ความคิดเห็นที่ 1 * จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:03:07

ความคิดเห็นที่ 2 ลายพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว   เมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ.๒๔๓๖ ได้ทรงมีพระราชหัตถเลขาถึงเสนาบดีที่ประชุมกันอยู่บนเรือ พระที่นั่งมหาจักรี จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:03:56

ความคิดเห็นที่ 3 ประวัติศาสตร์การเสียดินแดนของประเทศไทย ครั้งที่ ๑ เสียเกาะหมาก (ปีนัง) ให้กับประเทศอังกฤษ เมื่อ ๑๑ สิงหาคม ๒๓๒๙ พื้นที่ ๓๗๕ ตร.กม. ในสมัย ร.๑ เกิด จาก พระยาไทรบุรี ให้อังกฤษเช่าเกาะหมาก เพื่อหวังจะขอให้อังกฤษคุ้มครองเกาะหมากจากกองทัพของกรมพระราชวังบวรสถาน มงคล ซึ่งยกทัพมาจัดระเบียบหัวเมืองปักษ์ใต้ ในที่สุดอังกฤษก็ยึดเอาไป แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 53 20:05:01 จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:04:31

ความคิดเห็นที่ 4 ครั้งที่ ๒ เสียมะริด ทวาย ตะนาวศรี  ให้กับพม่า เมื่อ ๑๖ มกราคม ๒๓๓๖ พื้นที่ ๕๕,๐๐๐ ตร.กม. ในสมัย ร.๑ แต่เดิมเป็นของไทยครั้งสมัยสุโขทัย มังสัจจา เจ้าเมืองทวายเป็นไส้ศึกให้พม่า รัชกาลที่ ๑ ไม่สามารถตีคืนจากพม่าได้ ประกอบกับชาวเมืองทวายไม่พอใจกองทัพไทยที่เข้ายึดครอง จึงตกเป็นของพม่าไป จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:06:05

ความคิดเห็นที่ 5 ครั้งที่ ๓ เสียบันทายมาศ (ฮาเตียน) ให้กับฝรั่งเศส เมื่อ พ.ศ.๒๓๕๓ ในสมัยรัชกาลที่ ๒ จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:06:43

ความคิดเห็นที่ 6 ครั้งที่ ๔ เสียแสนหวี เมืองพง เชียงตุง  ให้กับพม่าเมื่อ พ.ศ.๒๓๖๘ พื้นที่ ๖๒,๐๐๐ ตร.กม.ในสมัย รัชกาลที่ ๓     แต่เดิมเราได้ดินแดนนี้มาในสมัยรัชกาลที่ ๑ โดยพระเจ้ากาวิละ ยกทัพไปตีมาขึ้นอยู่กับไทยได้ ๒๐ ปี เนื่องจากเป็นดินแดนที่อยู่ไกล   ประกอบกับเกิดกบฏเจ้าอนุเวียงจันทร์และเกิดกบฏทางหัวเมืองปักษ์ใต้ (กลันตัน ไทรบุรี) ไทยจึงห่วงหน้าพะวงหลัง ไม่มีกำลังใจจะยึดครอง หลังจากนั้นพม่าเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ เชียงตุงก็เป็นของอังกฤษโดยสิ้นเชิง จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:07:38

ความคิดเห็นที่ 7 ครั้งที่ ๕ เสียรัฐเปรัค ให้กับอังกฤษเมื่อ พ.ศ.๒๓๖๙ ในสมัยรัชกาลที่ ๓ เป็นการสูญเสีย ที่ทำร้ายจิตใจ คนไทยทั้งชาติ เพราะเป็นการสูญที่ห่างจากครั้งก่อนไม่ถึง ๑ ปี จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:08:15

ความคิดเห็นที่ 8 ครั้งที่ ๖ เสียสิบสองปันนา ให้กับจีนเมื่อ ๑ พฤษภาคม ๒๓๙๓ พื้นที่ ๙๐,๐๐๐ ตร.กม. ในสมัยรัชกาลที่ ๔ เป็นดินแดนในยูนานตอนใต้ของประเทศจีน เมืองเชียงรุ้งเป็นเมือง หลวงของไทยสมัยรัชกาลที่ ๑ ต่อมาเกิดการแย่งชิงราชสมบัติกันเอง แสนหวีฟ้า มหาอุปราชหนีลงมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในสมัยรัชกาลที่ ๓ ได้เกณฑ์ทัพเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน ไปตีเมืองเชียงตุง (ต้องตีเมืองเชียงตุงให้ได้ก่อนจึงจะได้เชียงรุ้ง) แต่ไม่สำเร็จเพราะไม่พร้อมเพรียงกัน  มาในสมัยรัชกาลที่ ๔ ได้ให้กรมหลวงลวษาธิราชสนิท (ต้นตระกูลสนิทวงศ์) ยกทัพไปตีเชียงตุงเป็นครั้งที่ ๒ แต่ไม่สำเร็จจึงต้องเสียให้จีนไป จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:09:19

ความคิดเห็นที่ 9 ครั้งที่ ๗ เสียเขมรและเกาะ ๖ เกาะ ให้กับฝรั่งเศส เมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๔๑๐ พื้นที่ ๑๒๔,๐๐๐ ตร.กม. ในสมัย ร.๔ ฝรั่งเศสบังคับให้เขมรทำสัญญารับความคุ้มครอง จากฝรั่งเศส หลังจากนั้นได้ดำเนินการทางการฑูตกับไทย ขอให้มีการปักปันเขตแดน เขมรกับญวน แต่กลับตกลงกันไม่ได้ ขณะนั้นพระปิ่นเกล้า แม่ทัพเรือสวรรคต ไทยจึงอ่อนแอ ฝรั่งเศสจึงฉวยโอกาสบังคับทำสัญญารับรองความอารักขาจาก ฝรั่งเศสต่อเขมร ในช่วงนี้เอง อังกฤษกับฝรั่งเศสได้ทำสัญญากันเมื่อ ๑๕ มกราคม ๒๔๓๘ โดยตกลงกันให้ไทยเป็นรัฐกันชน ประกอบกับ การดำเนินนโยบายของ ร.๕ ที่ไปประพาสยุโรปถึง ๒ ครั้ง ทำให้อังกฤษ เยอรมัน รัสเซียเห็นใจไทย ฝรังเศสจึงยึดดินแดนไป จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:10:34

ความคิดเห็นที่ 10 ครั้งที่ ๘ เสียสิบสองจุไทย (เมืองไล เมืองเชียงค้อ) ให้กับฝรั่งเศส เมื่อ  ๒๒ ธันวาคม ๒๔๓๑ พื้นที่ ๘๗,๐๐๐ ตร.กม. ในสมัย รัชกาลที่ ๕ พวกฮ่อ ก่อกบฏ ทางฝ่ายไทยจัด กำลังไปปราบ ๒ กองทัพ แต่ปฏิบัติเป็นอิสระแก่กัน อีกทั้งแม่ทัพทั้งสองไม่ถูกกัน จึงเป็นโอกาสให้ฝรั่งเศสส่งทหารเข้าเมืองไล โดยอ้างว่า มาช่วยไทยปราบฮ่อ แต่หลัง จากปราบได้แล้ว ก็ไม่ยอมยกทัพกลับ อีกทั้งไทยก็ไม่ได้จัดกำลังไว้ยึดครองอีกด้วย จนในที่สุด ไทยกับฝรั่งเศสได้ทำสัญญากันที่เมืองแถง (เบียนฟู) ยอมให้ฝรั่งเศสรักษา เมืองไลและเมืองเชียงค้อ จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:11:35

ความคิดเห็นที่ 11 ครั้งที่ ๙ เสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำสาละวิน (5 เมืองเงี้ยว และ 13 เมืองกะเหรี่ยง) ให้กับประเทศอังกฤษในสมัย รัชกาลที่ ๕ เมื่อ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2435 เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ทางด้านรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจและทรัพยากร อันอุดม ด้วยดินแดนผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ยิ่ง จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:12:24

ความคิดเห็นที่ 12 ครั้งที่ ๑๐ เสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง (อาณาจักรล้านช้าง หรือประเทศลาว) ให้กับฝรั่งเศส เมื่อ ๓ ตุลาคม ๒๔๓๖ พื้นที่ ๑๔๓,๐๐๐ ตร.กม. ในสมัยรัชกาลที่ ๕ เป็นของไทยมาตั้งแต่ สมัยสมเด็จพระนเรศวร ต้องเสียให้กับฝรั่งเศสตามสัญญา ไทยกับฝรั่งเศส เท่านั้นยังไม่พอ ฝรั่งเศสเรียกเงินจากไทย ๑ ล้านบาท เป็นค่าเสียหายที่ต้องรบกับไทย เสียค่าประกันว่าไทยต้องปฏิบัติตามสัญญาอีก ๓ ล้านบาท และยังไม่พอ ฝรั่งเศสได้ ส่งทหารมายึดเมืองจันทบุรีและตราด ไว้ถึง ๑๕ ปี นับว่าเป็นความเจ็บปวดที่สุด ของไทยถึงขนาดที่เจ้านายฝ่ายในต้องขาย เครื่องแต่งกายเพื่อนำเงินมาถวาย ร.๕  เป็นค่าปรับ ร.๕ ต้องนำถุงแดง (เงินพระคลังข้างที่) ออกมาใช้ แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 53 20:14:17 จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:13:39

