวิ่งเต้น ฝากลูกเรียนโรงเรียนดังกันขาขวิด หมดตังค์ไปหลายอยู่ ถ้าดีมีคุณภาพเหมือนๆกันคงไม่ต้อง ความรู้สึกของเด็กที่เรียนซ้ำชั้น น่าสงสารนะครับ น่าจะประมาณ พ่ายแพ้ หมดราคา มีความโง่ติดตัว และฉายาเด็กโข่ง ก็จะติดตัวตลอดไป ผลการเรียนของนักเรียน ก็คือ ผลการสอนของครู...เช่นกัน. จากคุณ : ผม...ปั้นจั่น. เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 14:16:51 A:58.181.186.10 X: TicketID:252767

ความคิดเห็นที่ 20   การเรียนซ้ำชั้น นั่นหมายถึงปัญหาได้สะสมจนครบปีแล้ว ครู และผู้ปกครอง ได้ช่วยกันแก้ตั้งแต่เริ่ม ตั้งแต่รู้ หรือยัง ทำแต่ละโรงเรียนให้มีคุณภาพ เท่าเทียมกันแล้วหรือยัง ทุกวันนี้ ผู้ปกครองวิ่งเต้น ฝากลูกเรียนโรงเรียนดังกันขาขวิด หมดตังค์ไปหลายอยู่ ถ้าดีมีคุณภาพเหมือนๆกันคงไม่ต้อง ความรู้สึกของเด็กที่เรียนซ้ำชั้น น่าสงสารนะครับ น่าจะประมาณ พ่ายแพ้ หมดราคา มีความโง่ติดตัว และฉายาเด็กโข่ง ก็จะติดตัวตลอดไป ผลการเรียนของนักเรียน ก็คือ ผลการสอนของครู...เช่นกัน. จากคุณ : ผม...ปั้นจั่น. เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 14:17:08 A:58.181.186.10 X: TicketID:252767

ความคิดเห็นที่ 21 อยากให้เป็นการเรียนการสอบแบบคิดวิเคราะห์ เด็กจะได้มีการพัฒนาสมอง และคิดเองเป็น ไม่ใช่แบบท่องจำแบบนกแก้วนกขุนทอง และไม่จะเป็นที่จะต้องไปเรียนที่โรงเรียนเสมอไป ใครจะเรียนอยู่ที่บ้านก็ได้  แบบรามคำแหงหรือวิทยาลัยเปิดอื่นๆ จากคุณ : ทำดีไม่ต้องมีคนเห็น เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 14:17:51

ความคิดเห็นที่ 22   ผมไม่เคยเรียนซ้ำ แต่ ความคิดเห็นผมซ้ำ..เฉย... จากคุณ : ผม...ปั้นจั่น. เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 14:24:05 A:58.181.186.10 X: TicketID:252767

ความคิดเห็นที่ 23 คิดเห็นได้หลากหลายมาก ค่ะ มีทั้งผลดี และ ผลเสีย ของทุกแนวทาง(เลือก) หากเด็กอ่อน เรียนซ้ำชั้น ก็ดี แต่ก็จะมีปัญหาเพื่อนล้อ สังคม ดังป้าเพลิด และคุณปั้นจั่นให้คห.(ซ้ำ)ไว้ หากเด็กเก่งแต่เกเร เข้าเรียนไม่ครบ ไม่ใส่ใจเรียน..บางที เขาอาจจะไม่ชอบอยู่ในกรอบ ในระบบของโรงเรียน(เกิดต่อต้าน บางอย่าง) จึงออกไปจากระบบโรงเรียน ในที่สุด เขาอาจจะเข้มแข็งในชีวิต มีงานทำ หาเลี้ยงชีพได้ดี ประสบความสำเร็จกว่าคนเรียนเก่ง และจบในระบบ ก็เป็นได้.. แต่ก็นะ พ่อแม่ ผู้ใหญ่(ในบ้านเมืองเรา) ก็เป็นห่วงนักหนา กินไม่ได้ นอนไม่หลับ อยากจับให้อยู่ในกรอบ ในระบบ(มิใช่กรงสักหน่อย) คุยแล้ว มันยาวนะเออ.. เข้ามาแก้ไข ลืมปิดวงเล็บ แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 53 14:31:17 แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 53 14:29:05 จากคุณ : samranjai เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 14:27:03

