ความคิดเห็นที่ 1 คุณคิดว่าพระรับเงินได้ไหมละ ? แค่นี้ก็รู้แล้ว ..... เพื่อนผมเคยเป็นทาสวัดนี้มาก่อน ตอนนี้ตาสว่างได้แล้ว วันๆไม่ทำอะไร พระ : บริจาคเงินเยอะๆ ได้บุญเยอะ ไว้ใช้ชาติหน้าจะได้สบาย ผม : ไร้สาระ การที่จะได้บุญหรือไม่ได้บุญ อยู่ที่จิตใจคุณบริสุทธ์ไหม เท่านั้นเอง   ไม่ใช่มาทำเป็นลัทธิ เป็นพุทธพาณิชย์แบบเต็มรูปแบบ เคยเห็น UFO เมืองไทย ไหม ไปแถวๆรังสิตได้เห็นแน่   แล้วแต่นะ คิดเอาเอง แต่ผมไม่ศรัทธาวัดนี้เลย ไม่เลยซักนิด ผมเป็นพุทธแท้ๆ บวชวัดราชาธิวาสวิหาร ตอนบวชไม่เคยจับปัจจัย ไม่รับปัจจัย เป็นเถรวาสเต็มตัว     แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 53 22:07:31 จากคุณ : poundcat เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 22:06:55

ความคิดเห็นที่ 2 เดี๊ยวนี้ยุคสมัยเปลี่ยนไป  พระแบบโบราณไม่จับเงินนั้นคงหาไม่มีแล้วหล่ะคะ  พระท่านต้องไปสถานที่ต่าง ๆ ต้องไปเรียน ต้องฉันน้ำ ฉันอาหาร  เวลาท่านเดินทางไกล  จะมีซักกี่คนที่ถวายอาหารให้่ท่านฉันระหว่างทาง จะให้ท่านหอบหิ้วถุงอาหารบิณฑบาตรแต่ตอนเช้าไปด้วย ก็หนักย่ามเปล่า ๆ บางทีเราจะคิดว่า พระจับเงิน ใช้เงินนั้น ผิด  แต่ในทางกลับกัน ยุคสมัยเปลี่ยนไป  พระดีดีใฝ่ศึกษาในธรรมะ ที่ไปเรียนวิทยาลัยสงฆ์ ก็ต้องจับจ่ายซื้อปัจจัยสี่ สำหรับพระท่าน มาใช้  สรุปคือ  ยุคสมัยเปลี่ยนไปค่ะ อย่าศรัทธาน้อยลงเลยค่ะ เราคิดดี ทำดี ใส่บาตรแล้วคิดสิ่งดีดี ก็คงพอค่ะ เมื่อก่อนก็แอบคิดเหมือนกันนะคะ  แต่มีพี่คนหนึ่งเคยบอกว่า เราคิดดีก็จะได้ผลดีน่ะคะ จากคุณ : แกงไก่ไข่ดาว เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 22:27:19

ความคิดเห็นที่ 3 ผมบวชให้แม่ เมื่อปีที่แล้ว ผมไม่รับปัจจัยจริงๆ ไม่รู้จะเอามาทำไม ญาติโยมก็ให้ แต่ไม่รับ ใครใส่มาในบาตร ผมให้เอาออกหมด คนมาใส่บาตรผม ใส่กับข้าวได้ แต่ใส่เงินลงมา ผมดุ จากคุณ : poundcat เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 22:34:12

