ความคิดเห็นที่ 1 การที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็อ้างสิทธิ์หรืออธิปไตยเหนือพื้นที่ทับซ้อน ไม่เป็นที่ยุติว่า พื้นที่บริเวณนั้นเป็นของใครแน่...ก็จะต้อง... ๑. ห้ามฝ่ายใด เข้าไปทำอะไรในพื้นที่ดังกล่าวโดยพลการ ๒. ให้มีคณะกรรมการปักปันเขตแดนประกอบด้วยคนสองฝ่าย มานั่งตกลงกัน เพื่อให้มีเสาหลักเขตที่เป็นเครื่องยุติ คำว่าพื้นที่ทับซ้อนบริเวณนั้นๆ ก็จะหมด ไปทันที แต่ถ้าตกลงกันยังไม่ได้ เขาก็คงให้เรียกพื้นที่ทับซ้อนและทำตามข้อ ๑ กันต่อไป... มีพื้นที่ทับซ้อนในโลก ทั้งบนบกและในทะเลในแม่น้ำ มากมาย ที่ยังเป็นพื้นที่ ทับซ้อนมาเป็นร้อยปีแล้ว จากคุณ : ลุงอ่ำ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 10:13:11

ความคิดเห็นที่ 2 มีกติกาสากล ห้ามฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดกระทำการบนพื้นที่ทับซ้อน แต่ถ้ามีการ ไปทำอะไรในลักษณะสองฝ่ายร่วมกันทำ อธิปไตยของทั้งสองฝ่ายบนพื้นที่ ทับซ้อนก็ยังคงอยู่ พื้นที่ทับซ้อนก็ยังเป็นพื้นที่ทับซ้อนต่อไปอีก การที่ใคร รัฐบาลใด ยกเขตพื้นที่ทับซ้อน (ซึ่งเรามีอธิปไตยบนพื้นที่นั้น) ไปให้อีกฝ่าย (ประเทศอื่น) ทำอะไรได้โดยเสรี คนที่ทำเรื่องยอมให้ฝ่ายอื่น ไปใช้พื้นที่ทับซ้อนสำเร็จ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะไปทำจริงหรือไม่ ...ต้องมีโทษถึงประหาร จากคุณ : ลุงอ่ำ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 10:13:51

ความคิดเห็นที่ 3 การกล่าวโทษประหาร ลุงอ่ำ ยกมาจากประมวลกฏหมายอาญา (ฉบับปรับปรุง เป็นปัจจุบัน ตามพระราชกำหนดแก้ไขปรับปรุง ฯ ที่ลงนามรับสนองพระบรม ราชโองการ โดยนายกรัฐมนตรี คนที่ชื่อ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร) เนื้อความใน มาตรา ๑๑๙ (การกระทำให้ส่วนหรือเอกราชของรัฐสูญเสียไป) มีความว่า... ผู้ใดกระทำการใดๆ เพื่อให้ราชอาณาจักรหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณา จักรตกไปอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศ หรือเพื่อให้เอกราชของรัฐ เสื่อมเสียไป ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต จากคุณ : ลุงอ่ำ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 10:21:13

ความคิดเห็นที่ 4 Link เกี่ยวกับประมวลกฏหมายอาญาฯ ของเวบ รัฐสภาไทย http://th.wikisource.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%8E%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2_(%E0%B8%89%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%88%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%99) จากคุณ : ลุงอ่ำ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 10:22:07

ความคิดเห็นที่ 5 ถาม ลุงอ่ำ ครับ  ถ้าพื้นที่ทับซ้อนใช้ร่วมกัน(ทั้งสองฝ่ายทำร่วมกัน) หมายถึงคนทั้ง 2ประเทศ มาอยู่ร่วมกันในพื้นที่ มีการทำมาค้าขาย เป็นแหล่งท่องเที่ยว  ทีนี้ถ้ามีคนประเทศใดประเทศหนึ่ง เกิดทำผิดกฏหมายขึ้นมา  ในเขตพื้นที่ทับซ้อน  เช่นไปขโมยของ หรือก่อการวิวาท  ค้ายาเสพติด  แล้วจะใช้กฏหมายประเทศใดจัดการครับ  แค่สงสัยครับ จากคุณ : ป่าเหนือ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 10:33:52

ความคิดเห็นที่ 6 ....  ความรู้ แน่นเลย จากคุณ : U Know Me a Little Go เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 10:36:32

