ขุนช้าง - ขุนแผน ฉบับ นิทานข้างกองฟาง # ๒๑ กุมารทอง
|
|
พ่อแม่พี่น้องที่เคารพรัก ขอรับ
เมื่อตอนที่แล้ว กระผมก็ได้ทิ้งท้ายไว้ตรง ตอนตื่นเต้น ที่ ตาหมื่นหาญ ผสมยาพิษ ให้ นางบัวคลี่ ลูกสาว ไปใส่กับข้าวให้ผัวตัว คือ ขุนแผน กิน ลองมาดูกันซิ ขอรับ ว่าการณ์ จะเป็นอย่างไรต่อไป . . .
แต่ดวงของ ขุนแผน เห็นจะยังไม่ถึงฆาต ขอรับ โหงพรายประจำตัว จึงได้มากระซิบบอกไว้ได้ทัน
ครานั้น โหงพราย เจ้าพลายแก้ว เห็นแล้ว ว่าเขา เอายาใส่ กระซิบบอก นายพลัน ด้วยทันใด เดี๋ยวนี้เมีย เสียไป ใจไม่ตรง
ข้าวแกง ที่แต่ง ใส่ในสำรับ มันประกับ โรยมา ด้วยยาผง ล้วนยาพิษ ทั้งนั้น เปนมั่นคง พ่อจง ระวังระไว อย่าได้กิน ฯ
ขุนแผน ก็ลองพิสูจน์ ด้วยการโยนกับข้าวให้กากิน กาโฉบไปกินปั๊บ แล้วก็ชักแด็ก ๆ ตาย ในทันที
จึงคิดแค้นเมียเสียหนักหนา แล้วก็ตัดสินใจว่า
อีเมียทรยศอย่างนี้ เลี้ยงไม่ได้ ต้องฆ่าเสีย แล้วเอาลูกมันมาทำ กุมารทอง ซะ ถึงจะหายแค้น . . . . .
* ในประเด็นนี้ มีข้อคิดเห็นของเพื่อนพ้องน้องพี่ ที่หลากหลายประการ
มีถึงการวิเคราะห์ทาง จิตวิทยาพฤติกรรม ว่า นี้คือ การวางแผนที่แยบยล ของ ขุนแผน ตั้งแต่แรก
ที่แสร้งทำเกียจคร้าน ให้หมื่นหาญรังเกียจ กระทั่ง ต้อง ลองวิชากัน แลยังความ สะดุ้งกลัว ให้กับหมื่นหาญเปนอันมาก
กระทั่ง ต้องลอบฆ่า - วางยาพิษ กัน
เมื่อ ขุนแผน รู้ตัว จึงอ้างเปนสาเหตุ ที่จะ ฆ่าเมีย เอากุมารทอง ได้ โดยไม่รู้สึกผิด (Guilty) ใน จรรยาบรรณ แห่งนักรบลูกผู้ชาย (Chevalier)
ซึ่ง เปนประเด็นที่ น่าสนใจมาก และ เปนการ แตกยอดความคิดที่ งดงามยิ่ง
ทั้งนี้ ต้องขอขอบพระคุณ ท่านที่ ตั้งขอสังเกตดังนั้น ทำเอากระผม ฉุกคิด ทีเดียวแหละ ขอรับ
แต่ ในครั้งนี้ คงต้องขอเรียนอนุญาต เพื่อนพ้องน้องพี่ ที่จะดำเนินความ ตามแนว แล มุมมอง ของฉบับหลวง เช่นเดิม ไว้ก่อน นะ ขอรับ.*
. . . แล ตามหลักวิชาการ กุมารทองศาสตร์ นั้นไซร้ ในวิชาอาถรรพณ์ ท่านก็มีเงื่อนไขไว้ ดังนี้ คือ
๑) ต้องเป็นลูกของตน ๒) ต้องเป็นลูกชาย ๓) ต้องเป็นลูกคนหัวปี และ ๔) ต้องให้แม่อนุญาตเสียก่อน