ความคิดเห็นที่ 4 โดยหลักการวิธีปฏิบัติมันก็ดีไม่มีอะไร แต่โดยบุคคลและวิธีบริหารจัดการมัน เป็นขายตรงขายบุญมันเป็นอะไรที่ไม่ ใช้เลย ธรรมกายเป็นกสินอย่างหนึ่ง น่าจะจัดเป็นรูปแบบแสงสว่าง ฝึกง่าย ถ้าตั้งใจจริง แต่ฝึกแล้วถ้าต้องการก้าว หน้าต่อไปต้องทิ้ง แต่ธรรมกายกับไม่ยอม ให้ทิ้ง กับเน้นเขาศูนย์กลางไปอีก เปรียบดัง กับนั่งเรือข้ามฝากแต่พอถึงฝั่งแล้วกับแบก เรือลำนั้นขึ้นฝั่ง พาไปทำงานไปเที่ยวไปเล่น ไม่ยอมวาง เมื่อไม่วางมันก็หนัก มันทับ จิตทับใจ กลายเป็นยึดติดผิดหลักคำสอน ขององค์พระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า ถ้าฝึกแล้วสามารถทิ้งได้เพื่อก้าวหน้าต่อไป ก็ไม่ผิดอะไร บุญมีต้องหลายวิธีที่จะได้มา การเสียเงินแล้วได้บุญเป็นแค่หนึ่งในหลายๆ วิธีนั้น ถ้าเราไม่จ่ายใครก็มาบังคับไม่ได้ เพราะโลภจึงจ่ายเพราะจ่ายแล้วจะได้มา จ่ายมากได้บุญมากจ่ายน้อยได้บุญน้อย พระพุทธเจ้าท่านไม่สอนแบบนี้แน่นอน สวัสดี จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 22:51:05

ความคิดเห็นที่ 5      อะไรคือจริง จากคุณ : หน้าต่างไร้กลอน เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 23:01:54

ความคิดเห็นที่ 6 ปฏิบัติธรรม ต้องใช้เงินด้วยหรือเปล่า จากคุณ : หน้าต่างไร้กลอน เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 23:18:23

ความคิดเห็นที่ 7 จริงคืออะไร? จากคุณ : หน้าต่างไร้กลอน เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 23:20:32

ความคิดเห็นที่ 8 จากค.ห. 4  คุณ ชัดเจนน้องนาง จ่ายมากได้บุญมากจ่ายน้อยได้บุญน้อย พระพุทธเจ้าท่านไม่สอนแบบนี้แน่นอน   แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 53 23:28:43 จากคุณ : กบชรา_เปิดกะลาเดินย่องท่องโลก เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 23:26:18

ความคิดเห็นที่ 9 บอกตรงๆ ครับผมศรัทธาแต่หลวงพ่อสดเท่านั้นครับ จากคุณ : ผาบรรพต เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 00:07:52

ความคิดเห็นที่ 10 ศึกษาพุทธศาสนาให้ดี ๆ ก็จะรู้เองว่าอะไรเป็นเปลือกอะไรเป็นแก่น พระอริยสงฆ์ในเมืองไทยยังมีอยู่อีกหลายรูป ไปฟังธรรมของท่านเอาเองนะ. จากคุณ : เผอิญผ่านมา เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 00:21:07

ความคิดเห็นที่ 11 หาก คุยเรื่องการเมือง , ศาสนา , ขายตรง   เดี๋ยวมันจะผิดใจกันเด๊อคร๊า...... ห้องนี้ .......อากาศช่วงนี้ อากาศเริ่มเย็นๆ ลงบ้างแล้วเพราะเข้าหน้าหนาว........ จากคุณ : UCF2007 เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 00:41:42

ความคิดเห็นที่ 12 อยากรู้จริงเหรอ ไปถามห้องศาสนาดูสิ ฮิฮิ รับรองสนุก จากคุณ : bigcy เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 00:50:44

ความคิดเห็นที่ 13 พ่อบอกไว้ว่า ลัทธิแบบธรรมกาย เป็นการฝึกแบบกสิน ฝึกให้ดียังไงก็ไม่สามารถได้เหนือจากเค้า เนื่องจากเค้ามีวิชาเหมือนแก้วที่ครอบไว้ไม่ให้เกินครู ส่วนใครจะคิดยังไงก้อชั่งเขาเถิดหนา จากคุณ : ทำด้วยใจให้สังคม เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 04:22:17

ความคิดเห็นที่ 14 ทำไมมีคนขึ้นเยอะเหรอ ? ทุกคนล้วนมีเพื่อน .... แม้แต่มหาโจรก็มีเพื่อน จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 07:05:47