ความคิดเห็นที่ 24 ดีครับ จะได้ตั้งใจเรียนกันบ้าง จากคุณ : bionext เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 14:50:44

ความคิดเห็นที่ 25   ดีค่ะ ไม่งั้นเค้าก็ไม่ตั้งใจเรียนกันค่ะ เด็กสมัยนี้ ปอลา ป้าเห็ดรักษาสุขภาพด้วยคร่า อิอิ แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 53 15:51:49 จากคุณ : กองทัพเป็ด เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 15:39:30

ความคิดเห็นที่ 26 ความคิดผู้ปกครองต่างหากที่น่าเป็นห่วง ลูกเรียนมหาวิทยาลัย ได้เกรด เอฟ เกรด อี พ่อแม่ยังแล่นมาขอแก้เกรดเลยค่ะ (พร้อมคำแก้ตัวว่าลูกเรียนไม่เข้าใจ อาจารย์ดุลูกเลยไม่กล้าถาม ลูกเรียนแล้วเครียด ฯลฯ สรุป ลูกชั้นไม่ผิด ผิดที่คนสอน) อาจารย์บางท่านให้ลูกไม่มีสิทธิสอบไป เพราะเวลาเรียนไม่ครบ (โดดเรียน ว่าง่ายๆ ) พ่อแม่และเด็ก มาด่าถึงมหาวิทยาลัย ทำเรื่องถึงอธิการ วุ่นวายเป็นที่สุด สรุป ลูกไม่ผิดอีกแล้ว จากคุณ : ตั้งเพ็กเง็ก เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 15:47:04

ความคิดเห็นที่ 27 คุณ"หนอน"สำราญใจ ใน ค.ห.ที่ 23 เห็นว่าอยู่สิงคโปร์ลองแอบดูระบบการศึกษาของที่นั่นมาเล่าสู่กันฟังบ้างซิ  เด็กสิงคโปร์เค้าเป็นไงบ้าง เหมือนที่คุณ ค.ห. 15 ว่าไว้บ้างหรือเปล่า เขาปลูกฝังกันอย่างไรภาพรวมเขาถึงดี  ผมเอาชื่อและสัญญาลักษณ์ประจำตัวมาแซว คงไม่โกรธนะ ถ้าอย่างไรก็ขอโทษไว้ก่อนแล้วกัน จากคุณ : ผู้เฒ่า2492 เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 16:06:49

ความคิดเห็นที่ 28 หลายความเห็นในกระทู้ หัวอกเดียวกันเลยครับ ผมไม่ให้เด็กผ่าน เพราะไม่มาตามซ่อม แต่ผู้บริหารจะให้ผ่าน เหอๆๆ ไม่รู้จะมีครูอย่างผมไปทำไม เด็กพิเศษ (เป็นอันเข้าใจกัน) ผมเจอทุกปี หลายรูปแบบ ก็ผ่านผมไปได้เกือบทุกคน ยกเว้นกรณีเดียว คือไม่มีใครในชีวิตสนใจเค้า เพราะเราทราบอยู่ในใจแล้วว่า เค้าทำงานให้เราเองไม่ได้ แต่ดันมีงานมาส่ง ผมยังอนุโลมเพราะถือว่า ในชีวิตเค้ายังมีคนดูแลเอาใจใส่ ไม่ว่าจะเป็นใคร แต่ถ้ามาแบบงงๆ อะไรก็ไม่เอา ไม่มีอะไรเลย ผมจะไม่ให้ผ่านผมไปได้ อย่างไรก็ตาม เค้าก็ขึ้นชั้นไปแบบที่ผมต้องกล้ำกลืนอดทนดูเค้าผ่านหัวผม ทั้งเด็กปกติที่ขี้เกียจ ไม่สนใจ และเด็กพิเศษบางคน มันน่าเศร้า ที่ระบบการศึกษาไทย แย่ขนาดนี้ จากคุณ : แถวดินแดง เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 16:53:18