ความคิดเห็นที่ 7 มาอ่านครับลุงอ่ำ ปัญหาระหว่างประเทศที่เขตแดนติดกัน  มีหลายประเทศในโลกนี้  แม้ไม่ติดกันเช่นเกาหลี  กับญี่ปุ่น  ก็ยังมีปัญหาเรื่องเกาะในทะเล แต่ถ้าสองประเทศ เจรจาตกลงกันได้  ก็ไม่มีปัญหา  เช่น  ไทยกับมาเลเซีย แต่เคยสังเกตุไหมครับ  ว่า  ประเทศที่เคยปกครองโดยฝรั้งเศส  หรือพูดง่ายๆ  ว่าเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส   เมื่อฝรั่งเศสถอนตัวไปแล้ว  ประเทศนั้น  มักจะวุ่นวายเสมอ เช่นเวียตนาม  ลาว  กัมพูชา  ตลอดจนถึงประเทศที่อยู่ในทวีปอาฟริกา ต่างกับประเทศที่เคยถูกปกครองโดยอังกฤษ  เมื่ออังกฤษถอนตัวไป  จะปกครองตนเองได้ค่อนข้างดี  เช่น  สิงคโปร์  มาเลเซีย  อินเดีย  ออสเตรเลียฯลฯยกเว้น  พม่า  ซึ่งมีปัญหาภายในมาก  เพราะมีชนชาติหลายกลุ่มเผ่า ทั้งๆที่ฝรั่งเศส  สงครามโลกสองครั้งที่ผ่านมา   ถ้าอังกฤษ  สหรัฐฯ  ไม่ช่วยไว้  ป่านนี้อาจเป็นประเทศเยอมันไปแล้ว ทั่วโลกเขาใช้กติกาสากลทั้งนั้น  ในการแบ่งเส้นกั้นเขตแดน  เช่นร่องน้ำลึก  สันปันน้ำ  เป็นต้น แต่มีคนไทยสักกี่คนที่ทรบว่า  ฝรั่งเศสทำสัญญากับไทย  โดยการขู่เข็ญบังคับว่า ระหว่างประเทศไทยลาว  ให้ใช้แม่น้ำโขง  เป็นเส้นพรมแดน   แต่เกาะแก่ง ทุกเกาะ  ในแม่น้ำโขง  เป็นของลาว   ไม่ได้ใช้ร่องน้ำลึกตามหลักเกณฑ์  แต่ประการใด ปัญหาทุกวันนี้  เพื่อนบ้านเรา  ก็มีพี่อ้ายนักเลงโต  คอยหนุนหลังเต็มที่   เลยกร่างตามลูกพี่ เราในฐานะคนไทย  ต้องหันมาสามัคคีกัน  อย่ามาทะเลาะกันเอง  ทำความจริงให้ปรากฏ  ทั้งเส้นเขตอันเป็นสากล  และประวัติศาสตร์   เราเชื่อใจคนไทยกันเองได้ไหม  แม้ความคิดที่แตกต่างกันออกไป  แต่เจตนา  ความรักปราถนาดีต่อบ้านเมืองเหมือนกัน วิธีการ  อาจจะมีหลายวิธี  แต่มิใช่จะเลือกใช้ทุกวิธี  เพราะจะทำให้ไม่มีเป้าหมาย  ลองตัดใจใช้วิธีใดวิธีหนึ่งอย่างมุ่งมัน   คงประสบความสำเร็จแน่นอน จากคุณ : ครูเกษียร เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 10:53:57

ความคิดเห็นที่ 8 ตอบคุณป่าเหนือ เรื่องแบบที่ยกมาถาม ไม่เป็นสากลครับ เพราะพื้นที่ทับซ้อนไม่ใช่สิ่งที่ควร ให้มีอยู่ ดังนั้น วิธีปฏิบัติที่ชายแดน จึงอยู่ที่ฝ่ายใดจับหรือชิงตัวผู้ที่กระทำผิดไว้ได้ คนร้ายก็จะถูกดำเนินคดีตามกฏหมายที่ประเทศที่จับได้ก่อนนั้นบัญญัติไว้ (เพราะถือเป็นการกระทำผิดบนแผ่นดินของตน) ส่วนจะส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เป็นกรณีๆไป จำไม่ได้ว่า กรณีการถือสองสัญชาติ การใช้สิทธิ์ซ้ำซ้อน การต้องเสียภาษี ซ้ำซ้อน กับ การลงโทษซ้ำซ้อนสองครั้ง ในสองแผ่นดิน มีการตกลงกันว่า อย่างไรบ้าง จะต้องค้นที่ใด... คนมาเลย์และคนไทยตามแนวตะเข็บชายแดน ใช้สิทธิ์รักษาพยาบาลข้าม สองเขตสองประเทศมีอยู่ แม้จะมีไม่มาก ก็สร้างปัญหาในการรักษา คงตอบไปตามประสาของผู้สนใจ...อย่าเอาไปทำข้อสอบเชียวนะครับ . จากคุณ : ลุงอ่ำ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 10:59:44