ความคิดเห็นที่ 13 * จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:15:09

ความคิดเห็นที่ 14 ครั้งที่ ๑๑ เสียดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขง (ตรงข้ามเมืองหลวงพระบาง ดินแดนในทิศตะวันออกของน่านคือ จำปาสัก และไซยะบูลี)   ให้กับฝรั่งเศสเมื่อ ๑๒ พฤษภาคม ๒๔๔๖ พื้นที่ ๒๕,๕๐๐ ตร.กม. ในสมัย.ร.๕ ไทยทำสัญญากับฝรั่งเศส เพื่อขอให้ฝรั่งเศสคืน จันทบุรีให้ไทย แต่ฝรั่งเศสถอนไปแต่จันทบุรีแล้วไปยึด เมืองตราดแทนอีก ๕ ปี แล้วเมื่อฝรั่งเศสได้ หลวงพระบางแล้วยังลุกล้ำย้านนาดี, ด่านซ้าน จ.เลย และยังได้เอาศิลาจารึกที่ พระเจดีย์ศรีสองรักษ์ไปด้วย จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:16:02

ความคิดเห็นที่ 15 ครั้งที่ ๑๒ เสียมลฑลบูรพา (พระตะบอง,เสียมราฐ,ศรีโสภณ) ให้กับฝรั่งเศส เมื่อ ๒๓ มีค. ๒๔๔๙ พื้นที่ ๕๑,๐๐๐ ตร.กม. ในสมัย ร.๕   ไทยได้ทำสัญญากับฝรังเศส เพื่อแลกกับ ตราด,เกาะกง,ด่านซ้าย ตลอดจนอำนาจศาลไทยที่จะบังคับต่อคนในบังคับ ของฝรั่งเศส ในประเทศไทย เพราะขณะนั้นมีคนจีนญวนไปพึ่งธงฝรั่งเศสกันมาก เพื่อสิทธิการค้าขาย ฝรั่งเศสก็เพียงแต่ถอนทหารออกจากตราดเมื่อ ๖ กรกฎาคม ๒๔๕๐ กับด่านซ้าย คงเหลือแต่เกาะกงไม่คืนให้ไทย จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:16:53

ความคิดเห็นที่ 16 ครั้งที่ ๑๓ เสียรัฐกลันตัน,ตรังกานู,ไทรบุรี, ปริส  ให้กับอังกฤษเมื่อ ๑๐ มีนาคม ๒๔๕๑ พื้นที่ ๘๐,๐๐๐ ตร.กม. ในสมัย ร.๕ ไทยได้ทำสัญญากับอังกฤษ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ ศาลไทยที่จะบังคับคดีความผิดของคนอังกฤษในไทย จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:17:34

ความคิดเห็นที่ 17 ครั้งที่ ๑๔ เสียเขาพระวิหาร ให้กับเขมรเมื่อ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๐๕ พื้นที่ ๒ ตร.กม. ในสมัย ร.๙ ตามคำพิพากษาของศาลโลก ให้เขาพระวิหารตกเป็นของเขมร เนื่องมาจาก หลักฐานสำคัญของเขมร ในสมัยที่เป็นของฝรั่งเศส เมื่อรู้ว่ากรมพระยาดำรงราชานุภาพ จะเสด็จเขาพระวิหาร จึงขึ้นไปก่อนแล้วชักธงชาติฝรั่งเศสรับเสด็จ แล้วถ่ายรูปไว้เป็น หลักฐาน และนำมาใช้เป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงต่อศาลโลก ด้วยเสียง 9 ต่อ 3 พ.ศ. 2550 กัมพูชาเสนอองค์การยูเนสโก ให้ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก แต่ยังไม่มีข้อสรุป 18 มิถุนายน พ.ศ. 2551 นาย นพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่ากระทรวงการต่างประเทศ ได้ลงนามยินยอมให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่ฝ่ายเดียว ร่วมกับ นายอึง เซียน เอกอัครราชทูตกัมพูชา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 24 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ทางการกัมพูชาปิดปราสาทพระวิหารชั่วคราว หวั่นผู้ไม่ประสงค์ดีเข้าไปทำร้ายชาวกัมพูชาในบริเวณใกล้เคียง 28 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้กระทรวงการต่างประเทศและคณะรัฐมนตรียุติ การดำเนินการตามมติ ครม.ที่รับรองการออกแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา สนับสนุนให้กัมพูชาจดทะเบียน ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ไปจนกว่าคดีจะเป็นที่สิ้นสุด หรือ ศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น 8 กรกฎาคม พ.ศ 2551 องค์การยูเนสโก ประกาศรับปราสาทพระวิหารขึ้นเป็นมรดกโลก ***ขอถอดรูปออกตามคำแนะนำครับ*** ขอบคุณครับที่ท้วงติง แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 53 18:08:03 จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:19:08

ความคิดเห็นที่ 18 * จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:19:50

ความคิดเห็นที่ 19 ** จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:20:19

ความคิดเห็นที่ 20 *** จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:20:49

ความคิดเห็นที่ 21 *** จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:21:16

ความคิดเห็นที่ 22 *** จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:21:41

ความคิดเห็นที่ 23 *** จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:22:05

ความคิดเห็นที่ 24 *** จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:22:27

ความคิดเห็นที่ 25 *** จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:22:48

ความคิดเห็นที่ 26 *** สวัสดี แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 53 20:23:47 จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:23:14

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณครับ   คุณเฉิ่มศักดิ์   ที่ปลุกจิตสำนึกของพวกเรา จากคุณ : ครูเกษียร เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:31:45

ความคิดเห็นที่ 28 ผมมีญาติอยู่คลองใหญ่ จ.ตราด กับ ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์  โดยเฉพาะที่คลองใหญ่ แค่ข้ามเขาไปก็เข้าเขตเขมรแล้ว  ถ้าให้เขาใช้แผนที่ฉบับเจ้าปัญหา คงได้กลายเป็นคนเขมร จากคุณ : เสือดำขโมยใจ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:32:32

ความคิดเห็นที่ 29 ได้แต่ถอนใจ จากคุณ : ป้าเยาว์ (@NBC) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:40:04

ความคิดเห็นที่ 30 สุดแผ่นดิน        สุดดินคือถิ่นน้ำ   เขตคามไทยสุดแนว เราถอยไปไม่ได้อีกแล้ว   ผืนถิ่นสิ้นแนว   ทะเลกว้างใหญ่        ชาติไทยในเก่ากาล   ถูกเขารานย่ำใจ เคยเสียน้ำตามากเพียงไหน   เสียเนื้อเลือดเท่าไร   ชาวไทยจำได้ดี        เราถอยมาอยู่แสนไกล  รวมเผ่าไทยอยู่อย่างเสรี พระสยามทรงนำโชคดี   ผืนดินถิ่นนี้คือแผ่นดินทอง        ไม่มีที่แห่งไหน   ให้ไทยจับจอง เราถอยไปไม่ได้พี่น้อง   ใครคิดมาแย่งครอง   ผองไทยจงสู้ตาย จากคุณ : phuketian เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:41:29

ความคิดเห็นที่ 31 เรารักแผ่นดินไทย แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 53 20:46:40 จากคุณ : phuketian เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:45:35

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณ   คุณเฉิ่มศักดิ์ค่ะ โ ห ว ด แ ล้ ว ค่ะ  .... จากคุณ : หนูออน (Oncidium.) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:46:46

ความคิดเห็นที่ 33 อ่านด้วยความสะเทือนใจอย่างมาก ขอบคุณ คุณเฉิ่มศักดิ์ เป็นอย่างยิ่งค่ะ ... จากคุณ : nawaporn169 เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:48:49

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณ จขกท ที่รวบรวมย่อความมาให้อ่าน ผมมองอย่างนี้ ถ้าแม้นเรามีแสนยานุภาพ มีกำลังสนับสนุน จากคนในชาติเราและชาติอื่น ...เป็นว่า เรายึดดินแดนที่สูญเสียไป กลับมารวมเป็นแผ่นดินไทย ... ผมไม่แน่ใจว่า การที่เรามีดินแดนมากมายมหาศาล จะดีหรือไม่ดี กับปากท้องและเศรษฐกิจของคนในชาติ ตัวอย่าง ที่ผมเห็นการรวมเยอรมันตะวันตก กับ ตะวันตก ดินแดนเยอรมันแค่เสี้ยวเดียวของประเทศไทยขณะนี้ ยังทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศยุ่งยาก การว่างงาน ปัญหาสังคมอีกมากมาย เรื่องเหล่านี้ เราได้คิดเตรียมการกันบ้างหรือไม่ ถ้าคิดได้ เราก็ทำให้เศรษฐกิจประเทศ การกินอยู่ของคนในชาติขณะนี้ให้ดีกว่านี้ ไม่ดีกว่าหรือ ... จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 21:05:10

ความคิดเห็นที่ 35 ศาลโลก ให้เขาพระวิหารตกเป็นของเขมร เนื่องมาจาก หลักฐานสำคัญของเขมร ในสมัยที่เป็นของฝรั่งเศส เมื่อรู้ว่ากรมพระยาดำรงราชานุภาพ จะเสด็จเขาพระวิหาร จึงขึ้นไปก่อนแล้วชักธงชาติฝรั่งเศสรับเสด็จ แล้วถ่ายรูปไว้เป็น หลักฐาน และนำมาใช้เป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงต่อศาลโลก ด้วยเสียง 9 ต่อ 3 >>>>>>>>>> นอกจากหลักฐานชิ้นนี้แล้ว ทุกครั้งที่ฝรั่งเศสได้ทำ map ฉบับร่าง ส่งมาให้ไทย ฝ่ายไทย ก็ไม่ได้ใส่ใจ เขาส่งอะไรมา ก็เซนต์-รับทราบ แต่หารู้ไม่ว่า ทำอย่างนั้น เท่ากับเซนต์-รับรอง แนวเขต ที่ฝรั่งเศสเป็นคนเขียน ศาลโลกตัดสินตามเนื้อผ้า เราเสียเขาพระวิหาร เพราะคนของเรา เราเสียเพราะรูปคดี ไม่ใช่โดนใครโกง จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 21:09:57

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณคุณเฉิ่มศักดิ์ที่เรียบเรียงให้เราได้เห็นชัดเจนค่ะ สะเทือนใจมาก โดยเฉพาะในความเห็นที่19  เราเหลือแค่นี้เอง จากคุณ : padivarutda เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 21:15:02

