ความคิดเห็นที่ 1 ***   ขออนุญาตเดา...นะครับ  (จะหน้าแหกหรือเปล่า ขออภัยด้วย)           ก่อนอื่นกล้อง Mihama ผมไม่รู้จัก แต่คงใช้ฟิลม์ 120 (ที่สมัยก่อนเรียกฟิลม์ 3" ) ไม่ทราบว่าเป็นกล้องประเภท รีเฟล็กซ์เลนคู่หรือไม่ แต่ชื่อกล้องนี้คล้ายๆกับเป็นเมืองๆหนึ่งใน  Chiba (รู้แค่นั้น ครับ)           ถ้าความเร็ว 1/10 วินาที คงใช้ขาตั้ง  ต้องถ่ายสองครั้ง และคงใช้กระดาษดำบังเลนส์ครึ่งภาพซ้าย ก่อน           แสงไฟ (ประธาน) อยู่ทางขวา ประมาณ 4 นาฬิกา ตั้งสูงกว่าแบบ (เยื้องด้านบน) นิดหนึ่ง คาดว่าถ่ายภาพครึ่งแรก คนทางขวาก่อน            จากนั้นย้ายกระดาษดำมาปิดซีกขวา (กล้องตำแหน่งเดิม) ตัวแบบย้ายมายืนที่กรอบประตู แสงไฟ(รอง) อยู่ด้านซ้าย ประมาณ 11 นาฬิกาเยื้องสูง (กว่าแบบ) แล้วถ่ายอีกครั้ง ครับ              ปล.งานนี้ถ้าเดาผิด คงเป็นเพราะความโง่เขลาของตัวเอง แต่ก่อนเคยทดลองทำ สมัยนั้นผมใช้เปิดซัตเตอร์ ค้าง ( B ) แล้วใช้ไฟตบเอา ค่อยปิดฝาเลนส์แล้วย้ายแบบ เปิดฝาเลนส์อีกทีแล้วใช้ไฟตบแบบอีกที แต่ไม่ค่อยเนียนเหมือนภาพนี้ ครับ แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 54 06:26:06 จากคุณ : นายเก่าคนก่อน เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 06:24:25

ความคิดเห็นที่ 2  สวัสดีครับ เห็นภาพแล้ว แสดงว่าช่างภาพเป็นคนมีจินตนาการต่อยอด มีความคิดสร้างสรรค์  กระผมคิดจะเอารูปหนุ่มสาวสองคนมารวมเป็นภาพเดียวบ้าง ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 06:27:56

ความคิดเห็นที่ 3  ผมเคยเห็น Mamiya  เป็นกล้องรีเฟล็กซ์เลนคู่ อีกยี่ห้อหนึ่งจำชื่อไม่ได้ ขึ้นต้นด้วยตัว Y จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 06:32:34

ความคิดเห็นที่ 4 #3    YASHIKA  ครับ จากคุณ : นายเก่าคนก่อน เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 06:38:51

ความคิดเห็นที่ 5 สวัสดีครับคุณอา จากคุณ : ตาแว่น (chanyout) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 06:39:23

ความคิดเห็นที่ 6 เข้ามาบอกอีกครั้งว่า ถ้าเป็นยุคนี้ ง่ายเป็นปลอกกล้วยเลย ครับ จากคุณ : นายเก่าคนก่อน เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 06:44:15

ความคิดเห็นที่ 7  นายเก่าคนก่อน คงชอบถ่ายภาพ ผมกำลังหัดถ่ายด้วยกล้องคอมแพ็ค ยังเอาดีไม่ได้ กำลังจะเอาภาพมาให้ช่วยสอนหน่อยครับ ผมเคยลองถ่ายภาพให้มีคนซ้อนกัน ด้วยกล้อง Nikormat  มีปุ่มกดข้างล่าง เรากดแช่ไว้ พร้อมกับดึงกระเดื่องขึ้นฟิล์ม ฟิล์มจะไม่เลื่อน  ทำให้ถ่ายซ้ำบนฟิล์มเดิได้เหมือนกล้องใหญ่ แต่รอยต่อไม่เนียน ของ จขกท ต่อได้เนียนมาก  จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 06:45:37

