ความคิดเห็นที่ 1 ราคาลูกละ 100.-บาท มีมาขายให้เห็นไม่มาก ถึงขนาดต้องแย่งกันซื้อนะคะดูเหมือนว่าสัปปะรดพันธุ์เพชรบุรีมีราคาสูง แต่แม่ค้าผลไม้หลายรายบอกว่าไม่แพงนะคะ เพราะสัปปะรดทั่วไปลูกใหญ่ประมาณ 1 กก. ก้อตกราคาใบละ 70-80 บาทแล้ว จากคุณ : หมูอ้วนอยากไปเที่ยว เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 09:36:08

ความคิดเห็นที่ 2 สัปปะรด พันธุ์เพชรบุรีมีต้นตระกูลอยู่ที่ใต้หวัน ภายใต้สายพันธุ์เดิมชื่อ "Tainan 41" ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรีได้นำจุกของมันมามาทำการเพาะเลี้ยงเนื้อ เยื่อเพื่อให้เพิ่มปริมาณ ผลการวิจัยพบว่ามีการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตดีกว่าสายพันธุ์เดิม ล่าสุดศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรี สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5 ประสบผลสำเร็จในการพัฒนาพัน ธุ์สับปะรดพันธุ์นี้ หรือที่เรียกกันว่าสับปะรดไต้หวัน จนได้สับปะรดที่สามารถรับประทานได้ทันทีโดยไม่ต้องมานั่งปอกเปลือกเหมือน เช่นสับปะรดทั่วไป จากนั้นมีการเสนอคณะกรรมการวิจัยและพัฒนากรมวิชาการเกษตรพิจารณารับรอง พันธุ์ และคณะกรรมการได้มีมติรับรองเป็นพันธุ์แนะนำในวันที่ 18 มีนาคม 2541 ระยะเวลาประมาณ 10 ปี ในการวิจัยและพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์สับปะรดไต้หวัน จึงเป็ นที่มาของ “สับปะรดพันธุ์เพชรบุรี” ไปในที่สุด จากคุณ : หมูอ้วนอยากไปเที่ยว เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 09:36:40

ความคิดเห็นที่ 3 สัปปะรดสายพันธุ์ใหม่ “สายพันธุ์เพชรบุรี” นั้น มีไฮไลท์เด่นคือไม่ต้องปอกเปลือก สามารถแกะผลหรือที่เรียกว่าตากินได้เป็นชิ้น ๆ เหมือนน้อยหน่าหรือขนุน รสดชาดดีอย่างเหลือเชื่อ หวานหอมสีสวย มีปริมาณกรดต่ำ ทำให้ทานแล้วไม่กัดปากหรือกัดปากน้อยกว่าพันธุ์อื่น ๆ กำลังเป็นที่สนใจนักชิมทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจำนวนมาก แต่ขณะนี้ผลผลิตยังมีไม่มาก จึงไม่สามารถหารับประทานได้ง่ายเหมือนผลไม้ชนิดอื่น และยังไม่มีวางขายทั่วไปบนห้างสรรพสินค้าชั้นนำในกรุงเทพฯ อาจจะได้ชิมก้อต่อเมื่อมีการจัดงานพิเศษเกี่ยวกับพืชผลทางด้านเกษตรต่าง ๆ เท่านั้น เริ่มแรกทางศูนย์วิจัยและ พัฒนาการเกษตร เพชรบุรี ได้ทำการแจกหน่อพันธุ์ให้กับเกษตรกรเพื่อนำไปปลูก แต่เกษตรไม่อยากที่จะต้องการหาตลาดขายสัปปะรดสายพันธุ์ใหม่นี้ เพราะเป็นสัปปะรดในกลุ่มทานสด เหล่าบร รดาเกษตรกรจึงไม่สนใจนัก เพราะไม่ต้องการหาตลาดใหม่ เนื่องจากเดิมทีเกษตรกรปลูกสัปปะรดสายพันธุ์ปัตตาเวีย ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ปลูกส่งโรงงานอยู่แล้ว แต่ยังมีเกษตรกรบางรายที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของสัปปะรดสายพันธุื์์ใหม่นี้ จึงมีการนำไปปลูกและขยานพันธุ์ต่อ แต่ก้อมีจำนวนน้อยมาก มีวางขายอยู่เพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น แหล่งปลูกที่มีมากและคุณภาพชั้นเยี่ยมอยู่ที่ อ.หัวหิน (ไร่ของคุณรุ่งเรือง) รายนี้มีรายนี้มีวางจำหน่ายบริเวณด้ านข้างวังไกลกังวน (เสาร์-อาทิตย์) ราคาไม่แพง รสชาดดี ตรงตามลักษณะพันธุ์ สับปะรดพันธุ์เพชรบุรีมีอายุมานานนับ 10 ปี แต่เพิ่งมาดังมากเมื่อสื่อนำมาเสนอทางทีวีในช่วงที่หน่วยงานจัดงาน 36 ปีของกรมวิชาการเกษตร จากคุณ : หมูอ้วนอยากไปเที่ยว เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 09:37:06