ความคิดเห็นที่ 37 รายละเอียดการตัดสินของศาลโลก http://www.icj-cij.org/docket/index.php?sum=284&code=ct&p1=3&p2=3&case=45&k=46&p3=5 จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 21:17:46

ความคิดเห็นที่ 38 #34 .........เราก็ทำให้เศรษฐกิจประเทศ การกินอยู่ของคนในชาติขณะนี้ให้ดีกว่านี้ ไม่ดีกว่าหรือ ... ************* ถูกต้องครับ แต่ที่นำเรื่องราวนี้มาเล่าสู่กันฟัง ก็เพียงแต่ให้ระลึกถึงความสูญเสียเมื่อครั้งอดีตที่ผ่านมา จริงอยู่เรื่องของบ้านเมือง การศึกสงครามแย่งชิงยึดครองแผ่นดินกันนั้น มันมีมาทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะยุคหิน ยุคเหล็ก ยุคอะไรก็ตามแต่ ถ้ามองในภาพรวมก็คือการช่วงชิงความมีอำนาจเหนือผู้อื่นนั่นเอง และการมีอำนาจนั้นมีเพื่ออะไร...?  ถ้าไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์..!! แต่อีกมุมมองหนึ่งคือการรักษาผลประโยชน์ ดังเช่นที่บรรพบุรุษของเรารักษาไว้แต่ครั้งอดีต รักษาเพื่อบ้านเมือง รักษาเพื่อพลเมือง รักษาเพื่อแผ่นดินที่มั่งคั่งอุดมสมบูรณ์..ฯลฯ มันก็คือ การรักษาไว้เพื่อเศรษฐกิจความมั่งคั่งของคนในชาติ ไม่ต่างกัน เรื่องราวของการสูญเสียเมื่ออดีตที่ผ่านมา อย่างไรเสีย ก็ไม่อาจหวนคืนกลับไปได้เหมือนเดิม แต่สิ่งพึงสังวรณ์ก็คือ....   .........เมื่อยังไม่เสียก็อย่าให้ต้องสูญเสียเหมือนเมื่อครั้งอดีตอีกเลย จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 21:26:33

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณครับ จากคุณ : หน้าต่างไร้กลอน เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 22:14:39

ความคิดเห็นที่ 40           ขอบคุณค่ะ...อยากให้คนไทยมีความปรองดองกัน..สามัคคีกันค่ะ           จากคุณ : จริงใจ.......สบายจริง เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 22:21:51

ความคิดเห็นที่ 41 แค่สงสัยว่า....แล้วก่อนหน้านั้นๆๆๆดินแดนที่รัชกาลต่างๆเสียไป มันก็อาจจะไม่ใช่ดินแดนไทยมาก่อนก็ได้ ส่วนเรื่องปัจจุบัน มรดกโลกชิ้นนี้ แค่สงสัยว่า ทำไมศาลเค้าไม่ลงพื้นที่มาดูเหรอว่า อะไรมันควรเป็นของใคร จากคุณ : ดำ-กะปิ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 23:06:28

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : nuchnanuch เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 23:09:10

ความคิดเห็นที่ 43 พวกฝรั่งมันมา ค้าทาส ล่าเมืองขึ้น ชิงดินแดนด้วยอาวุธและการแต่งกาย แล้วต่อมาเราก็ไปให้มันตัดสินเขตแดนที่มันชิงไป มันก็ดูแต่เอกสารแล้วเอาดินสอลากเส้น จากคุณ : โควี เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 23:14:50

ความคิดเห็นที่ 44 ฝรั่งเศส วางกับดักให้ ไทย-เขมร ทะเลาะกัน เขาพระวิหารมันเป็นมรดกรกโลก จริงดังว่าครับ จากคุณ : น้องแนนแฟนคลับลำดับที่หนึ่ง เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 23:55:47

ความคิดเห็นที่ 45 ิเห็นแล้วเจ็บปวดนะคะ แต่เสียพื้นที่มากมายแค่ไหนก็ยังไม่เจ็บปวดเท่า คนไทยทะเลาะกันเอง จากคุณ : ++ตันหยง++ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 01:31:05

ความคิดเห็นที่ 46 อยากให้ย้อนไปให้ลึกๆด้วยค่ะ ว่าก่อนหน้า ร ๑ อยุธยาและสุโขทัยมารวมกันได้อย่างไร แล้วขอม ล้านนา อะไรพวกนี้เค้าหายไปตอนไหน ?? จากคุณ : immeeLy เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 02:10:36

ความคิดเห็นที่ 47 รบกวนคุณ ~นายเฉิ่มศักดิ์~ แก้ไขรูปภาพที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ ด้วย เพราะไม่ควรมี อักษรหรือข้อความใดๆ อยู่เหนือพระบรมฉายาลักษณ์ จึงควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่งครับ ที่จะนำ พระบรมฉายาลักษณ์ มาลงใน กระทู้ จากคุณ : นาย สายน้ำ เย็นสบาย เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 04:10:04

ความคิดเห็นที่ 48 จะดีใจหรือ เสียใจ กับการกระทำของคนในชาติเราดี เรามักช้ากว่าเขาก้าวหนึ่งเสมอ ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล จากคุณ : ชีวิตที่ว่างเปล่า เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 07:33:49

ความคิดเห็นที่ 49 mou 2543 จากคุณ : แถวดินแดง เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 07:56:33

ความคิดเห็นที่ 50 โหวตครับ จากคุณ : ตาแว่น (chanyout) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 08:14:09

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณที่ช่วยเล่าประวัติศาสตร์ให้ทราบ แต่ หากมองในอีกแง่หนึ่งแล้ว  ที่ผ่านมาอาจเป็นโชคดีก็ได้  เพราะถ้าหากประเทศไทยยังคงมีดินแดนกว้างใหญ่เหมือนภาพในค.ห.ที่ 1 แล้ว  ปัจจุบันประเทศไทยอาจไม่สงบและมีโอกาสเจริญก้าวหน้าได้อย่างปัจจุบัน  เพราะอาจมีแต่สงครามในประเทศระหว่างชนกลุ่มน้อยต่างๆที่ต้องการแบ่งแยกตัวเองออกเป็นรัฐอิสระ  เหมือนอย่างที่พม่าเป็นอยู่ หรือที่จีนก็เป็นอยู่(แต่ควบคุมไว้ได้) ฯลฯ  เพราะดินแดนเหล่านั้นก็เป็นดินแดนที่เราไปตีชิงเอามาเช่นกัน ขออภัยที่เห็นต่างไปบ้าง จากคุณ : Healer เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 08:34:15

ความคิดเห็นที่ 52 ก็เรียน ประวัติศาสตร์กันแบบนี้ไง จึงคลั่งกันไม่จบ สมัยต้นถึงกลางราชวงศ์จักรี ไม่มีประเทศไทย มีแต่อณาจักร หลายๆอณาจักร ไม่มีขอบเขตที่ชัดเจน หัวเมืองชายขอบ ไม่ใช่จังหวัด ไม่ได้ขึ้นตรงกับอณาจักรใดชัดเจน อณาจักรใหญ่แข็งแรง ก็ขี้ตู่เองว่าหัวเมืองนั้นของเอ็ง ถัดมาของข้านะเฟ้ย เหมือนกับที่จีนก็บอกว่า สยาม ก็เป็นประเทศราช และ เป็นส่วนหนึ่งของจีนนะแหละ   หรือถ้าอยากจะมองให้มันมีขอบเขตอณาจักร ก็ต้องยอมรับว่า ก็มีพลวัติ มีวิวัฒนาการของมัน มีได้ มีเสีย เรื่องธรรมชาติ  ลาว พม่า มาเลเซีย เองก็ระบุไว้ในประวัติศาสตร์เค้าเหมือนกันว่าพี้นที่ไทยปัจจุบันบางส่วนเคยเป็นของเขา   ส่วนใหญ่ที่ไปมีอำนาจเหนือเขาก็ได้มาโดยกำลัง โดยการขัดขืนของคนพี้นที่นั้นทั้งนั้น ดูอย่างปัตตานี ไปได้เค้ามาแล้วทำให้เค้าอยู่กันลำบาก ไปข่มเหง ไปกลืนวัฒนธรรม ทุกวันนี้ปกครองกันไม่ได้ ไม่รู้จะภูมิใจอะไรกันหนักหนา มาเรื่อง พระวิหาร ไม่รู้เป็นไง เพิ่งมาเดือดร้อนกัน เอา กม เป็นที่ตั้ง ศาลโลกก็บอกของเขมร เอาประวัติศาสตร์วัฒนธรรมเป็นที่ตั้ง ใครยังว่าเป็นของไทยก็ขึ้ตู่เต็มที ยั้งจะอ้างไปข้างๆคูๆ ว่าเอาภูมิศาสตร์เป็นที่ตั้งก็จะเป็นของไทยนะเฟร้ย เด็กๆ คนรุ่นใหม่ ควรหาความรู้นอกตำรามั่ง ไม่งั้นก็จะตกเป็นเหยื่อ เป็นเครื่องมือทางการเมือง ประวัติศาสตร์นะ ควรรู้ไว้ แต่ให้มันหลายมิติหน่อยก็ดี ไม่ควรชื่นชม คลั่งชาติอย่างฟูมฟาย  นะจ๊ะ จากคุณ : เด็กสายสอง เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 09:34:35

ความคิดเห็นที่ 53   ประวัติศาสตร์ไม่ได้มีด้านเดียวนะ ลองไปดูประวัติศาสตร์ของเพื่อนบ้านบ้างซิ ชื่ออำเภอชื่อจังหวัดบางที่ก็ไม่ใช่ภาษาไทย ที่ผ่านมาเราอาจไม่เคยเสียดินแดนเลยก็ได้นะ ก็แค่คืนเค้าไปบ้าง ...ด้วยความเคารพ...อย่าไล่ผมออกจากบ้านนะ.. จากคุณ : ชายเดี่ยว เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 10:47:16

