ตอนแรกที่ไม่มีสะพานข้ามไปภูเก็ต ต้องใช้เรือแพ-ขนานยนต์ เอารถลงแพอย่างในภาพ ตอนนั้นผมยังเด็กเป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้นมาก ฝั่งภูเก็ตเรียก ท่าฉัตรชัย อีกฝั่งคือ ท่านุ่น หวังว่าคงไม่จำผิดนะ ท่าฉัตรชัยมีของกินขายอร่อยๆ ที่ผมจำได้ติดใจ คือ เบือทอด เขาเอาใบไม้อย่างหนึ่งชุบแป้งทอด มีกุ้งตัวย่อยๆ ชุบแป้ง และปูม้าตัวเล็กๆ ชุบแป้ง มีไข่เป็ดต้ม ขนมจีน ระหว่างรอเรือ คนจะแวะซื้อของกิน
ห่างจากท่าฉัตรชัยไป 1 กิโลเมตรพอดีๆ มีทางเข้าชายทะเล ปากทางมีร่องรอยเสาคอนกรีตที่เคยเป็นประตู สองข้างทางเป็นป่าระเมาะ มีต้นไม้เตี้ยๆ พื้นเป็นทรายขาวสะอาดตา เคยนั่งรถจี๊ปเข้าไปยิงนกเขากับคุณอา ผมเห็นไก่เดินคุ้ยเขี่ยหากินอยู่ ก็ชี้ให้คุณอาดู ถามว่าไก่ของใครมาอยู่แถวนี้ คุณอาบอกวาไก่ป่า
ชายทะเลมีต้นสนทะเล ร่มครึ้ม ลมแรง ผมเป็นลูกเสือ โรงเรียนเคยพามาพักแรมที่ชายหาด กางเต้นนอน ตอนเย็นจะเดินมาอาบน้ำจืดที่บ่อน้ำข้างนอก แล้วหาบน้ำไปใช้หุงหาอาหาร รุ่งเช้าครูพาลูกเสือ มาวิ่งออกกำลังกายจากปากทางไปท่าฉัตรชัย บอกพวกเราว่า 1 กิโลเมตร ผมจำได้ดี ยิ่งวิ่งผมรู้สึกยิ่งไกล วิ่งกันจนหอบมีเด็กเป็นลม จึงต้องหยุดกลางทาง
เมื่อผมวิ่งออกกำลังกาย ตั้งใจจะวิ่ง 10 กม. ความทรงจำครั้งก่อน ยังตามมาหลอน แค่หนึ่งกิโลเมตร ก็แย่แล้ว ... 10 กม. จะรอดไหมนี่
เมือลองวิ่งเข้าจริงๆ รู้จักออมแรง สวนลุม 4 รอบ@2.5 กม. ไม่ไกลเลย ทำให้รู้ว่า ถ้าได้เริ่มต้นวิ่งสักก้าว ที่ว่าไกล ก็ไปถึง