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าพระท่านจะผิดวินัยเรื่องรับเงิน ก็น่าจะเกิดจากญาติโยมนั่นแหละ ที่ไปถวายเงินให้ท่าน แต่ทุกวันนี้ทุกคนต้องใช้เงินเป้นสื่อกลางของการแลกเปลี่ยน พูดถึงเรื่องนี้ ไม่มีใครเคยคิดถึงคำที่พระพุทธองค์ที่กล่าวไว้ ผมจำไม่ได้ชัดเจน ที่ว่า ธรรมวินัยใดที่พระพุทธองค์บัญญัติไว้ให้ปฏิบัติ บางอย่างไม่สมควรแก่กาลสมัยก็ทรงอนุญาตให้ปรับเปลี่ยนได้ตามสมควร ทำนองนี้ เงินหรือปัจจัยที่ญาติโยมถวายพระ ท่านก็นำไปใช้ส่วนตัวบ้างที่จำเป็น นำไปใช้ในกิจการพระพุทธศาสนาบ้าง บ่อยครั้งที่ญาติโยมถวายปัจจัยให้ท่านแล้วระบุว่าถวายให้ใช้ส่วนตัว ฯลฯ และอีกอย่างหนึ่งที่น้อยคนจะนึกถึง คือค่าใช้จ่ายของวัด ค่าไฟฟ้า น้ำประปา โทรศัพท์ เก็บขยะ ฯลฯ สารพัด ถ้าญาติโยมไม่ถวายปัจจัยให้พระ แล้ววัดจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายเล่าครับ อย่างที่ คห ๑๑ ป้าย่นกล่าวนั่นแหละ สามอย่างนี้นำมาคุยกันในกระทู้เมื่อไร วงแตกทุกที คนไทยสมัยนี้ใช้พระให้ทำหน้าที่ ๒ อย่างเท่านั้น คือนิมนต์มาประกอบงานมงคลพิธี เช่นขึ้นบ้านใหม่ เจิมป้ายบริษัท กับนิมนต์มาสวดในงานศพ นอกเหนือจากนั้นก็ไล่พระให้ไปจำศีลภาวนา อย่ามายุ่งกับเรื่องของชาวบ้านเขา สำหรับเรื่องวัดพระธรรมกาย แนะนำ จขกท ไปตั้งคำถามที่ห้องศาสนาครับ ได้คำตอบดีๆ ทั้งนั้น อย่าตั้งห้องนี้เลย คำตอบที่ได้ไม่สะใจ จากคุณ : ลุงแก่ เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 08:10:49

ความคิดเห็นที่ 16 ส่วนดีเขามี  ก็เอาไว้เรามีสติ มีปัญญา เลือกได้ จากคุณ : เลื่องชื่อระบือนาม เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 09:09:14

ความคิดเห็นที่ 17 . จากคุณ : โปร...ช่างก่อสร้าง เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 09:35:26

ความคิดเห็นที่ 18  พอมีคนบอกว่า "ส่วนดีเขามี ดัง คห. 16"  ก็ต้องติง กันหน่อย ตามประสา พลเมืองดีของแท้ สมมติว่า คุณเห็นเขาเป็นพระ-เลว  .... (ไม่ต้องถามนิยาม เอาเป็น.. สมมติ ) ถามว่า คุณ คห. 16  ยังจะยืนยันคำเดิม ไหม ?  ช่วยตอบหน่อย แค่อยากรู้ ไม่ได้ว่า อะไร ไม่ได้ ต้มน้ำ มาม่า เพราะกินอิ่มแล้ว   จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 09:50:14

ความคิดเห็นที่ 19 ... จากคุณ : Resource of life เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 10:10:18