ความคิดเห็นที่ 54 ความคิดเห็นที่ 38 .........เมื่อยังไม่เสียก็อย่าให้ต้องสูญเสียเหมือนเมื่อครั้งอดีตอีกเลย >>>>>>> อยากจะบอกว่า ผมเสนออีกมุมหนึ่งเท่านั้นครับ คห. 38 เป็นมุมมองที่น่าคิด น่ายกย่องครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 11:49:24

ความคิดเห็นที่ 55 ถ้าเกิดเป็นไทย แล้วไม่รักชาติไทย ก็ขออย่ามาดูถูกคนชาติเดียวกัน ถึงแม้จะต่างกัน ซึ่งภาษา วัฒนธรรม คนไทยแท้ๆในปัจจุบัน คงหายากเต็มที ปัจจุบัน มีทั้ง ไทย แขก จีน ฝรั่ง ปนกันมั่วไปหมด แต่สิ่งที่เรายืนอยู่ในวันนี้ คือผืนแผ่นดินไทย แผ่นดินที่ไม่มีการแบ่งแยก ชนชั้น เชื้อชาติ และศาสนา ทุกคนที่อยู่ในผืนแผ่นดินไทย ยังไงก็คือคนไทยด้วยกัน ไม่มีที่ไหนในโลกนี้ ที่ความหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนา จะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข ถ้ามีคนนิยมชมชอบฝรั่งมังค่ามันมากนัก ก็ขอให้ไปอยู่ต่างประเทศซะเถอะ อย่าอยู่เลยบนผืนแผ่นดินไทย แม้แต่ความเป็นมาของชาติ ยังมีการกล่าวในเชิงดูถูก และซ้ำเติมคนในชาติ ถ้าคิดว่าตัวอย่างประเทศอื่นมันดีมากนัก คุณก็อย่ามาอยู่บนแผ่นดินไทยให้มันรกแผ่นดินเลย ปล.อ่านกระทู้มาก็เยอะผ่านตามาก็มาก แต่กระทู้ที่คุณบางคนตอบ มันแฝงไปด้วยความดูถูกคนในชาติ แบบลึกๆรู้ตัวมั่งไหมครับ อย่าอยู่มันเลยประเทศไทย อพยพย้ายไปอยู่ต่างประเทศเถอะครับ เพื่อแผ่นดินไทย มันจะได้สูงขึ้น จากคุณ : อาเกาเหลา เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 12:36:15

ความคิดเห็นที่ 56 โดยส่วนตัวคิดว่า ประวัติศาสตร์ไม่ได้เริ่มต้นที่กรุงสุโขทัย รักชาติรักแผ่นดินที่มีอยู่ตอนนี้ให้ดีที่สุดดีกว่า อย่าให้สูญ  อย่าให้สิ้น ไปในไม่ช้านี้เลย สงสารลูกหลาน อับอายบรรพบุรุษ จากคุณ : LekYam SomeOne เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 13:26:40

ความคิดเห็นที่ 57   ไอ่เศษฝรั่ง เล่นเราหลายครั้งเลยนะ จากคุณ : 888 เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 14:28:22 A:183.89.117.239 X: TicketID:278580

ความคิดเห็นที่ 58 เขมร ล้านช้าง ไทรบุรี กลันตัน  เค้าก็เป็นอณาจักรของเค้าอยู่แล้ว แค่ส่งเครื่องราชให้เรา ทีนี้ เราจะตู่ว่าเป็นของเราหรือไม่ เท่านั้น แต่อย่าลืมว่า เราก็ส่งเครื่องราชให้กับจีน เช่นที่ อณาจักรต่างๆ ส่งให้ไทย ถามมองตามตรรกะของไทย  งั้น เราก็เป็นส่วนหนึ่งของจีน ถ้าดินแดนทั้งหมด ยังขึ้นกับไทย ก็คงไม่ได้เป็นประเทศไทย หรือราชอณาจักรไทย น่าจะเป็น สหราชอณาจักรไทย ซะมากกว่า เช่นเดี๋ยวกับ อังกฤษ เวลล์ ไอแลนด์ จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 14:33:41

ความคิดเห็นที่ 59 *-*ถ้าไม่วางระบบการศึกษาใหม่บนฐานแห่งความจริง ตามคัมภีร์มหาบุรุษก็....น่าเสียดาย...แผ่นดินนี้คงจมลงไม่ช้าตามพุทธทำนาย....แผ่นดินไม่ลองรับของหนักๆไว้....*-* จากคุณ : กิ่งสุคนธิ์ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 16:25:52

ความคิดเห็นที่ 60 *-*ถ้าไม่วางระบบการศึกษาใหม่บนฐานแห่งความจริง ตามคัมภีร์มหาบุรุษก็....น่าเสียดาย...แผ่นดินนี้คงจมลงไม่ช้าตามพุทธทำนาย....แผ่นดินไม่ลองรับของหนักๆไว้....*-* จากคุณ : กิ่งสุคนธิ์ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 16:26:44

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณครับที่โหวตกระทู้ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็น หลากหลาย ในความเป็นจริงแล้ว  ประวัติศาสตร์มีหลายมุมมอง หากจะศึกษากันอย่างจริงจัง ต้องมีความละเอียดลึกซึ้งในความคิดค่อนข้างสูงครับ  อย่ามองอย่างฉาบฉวย ไม่ว่าจะคนรุ่นไหนก็ตาม ความรักชาติ ความหวงแหนในแผ่นดินเกิด ความจงรักภักดีต่อบรรพบุรุษที่ปกป้อง รักษาแผ่นดินเกิด ให้เราทั้งหลายมีที่อยู่ที่กิน เราทั้งหลายควรเทิดทูนอยู่เหนือสิ่งอื่นใด เรื่องของความรักชาติ ในความรู้สึกส่วนตัวแล้ว ผมเองค่อนข้างจะนิยมชมชอบ ชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างยิ่ง เพราะเหตุใด...? เพราะผมเคยเห็น พนักงานโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศญี่ปุ่น ก่อนเข้าทำงาน เค้ายืนร้องเพลงชาติครับ (และเป็นเหมือนกันหมดทั้งประเทศทุกโรงงาน  จากคำบอกเล่า) ของเรามีแต่เฉพาะโรงเรียน หรือ ส่วนราชการเท่านั้น การกระทำชนิดนี้จะเรียกว่า รักชาติ  หรือหลงชาติ อะไรก็ตามแต่ ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการ  ทำลายชาติ จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 18:30:53

ความคิดเห็นที่ 62 ผมเป็นลูกจีนรุ่นแรกที่เกิดในไทย แต่ก็รักแผ่นดินเกิดนี้ครับ ไม่อยากให้เสียไปเพราะฝรั่งมาขีดเส้น  และก็ไม่อยากเปลี่ยนสัญชาติ   ใครจะใจกว้างเรื่องที่ว่าแผ่นดินนี้ เมื่อสมัยโบราณเป็นของอาณาจักรอื่น ก็คืนเขาไป  ก็ดูด้วยว่าในชื่อคุณสำมะโนครัวคุณอยู่ที่ไหน ถ้าใกล้ชายแดนอย่างญาติผม  คุณจะรู้สึกยังไง  หรือว่าดีใจ แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 53 18:37:45 จากคุณ : เสือดำขโมยใจ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 18:36:21

ความคิดเห็นที่ 63   คห.55 น่าจะไปพูดตอนประกาศรางวัลอะไรซักอย่าง คุ้นๆนะ555 จากคุณ : ชายเดี่ยว เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 21:50:59

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณกระทู้ดีๆ เช่นนี้ เราจะเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไปทำไม... ถ้าไม่ทำวันนี้ให้ดีกว่าวันก่อน ถ้าเรายังไม่แก้ไขปรับปรุงตนให้ดีขึ้น ประวัติศาสตร์ในอนาคตจะเป็นแบบไหนหนอ... จากคุณ : หมูหิมะ เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 01:17:10

ความคิดเห็นที่ 65   อ่านแล้ว เกิดความรักประเทศชาติขึ้นมาโดยทันใดเลยครับ ขอบคุณนะครับ ที่นำความรู้ ดีๆ มาบอกต่อ พึ่งจะรู้นะครับ ว่าประเทศเรากว้างใหญ่แค่ไหน และ ถูกยึดไปเท่าไร่ พอจะมีทางไหมครับ ที่เราจะทวงเอาผืนแผ่นดินของเรากลับ คืนมา คงเป็นได้แค่ฝันชะล่ะมั้ง  ............. จากคุณ : บ่าววังวน เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 12:47:34

ความคิดเห็นที่ 66   ขอบคุณเฉิ่มศักดิ์มาก ที่กรุณาเรียบเรียงให้เข้าใจง่าย              รู้สึกว่า ฝรั่งเศส จะเจ้ากี้เจ้าการมาก คงผลประโยชน์เป็นหลัก              ของเราอย่าแยกกันอยู่ แย่งกันพูด เสียดสีกัน.  ควรอย่างยิ่ง              นึกถึงชาติเป็นหลัก..............ครับ... ขอพูดด้วยความจริงใจ จากคุณ : ไวน์กับสายน้ำ เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 13:47:50

ความคิดเห็นที่ 67 ปกติไม่ค่อยเกลียดอะไรเท่าไหร่แต่งานนี้เกลียดไอเศสฝรั่งมากๆ หลายครั้งหลายหนแล้วที่ทำให้ขเมรหาเรื่องรุกล้ำอธิปไตยของเรา.... ถ้างานนี้ที่ท่านสวิทย์ไปเซ็นเอกสารรับทราบแล้วกลายเป็นเซ็นยินยอมอีก จะขอแอนตี้ไอเศสฝรั่งไม่อุดหนุนสินค้าเด็ดขาด....ให้ล้มละลายไปเลย...... ...... สงสารลูกหลานไทย...จะรู้ไหมหนอว่ากำลังถูกปล้นทรัพย์ของแผ่นดินไปอีกมากมายมหาศาล ส่วนคนที่ไปเข้าข้างพวกเศสฝรั่งกับขเมรนี่ก็ไม่รู้จะด่าเป็นภาษาอะไร...ทำไมไม่รู้จักรักชาติหัดมองการณ์ไกลๆๆบ้าง.... จากคุณ : tiNgrOyArrAi เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 14:48:48