ความคิดเห็นที่ 29 มันก็แล้วแต่กรณีไปนะครับป้า โดยส่วนตัว ผมว่า ครูที่ปล่อยให้เด็กซ้ำชั้น ต้องพิจารณาตัวเองไปพร้อมกะเด็กด้วย ไม่ใช่ลอยตัวไปเฉยๆ ยังจำได้ว่าตอนเรียน ป.4  เพื่อนคนนึงที่บ้านยากจน เรียนไม่เก่ง และไม่กล้าแสดงออก ทุกคนในห้องรุ้ว่าเค้าเรียนไม่เก่ง แต่ไม่คิดว่าจะแย่ที่สุด แต่ผมผ่านขึ้น ป.5 โดยที่เพื่อนคนนั้นซ้ำชั้น วันที่ครูเรียกเพื่อนผมไปคุย ผมนั่งรออยู่ข้างนอกห้อง ที่ไมมีประตูปิด เลยได้ยินเสียงครูคุยกะเพื่อน ประมาณว่า เรียกมาบอกแกมตำหนิ ว่า ไม่สนใจเรียน  สอบไม่ได้เลยซ้ำชั้น ให้บอกพ่อแม่มาคุยกะครูด้วย เพื่อนผมออกมานั่งร้องไห้แบบไม่อายใคร  ผมก็ไม่รู้จะปลอบอย่างไร ในวันนี้ ผมเป็นผู้ใหญ่แล้ว มองย้อนกลับไป ผมคิดต่างไปอีกมุมว่า ก็บ้านเขายากจน เขาเลยดูมีพัฒนาการช้ากว่าเพื่อนคนอื่นๆ  เรียนด้วยกันมา ก็เห็นๆ อยู่ แต่เเป็นหน้าที่ของครูหรือเปล่า ที่ต้องช่วยเขา เป็นหน้าที่ของครูประจำชั้นหรือเปล่า ที่ต้องช่วยดูแลให้เป็นพิเศษ ก็ทีผม แค่เล่นหลังห้องเรียนมากไปหน่อย แต่เรียนเก่ง ไม่มีปัญหาอะไร ครูยังจับมานั่งหน้า เพราะเกรงใจพ่อผม กลัวคะแนนผมไม่ดี แล้วพ่อผมก็จะมาหาถึงโรงเรียน  เพื่อคุยเพื่อหาสาเหตุ ถ้าเขาได้รับการดูแลเป็นพิเศษแล้วยังสอบไม่ผ่าน ก็ไม่เป็นไร ทุกคนทำเต็มที่แล้ว แต่ถ้าไม่ได้ช่วยอะไรเลย รู้อยู่แก่ใจว่าเด็กมีปัญหามาจากบ้าน แล้วไม่คิดจะทำอะไรเลย  ได้แต่สอนตามมาตรฐานปกติเหมือนที่สอนเด็กคนอื่นๆ ไปวันๆ ผมว่า มันไม่ใช่ ถ้าเด็กจะต้องเสียเวลา ต้องมีแผลในใจในเรื่องนี้ไปตลอด ครูประจำชั้น ครูที่สอนวิชาต่างๆ ก็ควรต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย เพราะงานของคุณคือการปั้นคน  ไม่ใช่การสอนสิ่งที่คุณรู้ แล้วก็จบกันไป ผมคิดยังงี้นะครับ แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 53 18:23:26 จากคุณ : ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 18:19:07

ความคิดเห็นที่ 30 เห็นด้วยค่ะที่ให้มีการซ้ำชั้น  ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้มันไม่ใช่ปัญหาเด็กเรียนอ่อนอย่างเดียวนะคะ ในโรงเรียนต่างจังหวัด ตามอำเภอเล็กๆ ผู้ปกครองบางคนก็ไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องเรียน มักจะให้ลูกไปทำงานบ้าง  อยู่บ้านเลี้ยงน้องดูแลยายบ้าง เค้าคิดว่าถึงยังไงก็สอบผ่านอยู่ดี ก็แน่ละ ตามนโยบาย 100% ถ้ามีการซ้ำชั้นอาจจะทำให้ปัญหาส่วนนี้เบาบางลงบ้างก็ได้ค่ะ จากคุณ : happypig_08 เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 19:12:54

ความคิดเห็นที่ 31   ถ้าเปรียบกับธุรกิจ น่าจะขาดทุน ถ้าทางคุณภาพชีวิต น่าจะคุ้ม ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องอยู่ที่ครอบครัวว่า.. จะให้ความสำคัญเกี่ยวกับการศึกษามากแค่ไหน?   เฮ้อ.. เหนื่อย เด็กเกเร.. พ่อแม่ตามใจ.. เห็นถมไป.. อยากจะเข้าไปอบรมแทน.. จากคุณ : KaNKaMoN เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 19:22:30