ความคิดเห็นที่ 8  ขอบคุณครับ ใช่ครับ YASHIKA  กล้องนี้คล้าย RolleiFlex มาก สมัยผมเด็กๆเห็นชางภาพที่รับถ่ายภาพ ใช้กล้องนี้ ตอนโรงเรียนถ่ายรูปเด็กนักเรียนประจำชั้น ช่างภาพก็ใช้กล้องนี้ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 06:48:34

ความคิดเห็นที่ 9 ถ่าย 2 ภาพแล้วเอามาตัดต่อในห้องมืด  ซ้อนกันที่ เสากลางไง....สังเกตุ วงกบ ประตู ผิดปกติไม๊...ล๊ะนั้นที่ .....น่าจะเป็น...เหมือนเอา คนมาซ้อน ยืนอยู่บนมือ อีก คนหนึ่ง... พี่ท่านน่าจะเคยเห็น ผมยังพอจำภาพแบบนั้นได้อยู่....( หน้าจะแตก ก็ งานนี้ แหละ..ฮ่าฮ่าฮ่า..) จากคุณ : หนุ่มเมืองพาน เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 06:49:00

ความคิดเห็นที่ 10 ภาพนี้ ซ้อนใน คอมฯ...ครับ... นับถือ ฝีมือช่างภาพนายเก่าๆ จริงๆ...ผมไม่เคยเล่นแบบท่าน.เพราะ ..ทนรำคาญ การรอคอย...จริงๆ... สมัยนั้น ต้อง จำ ต้อง รอ...ทำไม่ได้ ...ครับ แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 54 06:56:21 จากคุณ : หนุ่มเมืองพาน เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 06:53:25

ความคิดเห็นที่ 11 ขอย้ำอีกครั้งว่า เป็นภาพของบุคคล คนเดียวกัน มีสองอิริยาบถ ในภาพเดียวกัน บนแผ่นฟิล์มเดียวกัน ส่งไปล้างอัดขยาย โดยไม่ต้องใช้เท็คนิคในห้องอัดภาพแต่อย่างใดเลย และแถมว่า คนถ่ายก็คือคนในภาพด้วย กล้องวางบนเก้าอี้อีกตัวหนึ่ง ไม่ได้ใช้ขาตั้งครับ. จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 07:12:36

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ ฝีมือคนถ่ายล้วนๆ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 07:37:10

ความคิดเห็นที่ 13 กล้องยี่ห้อนี้ ผมเพิ่งเคยได้ยินชื่อก็วันนี้ครับ ลองเข้าไปค้นดูข้อมูล ก็พบว่าผลิตออกมาไม่กี่ปี รุ่นที่คุณลุงใช้ถ่าย น่าจะเป็น Semi mihama รุ่นแรก ที่มีการปรับปรุงให้มี self timer แล้ว เพราะรุ่น 2 ผลิตในปี 1954 ซึ่งหลังจากภาพนี้ได้ถ่ายเอาไว้ คุณลุงบอกว่าแบบเป็นคนถ่ายเอง ดูที่มือ ไม่มีรีโมท จึงแน่ใจว่าใช้โหมด self timer หรือการตั้งเวลาถ่าย คือตระเตรียมอะไรให้เรียบร้อย กดชัทเตอร์ แล้วรีบไปยืน หรือนั่ง ในท่าที่ต้องการ ชัทเตอร์ก็จะลั่นเองโดยอัตโนมัติ หลังจากหน่วงเวลาไว้ช่วงนึง การที่แบบมีสองอริยาบทบนแผ่นฟีล์มเดียวกัน นั่นแปลว่าฟีล์มต้องมีการเปิดชัทเตอร์รับแสง 2 ครั้ง หากเราไม่ขยับเขยี่อนกล้อง ตำแหน่งของฉากหลังก็จะดูเหมือนเดิม เสมือนถ่ายครั้งเดียว ผมไม่ทราบกลไกของกล้องว่า ถ้าไม่เลื่อนฟีล์ม จะยอมให้กดชัทเตอร์ได้หรือไม่ แต่เข้าใจว่า ตากล้องทุกยุคทุกสมัย ย่อมมีวิธีในการหลอกกล้องว่า เลื่อนฟีล์มแล้ว ครับ จากคุณ : เด็กทุ่งครุ เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 07:58:27