ความคิดเห็นที่ 68 ขอบคุณและโหวตค่ะ จากคุณ : น.ส.พังพอน เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 17:22:28

ความคิดเห็นที่ 69 กว่าจะมาเป็น "ไทย" อย่างใน คคห ที่ 1 เราก็ไปแย่งชิงดินแดนเขามาเหมือนกัน พระแก้วมรกต พระคู่บ้านคู่เมือง นั่นก็ไปเอาของลาวเขามา รักชาติกันแต่พอดีๆเถอะ จากคุณ : DarkSlayer เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 02:44:47

ความคิดเห็นที่ 70 จะมีคนไท " แท้ " เหลืออีกเท่าไร อย่ามองอื่นไกล ทุกวันนี้ ทุ่งนาแถวอยุธยา คนไทแท้ที่ไหนเป็นเจ้าของ จากคุณ : NOSIG เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 03:10:55

ความคิดเห็นที่ 71 #52 คุณเด็กสายสอง  เรียนรู้ประวัติศาสตร์จากที่ไหนบ้าง ให้มันหลายมิติคะ แล้วใช้อะไรพิจารณาว่าเรื่องไหนจริงไม่จริง บอกเป็นวิทยาทานหน่อยค่ะ จากคุณ : With LoVe and Golden Fish เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 15:50:02

ความคิดเห็นที่ 72   รัฐไทยไม่เคยกว้างขนาดนั้นครับ จากคุณ : Hexa เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 22:43:01 A:117.47.228.7 X: TicketID:256654

ความคิดเห็นที่ 73 ไม่รักชาติก็ไม่ต้องมาด่าคนอื่นครับ กลับไปไหว้พระเจ้าอะไรของพวกท่านต่อไปเถอะ จากคุณ : คนกลางวัน เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 10:17:37

ความคิดเห็นที่ 74   *71*เรียนรู้ประวัติศาสตร์จากที่ไหนบ้าง ให้มันหลายมิติคะ แล้วใช้อะไรพิจารณาว่าเรื่องไหนจริงไม่จริง บอกเป็นวิทยาทานหน่อยค่ะ......... ทุกชาติก็เหมือนกันหมดนะผมว่า อยากรู้ประวัติศาสตร์ของชาติไหน อย่าไปอ่านที่คนชาตินั้นเขียนเพียงอย่างเดียว ลองอ่านที่คนชาติอื่นเขียนถึงเราบ้าง แล้วลองเอามาเปรียบเทียบกันดู อาจมีข้อมูลใหม่ๆก็ได้นะ ตอนเด็กๆผมยังรู้เลยว่า พม่าเนี่ยชอบมารุกรานบ้านเรา พอไปดูเขมรเค้าบอกว่าไทยไปรุกรานเค้า เค้าก็ชนะไทยเลยมีเสียมเรียบ ผิดถูกอันใดต้องขออภัยครับ จากคุณ : ชายเดี่ยว เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 10:50:09

ความคิดเห็นที่ 75 คุณ คห 71 ครับ หนังสือ บทความ เดี๋ยวนี้มีเยอะแยะครับ ไทยมั่ง แปลจากคนต่างชาติมั่ง ที่มันไม่เป็นไปในแนวทางที่ชนชั้นปกครองของไทยอยากให้เป็น จริงป่าวไม่มีใครบอกได้ แต่อ่านๆไปเหอะ เปิดโลกทัศน์ และ ทำให้เราอยากตั้งคำถามกับสิ่งที่ชนชั้นปกครองอยากให้เชื่อ มันมีพลวัติ อย่าไปยึดติดมาก เหมือนที่ครั้งนึง คนไทยมาจากเขาอัลไตนั่นแหละ ไม่ใช่เรื่องนี้เรื่องเดียว หลายๆบุคคล เหตุการณ์สำคัญ ถูกระบุไว้ในประวัตศาสตร์ไทยอย่าง กระอักกระอ่วนเพราะเดี๋ยวจะไปขัดแย้งกับความเชื่อเดิมๆ พระเอกก็พระเอ๊กพระเอก ผู้ร้ายก็แสนเลว ประวัติศาสตร์นะเฟ้ย ไม่ใช่ละครช่อง7 สมัยล่าอนานิคม เพื่อนบ้านเค้ามีการปกป้องอธิปไตยของเค้า เข้มข้น กว่าเยอะ พม่า เวียดนาม ลาว เขมร น่าชื่นชมทั้งนั้นแหละ เราอีกต่างหากที่คอยอำนวยความสะดวกให้เจ้าอนานิคมรังแกเพื่อนๆ ให้ตัวเองพอรอด แต่ทำให้เพื่อนๆเดือดร้อน ชาติเป็นสิ่งสมมติ นิยามแบบอย่างชนชั้นกลางก็จะพูดเป็นนกขุนทองว่าไม่ให้ใครรุกรล้ำแม้แต่ ตรนิ้ว เช่น เขาพระวิหาร (ทั้งๆที่จริงเกิดจนแกยังไม่เคยได้ไปเหยียบ) แต่คนทำมาหากินในพี้นที่อาจบอกว่า รัฐอย่ามายุ่งกระกรู ชาติของกรูคือความมีอิสระทำมาหากินได้ อยู่กันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยในพีนที่ ดังนั้นอย่าผูกขาดความรักชาติ ในแบบที่ตัวเองเชื่อเลยนะจ๊ะ คนคิดไม่เหมือนคุณก็คงรักในแบบของเขาอะแหละ ไม่มีใครเป็นเลิศกว่าใครหรอก  ชื่นชมกันตามเหตุผล พอหอมปากหอมคอ รู้ตัวเอง อย่าดูถูกคนอื่น เดี๋ยวถูกคน ต่างชาติหัวเราะเยาะเอาไม่รู้ด้วยนะจ๊ะ ยาวละ พอก่อน จากคุณ : เด็กสายสอง เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 12:08:48

ความคิดเห็นที่ 76 คำว่า"ชาติ" คืออะไร? ตีความกันถูกต้องแล้วรึ.... - รึ คือ พื้นดิน ป่าเขาลำเนาไพร - รึ คือ เชื้อสาย หน้าตา พันธุกรรม - รึ คือ ประเพณี ความเชื่อ วัฒนธรรม - รึ คือ ภาษาพูดนำ อักษรจาร ภาพวาดเขียน ที่ว่า "รักชาติ" นะ...รักอะไร? ตอบตัวเองได้...หรือไม่? จากคุณ : ผ่านมาแซว (ไผ่แผ่วพริ้ว) เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 13:15:36

ความคิดเห็นที่ 77 ถ้ามีคนคิดอย่างคุณสายสองคิด ชาติไทยถึงกาลอวสานแน่นอน   เพราะเท่าที่อ่านมา ความคิดคุณล้วนแต่ชื่นชมชาติอื่นทั้งสิ้น   ยังดีนะ ที่คุณไม่ได้ชื่นชม ที่อเมริกาบุกอิรัก และยึดครองบ่อน้ำมันอิรักอยู่ เสียดายมั้ยครับที่คุณดันเกิดมาบนผืนแผ่นดินไทย มีคำว่า  "คนไทย"  ติดตัวอยู่ทุกวันนี้ ค่อยๆคิดครับ อย่าเพิ่งรีบด่วนสรุป จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 13:20:59

ความคิดเห็นที่ 78   #77 ผมว่าแรงไปนะ คิดแบบนั้นหมดก็โง่ตามชนชั้นปกครองอยากให้เป็นกันหมดสิครับ มันหมดยุคแล้วครับ เรื่องลัทธิคลั่งชาติแบบไม่ใช้ความคิดตรึกตรอง และผมคิดว่าชนชั้นปกครองสมัยก่อนคิดผิดครับ ความคิดแบบนี้ทำให้ประเทศไม่พัฒนา ถ้ายึดชาติตามนิยามที่คุณว่านะครับ เขาพระวิหารจะเป็นของ จีน ครับ รัฐจารีตก่อน ร.5 ทั้งหมดขึ้นกับจีนทั้งนั้นแหละ ขอถามนิยามรัฐชาติของคุณหน่อยสิครับ ความจริงที่เป็นอยู่กับที่ชนชั้นปกครองอยากให้เป็นมันคนละเรื่องกันครับ ขอให้แยกกันเป็นเรื่องๆไปดีกว่า ผมคิดว่ารัฐชาติไทยไม่ควรเสียดินแดนไป เพราะในฐานะรัฐสมัยใหม่ดินแดนประเทศไทยตอนนี้มันคือรัฐไทยตามกฎหมายสากลครับ ส่วนไอ้ดินแดนรัฐจารีตที่ว่า เอามาพูดกันมันรังแต่จะสร้างความเกลียดชังเปล่าๆ เพราะทุกชาติอ้างได้หมด ชาติคืออะไรครับ? ผมว่าผมตอบได้ตามความรู้ที่ผมเรียนมา คุณล่ะ ตอบได้หรือเปลาครับ? จากคุณ : Hexa เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 13:58:50 A:202.28.249.180 X: TicketID:256654

