รบกวนผู้รู้หรือผู้มีประสบการณ์ เรื่อง "แอร์บ้าน" ด้วยคะ

ถามเพื่อนๆ และผู้รู้ ตลอดจนผู้มีประสบการณ์
เลดี้แอนเจนเทินเมน ทุกทั่น  ;D ;D ;D

อารมณ์ดี ปวดหัว วุ้ยหลายอารมณ์
เริ่มเลยละกัน

อยู่มาวันหนึ่ง ด้วยเหตุผลหลายประการ เราได้ไปถอยแอร์มือสอง(มั้ง)มา

เป็นแอร์มิตซู แต่คอมเพรสเซอร์เป็นของซัมซุง เป็นโรตารี่
แต่คนขายบอกว่า ข้างในเป็นคอมเพรสเซอร์เป็นมิตซู
แค่เอาโครงมาครอบใส่เฉยๆ เป็นแอร์ขนาด 9000 BTU สภาพเก่าใช้ได้
แต่ก็ขัดมาขาวสะอาด มีรอยแตกตรงกรอบเครื่องด้านข้างเล็กน้อย
รีโมทเป็นแบบมีสายห้อยมาจากตัวเครื่อง ต้องแปะแนบกำแพงไว้
เคลื่อนย้ายไม่ได้ ราคารวมติดตั้ง 6,000.- บาทจ้ะ

ติดตั้งแต่เดือน มกราคม 53 รับประกัน 6 เดือน จากนั้นก็ใช้ได้ดีเด่เป็นต้นมา
นอนเย็นฉ่ำ ไม่มีกลิ่นรบกวน มีแต่เสียง พอทน
เวลาน้ำยาแอร์วิ่ง มันจะดัง ครออออออออ และดังแครฟ
เหมือนเวลาเราละลายน้ำแข็งในช่องฟิต แล้วมันร่วงลงชั้นรองนั่นแหละ
ก็ไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่ง สิ้นเดือน มิ.ย. 53 แหม่
ยังกะตั้งระเบิดเวลาไว้เลยแฮะ

อาการที่พบคือ แอร์ไม่เย็น มีแต่ลมวู่ๆ ออกมาจากหน้าเครื่อง
จึงโทรตามต้นสังกัด ปรากฏว่า น้ำยาแอร์พร่อง เขาบอกอย่างนั้น
เราก็นะ โอเค เติม เขาเก็บ 200 บาท จ่าย.. จบ..

ใช้ไปได้ 5 วัน ไม่เย็นอีกแล้ว มีแต่ลม ก็เปิดมัน 20 องศาเลย
และเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น นั่งเล่นคอมอยู่ น้ำไหลจ้อกกกกกกกก
ออกมาทางหน้าแอร์เลยจ้ะ ทีนี้ งานเข้า เลยลุกไปปิดทันที
รุ่งเช้า โทรตามอีกครั้ง โอเค แอร์ตัน ใช้มาตั้ง 6 เดือน แล้ว
ตันแน่นอน ชอบทาแป้งในห้องนอน ฝุ่นเยอะ เลยตัน
ก็ล้างเดะทีนี้ เสียแค่ 300 บาท เพราะเขาคิดค่าล้างแอร์ 500
แต่วันก่อน เขามาเติมน้ำยาแอร์ให้โดยไม่ได้เช็ค
เลยเก็บแบบยุติธรรม ดีมาก.. จ่าย..จบ..

ทีนี้นอนเย็นสะท้านกาย ผ่านไป 1 เดือน ปูกฎว่า ไม่เย็น..มีแต่ลม
วู่ๆ อีกแล้วจ้ะ ทำไงดี เจ็บหัว โทรตาม เขาบอกว่ามันคงซึม หรือรั่ว
ก็โอเค ของมือสอง ทำใจ ตามมาซ่อม ปรากฏว่าวันนัด เขาไม่มา
เขาติดงานอื่น เราก็ลางานมาแล้วครึ่งวัน ไม่เป็นไร เรื่องเล็กน้อย
ก็เลยใช้เวลาว่าง นั่งถามพี่กูเกิ้น ได้ใจความประมาณว่า น้ำยาแอร์
เป็นระบบปิด ไม่มีวันหมด เหมือนตู้เย็น หากมันพรอ่งหรือหมด
แปลว่าเกิดการซึมหรือรั่ว ช่างที่มาเติมน้ำยา ต้องบอกลูกค้าและเช็คทันที
ไม่ใช่สักแต่เติม  ก็พอถึงบางอ้อ (ไม่ได้อวดฉลาด แต่อ่านเยอะ ก็พอเข้าใจคร่าวๆ)
ก็เลยคิดว่า เปลี่ยนดีกว่า ก็เลยไปตามช่างแถวบ้านอีกที่หนึ่ง
เจ้านี้ดีมาก เราเล่าให้ฟัง ก็มาอัดน้ำยาไว้ให้ฟรี เพื่อรอดูอาการ
แล้วเขาก็มาดูเรื่อยๆ นะ โดยไม่เก็บตังค์สักครั้งเดียว