ในเมื่อ ลูกในท้องของ บัวคลี่ มีคุณสมบัติ ดังสามประการแรก แล้วนั้น
(ซึ่งก็ไม่รู้ว่า ไป อัลตร้าซาวน์ มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงได้รู้ว่าเป็นลูกชาย)
ขุนแผน จึงเลียบเคียง ขอ จาก นางบัวคลี่ ทันที
ก็อ้อมค้อมขออยู่นาน นางก็ไม่ยอมออกปากให้สักที เพราะนึกว่าขุนแผนพูดเล่น จึงบ่ายเบี่ยงไปมา จน ขุนแผน ต้องพูดอย่างค่อนข้างตรง ว่า
ให้น้องออก วาจา ว่ายอมให้ พี่จะได้ เอาไว้ เปนกรรมสิทธิ์ จะกล่อมเกลี้ยง เลี้ยงดู เปนคู่ชีวิต เจ้าไม่คิด ถึงแล้ว ก็แล้วไป
ครานั้น จึงโฉม เจ้าบัวคลี่ จะถึงสิ้น ชีวี ประสิทธิ์ให้ พลั้งปาก หากแกล้ง ประชดไป ฉันยอมให้ ละตาม แต่ความคิด
มาค่อนขอ ไค้แคะ แหวะเอาสิเธอ ขุนแผนรับ ว่าเออ ให้เป็นสิทธิ์ เพราะมารดา อนุญาต ประสาทฤทธิ์ ก็สมจิต ที่ประสงค์ จำนงปอง ฯ
พอคืนนั้น ในเวลากลางดึกสงัด ขุนแผน ก็เริ่ม ปฎิบัติการโหด ทันที . . . . .
และ ความในฉบับหลวง ในตอนนี้ กระผมเห็นว่า เปนตอนที่ น่าสยดสยอง แต่ น่าสนใจที่สุด ตอนหนึ่ง ในวรรณคดีเรื่องนี้ กระผมจึงขออนุญาตยกมาลงทั้งสำนวน ดังนี้ ขอรับ
ยืนขึ้น บนเตียง เข้าเคียงข้าง พินิจนาง นิ่งนอน ถอนใจใหญ่ ไม่รู้เลย ว่าร่าง มันร้างใจ จะฆ่าผัว เสียได้ ช่างไม่คิด
แล้วชักมีด ตั้งท่า ง่าขยับ ใจกลับ มืออ่อน สะท้อนจิต แล้วกลับนึก ถึงนาง วางยาพิษ เอาชีวิต เสียเถิด อย่าไว้มัน
เ อ า มี ด ค ร่ำ ตำ อ ก เ ข้ า ต้ำ อั ก
เลือดทะลัก หลวมทะลุ ตลอดสัน นางกระเดือก เสือกดิ้น สิ้นชีวัน เลือดก็ดั้น ดาดแดง ดังแทงควาย
แล้วผ่าแผ่ แล่แล่ง ตลอดอก แหวะหวะ ฉะรก ให้ขาดสาย พินิจแน่ แลเห็น ว่าเป็นชาย ก็สมหมาย ดีใจ ไม่รั้งรอ
อุ้มเอา ทารก ยกจากท้อง กุมารทอง มาเถิด ไปกับพ่อ หยิบเอา ย่ามใหญ่ ใส่สวมคอ เอาผ้าห่อ ลูกชาย สะพายไปฯ
พอเขียนถึงตรงนี้ กระผมยังต้องขออนุญาต หลับตา ตั้งสติ พัก สักครู่เลย ขอรับ
หนังฝรั่งที่ว่า Thiriller แล้ว ผมว่า แพ้ ขุนช้าง - ขุนแผน ตอนนี้ ราบ ทีเดียวแหละ ขอรับ . . . . .