ความคิดเห็นที่ 14 ลืมภาพประกอบ กล้องที่คาดว่าจะใช้ถ่ายครับ จากคุณ : เด็กทุ่งครุ เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 07:59:17

ความคิดเห็นที่ 15  ผมไม่ทราบกลไกของกล้องว่า ถ้าไม่เลื่อนฟีล์ม จะยอมให้กดชัทเตอร์ได้หรือไม่ >>>>>>>>>>>>>>>>>>> กล้อง 35 มม Nikormat ของผมทำได้ มันมีปุ่มกดข้างล่าง  เรากดพร้อมกับเลื่อนคันเลื่อนฟิล์ม แต่ฟิล์มจะไม่เดิน ขึ้นชัตเตอร์ได้ ทำให้ถ่ายซ้ำได้ เรียก option นี้ว่า double Explosure หรือ multi-Explosure ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 08:05:37

ความคิดเห็นที่ 16 แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 54 08:27:03 แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 54 08:26:38 จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 08:07:03

ความคิดเห็นที่ 17 ขออนุญาต คุณ หนุ่มเมืองพาน  ขโมยรูปมาทดลองแต่ง นะครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 08:27:39

ความคิดเห็นที่ 18 ภาพเก่า ๆ ดูคลาสิคดี จากคุณ : แดดแรง ตากผ้า แห้งเร็ว เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 08:50:25 A:180.180.125.146 X: TicketID:173263

ความคิดเห็นที่ 19 ขอตอบก่อนกำหนดครับ เพราะหลายท่านก็อยากรู้ และผมก็อยากอธิบายครับ คุณนายเก่าคนก่อน เดาได้ใกล้เคียงครับ กล้องที่ใช้ถ่ายเป็นกล้องรีเฟล็กซ์เล็นคู่ กดชัตเตอร์หน่วงเวลา แล้วคนถ่ายก็มานั่งหน้ากล้องครับ การถ่ายภาพนี้ไม่ได้เรียนรู้จากตำราใดเลยครับคุณTinyNu เมื่อเห็นคนอื่นเขาใช้เท็คนิคการอัดภาพซ้อนช่วยให้ได้ภาพแปลก ๆ แต่ตนเองไม่มีห้องล้างฟิล์มเอง ก็ลองพลิกแพลงดูไปเรื่อย ๆ ครับ กล้อง YASHIKA  เป็นกล้องที่ญี่ปุ่นลอกแบบมาจาก  RolleiFlex  เป๊ะ ๆ เลยครับ คห.๖ ของคุณนายเก่าคนก่อน ทำให้ผมนึกถึงความสามารถของคอมพิวเตอร์ครับ สมัยหนังเรื่อง เบ็นเฮอร์ ต้องใช้ตัวประกอบหลายพันคน ในฉากกองทัพโรมัน และตนดูบนอัฒจันทร์ในสนามแข่งรถ และเรื่องบัญญัติสิบประการ ฉากทะเลแดงแหวกให้พวกยิวผ่าน คงทำยากมากมาย แต่คอมพิวเตอร์ในหนังสงครามสมัยเก่าของปัจจุบัน คอมพิวเตอร์จัดให้ ง่ายนี้ดเดียวครับ คุณ หนุ่มเมืองพาน เดาผิดครับ เสาอะไรมันจะอยู่ตรงกลางประตูครับ แต่ผมนับถือคุณมากในเรื่องที่เริ่มเล่นกล้องเมื่ออายุ ห้าสิบปลาย แต่อยู่มาไม่ถึงห้าปี ฝีมือระดับประกวดแล้วนะครับ กล้องที่ใช้ถ่ายภาพนี้ เป็นกล้องรีเฟล็กซ์เล็นส์คู่ครับ คุณเด็กทุ่งครุ ผมยังนึกว่าเป็นกล้อง ฮาโกเฟล็กซ์ เสียอีก แต่หลังภาพบันทึกไว้อย่างนั้น คงจะเป็นคนละแบบกับภาพของคุณกระมังครับ จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 09:05:43

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีค่ะคุณอา จากคุณ : MAY BEE ... LITTLEDEVIL เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 09:06:08