ความคิดเห็นที่ 32 คุณผู้เฒ่า2492 คะ ล้อสัญญลักษณ์หนอน ไม่เคืองค่ะ ไม่เคือง   ยังไม่กล้าวิเคราะห์ระบบการศึกษาของสิงคโปร์เชิงลึก เพราะความรู้ความเข้าใจยังไม่แน่นพอ เล่าเท่าที่ได้รู้ได้เห็น ก็โรงเรียนของหลานชาย อายุ 7+ ขวบ ตอนนี้ป.1 โอย แค่นึกจะเล่า ก็คิดว่าต้องยาวเฟื้อย จะขี้เกียจอ่านละสิคะ มองภาพรวม..นักเรียน พ่อแม่ ที่เมืองนี้ก็เครียดกันไม่น้อย เขาเคี่ยวเข็ญเด็ก เพื่อแข่งขัน นำหน้า อุปนิสัยของคนเมืองนี้(คนจึน กับ แขก เด่น) ต้องนำหน้า ได้ก่อน เป็นมาตั้งแต่ครอบครัว เมื่อเข้าสู่รร. สังคม ก็มักมีนิสัย แก่ง แย่ง เอาก่อน การเรียนก็เช่นกัน เขาส่งติวเข้มกันตั้งแต่เด็ก ที่นิยมก็ ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ รร.ของหลาน ที่สัมผัสมา เพิ่งเข้าชั้นป.1 เมื่อต้นมกรา ปีนี้เอง ผ่านไป สองเทอมแล้ว ตอนเย็น ไปรับลูกหลาน คุณครูจะมีโน๊ตถือไว้ ว่าจะพบ/พูด กับผู้ปกครองของเด็กคนใด ก็คือเด็กที่มีปัญหา เช่น ลืมส่งการบ้าน ไม่เอาดินสอไปโรงเรียน ฯ และ คุณครูมีอีเมล์ให้ติดต่อ คุณแม่ของหลานเขียนอีเมล์ปรึกษา/ถาม จะได้รับคำตอบทันทีภายในคืนนั้น วันนั้น ไม่ข้ามวัน (เรื่องด่วน โทร.ติดต่อกัน เป็นเรื่องปกติ) เรื่องรายงาน/สมุดพกประจำเทอม ประชุมผู้ปกครองกับครูประจำชั้น มีเป็นปกติเช่นบ้านเรา อ้อ..ชั้น ป.1-ป.2 เขาเพิ่งปรับหลักสูตร ไม่เน้นวิชาการ แล้ว เน้น ดนตรี ศิลปะ กีฬา มีเรียนอังกฤษ จีน(mother tongue) และเลขด้วยบ้าง ขึ้นป.3 จึงจะเน้นวิชาการ ว่า ไม่อยากให้เด็กเครียด..หลานเป็นปีแรก ที่ปรับเป็นหลักสูตรใหม่ (เมืองนี้ เขาจะเน้นกีฬา เขาสร้างสนามกีฬาชุมชุน ทั่วเกาะ ค่ะ มีสนามบาส สระว่ายน้ำ ฯ ให้เล่นกีฬาได้ทั่วไป ) หลาน สวมชุดกีฬาไปโรงเรียน 3 วัน ใน 1 สัปดาห์ จำนวนนักเรียน ป.1 และ ป.2 ชั้นละ 30 คน ตอนจะเข้าป.1 ไม่ต้องสอบ เขามีเกณฑ์ เช่น เกณฑ์ 1..มีพี่เรียนอยู่ ได้เข้าเลย เกณฑ์ 2..บ้านอยู่ใกล้รร.รัศมี 0-1กม.ได้เข้า เกณฑ์ 3 หรือ 4 ใหนก่อนกันจำไม่ได้..บ้านอยู่รัศมี 1-2 กม. เกณฑ์ 4..พ่อแม่มีคุณาปการ ก็พ่อแม่ที่อยากให้ลูกเรียน จะไปอาสาสมัครทำงานให้รร.จำนวนกี่ชม.ก็ว่าไป ไม่มีรับเงิน มีถึงเกณฑ์ 5..จำไม่ได้ มีที่นั่งเหลือ จึงจะให้ลูกชาวต่างชาติ เข้าเรียน ช่วงขณะเปิดรับนร.ดูข้อมูลจากเวปของรร.ได้เลยว่า เปิดรับเท่าใด สมัครแล้วในเกณฑ์ต่าง ๆเท่าใด เหลือรับได้อีกเท่าใด สำหรับผู้ที่อยู่ในเกณฑ์ถัดมา จะได้รู้ตัวว่า จะเข้าได้/ได้เข้าหรือไม่ รร.ที่ดี เด่น พ่อแม่จะย้ายบ้านไปอยู่ในเขตไว้เลย เป็นกันแบบนี้เช่นกัน กระทรวงศึกษาและทุกโรงเรียน มีเวปเพจ แสดง เรตติ้ง คุณภาพของรร.ทุกโรง บอกเกณฑ์ประเมินไว้ด้วย ว่า เป็น รร.กี่ดาว 5-2 ดาว เคยเห็นมี 1+ ดาวอยู่ไม่กี่โรง รร.SaintGrabial ประถม ใกล้บ้าน 2 ดาว รร.ที่หลานเรียน 3 ดาว ระดับมัธยม..ยังไม่มีประสบการณ์ตรง มาเล่าสู่ฟัง ค่ะ เล่าไม่หมด มันยาว..พิมพ์ซะเหนื่อย คนอ่านก็คงเหนื่อย แฮ่ก แฮ่ก แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 53 20:20:52 จากคุณ : samranjai เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 20:15:26