. . . ว่าแล้ว ก็รีบเดินลัดตัดป่า ไปยังวัดร้างแห่งหนึ่ง ก็เข้าไปในวิหาร แล้วเริ่มทำพิธี โดยใช้ไม้มงคล อย่าง ไม้ชัยพฤกษ์ ปักขึ้นเป็นขาหย่าง ไม้มะริด และ เถา กันเกรา เป็นเชื้อเพลิง จัดแจงควักเอากุมารออกมา ลงยันต์จนทั่วตัว แล้วจึงทำพิธีต่อ . . .
. . . ตั้งจิต สนิทดี ไว้ที่ทาง ภาวนา นั่ง ย่าง กุมารทอง
ร้อนทั้งตัว ทั่วกัน น้ำมันฉ่า กลับหน้า กลับหลัง ไปทั้งสอง เกราะแกร่ง แห้งได้ ดังใจปอง พอรุ่งแจ้ง แสงทอง ขึ้นทันใด ฯ
โหด . . . เกินไปไหมขอรับ พ่อแม่พี่น้อง และในที่นี้ กระผมเพียงแต่อยากจะบอกพ่อแม่พี่น้องเพิ่มเติมว่า
" . . . เป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัว ห้ามเลียนแบบ และอาจมีข้อความ ที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กและเยาวชน ผู้ปกครองควรพิจารณา . . ."
แบบที่ทีวีเขาชอบขึ้น ซับไตเติ้ล กันนักกันหนา ก็ได้นะ ขอรับ
แต่ตรงจุดนี้ กระผมก็มีปัญหาคาใจอยู่อย่างหนึ่งนะขอรับ พ่อแม่พี่น้อง คือ ขุนแผนนั้น ตะแกเล็งลักษณะ นางบัวคลี่ ไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าถ้าได้เป็นเมียแก แล้วจะต้องได้ลูกชาย แล้วตะแกก็กำลังจะหา กุมารทอง ไว้ใช้สอยอยู่ด้วย
ฉะนั้น จึงเกิดมีคำถามของกระผมขึ้นมาว่า ถ้าไม่มีปรากฏการณ์ทางวรรณกรรม ที่กำหนดให้ นางบัวคลี่ วางยาพิษขุนแผน แล้วไซร้ . . .
ขุนแผนของเรา จะมีใจคอที่โหดเหี้ยม ถึงขนาดที่ฆ่าภรรยาตัวเอง แล้วแหวะท้องเอาลูก เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ในการปลุกเสกกุมารทองหรือเปล่า กระผมเองก็ไม่ทราบ . . .
และอีกประการหนึ่ง ที่กระผมสงสัยก็คือ สำนักวัดไหนกันหนอ ที่สอนวิชา ฆ่าผู้หญิง แล้วแหวะลูกในท้องมาทำกุมารทอง ให้กับ ขุนแผนน่ะ . . .
ก็ได้แต่ขอฝากไว้ ให้พ่อแม่พี่น้องและปวงนักปราชญ์ราชบัณฑิต ลองไปขบคิดกันต่อเอาเองเถิด ขอรับ