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณมากครับ  ลุงอ่ำ   ได้ความรู้อีกเพียบเลยครับ จากคุณ : ป่าเหนือ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 11:06:11

ความคิดเห็นที่ 10   สวัสดีคะ คุณลุงอ่ำ, หลานขอเซฟ (bookmark) ไว้ก่อนนะคะ จากคุณ : KaNKaMoN เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 11:10:22

ความคิดเห็นที่ 11 สาระสำคัญอยู่นี่เพียบเลย ... จากคุณ : Resource of life เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 11:24:54

ความคิดเห็นที่ 12 คงตอบไปตามประสาของผู้สนใจ...อย่าเอาไปทำข้อสอบเชียวนะครับ >>>>>>>>>>>> ขอบคุณ ลุงอ่ำ เอาความรู้ความเข้าใจมาให้ แถม ด้วยคารม อารมณ์ดี อ่านแล้ว สุขใจ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 12:31:13

ความคิดเห็นที่ 13   อิ่มไม่ค่อยเข้าใจกรณีพิพาทของไทยกับเขมรตอนนี้เท่าไหร่นัก อิ่มต้องพยายามอ่านหลาย ๆ แง่เลย อิ่มมึนงง 5555++ ขอบคุณสำหรับ ความรู้ค่ะ การเมืองเนี่ย อิ่มจะ มึนทุกครั้งที่อ่านเลยอ่ะ จากคุณ : แกงไก่ไข่ดาว เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 13:17:37

ความคิดเห็นที่ 14 เอ้า..ไอกระผมก็คิดว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อนแบบอื่น จากคุณ : อาเกาเหลา เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 13:38:18

ความคิดเห็นที่ 15 มันเป็นเรื่องยากที่คนสองฝ่าย จะมานั่งจับเข่าคุยกัน แบ่งปันกันด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ตราบใดที่ต่างคนต่างยึดถืออธิปไตยในดินแดนของตน คำว่าเสียดินแดน แม้เพียงนิ้วเดียว  ก็ถือว่าเสียหน้า ถูกผู้คนก่นด่ากันระงม ทุกวันนี้คนรุ่นใหม่ยังแสดงออกกันทางวาจาให้ได้ยินอยู่เสมอว่า...    ......จะไปเสียดายอะไรกันนักหนากับปราสาทขอมเก่าๆหลังเดียว..... ได้ยินประโยคนี้แล้วสุดจะอึ้งเกินบรรยาย ผู้คนรุ่นใหม่ๆจะรู้กันบ้างไหมหนอว่าปราสาทขอมที่มีอยู่กระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศไทยทุกวันนี้   ใช่ว่าจะสร้างโดยฝีมือขอมไปเสียทั้งหมด คำว่า.... การถ่ายโอนทางวัฒนธรรม.... ไม่ค่อยจะมีคนเข้าใจ การเลียนแบบทางวัฒนธรรมในสมัยโบราณนั้นหมายถึงว่า เมืองใดเจริญรุ่งเรือง มีศิลปวัฒนธรรม และสังคมที่ดี ก็ย่อมมีผู้คน บ้านเมืองที่ใกล้เคียง ลอกเลียนเอาไปทำในบ้านของตัวบ้าง ก็ไม่เสียหายอะไร เหมือนอย่างเช่น การเลียนแบบวัฒนธรรมตะวันตก อย่างที่เห็นพฤติกรรมแสดงออกของผู้คนยุคปัจจุบันนั่นเอง พูดแบบนี้คงพอจะมองเห็นภาพบ้าง ที่สำคัญคือ ต้องเข้าใจเสียใหม่ว่า แท้จริงแล้ว ขอม........ไม่ใช่เขมร เขมร กับ ขอม คนละกลุ่มกัน !! จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 14:06:50

ความคิดเห็นที่ 16 ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า... #14 ไม่ว่าจะทับ จะซ้อน แบบไหน เป็นเรื่องทั้งนั้นแหละคร๊าบบบบ.... จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 14:09:45

ความคิดเห็นที่ 17 จาก คคห.2 ควรจะส่งให้ใครอ่านดีคะ...... หน้าหล่อ หรือว่า หน้า...... จากคุณ : เห้อออออออออ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 14:28:36