ความคิดเห็นที่ 33 จากใจคนเคยเรียนซ้ำชั้นตอน มศ.2 รุ่นผมเรียนเป็นเปอร์เซ๊นต์ไม่ใช่เป็นเกรดเหมือนปัจจุบัน ไม่ถึง 50% ตก ซ้ำชั้น ซ้ำชั้นเดิม 2 ปีติดกันหาโรงเรียนเรียนใหม่ ปัญหาที่พบ ไม่มี  ประโยชน์ที่ได้มีมาก ผมเป็นคนที่มีเพื่อน 2 รุ่น ได้เรียนซ้ำในสิ่งที่ไม่เข้าใจ ได้ปรับตัวและความประพฤติใหม่ สำหรับคนที่บอกว่าการที่เด็กตกซ้ำชั้นบอกถึงคุณภาพของครู ไม่จริงครับ เพราะทั้งห้องไม่ใช่เด็กตกซ้ำชั้นทุกคน 40 คนจะมีก็ไม่เกิน 3 คน  แต่ปัจจุบันเด็กที่ไม่มีคุณภาพได้จบพร้อมเพื่อนมากเกินไป จากคุณ : ผู้ผ่านทาง เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 20:21:22

ความคิดเห็นที่ 34 ก็เหมือนๆกับบ้านเรา ที่ต่างเห็นจะมีแต่เรื่องเกณฑ์ที่ 4 ของเราใช้วิธีเสียตัง  นานมากแล้วมากกว่า 40 ปีผมเคยไปนั่งต่อแถวเพื่อขอรับคิวที่ ร.ร.วัฒนาวิทยาลัย(ข้างๆซอยอโศก)เพราะน้องระหัสมหาวิทลาลัยเดียวกัน(คนเชียงราย)เขาจะให้หลานเข้าเรียน  ผมไปนั่งตั้งแต่หัวค่ำพอไกล้ๆสว่างแม่เด็กเขามมาต่อคิวแทน เฮ้อเหนื่อย..แทน ดีว่าลูกผมเองไม่ต้องทำแบบนั้นแต่สงสัยว่าถ้ามีหลานจะโดนหรือเปล่าหนอ  ขอบคุณที่เล่าให้อ่านขอบคุณมากๆ จากคุณ : ผู้เฒ่า2492 เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 21:01:59