ความคิดเห็นที่ 21 ขออวดอีกภาพหนึ่งครับ ตอนเย็นจะมาเฉลยครับ. จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 09:07:33

ความคิดเห็นที่ 22 ภาพ และ ฝีมือของคนถ่ายภาพ ยอดเยี่ยมมากค่ะ คุณลุงเจียวต้าย ภาพเก่าภาพนี้ ท่าทางบุคลิกของภาพ..สวย ดูคลาสสิค จากคุณ : samranjai เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 09:08:46

ความคิดเห็นที่ 23 อีกครั้งหนึ่งครับ จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 09:10:23

ความคิดเห็นที่ 24 ... จากคุณ : Resource of life เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 09:21:53

ความคิดเห็นที่ 25 ผมเคยแต่ถ่ายภาพซ้อน  กับ ถ่ายภาพตีไฟครับ (ว่ากันว่า  ญี่ปุ่นชอบถ่ายแบบตีไฟ) ใช้ fm2 นี่แหละครับ  ชัตเตอร์ b + ขาตั้งกล้อง+สายลั่น จากคุณ : ป่าเหนือ เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 09:55:47

ความคิดเห็นที่ 26 ว่าแล้ว..หน้าแตก..แต่ได้ความรู้..คุ้มล๊ะก๊ะ....ขอบคุณ ครับ... จากคุณ : หนุ่มเมืองพาน เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 10:25:49

ความคิดเห็นที่ 27 ขอเดาว่า ภาพที่ #23  มีจุดกำเนิดแสงจากกลางภาพสำหรับนายแบบคนซ้าย ส่วนแบบคนขวาน่าจะขยับแสงแต่ยังอยู่จุดใกล้เคียงภาพแรก ส่วนที่เห็นมีแสงจากขอบภาพด้านซ้าย ทั้งมุมล่างและมุมบน เข้าใจว่าเป็นแสงสะท้อน(หลอก) ของการก๊อปปี้ภาพ ใช่ไหมครับ * คุณป่าเหนือครับ เข้าใจว่ากล้องรุ่นเก่า มีซัตเตอร์ T ด้วยนะครับ แต่เดี๋ยวนี้ ไม่เห็นทำขึ้นมา เพราะสมัยนั้นคงไม่มีสายลั่นซัตเตอร์ ขยายความว่า ซัตเตอร์ B ถ้ากดแล้วปล่อยเมื่อไรก็จะปิด (รับแสง)            ส่วน ซัตเอตร์ T ถ้ากดแล้วปล่อยได้เลย การรับแสงต่อเนื่องจนกว่าจะกดซ้ำถึงปิดรูรับแสง ครับ (ถ้าผมเข้าใจผิด แย้งได้นะครับ) ปล.เข้ามาเพิ่ม สมัยก่อนกระดาษอัดภาพแบบนี้ พวกเราเรียกว่ากระดาษด้านหนังไก่ ครับ แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 54 10:28:08 จากคุณ : นายเก่าคนก่อน เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 10:26:08

ความคิดเห็นที่ 28 ให้นึกถึงคุณพ่อค่ะ สมัยพ่อยังหนุ่มชอบเล่นกล้อง ถ่ายภาพ ถึงขนาดมีห้องมืดไว้ล้างฟิลม์อยู่ที่บ้าน ที่พวกฝันไม่ค่อยจะกล้าเข้าไปเลย จากคุณ : ขอพบในฝัน เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 10:50:58

ความคิดเห็นที่ 29 พี่นาย...สายลั่นชัตเตอร์  มีตัวล๊อคครับพี่  กดหนึ่งครั้งแล้วกดล๊อค  มันจะล๊อคชัตเตอร์ให้ค้างไว้ครับ  นานเท่าไรก็ได้ครับ ใช้กับชัตเตอร์ b ของ fm2 นะครับ (เหมือนถ่ายการหมุนของโลก  โดยการถ่ายดวงดาวนั่นแหละครับพี่) พอเรากดซ้ำอีกที ชัตเตอร์ถึงจะทำงานครับพี่ จากคุณ : ป่าเหนือ เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 10:57:26