ย้อนกลับมาทางฝ่ายบ้าน หมื่นหาญ ก็พอดีที่ ยายลาว บ่าวบัวคลี่ เปิดห้องเข้าไป เห็นนางบัวคลี่นอนตายอยู่ ก็โวยวายลั่น พอหมื่นหาญรู้เรื่อง ก็คลั่งแค้นขุนแผนแทบกระอักเลือด รีบยกพลไพร่ตามขุนแผน มาถึงในวิหาร ในทันที
มาถึง ก็กระทุ้งประตูวิหารอยู่กึงกัง แต่ ขุนแผน นั้น เย็นใจเสียแล้ว เพราะปลุกเสกกุมารทองเสร็จพอดี งคิดว่าจะต้องให้อ้ายพวกนี้ รู้ฤทธิ์เดชเสียบ้าง จึงจัดการ ดังนี้ ขอรับ
ขุนแผนไม่ สะทกสะท้าน อ่านมนต์ปลุก ผีลูก ผุดลุก ขึ้นพูดจ้อ ขุนแผนเต้น เผ่นโผน โจนขี่คอ กุมารทอง ช่วยพ่อ ให้พ้นภัย
กุมารทอง โลดปึง ทะลึ่งปร๋อ พาพ่อ ออกตาม รูดาลได้ พวกหมื่นหาญ ไม่เห็นตัว ข้ามหัวไป ด้วยฤทธิไกร ไสยเวท วิชาการ
ครั้นมาถึง ข้างนอก อุโบสถ จะทำให้ ปรากฎ กับหมื่นหาญ ให้มันรู้ ฤทธิไกร ว่าชัยชาญ แล้วจึงจะ ไปบ้าน กาญจน์บุรี ฯ
พอออกมานอกวิหารได้ ก็ปรากฏตัว ให้พวกหมื่นหาญเห็น
พวกนั้น พอเห็น ขุนแผน เข้า ก็วิ่งกรูกันเข้ามา
ขุนแผนก็ตวาดด้วยวิชาที่เรียกว่า อำนาจครุฑ ซึ่งเป็นข้อความคล้ายกับเพลง ของอีตา ขจรศักดิ์ แห่ง แกรมมี่ อันโด่งดังเมื่อราว สิบกว่าปีมาแล้ว ที่ว่า
"ใครไม่เกี่ยวก็ถอยปาย"
หรืออะไรทำนองนี้แหละ ขอรับ
ลิ่วล้อพวกนั้น เคยเห็นฤทธิ์ขุนแผนมาแล้วกันทั้งนั้นนี่ ขอรับ ปืนยิงใส่เป็นร้อย ๆ นัด พ่อก็แอ่นอกหราให้ ตูมเปล่า ตูมเปล่า อยู่อย่างนั้น ใครมันจะไปกล้าสู้เล่า ขอรับ
ก็เลยเหลือแต่หมื่นหาญผู้อาฆาต อาละวาดอยู่แต่ผู้เดียว
หมื่นหาญ ก็ชี้หน้าด่าขุนแผนว่า ไม่รู้จักบุญคุณ เลี้ยงไม่เชื่อง และที่ร้ายแรงที่สุดก็คือ ฆ่าลูกสาวกูแล้วหนีมา ลูกสาวกูผิดอะไรหรือ อ้ายแก้ว
ขุนแผน ก็ตอกกลับไปว่า สองคนพ่อลูกนั่นแหละ ที่มีโทษผิด สมคบกันวางยาพิษ เพราะอิจฉาว่า เห็นกูเก่งกว่า ใช่หรือเปล่า ว่าแล้วก็ รำกริช ที่เพิ่งปักอกลูกสาวหมื่นหาญ มาแหม็บ ๆ นั่นแหละ คุกคามเข้ามา พลางว่า วันนี้ เอ็งต้องตาย . . .