ความคิดเห็นที่ 79 รัฐกับประเทศมันต่างกันอย่างไร ทำไมถึงเรียกประเทศไทย ว่ารัฐไทย เท่าที่ผมรู้ รัฐมันเป็นการปกครองส่วนหนึ่งของประเทศไม่ใช่เหรอ แล้วรัฐไทย อยู่ในการปกครองของประเทศอื่นงั้นเหรอครับ ไหนลองอธิบายให้ผมรู้แจ้งหน่อยสิครับ ปล.ไม่น่าจะถอดล๊อคอินเข้ามาตอบเลยนะครับ ขนาดตัวตนยังปิดบังเลย ไม่มีความกล้าเอาเสียเลย แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 53 17:56:07 จากคุณ : อาเกาเหลา เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 17:54:35

ความคิดเห็นที่ 80 #78 ชาติคืออะไรครับ? ผมว่าผมตอบได้ตามความรู้ที่ผมเรียนมา คุณล่ะ ตอบได้หรือเปล่าครับ? *************** ไหนๆเราก็คุยกันเรื่องชาติบ้านเมืองกันแล้ว ลองขยายความ เรื่องชาติคืออะไร?  ในแบบที่คุณรู้ อธิบายความเพื่อเป็นวิทยาทาน แก่ผู้ไม่รู้โดยละเอียดด้วยเถอะครับ เชิญเลยครับ เริ่มได้เลย อ้ิอ..................ใส่ล็อคอินเถอะครับ เพราะโดยปกติแล้ว คนที่มีล็อคอิน เขาจะไม่เสวนากับคนใช้บัตรผ่านนะครับ จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 18:50:29

ความคิดเห็นที่ 81 อืม...มีแบ่งชนชั้นด้วยแฮะ... สำหรับผม "ชาติ" เองก็เป็นสิ่งสมมติ เป็นความรู้สึกที่ถูกสร้างขึ้น จับต้องไม่ได้... ถ้ามัวแต่มายึดติด ชาติใครชาติมัน ฝ่ายใครฝ่ายมันอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้... มันก็มีปัญหาทะเลาะกันไม่จบไม่สิ้นหรอกฮะ... ปล.ผมไม่ใช่คนที่ถอดล๊อกอินนั่นนะ บังเอิญผ่านมาอ่านเลยอยากออกความเห็นบ้าง... จากคุณ : Goodenough เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 19:41:32

ความคิดเห็นที่ 82   #80 ขอโทษครับ ผมไม่บังอาจแล้ว จากคุณ : hexa เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 21:10:09 A:110.164.164.171 X: TicketID:256654

ความคิดเห็นที่ 83 ไม่เกี่ยวกับเนื้อหากระทู้นะครับ แต่ผมเองซึ่งมีล็อกอิน ก็เสวนากับคนที่ใช้บัตรผ่านนะ ถ้าบัตรผ่านนั้นพูดจามีเหตุผล ถึงความคิดเห็นต่างกัน แต่ถ้าใช้เหตุผลมาคุยกัน มันก็พอจะถกกันได้ แต่ถ้าเหยียดเขาว่าเป็นแค่บัตรผ่าน แล้วไม่ยอมคุยด้วย มันก็จบแล้วล่ะ จากคุณ : DarkSlayer เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 21:18:51

ความคิดเห็นที่ 84   อธิบายให้คุณ อาเกาเหลาฟังแล้วกัน(พอดีไม่เห็น) รัฐเป็นชุมชนทางการเมืองครับ คำว่าประเทศนั้นความหมายมันค่อนข้างกว้างครับ และก็ยังเป็นที่ถกเถียงว่าเป็นรัฐหรือไม่เป็นรัฐ จะพูดให้ถูกคือ ความหมายของคำว่าประเทศค่อนข้างคลุมเครือมากๆครับ เช่นประเทศไต้หวันถูกถกเถียงกันมากว่าเป็นรัฐหรือไม่เป็น ถ้าจะพูดให้ถูกคือ รัฐตามความหมายสากลนั้น หมายถึงรัฐสมัยใหม่ คือมีองค์ประกอบที่เป็นรัฐสมัยใหม่มีดินแดน ประชากร รัฐบาล อธิปไตย ส่วนที่คุณสงสัย เท่าที่ผมรู้ รัฐมันเป็นการปกครองส่วนหนึ่งของประเทศไม่ใช่เหรอ +++++++++++++++++ ไม่ใช่ครับ คุณกำลังสับสนกับระบบ federal state สหพันธรัฐต่างๆ ไทยเราเป็น unitary state ครับเป็นระบบรัฐเดี่ยว พวกสหพันธรัฐแบบอเมริกา เยอรมันนั้น เค้ามีหลายๆรัฐครับ(รัฐตามความหมายข้างต้น) มารวมตัวกัน โดยมีรัฐธรรมนูญร่วมกันฉบับเดียวครับ อธิบายคร่าวๆพอนะครับ ผมกลัวท่านสมาชิกผู้มีลอคอินจะมาว่าเอาครับ จากคุณ : hexa เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 21:27:40 A:110.164.164.171 X: TicketID:256654

ความคิดเห็นที่ 85 ถ้าเขมรเริ่มประวัติศาสตร์ชาติ เมื่อ 1000 ปีก่อน เค้าก็น่าจะเคยเป็นเจ้าของไทยปัจจุบันซะค่อนประเทศ ก็ใครกันล่ะสร้าง ปราสาทหินทั้งหลายที่อยู่ในหลายจว ไทยปัจจุบัน โน่นลพบุรี สุโขทัย พิมาย ไปกันถึงโน่น เคลมกันไม่จบหรอกครับ อดีตมันมีเป็นพันปี ใครๆก็อยากย้อนไปในช่วงเวลาที่ตัวเองเจ๋งทั้งนั้น เอาเป็นตอนนี้ดีกว่า เขมรขึ้นทะเบียนพระวิหารเป็นมรดกโลกไปแล้ว ของของเขาตามศาลโลกว่า อย่างอแง เราก็แค่ monitor ว่า แผนพื้นที่การจัดการที่ยื่นให้ กก มรดกโลก ไม่ได้อยู่ใน buffer zone ก็พอ และ ถ้าไม่อยู่ มันก็เป็นอธิปไตยของเขา ไม่เกี่ยวกะเรา จากคุณ : เด็กสายสอง เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 21:50:48

ความคิดเห็นที่ 86 เรื่องนี้สงสัยจะยาวแฮะ ประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้ว มันก็แก้ไขอะไรไม่ได้ ถ้าหลายๆคนคิดว่า ประเทศไทย มันไม่ใช่ของไทยมาตั้งแต่แรก อันนี้ผมก็ว่าน่าจะจริง ถ้าดูตามหลักฐานทางวัฒนธรรม แต่คนสมัยก่อนไม่ได้เหมือนสมัยนี้ คนสมัยก่อนไม่มีเทคโนโลยี มีแต่พละกำลัง จึงเกิดการแย่งชิงดินแดนกันเกิดขึ้น ผู้ที่แข็งแรงกว่าย่อมเป็นผู้ที่ได้ปกครองคนที่อ่อนแอกว่า ใครแข็งแรงกว่าก็ย่อมที่จะได้ครอบครองดินแดนนั้น ...แต่ในปัจจุบัน เรามีเทคโนโลยี มีวิวัฒนาการ เปลี่ยนจากการใช้กำลังเข้ายึดครองดินแดน เป็นการใช้มันสมอง และเทคโนโลยี เข้ามาครอบครองแทน มายึดครองโดยที่เราไม่รู้ตัว ใครมีเทคโนโลยีที่ดีกว่า ฉลาดกว่า ย่อมจะประกาศตัวเองว่ายิ่งใหญ่เหนือใครในปฐพี ในปัจจุบัน เราไม่ได้สู้รบแย่งชิงดินแดนกันโดย มีด ดาบ เหมือนสมัยก่อน แต่เราสู้รบแย่งชิงดินแดนกันด้วย เศรษฐกิจและเทคโนโลยี และอาวุธสมัยใหม่ โดยในเชิงลึกแล้วประทศที่ยิ่งใหญ่จะมีสิทธิเหนือกว่าประเทศอื่นในโลก ยกตัวอย่างอเมริกา ทำไมพอเวลาอเมริกาพูดอะไรคนทั้งโลกต้องฟัง ชาติไหนไม่ฟัง จะโดนคว่ำบาตร ทางเศรษฐกิจ ใครไม่ฟังจะโดนส่งกองกำลังเข้าไปทำการสู้รบ มันก็เหมือนการยึดครองแบบสมัยก่อนเลย เพียงแค่เปลี่ยนรูปแบบเท่านั้นเอง ในปัจจุบัน เราตกเป็นทาสของประเทศมหาอำนาจ พอเศรษกิจเค้าพัง ทำไมเราถึงเดือดร้อนด้วย ทั้งๆที่บ้านเมืองเราก็อุดมสมบูรณ์กว่าประเทศเค้า ถึงแม้บ้านเมืองเราไม่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ยังไงเราก็ไม่มีวันอดตาย ตราบใดที่เรายังมีผืนแผ่นดินนี้อยู่ .......โปรดจงสำนึกไว้ว่า ปัจจุบันเราเกิดขึ้นมาบนแผ่นดินไหน เราเติบโตมาบนแผ่นดินไหน แผ่นดินไหนที่ให้เรามีที่ทำกิน มีเงินมีทอง มีความรู้ จนปีกกล้าขาแข็ง มาเหยียบย่ำดูถูกแผ่นดินนี้ได้ ผมไม่สนใจหรอกนะ ว่าพวกคุณจะเชื้อชาติอะไร แต่ที่ๆพวกเราทุกคนยืน มันก็คือแผ่นดินเดียวกัน ถ้ามีคนคิดแบบนี้มากๆ ระวังไว้เถอะสักวันพวกคุณจะไม่มีแผ่นดินอยู่ จะต้องกลายเป็นคนอพยพ เร่ร่อน ไม่มีที่ไหนรับเข้าเป็นประชากร ถ้าคุณไม่มีประโยชน์ต่อพวกเค้า ถึงแม้ว่าคุณจะได้เป็นประชากรเมืองเค้าก็เถอะ อย่างมากก็เป็นแค่พลเมือง ชั้น 2 หรือ ชั้น 3 คุณก็น่าจะรู้นะว่าจะเป็นอย่างไร ถ้าคุณอยากรู้ว่าชีวิตเร่ร่อนไม่มีแผ่นดินอยู่ ไม่มีชาติอยู่มันรู้สึกอย่างไร ลองไปคุยกับพวกชนกลุ่มน้อยตามแถบๆชายแดนไทยกับพม่าดูสิ ที่มีการสู้รบกันตลอดเวลา เค้ารู้สึกยังไง ทำไมเค้าถึงอยากมาอยู่บนแผ่นดินไทย ทำไมเค้าถึงอยากมาทำงานบนแผ่นดินไทย ทำไมพวกเค้าโดนส่งตัวกลับประเทศแล้วยังอยากที่จะลักลอบหนีกลับเข้ามายังแผ่นดินไทยอีก ..........พวกคุณน่ะยังโชคดีที่ได้เกิดบนแผ่นดินไทย จงช่วยกันรักษาแผ่นดินนี้ไว้ ก่อนที่จะสิ้นแผ่นดิน สิ้นชาติ เพราะคนบางกลุ่ม บางพวก...........                        .........สยามุนุสสติ.......... ๏ รักราช จงจิตน้อม     ภักดี ท่านนา รักชาติ กอบกรณีย์      แน่วไว้ รักศาสน์ กอบบุญตรี    สุจริต ถ้วนเทอญ รักศักดิ์ จงจิตให้         โลกซร้องสรรเสริญฯ ๏ ยามเดินยืนนั่งน้อม    กะมล รำลึกถึงเทศตน           อยู่ยั้ง เป็นรัฎฐะมณฑล         ไทยอยู่ สราญฮา คนถนอมแน่นตั้ง         อยู่เพี้ยงอวสานฯ ๏ ใครรานใครรุกด้าว    แดนไทย ไทยรบจนสุดใจ          ขาดดิ้น เสียเนื้อเลือดหลั่งไหล  ยอมสละ สิ้นแล เสียชีพไป่เสียสิ้น        ชื่อก้องเกียรติงามฯ ๏ หากสยามยังอยู่ยั้ง   ยืนยง เราก็เหมือนอยู่คง       ชีพด้วย หากสยามพินาศลง     ไทยอยู่ ได้ฤๅ เราก็เหมือนมอดม้วย   หมดสิ้นสกุลไทยฯ --------------------------------------------------- แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 53 08:30:45 จากคุณ : อาเกาเหลา เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 08:24:55