ความคิดเห็นที่ 20 วัดธรรมกาย = หลอกลวงชาวบ้าน แค่นี้ก็พอ ไม่อยากด่าเยอะ วัดบ้าอะไร ตั้งเป็นลัทธิ จะครอบคลุมทั้งโลกแล้ว   จริงๆ ถ้าบวชแล้ว คุณจะรู้ว่าพระไม่จำเป็นต้องใช้เงินก็ได้ นอกจากคุณติดบุหรี่ ติดกินน้ำอัดลม ติดนู้นนี้ จริงๆ บวชเค้าให้ทำจิตใจให้สงบ ไม่ได้ดิ้นรนจะทำ อย่างอื่น อยู่วัดไม่ต้องมีเงินซักบาทก็อยู่ได้ ฉันข้าวก็มาจากเดินบาตร ของใช้เล็กๆน้อยๆ วัดมีครับ ... แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 53 10:18:26 จากคุณ : poundcat เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 10:13:52

ความคิดเห็นที่ 21 บิดเบือนคำสอนพระพุทธเจ้าครับ จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 11:13:37

ความคิดเห็นที่ 22 เหอๆๆ เรื่องนี้คุยกันยาว..ไปถามที่ห้องศาสนาดีกว่า.. ที่แน่ๆ..พระอารายยย...ใส่เสื้อยืดคอกลมแขนยาวได้ด้วย.. แล้วมีข่าวซุบซิบวงใน..กลางคืนใส่ชุดนอน.. สาธุ จากคุณ : จ่าหมาน เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 11:26:04

ความคิดเห็นที่ 23 เข้ามาอ่าน อยากทราบข้อเท็จจริงเหมือนกัน บางท่านก็ว่าดี บางท่านก็ว่าไม่ดี ก็ยังสรุปไม่ได้เหมือนกัน เพราะว่า ก็ยังเห็นหลายท่านไป ก็เป็นคนมีความรู้ มีวุฒิภาวะ มีเงิน มีชื่อเสียง ส่วนตัวผมดูอยู่ห่างๆ ฟังได้เรื่อยๆ จากคุณ : ตังชัย เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 11:58:28

ความคิดเห็นที่ 24 มีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่งค่ะ ศรัทธาวัดธรรมกายมาเกินสิบปีอีก ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นอิสลามแล้วค่ะ.... จากคุณ : ใจรจนา (ใจรจนา) เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 12:44:51

ความคิดเห็นที่ 25 ชอบพระมหาสมปองคะ   สอนธรรมตามสมัยและเทคโนโลยี ตอนนี้อย่าแต่วัดธรรมกายเลย  ..... แค่คำว่าพระในกรุง ดิฉันก็เริ่มจะไม่ค่อยมีศรัธาแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าพระในกรุงทั้งหมดนะ  เป็นบางรูปเท่านั้น เพราะต้องเค้าใจด้วยว่าสมัยมันเปลี่ยน.....ท่านก็ต้องเปลี่ยนเช่นเดียวกัน จากคุณ : คุณหนูกากหมู เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 22:01:53

ความคิดเห็นที่ 26 พุทธพานิชย์ ครับ จากคุณ : แว่นไร้ขอบ เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 23:15:04

ความคิดเห็นที่ 27 พระมหาสมปอง จำวัดอยู่ วัดสร้อยทองครับ วัดธรรมกาย = ก็บอกแล้วว่าหลอกลวง เฮ้อ จากคุณ : poundcat เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 23:26:50

ความคิดเห็นที่ 28 ต่างคนต่างความคิด ไม่มีใครผิด แต่ก็ไม่มีใครถูก        ความเชื่อของแต่ละบุคคล ถ้ามาพูดกันอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งได้ ควรระงับ ถ้าพูดเรื่องปัจจัยถวายพระ ก็เป็นบุคคลหนึ่งซึ่งใส่บาตรจะไม่มีปัจจัย แต่ถ้าทำบุญอย่างอื่น จะถวายปัจจัยด้วยเสมอ แต่สมัยที่อุปสมบทเองหนึ่งพรรษา โยมที่ใส่บาตร บางคนก็ใส่ปัจจัยด้วย จากคุณ : saisanan เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 53 11:03:47