ฝ่ายหมื่นหาญนั้น ถือว่าตัวได้เปรียบ เพราะแกถือง้าว ก็โดดเข้ามา ก็ลองฟังดูแล้วกัน ขอรับ ว่า กริช กับ ง้าว นั้น จะสู้กันอีท่าไหน
หมื่นหาญ ย่างเท้า เงื้อง้าวฟาด แคล้วคลาด มิได้ข้อง ต้องปลายขน เจ้าพลาย ฉวยชัก มีดหมอมนตร์ แทงปั๋ง หนังย่น ไม่เข้ามัน
หมื่นหาญ ฟันผับ แผนรับผัวะ เอากริชแยง แทงฉัวะ แล้วไพล่หัน ปิดป้อง คล่องแคล่ว พัลวัน สู้กัน พักใหญ่ ไม่เสียที
หมื่นหาญ ถือง้าว ยาวกว่ากริช ขุนแผนชิด เข้าขยับ โขยกหนี กริชแทง ง้าวฟาด พลาดทุกที หมื่นหาญตี แผนตำ ด้วยกริชตึง
หมื่นหาญ ฟันผับ แผนรับผัวะ เอากริชแยง แทงฉัวะ เข้าต้ำผึง หมื่นหาญเซ แผนซ้ำ ล้มคว่ำตึง แผนทะลึ่ง เหยียบคอ อ้ายพ่อตา ฯ
พวกลิ่วล้อ พอเห็นนายโดนเขาเหยียบดังนั้น ก็พากันวิ่งหนีกระจัดกระจาย บ้างที่พอกล้า ก็พยายามเข้ามาช่วย แต่ก็โดนกันคนละทีสองที ก็เผ่นหมด ขุนแผนจึงเข้า เหยียบคอหมื่นหาญไว้ แล้วจึงว่า
เหนียวนักใช่ไหม พ่อตาจ๋า งั้นเดี๋ยวจะลอง แหกปากลากลิ้น แทงกรอกคอหอย ดูซิว่า พ่อตาจะรอดไหม
หมื่นหาญได้ยินดังนั้น ก็ยอมแพ้ขอชีวิต
ในที่นี้ กระผมขออนุญาตอธิบายเล็กน้อยว่า คนที่ อยู่ยงคงกระพัน หนังเหนียว นั้น ก็มีสิทธิ์ตายได้เหมือนกัน ด้วยวิธีดังนี้คือ
หนึ่ง ทำให้หายใจไม่ออก เช่นเอาเชือกรัดคอ หรือ จับกดน้ำ เช่น ท่าน ขุนรองปลัดชู วีรบุรุษแห่ง อ่าวหว้าขาว เมื่อครั้ง กรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เป็นต้น
สอง รุมตีจนช้ำในตาย เช่น ท่านทองเหม็น วีรบุรุษแห่งค่ายบางระจัน ของเรา ก็ถึงแก่กรรม เพราะบุกเข้าไปรื้อค่ายพม่า และถูกทหารพม่ารุมตีตาย เหมือนกัน
สาม ก็คือเอาอาวุธกรอกทวาร เช่น ตา ปาก หรือที่เคยพูดกันเล่น ๆ ว่า
(ขอโทษครับ)
เหนียวนัก ให้เอาหลาวแทงตูด นั่นแหละขอรับ
หมื่นหาญ ซึ่งโดนเหยียบคอต่ออยู่อย่างนั้น ก็เลยมีสิทธิ์กลัวตาย และร้องขอชีวิตได้ เหมือนกัน
ขุนแผนก็เลยสำทับว่า นี่ยังเห็นแก่บุญคุณ ที่ให้ที่อยู่อาศัย ยังยายสีจันทน์ ที่ให้ข้าวแดงแกงร้อน อีกนะ กลับบ้านไปเสียเถิด พ่อตา และอย่าได้ตามมารังควานกันอีกเลย
ว่าแล้ว ขุนแผนก็เรียกพลผี เตรียมกลับบ้านทันที
เอ็งอยู่ เถิดกู จะไปบ้าน เรียกกุมาร ผีโขมด สิ้นทั้งหลาย โหงพราย พรั่งพร้อม ล้อมรอบกาย เผ่นขึ้นคอ ปร๋อหาย ไปบัดดล
ข้ามคลอง หนองน้ำ แลลำธาร แบกบิดา พาผ่าน เข้าไพรสณฑ์ เหมือนควันฉิว ปลิวไป ไม่เห็นคน ประจวบจน เข้าบ้าน กาญจน์บุรี ฯ
ก็เป็นอันว่า การผจญภัยในตอนหนึ่ง ของขุนแผน ก็สิ้นสุดลง กุมารทองก็ได้มาแล้ว ต่อไป ก็ต้องเป็นของคู่กายนักรบแหละ ขอรับ ดาบ และ ม้า นั่นเอง
คราวหน้าพบกัน ขอรับ.
จากคุณ |
:
พจนารถ๓๒๒
|
เขียนเมื่อ |
:
7 ส.ค. 53 18:28:17
|
|
|
|