ความคิดเห็นที่ 4 หน้าตาของสับปะรดพันธุ์เพชรบุรี เหมือนสับปะรดทั่วไป ขนาดใหญ่สุดโดยประมาณอยู่ที่ 1 กก. ดีไซน์สับประรดเพชรบุรีจะเป็นทรงเจดีย์ คือโป่งตรงก้น ส่วนด้านหัวจะมีขนาดลีบลงไปเรื่อย ๆ ลักษณะของตาค่อนข้างใหญ่และโปน ทำให้ดึงออกมารับประทานทีละตาได้สะดวก เนื้อมีสีเหลืองอมส้ม มีกลิ่นหอมแรง ส่วนหัวจะมีรสหวานอมเปรี้ยว แต่บริเวณก้นจะออกหวาน กรณีที่แก่จัดหรือที่ตามีสีเหลืองจะหวานมากทีเดียวนะคะ จากคุณ : หมูอ้วนอยากไปเที่ยว เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 09:37:48

ความคิดเห็นที่ 5 .. จากคุณ : หมูอ้วนอยากไปเที่ยว เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 09:38:04

ความคิดเห็นที่ 6 มือใหม่หัดแกะค่อนข้างลำบากนิดหนึ่ง เราจะเจาะนำร่องเพื่อให้ได้พื้นที่โล่ง ๆ กันก่อน จากนั้นจึงทยอยฉีกทีละตามารับประทาน ลูกแรกเราทำการเจาะตรงกลางลูกเลย แต่ลูกนี้เรานำมาตัดจุกออกไปก่อน ซึ่งจะทำให้ปาดไปโดนตาสับปะรดติดไปด้วย ดังนั้นตาที่โดนตัดแล้วเหลือไม่เต็มตาเราเลาะออกไปด้วยมีดทีละตาให้เหลือตา เต็ม ๆ เท่านั้น จากนั้นจึงค่อยเลาะเด็ดตาเต็ม ๆ ที่เหลือมารับประทานทีละตา ตาที่อยู่ส่วนหัวนี้จะมีขนาดเล็กกว่าตาที่อยู่ส่วนล่าง ประกอบกับยังมีสีเขียวอยู่ จึงแกะยากกันนิดหนึ่ง ตาที่อยู่ช่วงบน ๆ เล่นเอาเจ็บมือเหมือนกัน แต่ประสบการณ์จะบอกเองว่าควรจะแกะอย่างไรให้มันง่ายขึ้นนะคะ อาจต้องใช้มีดเลาะแกนออกไปนิดหน่อยเพื่อนำร่อง เมื่อแกะไปเรื่อย ๆ จนลงด้านล่างรู้สึกว่าจะแกะได้ง่ายขึ้น อาจเป็นเพราะตาใหญ่ขึ้นหรือด้านล่างจะสุกมากกว่าด้านหัวนะคะ จากคุณ : หมูอ้วนอยากไปเที่ยว เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 09:38:32

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าที่เปลือกมีสีส้มหรือออกเหลืองแบบว่าสุกมากนิดหนึ่งจะมี รสหวานจัดหรือ หวานมาก ๆ ส่วนหัวจะมีรสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย กลิ่นหอมแรงตามคำโฆษณาไว้เลย แต่เวลาเลาะ ออกทีละตาไปเรื่อย ๆ ปริมาณน้ำจะฉ่ำตามขึ้นมาตามลำดับ ต้องคอยเทน้ำทิ้งอยู่บ่อย ๆ ไม่งั้นจะพาลไหลหยดย้อยเลอะเทอะหมดนะคะ ท่านเจ้าคุณอาของเราบ่นว่าผ่ามากินเหมือนสัปปะรดทั่วไปก้อหมดเรื่อง ไม่ต้องมาแกะทีละตา มือก้อไม่ต้องเลอะอยู่ตลอดเวลาด้วย ซึ่งพวกเรา เห็นว่าการกินสัปปะรดพันธุ์เพชรบุรีที่จะให้ได้อรรถรสสูง ควรแกะทานทีละตา ไม่งั้นเสียสายพันธุ์หมดนะคะ ความจริงแล้วจะว่าแกะยากก้อไม่เชิง จะว่าแกะง่ายไม่ใช่ แต่การแกะตาน้อยหน่าหรือแกะขนุนง่ายกว่าแยะมาก คือต้องมีความพยายามและมีเทคนิคกันนิดหนึ่ง ลูกแรกอาจจะแกะตาลำบากนิดหนึ่งนะคะ จากคุณ : หมูอ้วนอยากไปเที่ยว เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 09:38:58