ความคิดเห็นที่ 30 ครับคุณป่าเหนือ สายลั่นซัตเตอร์ (สมัยนี้) มีตัวล๊อค ใช่แล้ว ที่ผมบอกว่า สำหรับปุ่ม T ทำไว้สำหรับไม่ต้องพึ่งสายลั่นซัตเตอร์ เท่านั้นแหละครับ เมื่อก่อนนี้ลายลั่น เป็นแบบกลไก ปัจจุบันเป็นแบบ อีเลคโทนิค (เรียกแบบนี้ถูกไหม)        อ้อ... อย่างไรก็ดี ปุ่มตัว T ถ้าขาตั้งไม่มั่นคง ภาพอาจสั่นไหวได้ สู้สายลั่นฯ ไม่ได้หรอกครับ       ปล.กระทู้นี้ สนุกนะครับสำหรับคนเล่นกล้องฯ (เก่าๆ) ทำให้ต้องรีบไปเปิดกรุ เอากล้องเก่าที่แอบเก็บไว้นานแล้วมาดูอีกที กล้อง RolleiCord ตัวนี้ของผม เป็นน้องเจ้า RolleiFlex ที่พูดถึง ปุ่นขึ้นซัตเตอร์ คือภาพมือชี้สีเหลือง  ส่วนปุ่มชัตเตอร์ คือมือชีสีแดง ทดสอบดูแล้วสามรถถ่ายได้หลายครั้งโดยไม่ต้องเลื่อนฟิลม์ ครับ * ต้องเข้ามาแก้ข้อความอีกหน ที่บอกไปว่าสมัยนั้นไม่มีสายลั่นซัตเตอร์ นะผิดครับ มีแบบกลไก นะครับ ขอบคุณคุณป่าเหนือ ครับทำให้นึกขึ้นมาได้.. แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 54 11:24:21 จากคุณ : นายเก่าคนก่อน เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 11:19:42

ความคิดเห็นที่ 31 เอ...ต้องงัด FM2 ออกมาปัดฝุ่นกะเขามั่งคงจะดี กล้องตัวแรกของชีวิต คือ วอกแลนเดอร์ Voigtlaender (ให้น้องไปแล้ว) ตัวที่สอง FM2 แล้วก็เลิก... แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 54 11:22:34 จากคุณ : ลุงอ่ำ เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 11:20:13

ความคิดเห็นที่ 32 สวัสดีครับ คุณลุงอ่ำ ผมเคยมีกล้องคล้ายๆตัวนี้เลยครับ เลนส์สุดยอดที่รูรับแสง F8 (คมมากๆ)  น่าจะเป็นเลนส์ Carl Zeiss ถ้าจำไม่ผิด เดี๋ยวนี้ยังอยู่ไหมครับ (น้ำลายหกเลย) อิอิ จากคุณ : นายเก่าคนก่อน เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 11:29:27

ความคิดเห็นที่ 33 ภาพสวยมากครับผมเป็นคนชอบภาพโบราณประมาณแบบสถานที่ ตึก รบกวนด้วยนะครับ จากคุณ : Magicianred_01 เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 12:05:31

ความคิดเห็นที่ 34  คห. 31 ลุงอ่ำ กล้อง Voigtlaender  นี้ผมเคยเห็นของเพื่อนเยอรมัน ดูเหมือนที่ขึ้นฟิล์มจะอยู่ข้างล่าง เลนซ์ยังใช้เลนซ์ Schneider ครับ   กล้อง Kodak รุ่นหนึ่งที่คล้ายๆ Voigtlaender ตัวขึ้นฟิล์มอยู่ข้างล่างทางขวา เป็น SLR ก็ถ่ายดีครับ แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 54 15:03:55 จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 15:01:03

ความคิดเห็นที่ 35 เข้ามาดูเข้ามาอ่าน....ไม่รู้เรื่องกล้องเลย รู้แต่ว่า...แต่ละภาพเยี่ยมค่ะ จากคุณ : จริงใจ.......สบายจริง เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 15:09:04