ความคิดเห็นที่ 87 ถ้าเนื้อที่ทั้งหมดยังอยู่กับเรา ป่านนี้ คงเห็นเขาหัวโล้นมากกว่านี้ หมู หมา กา ไก่ ไม่มีพรหมแดน "มนุษย์" ผู้ถือตนว่าประเสริฐสุด นี่แหละ ตัวหายนะของโลก ทำไปด้วยการอ้าง"เหตุผล"  ซึ่ง "เหตุผล" แปลความได้ว่า "ข้ออ้างที่ฟังดูเข้าที" จากคุณ : รอย คีน(เบอร์ 16) (keane16) เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 10:12:14

ความคิดเห็นที่ 88 ตลกว่ะ นับกระเหรี่ยงเป็นพี่น้องลูกหลานไทย ขนาดคนดอยในเขตประเทศไทยตอนนี้ยังไม่ได้สัญชาติเลย แล้วเคยถามหรือยังว่าเขาคิดว่าเป้นคนไทยมั้ย จากคุณ : เหลียงต้าเหว่ย เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 12:52:55

ความคิดเห็นที่ 89 สมัยก่อนไทยนี่ใหญ่โตเหมือนกันนะเนี่ย แล้วพวกเวียดนาม ลาว พม่า เขารู้หรือเปล่าคะ ว่าที่ที่เขาอยู่เคยเป็นของไทยมาก่อน ???  หรือ ว่ารู้แต่คนไทย ? จากคุณ : แช มัน ฮวา เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 14:45:10

ความคิดเห็นที่ 90 เอออ   เอาเวลาไปสนใจเรื่องปากท้องดีกว่ามั้ย  ทำให้คนในประเทศภูมิใจในชาติตัวเอง คนยากคนจนเต็มบ้านเมือง  ถามจริงๆชีวิตจริง  คนส่วนใหญ่ที่ยากไร้พวกนี้สนใจหรือป่าว  เวลาออกรบทีไร ลูกหลานชาวไร่ชาวนาเป็นหน่อยกล้าตายอันดับแรกๆ   ถ้าลูกหลานผู้รักชาติ ไปรบบ้างคงจะดี    ดูข่าว ทหาร ตำรวจใน3 จวภาคใต้ ตายส่งกลับบ้านทีไร ส่วนใหญ่เป็นคนเหนือกับอิสาน หาภาคกลางน้อยมาก (กทม ไม่ต้องพูดถึง)         อยากจะบอกว่าผู้เสียสละเพื่อประเทศนี้ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันตัวจริง คือ ลูกหลานชาวไร่ชาวนาที่ออกรบ ครับ   แต่ทำไมหนอ คนพวกนี้เสียงเบาจัง เวลาตายพวกตูตายก่อน     แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 53 15:10:04 แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 53 15:07:06 จากคุณ : อมยิ้มไม่หวาน เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 15:06:28

ความคิดเห็นที่ 91 เริ่มต้นที่ตัวเราดีกว่าครับ หยุด จากคุณ : neetnoskub เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 16:09:00

ความคิดเห็นที่ 92   เอ่อ แผนที่น่าจะคลาดเคลื่อนนะครับ  ไม่ทราบว่าเราเคยไปผนวกรวมชาติกับ "เวียดนาม" ตอนไหนครับ   เราเคยทำสงครามกับเวียดนามมาตั้งแต่ต้นรัตนโกสินทร์แต่ไม่เคยยึดครองหรือปกครองเค้าเลยนะครับ  ท่าจะมั่วแล้วครับ ความจริงที่คุณเด็กสายสอง กล่าวนั้นถูกแล้ว  ความ "รักชาติ" กับ "คลั่งชาติ" นั้นต่างกันอยู่มาก หากเราจะแสดงความรักชาติได้อย่างถูกต้องเราควรต้องรู้เสียก่อนว่าความเป็น "ชาติรัฐ" นั้นคืออะไร?  เกิดขึ้นได้อย่างไร?  มีองค์ประกอบอย่างไร?   เพราะหากเราไม่รู้ถึงความเป็นชาติรัฐเราก็จะกล่าวตู่เค้าไปทั่วว่าไอ้โน้นก็ของเราไอ้นี้ก็ของเรา  โวยวายคลุ้มคลั่งไปทั่ว   หาเป็นเช่นนี้อย่าว่าแต่ชาตินี้เลย  รับรองชาติหน้าก็ไม่เป็นสุข รักชาตินั้นดี  แต่ต้องมีเหตุผล  และต้องยอมรับความจริงด้วยครับ จากคุณ : วิรุฬห์ เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 21:31:10

ความคิดเห็นที่ 93   ยุคชาติรัฐสมัยใหม่กับยุคอาณาจักรมันต่างกันนะครับพี่น้อง  หากเอายุคอาณาจักรมากล่าวอ้างความเป็นชาติรัฐแถวนี้เกือบทั้งหมดก็ของขอมแหละครับ  และถ้าเขมรอ้างว่าขอมคือบรรพบุรุษของพวกเค้าเราไม่ต้องคืนดินแดนให้เค้าไปตั้งแต่ภาคกลางยันอีสานเลยหรือครับ จากคุณ : ศรีสุนทร เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 21:44:27

ความคิดเห็นที่ 94 "ความคิดเห็นที่ 69     กว่าจะมาเป็น "ไทย" อย่างใน คคห ที่ 1 เราก็ไปแย่งชิงดินแดนเขามาเหมือนกัน พระแก้วมรกต พระคู่บ้านคู่เมือง นั่นก็ไปเอาของลาวเขามา รักชาติกันแต่พอดีๆเถอะ " งั้นช่วยตอบอีกนิดได้มั้ยครับ ก่อนพระแก้วมรกตจะอยู่ที่ลาวนั้น อยู่ที่ไหนมาบ้างครับ  ว่างๆก็ไปหาประวัติอ่านดูบ้างก็ดีนะครับ จากคุณ : รีบเก็บของ เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 03:15:14