ความคิดเห็นที่ 8 ปกติถ้าไม่ชอบทานสับปะรด แต่ส่วนมากก้อชอบที่จะกินแกนสับปะรด ซึ่งแกนสับปะรดทั่วไปมักจะมีรสจืด ยิ่งตรงกลางสุด ๆ จะจืดสนิทเลย แต่แกนสับปะรดพันธุ์เพชรบุรีสุดยอดมาก เมื่อแกะตาวน ๆ ไปทีละชั้นจะเหลือแกนโผล่อยู่ตรงกลาง พอแกนโผล่หน่อยจะแย่งกันตัดแกนเพื่อนำไปรับประทานกันอยู่ตลอดเวลา จากนั้นมาไล่แกะตากันต่อ เราใช้วิธีแกะออกทีละตาแล้วเรียงใส่จานไว้ให้ผู้ใหญ่หรือแขกได้กินง่ายขี้น ยิ่งถ้ามีไม้จิ้มฟันเสียงแทงไว้ในทุกตาที่แกะไว้ จะทำให้คนชิมไม่ต้องหยิบแล้วเลอะมือเลย ถือเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับคนรอบข้างกินได้ง่ายขึ้นอีกวิธีหนึ่งนะคะ จากคุณ : หมูอ้วนอยากไปเที่ยว เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 09:39:33

ความคิดเห็นที่ 9 สำหรับหน่อที่นำมาปลูกนั้น ปัจจุบันดูเหมือนว่ามีสุขภาพที่ดีพอสมควร แต่เนื่องจากช่วงนี้ที่บ้านอยู่ในระหว่างการปรับปรุงพื้นที่สีเขียว จะมาอัพเดทภาพให้ดูในภายหลังนะคะ เพื่อนสมาชิกท่านใดสนใจสัปปะรดพันธุ์เพชรบุรี สามารถติดต่อหรือขอรายละเอียดได้โดยตรงที่เจ้าของผลงาน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรี ติดถนนบายพาสชะอำ-ปราณบุรี ต.สามพระยา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โทร. 032- 594-067-8 จากคุณ : หมูอ้วนอยากไปเที่ยว เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 09:40:08

ความคิดเห็นที่ 10 ดีมากๆ เลยค่ะ  น่าสนใจหามาชิมบ้าง  เพราะเบื่อการหั่นตาออกอยู่เหมือนกัน เห็น จขกท.อธิบายการแกะทาน  แล้วนึกถึงฝักข้าวโพดค่ะ  ที่เวลาแกะทานทีละเม็ด จากคุณ : nice_piggyy เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 10:01:28

ความคิดเห็นที่ 11 แค่เห็นภาพ ก็น้ำลายสอแล้วครับ ขอบคุณ จขกท.ครับ ที่แนะนำสับปะรสพันธุ์ที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน คงทานง่ายจริงๆ ดังที่ว่า จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 10:05:52

ความคิดเห็นที่ 12 น่าลองซื้อมาทานนะคะ น่าทานที่สุดค่ะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ เซียน ขออนุญาต  คุณหมูอ้วนอยากไปเที่ยว   เอาไปฝากเพื่อน ๆ นะคะ ขอขอบคุณล่วงหน้า ด้วยนะคะ.... แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 53 10:09:29 จากคุณ : siansian (siansian) เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 10:07:03

ความคิดเห็นที่ 13 ได้มาลูกหนึ่งเมื่อสองเดือนก่อนครับ ลูกบอกว่าไม่ต้องปอกเปลือก แต่ไม่ได้บอกวิธีแกะมาให้ พยายามจนเหนื่อย สุดท้าย ใช้วิธีเดิมๆ  (เซ่อซะ)  ก็แค่นั้น ขอบคุณที่ลงรายละเอียดให้ จะลองพยายามใหม่ ถ้าได้มา ครับ จากคุณ : นายเก่าคนก่อน เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 10:54:09