ความคิดเห็นที่ 36 กลับมาเฉลยแล้วครับ ตามภาพแรกในกระทู้ มีกรรมวิธีดังนี้ครับ เปิดประตูออกให้บานประตูตั้งฉากกับกล้อง ซึ่งวางอยู่ข้างหน้า เปิดไฟดวงแรกทางซ้าย ตั้งโฟกัสขอบประตูให้ดี   กดชัตเตอร์ให้ถ่ายอัตโนมัติแล้วไปยืนแอ๊คท่าในภาพซ้าย เมื่อชัตเตอร์ลั่น จะได้ภาพซ้าย โดยอีกซีกหนึ่งมืดเพราะเงาประตูบังแสงไฟ แล้วไม่ต้องทำอะไรกับกล้อง เพราะกล้องไม่ได้หมุนฟิล์มเอง ดับไฟดวงซ้ายและเปิดไฟดวงขวา กดชัตเตอร์ให้ถ่ายอัตโนมัติแล้วไปนั่งเก้าอี้ด้านขวา เมื่อชัตเตอร์ลั่น ก็จะได้ภาพขวา โดยที่ภาพด้านซ้ายจะยังคงอยู่ เพราะเป็นด้านมืด เมื่อล้างอัดขยายออกมาก็จะได้ภาพตามความตั้งใจ สังเกตว่าจะมีลังที่พื้นด้านซ้ายอัดกับเก้าอี้ไม่ให้เคลื่อนไปจากที่เดิมทั้งสองด้าน ภาพจึงชัดเจนเหมือนถ่ายครั้งเดียวครับ จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 16:44:48

ความคิดเห็นที่ 37 ภาพครับ จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 16:52:21

ความคิดเห็นที่ 38 เข้ามาอ่าน ตอนเขาเฉลยแล้ว สมัยก่อนไม่มี โฟโต้เฉาะ.. คุณอาเก่งจังเลยค่ะ เคยเห็นภาพ ซ้อนแบบนี้ แบบเป็นคนถือขวด แล้วในขวดนั้น ก็มีคนนั้น ในอีกอริยบทหนึ่ง เป็นภาพข้างฝาบ้านไม้แบบบ้าน คุณอานี่ล่ะค่ะ... จากคุณ : nupvs เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 16:52:53

ความคิดเห็นที่ 39 ลุงเขย...ตาถึงครับ มองเห็นบานประตู(ตั้งฉากเป็น) ขอบประตู ผิดสังเกตุแต่แรก ส่วนผมตาไม่ถึง มองเป็นวงกบไปซะ แล้วไปคิดเรื่องแสงส่องด้านข้าง ซ้ายทีขวาที หลงทางไปเลย ครับ.. จากคุณ : นายเก่าคนก่อน เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 18:47:46

ความคิดเห็นที่ 40 ภาพแรกถ่ายนอกห้อง ส่วนภาพใน คห.๒๑ หรือ ๒๓ ถ่ายในห้องครับ คราวนี้เปิดบานประตูด้านซ้ายออกไปเลย ตั้งกล้องความเร้วเท่าเดิม ปรับโฟกัสบานประตูขวาเรียบร้อย กดชัตเตอร์แล้วไปยืนชิดบานประตูด้านขวาหันหน้าเข้าหาไฟส่องจากด้านซ้าย ภายนอกห้องมืดสนิท จึงได้ภาพครึ้งเฟรมด้านขวา เสร็จแล้วดับไฟในห้องเปิดดวงนอกห้องทางขวา กดชัตเตอร์แล้วออกไปยืนแอ็คท่าข้างนอก จะได้ภาพเฟรมซ้าย โดยไม่กระทบเฟรมเก่า เพราะมืดสนิท หมายเหตุทั้งสองภาพต้องเสียเวลาเปลี่ยนเสื้อนิเดหน่อยครับ. จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 20:29:04

ความคิดเห็นที่ 41                             ย อ ด เ ยี่ ย ม จริงๆค่ะ               หนูทำการแปะ..กิ้บ..(อีกรอบ)แต่ว่า ไม่สำเร็จ                             เพราะว่า  หมด  ค่ะ ..... จากคุณ : หนูออน (Oncidium.) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 03:28:14

ความคิดเห็นที่ 42 ฉลาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด..ครับ... จากคุณ : หนุ่มเมืองพาน เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 03:45:26

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณ คุณMagicianred คุณ ธุลีล่องลม, คุณvisitna, คุณ บ้านหนองจันสอน, และคุณowl2 ด้วยครับ. จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 09:48:08