ความคิดเห็นที่ 35 ปัญหา วนในอ่าง ส่วนตัวชอบระบบตัดตกซ้ำชั้นนะครับ สมัยประถมจำได้เลย สอบผ่านชั้น 50%สอบจุดประสงค์ย่อยต้อง 80%ถึงผ่านได้คะแนนเก็บ เช่นต้องได้ 8 เต็ม 10 ได้ 7 สอบแก้ จุดประสงค์ย่อยมีข้อน้อยๆราว10ข้อเป็นอะไรที่มันสมาก ครูบางท่านพลาดที่สอนเด็กไม่เข้าใจ อาจด้วยไม่มีจิตวิญญาณของความเป็นครู หรือขาด การหาวิธีอธิบาย สมัยเรียนเชื่อไหมผมชอบเรียนกับครูท่านนึงวุฒิปวส. แต่สอนดี เทียบกับอีกท่าน จบ ดร.มาสอนไม่เข้าใจ เน้นศัพท์เทคนิคจนเกินไป(แบบนี้ผมเปิดหนังสือเอาก็ได้) ------------------------------------------ กลับมาประเด็นกระทู้ ตัดระบบการคัดกรองคน ตัดตกซ้ำชั้น ดันเด็กจบ ตามเกณฑ์ ก็ดันกันมาเรื่อยๆ ไม่รู้ไม่เข้าใจก็จบ จบมาขาดทักษะการเข้าใจ ไปสมัครงานเขาไม่รับ หรือ สอบเข้าไม่ติดมาลงเรียนครู เรียนครูเขาก็ดันๆๆกันจนจบ จบมาเขาไม่รับทำงานอีก ทำอะไร เข้าเป็นครู ^___^ ครูยุคนี้บางคน จึงต่างกับครูยุคก่อนครับ วนในอ่างไหมครับ ส่วนตัวแล้ว อีกอย่างที่อยากให้นำกลับมาใช้ ระบบไม้เรียวครับ รู้สึกไปเองว่า ตั้งแต่ไม่มีไม้เรียว อะไรๆก็เปลี่ยนไปในทางแย่ลงเร็วขึ้นมากครับ จากคุณ : Ryushin เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 53 08:13:09

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นนะคะ จะเห็นได้ว่า เปอร์เซนต์ของผู้ที่เห็นด้วยกับการเรียนซ้ำชั้นจะมีมากกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีข้อเสีย อย่างที่คุณครูตุ๊ และคุณปั้นจั่นได้แจกแจงมา แต่เป็นที่น่าสังเกตคือโดยรวม จะเป็นการห่วงใยเด็ก ว่าจะทำให้เด็กมีปัญหา.. แต่จากการได้ผ่านตรงนั้นมา (หมายถึงเคยเรียนซ้ำชั้น) ป้าเห็ดไม่คิดว่ามีปัญหาอะไรใหญ่โต เพราะเด็กจะรู้อยู่แล้วว่า ถ้าตัวสอบไม่ผ่านเกณฑ์ก็คือต้องซ้ำชั้น ส่วนเรื่องเพื่อนจะล้อหรืออะไร ก็น่าที่จะเป็นหน้าที่ของผู้ปกครอง ต้องให้วัคซีนกับเด็กให้มากๆ อย่าไปสปอยล์เด็กเลยค่ะ เพราะโตขึ้นมา เขามีอะไรที่จะต้องรับผิดชอบมากกว่านี้ สอนให้เขารับรู้รับทราบ และรับผิดชอบตัวเองตั้งแต่ยังเด็ก ป้าเห็ดว่า น่าจะเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีในอนาคตเมื่อเขาโตขึ้น ไม่ใช่ผู้ใหญ่ต้องมาคิดว่าเดี๋ยวเด็กจะอย่างโน้น เดี๋ยวเด็กจะอย่างนี้.. ส่วนการพูดคุยกับเด็กหรือยัง ว่าเขาพอใจไหม..เราก็ต้องอธิบายเขาค่ะ ว่าเพราะอะไร ถึงต้องทำเช่นนั้น ยกตัวอย่างให้เขาเห็น ว่าเด็กเรียนอ่อน จบออกไปก็เหมือนโดนลอยแพ มันจะมีปัญหาในตอนนั้น ..สู้เรามาฝังรากให้ลึกตั้งแต่เขายังเป็นเด็กไม่ดีกว่าหรือ เพราะปัจจุบันเราก็เห็นๆกันอยู่ ว่าเด็กจบออกมา บางคน ไม่ได้อะไรออกมาเลย.. ป.ล. ระบบไม้เรียว ควรนำกลับมาหรือไม่ อย่างไร แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 53 09:42:21 จากคุณ : ป้าชื่อเห็ดโคน เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 53 09:31:02

ความคิดเห็นที่ 37 ขอแตกประเด็นใหม่ จากคุณ : ป้าชื่อเห็ดโคน เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 53 09:40:15