ความคิดเห็นที่ 14   เห็น ภาพแล้วอยากจะชื้อมาชิมสัก 5-6 ลูก จังเลยครับ ไม่ทราบว่า ที่จังหวัด แพร่ เขาเอามาขายบ้างรึปล่าว ถ้ามี จะได้ไปหามาลองชิมดูครับ จากคุณ : บ่าววังวน เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 10:59:52

ความคิดเห็นที่ 15 น่าสนใจดีครับ ไม่รู้ว่ารสชาติจะสู้ สับปะรดนางแล ( ถูกเปล่าหว่า )ได้เปล่า จากคุณ : กอไผ่สีสุก เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 11:11:27

ความคิดเห็นที่ 16   สด ๆ น่าทานดีจังค่ะ น้ำลายไหลลลเลยเอิ้ก ๆ ๆ จากคุณ : พีราดา เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 11:45:20 A:124.120.215.27 X: TicketID:104421

ความคิดเห็นที่ 17 มาทำให้อยาก  แล้วจากไป  เอื๊อก ๆ เชียงใหม่จะได้กินเมื่อไหร่น๊ออออ.... จากคุณ : ป้อม-ยาม เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 11:59:02

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณจขกท.ค่ะ จากคุณ : แอน_moso เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 12:01:11

ความคิดเห็นที่ 19 แปลกจัง จากคุณ : mywindy เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 12:12:23

ความคิดเห็นที่ 20   ขอบคุณค่ะที่ทำให้รู้วิธีกินแล้ว คงขายดีแน่ๆเลย จากคุณ : ณัฐ วัชรพล เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 14:58:47

ความคิดเห็นที่ 21 ยินดีด้วยค่ะ ใครสนใจไปฝากเพื่อนๆๆก็ได้นะคะ ไม่หวงค่ะ หมูอ้วนก็ยังไม่เคยทานเหมือนกันค่ะ กะว่าอยากจะลองอยู่เหมือนกันค่ะ จากคุณ : หมูอ้วนอยากไปเที่ยว เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 15:35:36

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นแล้วน้ำลายสอ ด้วยคน แต่ราคาลูกละ 100 ทานไม่ไหวค่ะ จากคุณ : FunkyFox เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 16:01:06

ความคิดเห็นที่ 23 อยากลองทานจังเลยค่ะ จะอร่อยสมราคาหรือเปล่า จากคุณ : nawaporn169 เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 18:04:39

ความคิดเห็นที่ 24 1 จากคุณ : Courtney Micheal Love เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 18:37:30

ความคิดเห็นที่ 25 2 จากคุณ : Courtney Micheal Love เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 18:37:59

ความคิดเห็นที่ 26 2 จากคุณ : Courtney Micheal Love เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 18:38:35

ความคิดเห็นที่ 27 3 จากคุณ : Courtney Micheal Love เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 18:38:58

ความคิดเห็นที่ 28 4 จากคุณ : Courtney Micheal Love เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 18:39:40

ความคิดเห็นที่ 29   ลูกสุดท้ายที่ ดูบานๆ ข้างบนนี้ มันกินได้มั้ยครับ มีขายที่ไหนบ้างเอ่ย                                                    ^                                                    ^                                                    ^                                                    ^                                                    ^                                                    ^ จากคุณ : บ่าววังวน เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 09:49:38

ความคิดเห็นที่ 30 สัปปะรดภาพท้าย เป้นพวกที่มีการแบ่งตัวแบบผิดปกติครับ ดูกันเล่นๆ เป็นของแปลก ๆ ดี แต่ถ้าอยากจะทำเล่นๆ เอง ลองใช้ ethephon (เป็น ฮอร์โมณ เอธิลีน แบบน้ำ) ืที่เขาเอามาเร่งดอกหรือบังคับให้สับปะรดออกดอกออกผล ก็ให้ในความเข้มข้นที่สูงกว่าปกติ สัก 2-3 เท่าที่เขาระบุเอาไว้ ก็จะเห็นลูกสับปะรดหน้าตาประหลาด ๆ แบบนี้ครับ จากคุณ : ReHeat เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 02:24:52