จนกระทั่งวันนี้ น้องเขามาดู แต่วันเสาร์ที่จะถึงนี้ประมาณ 19 กย. 53
นี้แหละ นัดกันว่า จะถอดคอมเพรสเซอร์กะเครื่อง ไปดูที่ร้าน
เพราะเครื่องมือและอะไรพร้อม ประกอบกับบ้านเราแคบถึงแคบมาก
การทำงานไม่สะดวก และร้านเขาเป็นร้านเล็ก มีช่างแค่สามคน
ต้องผลัดเปลี่ยนกันหลายที่ ตามงานไม่ทัน แต่เราถูกชะตาอ่ะ
และอยากซ่อมกับเจ้านี้ เพราะการพูดคุยและเวลาเราถามอะไรเขา
เขาตอบละเอียดดีจัง และค่อนข้างตรงกับที่เราหาความรู้มา
ของแบบนี้ต้องรู้สึกเอง ก็เลยโอเค

แต่พอน้องเขากลับไปประมาณ 1 ชม. นอกจากแอร์ไม่เย็นแล้ว
ยังมีน้ำไหลจ้อก ออกมาอีก เราก็เลยปิดทันที
ก็ประเมินได้ว่า คงจะตันอีก เพราะมันเก่า ห้องฝุ่นเยอะ คงตันไว้
ก็นับเวลาจากล้างครั้งที่แล้ว ประมาณแค่ 3 เดือนเองนะ
วันนี้เลยปิด คงใช้ไม่ได้ไปถึงวันเสาร์หน้า

ที่เล่ามาทั้งหมด ไม่ใช่ประเด็นสำคัญเลย
ที่จะปรึกษาคือ เราจะทำอย่างไรดี เราปรึกษากะแฟน เรามีความคิด
สองแบบ
1' หากเราซ่อม เราจะต้องเสียเงิน กะไว้ประมาณ 2000 แน่ๆเลย
เพราะต้องล้างแอร์ มันตัน และต้องหารอยรั่ว ประมาณนั้น หากเราซ่อม
แล้วความที่มันเก่ามาแล้ว หากซ่อมแล้วซ่อมอีก แก้ตรงนั้นเสียตรงนี้
ไหนจะแบกภาระค่าไฟทุกเดือนอีก เกรงว่าจะบานปลาย เกินกว่า 2000
แอร์ตัน ยิ่งกินไฟ (ใช่ปล่าวหว่า) แล้วหากเราต้องมาล้างแอร์ทุก 3 เดือน
ไม่เข้าท่าแน่เลย

2' เราจะซื้อเครื่องใหม่เลย โดยการผ่อนเอา ผ่อนทีละหลายพัน ผ่อนระยะสั้น
กับคนรู้จัก เขาให้ผ่อนได้ เพราะเพื่อนบ้านการันตีให้ ตอนนี้แฟนก็ทำงานค่อน
ข้างจะช่วยได้เยอะแล้ว ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพื่อเป็นทางออกที่ดี
ตัดปัญหาจุกจิก

เพื่อนๆ หรือผู้รู้ คิดว่า เราควรเลือกแบบไหนดี ยอมซ่อม หรือซื้อใหม่ไปเลย
คือเรากลัวว่ามันจะซ่อมเรื่อยเปื่อย ไปหลายอาการ และเราไม่มีความรู้ด้านนี้
เลย เผื่อเสียยิบย่อยไปประมาณ 4000 ขึ้น ทำไงอ่ะ เสียดายเงิน เก็บไว้นิ่งๆ
ไปติดเครื่องใหม่เลยดีกว่าไหมนะ

ขอบคุณจ้า

จากคุณ	: รอยยิ้มหน้าจอ
เขียนเมื่อ	: 11 ก.ย. 53 23:10:10