ความคิดเห็นที่ 18 จาก คคห.2 ควรจะส่งให้ใครอ่านดีคะ...... หน้าหล่อ หรือว่า หน้า...... จากคุณ : เห้อออออออออ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 14:28:52

ความคิดเห็นที่ 19 ส่วนหนึ่งจากคำให้สัมภาษณ์ของ ดร.สมปอง สุจริตกุล   คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ASTVผู้จัดการรายวัน 13 สิงหาคม 2553 22:26 น. ....พื้นที่ทับซ้อนมีอยู่นิดเดียวคือตัวปราสาทที่ศาลตัดสินว่าเป็นของกัมพูชาแต่ ไทยไม่ได้โอนให้ เรายังถือว่าเป็นของเราอยู่ ในสายตาคนไทยปราสาทพระวิหารก็ถือว่าอยู่ในประเทศไทย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น (ในช่วงที่ศาลโลกตัดสินให้ตัวปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา) ก็บอกว่าเหมือนกับพระเจดีย์กลางน้ำ ถ้าคนจะมาไหว้พระเจดีย์ก็ต้องผ่านน่านน้ำ ในกรณีนี้คนที่จะมาชมปราสาทพระวิหารก็ต้องผ่านแผ่นดินไทยหรือผ่านน่านฟ้าไทย ในปี 2515 ทางกัมพูชาส่งเฮลิคอปเตอร์เข้ามา ทหารไทยก็ยิงตก เขมรก็ทิ้งซากเครื่องบินไว้ ตอนนั้นเรายอมให้กัมพูชาขึ้นมาทางบันไดหักแต่เขาก็ไม่กล้าแม้แต่จะขึ้นมาเอา ซากเครื่องบินกลับไป..... .....คือแม้ศาลโลกจะไม่ได้ชี้ว่าถูกหรือผิด แต่มีคำพิพากษาเสียงข้างน้อยแย้งว่าผิด และชี้ด้วยว่าผิดตรงไหน ผิดหลายแห่ง เสียงข้างน้อยได้ชี้ถึงเรื่องที่เสียงข้างมากไม่ได้พูดถึง คือเสียงข้างมากไม่ได้บอกว่าเส้นที่ขีดคือเส้นเขตแดน ไม่ได้บอกว่าเส้นที่ขีดนั้นถูกหรือผิด แต่มีคำพิพากษาแย้ง 3 คำพิพากษา ของผู้พิพากษา 3 คน ชี้ให้เห็นว่าแผนที่นี้ผิด เช่น เขียนไปได้อย่างไรว่าน้ำในลำห้วยไหลขึ้นไปสู่ยอดเขา มันมีแต่น้ำไหลจากยอดเขาลงมาสู่พื้นดิน แล้วก็ไปกำหนดให้เขาพนมจักเป็นของกัมพูชาทั้งที่จริงๆ เป็นของไทย เส้นแผนที่ที่ถูกต้องไม่ตรงกับที่ฝรั่งเศสทำ ตอนนั้นฝรั่งเศสทำเพื่อให้กัมพูชาซึ่งเป็นเมืองขึ้นของตัวเองได้เปรียบ........ ข้อเท็จจริงบางส่วนจากการตัดสินของศาลโลก 2505 คัดมาให้อ่านกันเล่นแก้เซ็งอ่ะครับ จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 14:59:11

ความคิดเห็นที่ 20 เรื่องนี้ต้องอ่านค่ะ ต้องตามคุณลูกมาอ่าน ขอบพระคุณนะคะ จากคุณ : ขอพบในฝัน เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 15:10:29

ความคิดเห็นที่ 21   ขอบคุณลุงอ่ำค่ะความรู้คือประทีปจริงๆค่ะ จากคุณ : ณัฐ วัชรพล เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 16:17:52

ความคิดเห็นที่ 22 สันปันน้ำก็เห็นๆอยู่ แต่ลูกพี่ของเขมรดันเป็นผู้ชนะสงคราม(ทั้งที่ยอมแพ้ก่อนใคร) จากคุณ : จำปาดะ ณ สะเดา เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 17:25:56

ความคิดเห็นที่ 23 รับ แซ่บ.. จากคุณ : vr1428 เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 20:51:06

ความคิดเห็นที่ 24 คนที่มีทีท่าไม่ยอมรับเรื่องปราสาท พื้นที่ 4.6 และแผนที่ 1907  จะถูกกล่าวหาว่าเป็นคนคลั่งชาติ   แล้วไง จากคุณ : เสือดำขโมยใจ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 22:05:28