ความคิดเห็นที่ 95 โดยส่วนตัวของผม ผมไม่สนใจปราสาท ที่เป็น สถาปัตยกรรม ปรากฏ ณ ที่ตั้งอยู่จุดนั้น ผมสนใจชัยภูมิของพื้นที่ที่เป็นทำเลของมัน ทำเลของมัน จะเป็นอะไรที่มีวิสัยที่เห็น "บริบท" หรืออาณาบริเวณโดยรอบพื้นที่ที่กว้างไกล...มันทำให้ชวนนึกว่าจะกระทำอะไรกับพื้นที่ต่อ ๆ ไปกับมันได้ คงเป็นศักยภาพทางการทหารที่เป็นส่วนมีเปรียบในพื้นที่นี้ ถ้าเราเสียไป คงเป็นเรื่องที่ไม่สนุกเป็นแน่แท้ ในเชิงแผนที่นั้น ระบบการศึกษาทางด้านการสำรวจ การจัดทำแผนที่ เราช้าไกว่าเขาอยู่่ก้าวหนึ่ง...ไม่ใช่ก้าวหนึ่งสิ  คงอีกหลายก้าวอยู่ บวกรวมกับเรื่ององค์ความรู้ทางกฎหมายที่เราในตอนนั้น เราตามเขาไม่ทัน เพราะวิทยาการคือสิ่งที่เราเรียนรู้จากเขา วันนี้ถ้าเราจะต้องเสียพื้นที่นี้ไป (ถ้าต้องเสียจริงๆ) เราต้องคิดทันทีว่า ผลลัพธ์ของการที่เราจะเสียไปแล้ว เราจะป้องกันปัจจัยอะไรที่เกิดจากมันมากกว่า  ตรงนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่าทุกอย่าง พื้นที่ที่เรามีอยู่ ในความเป็นจริง มันไม่ได้น้อย หรือไม่เพียงพอ ที่เราจะทำอะไรกับมัน ถ้าเราเข้าใจคำว่า "พอเพียง" วันนี้...ผมไปดูหนังที่โรงหนังแห่งหนึ่ง ผมยืนขึ้นเพื่อเคารพกับภาพแห่ง "พ่อหลวง" ของผม ในเมื่อวัยวันวาน ผมซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่เห็นพระราชกรณียกิจ ที่พระองค์ทรงฝ่าดงพื้นที่ต่าง ๆ และมีภาพอมตะ "เม็ดเหงื่อที่ฉาบฉายบนพระพักต์ของท่าน" เป็นความตราตรึงให้ผม เรียนรู้ และสืบถามความเป็นมาของภาพนั้น แต่วันนี้...ขณะที่เพลงดำเนินมันไป ไม่มีภาพเหล่านั้นเลย มีแต่ภาพปรากฏเพียงพระองค์กับกิจวัตรเคียงคู่กับพระเจ้ลูกยาเธอทั้งหมด ผมนั่งนึก...แล้วเด็กที่ใช้ชีวิตในปี 2553 (2010) จะเห็นอะไร ??? ไม่เห็นหรอกครับ... ประเทศไทย ที่เราแข็งแกร่งได้ทุกวันนี้ เพราะบารมีแห่งนี้ ในปัจจุบันนี้ แต่วันนี้ มันกำลังหายไป แล้วประวัติศาสตร์ก่อนหน้านี้ ที่นานกว่านี้ มันเป็นสิ่งที่เราเอามาพูดกันเพราะความเข้าใจเฉพาะของเรา เด็ก ๆ เค้าไม่เข้าใจ คงเปรียบเหมือนกบที่พ่อของกระผมที่พูดถึงคลองแสนแสบ เมื่อครั้งที่มันใสสามารถจับกุ้งมากินได้... ถ้ามันต้องเสียไปเพราะมันเป็นเงื่อนไขของอดีต ผมยืนยันว่าว่าผมไม่เสียใจ ที่จะเสียใจก็คงเป็นแค่พวกเรา รู้เรื่องอดีต แต่ปล่อยวางหลาย ๆ ส่วนเหล่านี้ให้มันหายไปเอง เราทำวันนี้ ปัจจุบันนี้ ให้มันดีที่สุดกันดีกว่า...มันน่าจะสำคัญที่สุด ณ พื้นที่ตรงนั้น รอยต่อนั้น ๆ คนที่อยู่ตรงนั้น ที่มีปฏิสัมพันธ์กันตรงนั้น ผมคิดเองว่า เค้าไม่เข้าใจในเรื่องที่ทั้งไทย และกัมพูชา หรือฝรั่งเศส หรือศาลโลกกำลังพูดกันอยู่ เค้าคงแค่หวังว่า...เค้าจะอยู่ด้วยกันอย่างไร แบบไหน รักกัน แต่งงานกัน มีลูกมีหลาน และอื่น ๆ มากกว่า... ครับ... จากคุณ : archparty เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 04:25:30

ความคิดเห็นที่ 96 กลางๆกันไว้ดีกว่านะครับ อย่ายึดติดมากเลยนะจ๊ะ ประวัติศาสตร์ไทยยังมีอะไรให้ surprise กันอีกเยอะ กลัวว่าจะทำใจไม่ได้กันอะคับ จากคุณ : เด็กสายสอง เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 12:22:52

ความคิดเห็นที่ 97 แล้วที่เสียไปนี่แต่ก่อนเป็นของเราเหรอครับ คนที่อยู่ในพื้นที่ที่เสียไป พูดภาษาเราเหรอครับ เราไปได้ไปตียึดมาได้เหรอครับ? จากคุณ : Pannakon เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 15:17:57

ความคิดเห็นที่ 98 เรื่องดินแดนมันมีได้มีเสีย หรือแม้แต่ผืนที่ดินของคนทำกินก็ถูกฮุบได้ มันอยู่ที่ว่า  เรามีพวกมากหรือเปล่า มีศักยภาพสามารถป้องกันพื้นที่ได้ไหม หรือว่าเขาเกรงใจเราหรือเปล่า ผมว่า ถ้าหากคุณทักษิณบริหารประเทศนะ เราก็ยังคงเป็นมิตรที่ดีกับประเทศในภูมิภาคนี้ อาเซี่ยนจะเจริญรุดหน้ามีประชุมปรึกษากันตลอด  แบบที่เคยเป็นมา ที่ศาลาสันติธรรมปักธงเป็นทิวแถว หลายประเทศ ประชุมพูดคุยกันมิได้ขาดทั้งรายละเอียดและรายหยาบ แทบไม่ว่างเว้นเขาพระวิหารก็จะมีแต่ความร่วมมือซึ่งกันและกัน ไม่สังเกตุหรือว่าตั้งแต่มีการปฎิวัติ 19 กย.มานี่ นโยบายกับประเทศเพื่อนบ้านก็เปลี่ยนไป  จนเดี๋ยวนี้เราแทบจะไม่มีแขกต่างประเทศมาเยือนเลย ขนาดนายก รมต.ประเทศจีนมาเยือนพม่ายังไม่แวะไทยเลย เสียดินแดนมันมีเหตุมีผล หนึ่งในนั้นคือความอยากได้ การช่วงชิงความได้เปรียบระหว่างประเทศ  และประการสำคัญคือเขาไม่รูสึกแกรงใจ ผู้นำของเรา ขนาดเขาร้องท้า มิได้ขาด แถมจัดงานด่าเสียอีก จำได้ไหมครับ ที่เขาว่า ไปยิงพวกเสื้อแดงที่ไม่มีอาวุธทำไม  แน่จริงให้มายิงกับพวกเขา ให้สัมภาษณ์ ด่าผู้นำไทยติดต่อกันสองสามวันเลย เคยมีอย่างนี้ไหมครับ ประเทศไทย เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นผมว่าเป็นเพราะผู้นำไทยทั้งหลายแหละครับ จากคุณ : Autha เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 16:49:27

ความคิดเห็นที่ 99 พี่น้องผู้รักชาติทั้งหลาย ลองมารักชาติแบบผมบ้างสิ ผมคัดแยกขยะ บ้านผมแยกขยะเปียก ขยะแห้ง เพราะผมเห็นใจคนในชาติ คนที่มาขนขยะ จะได้ไม่เหม็น จะได้นำขยะไปใช้ประโยชน์ ผมใช้สถาบันการเงินของรัฐในการกู้บ้าน เพราะผมทราบว่าตอนนี้สถาบันการเงินต่างๆ ถือหุ้นใหญ่โดยชาวต่างชาติ ผมต้องการให้กำไรที่เหลือคืนกระทรวงการคลัง นำมาสร้างถนนหนทาง ให้ประชาชนในชาติ ไม่ใช่ส่งกำไรกลับคืนไปยังต่างชาติ ลองมาเสียสละและรักชาติแบบผมบ้างสิ กลัวว่าแค่ดอกเบี้ยต่างกันเพียงน้อยนิด พวกรักชาติทั้งหลาย ยังนึกถึงผลประโยชน์ตัวเองกันเสียก่อน จากคุณ : จำปาไฟ เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 18:20:18

ความคิดเห็นที่ 100 ผมคิดว่าเจตนา จขกท ดีนะครับ เอา FW ตัวนี้มาเพื่อให้เห็นความสูญเสียในยุคสมัยต่าง ๆ และมันก็สามารถมองกลับมุมได้ว่า ที่เสียไป ได้จากใครมา ก็แสดงให้เห็นความสามารถของบรรพชนในอีกรูปแบบหนึ่ง คห.98 ผมว่าอย่าลากพาไปเกี่ยวประเด็น ใครอยู่บริหาร ดี ใครเสียอำนาจใดใด เลยน่ะครับ เรามองแค่มุม "ประวัติศาสตร์" กันดีกว่า เพราะวิชาสังคมและภูมิประเทศ มันไม่น่าจะต้องวกเอาเรื่องนี้มาตั้งฝ่ายกันอีก...เอาการเมืองมา เดี๋ยวมันจาเฟี๊ยวเงาะ ป่าว ๆ อ่ะ ^ ^ วิเคราะห์ปัญหาและดูแนวแก้ไขกันดีกว่า...^ ^ จากคุณ : archparty เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 18:21:07

ความคิดเห็นที่ 101 ทำไม"เขมร" ต้องขึ้นตัวสีแดง แต่ลาวไม่ ปลูกฝังอะไรกันหรือเปล่า คนชายขอบเขาไม่ได้สนใจว่าใครจะตีกันนะครับ เขารักกันจะตาย คนในเมืองไปชี้หน้าด่าเขาละยุ่งเลย... จากคุณ : ร้อนนักรักซะเลย (tkung13) เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 00:43:54

ความคิดเห็นที่ 102 ความคิดเห็นที่ 96   [ถูกใจ]  [แจ้งลบ]   กลางๆกันไว้ดีกว่านะครับ อย่ายึดติดมากเลยนะจ๊ะ ประวัติศาสตร์ไทยยังมีอะไรให้ surprise กันอีกเยอะ กลัวว่าจะทำใจไม่ได้กันอะคับ จากคุณ : เด็กสายสอง [Bloggang] เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 12:22:52 [แก้ไข] ---------------------------------------------------------------------- ปากนะจ๊ะ แต่ใจไม่นะจ๊ะ ....  คนแบบนี้มีมาแต่โบราณ  .......นะจ๊ะ จากคุณ : โกโก้หวานกับน้ำตาลก้อนเดียว เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 01:11:46