การบริหารงานที่ไม่มีประสิทธิภาพและความไม่มั่นคงของบริษัทวาย.ซี.ดี.ไอ.คลีนแอนด์การ์ดเซอร์วิสจำกัด

การบริหารงานที่ไม่มีประสิทธิภาพและความไม่มั่นคงของบริษัทวาย.ซี.ดี.ไอ.คลีนแอนด์การ์ดเซอร์วิสจำกัด

    ดิฉัน นางสาวรุ่งนภา ปิยนันท์จรัสศรี เคยเป็นพนักงานบริษัทวาย.ซี.ดี.ไอ.คลีนแอนด์การ์ดเซอร์วิสจำกัด ได้เริ่มงานตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2552 และได้ทำงานเรื่อยมาจนถึงเดือนธันวาคม 2522 ที่ดิฉันได้มาทำงานที่นี่เพราะรู้จักเป็นเพื่อนกับนางสาวณิชากร พรหมคีรี(เต๋า)มาก่อนและประกอบกับในเวลานั้นดิฉันว่างงานด้วย ซึ่งเมื่อทำงานได้ประมาณ 2 เดือนคุณเต๋าได้พูดถึงความจำเป็นและความลำบากที่จะต้องกู้ยืมเงินจากครอบ ครัวหรือเพื่อนคนอื่นๆในการนำมาเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การ ทำงานหรือเงินเดือนพนง.ที่ทางบริษัทต้องสำรองจ่ายก่อนเพราะทางบริษัทได้ให้ เครดิตผู้ว่าจ้างเป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งในเวลานั้นคุณเต๋าได้ถามถึงเงินที่ดิฉันพอจะมีว่าเท่าไหร่ ดิฉันเลยถามจำนวนเงินที่ต้องใช้ว่าเท่าไหร่ ซึ่งได้รับคำตอบเป็นจำนวนเงิน 100,000 บาทโดยส่วนตัวดิฉันมีประมาณ50,000 บาท และจะขอยืมคุณพ่อให้อีก50,000 บาท โดยทางคุณเต๋าสัญญาว่าจะใช้ให้ใน วันที่1 มิ.ย.2553 โดยไม่มีการทำสัญญาใดๆทั้งสิ้นเพราะไว้ใจและเชื่อใจเพื่อนว่านำมาลงธุรกิจ และเมื่อทำงานไประยะหนึ่งดิฉันเริ่มเห็นถึงความไม่ชอบมาพากลของบริษัทโดย เริ่มจาก

- ประกันสังคมที่หักเงินพนง.แล้วแต่มิได้นำส่งเป็นเวลาหลายเดือน  และตัวดิฉันจนมิ.ย 2553 ยังทำเรื่องประกันตนเองไม่ได้เพราะทางบริษัทยังไม่ได้ทำการแจ้งลาออกให้  ซึ่งผู้ว่าจ้างสามารถตรวจสอบได้จากสำนักงานประกันสังคมสำนักงานประกันสังคม เขตพื้นที่ 9 โทรศัพท์ 0-2379-2832, 0-2733-4111-20, 0-2733-4223-6, 0-2379-2938

- พนง.ชื่อนางสาวเกตนภา กุมารสิทธิ์(ฝน) ซึ่งทำหน้าที่เป็นพนง.ทั่วไปที่อยู่ในสำนักงาน ทำงานโดยไม่ได้รับเงินเดือนเป็นเวลาประมาณ 2 เดือน เมื่อทวงถามก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงและอ้างหตุผลต่างๆ คุณฝนจึงตัดสินใจออกจากบริษัท

-เลข ที่ตั้งสำนักงาน 31 ม.11 ถ.นวมินทร์ เขตคันนายาว โทร 02-9368283 ผู้ว่าจ้างสามารถตรวจสอบได้ว่าในสำนักงานไม่มีลูกจ้างหรือคนรับโทรศัพท์ที่ จะคอยรับเรื่องจากผู้ว่าจ้างที่มีปัญหาต่างๆ เพราะพนง.ท่านอื่นๆก็ได้ออกจากบริษัทไปเพราะไม่ได้รับเงินเดือน ก็ มีทางเดียวคือทางผู้ว่าจ้างต้องติดต่ดโดยตรงกับคุณเต๋าหรือคุณนิคเท่านั้น แต่กระนั้นถึงเวลาติดต่อโดยตรงกับคุณเต๋าก็ไม่ได้รับความสะดวกทุกครั้งไป เพราะแต่ละครั้งถ้าไม่รับสายก็จะอ้างโดยเหตุผลที่ใช้บ่อยก็คือ ติดประชุม

    ในเรื่องต่างๆเหล่านี้เองทำให้ดิฉันตัดสินใจลาออกจากบริษัทเพราะเริ่มเห็นการบริหารงานที่ไม่มีประสิทธิภาพและความไม่มั่นคงของบริษัท และ เมื่อถึงวันที่ 1 มิ.ย.2553 ดิฉันได้โทรหาคุณเต๋าก็ได้รับคำตอบว่าวันนี้ยังไม่ได้เพราะเพราะเช็คที่ได้ มายังขึ้นเงินไม่ได้ให้ดิฉันรอประมาณวันที่ 5 มิ.ย.2553 และเมื่อถึงกำหนดดิฉันได้โทรไปหาคุณเต๋าที่เบอร์ 080-3014451    086-3289038      080-5569770 แต่ ก็ไม่มีคนรับสาย ทำให้ดิฉันต้องพยายามโทรในวันต่อๆไปแต่ก็เหมือนเดิมซึ่งไม่มีคนรับสายและไม่ มีการติดต่อกลับแต่อย่างใด และเมื่อประมาณวันที่ 14 มิ.ย. ดิฉันได้โทรไปแต่ติดต่อไม่ได้ทั้ง 3 เบอร์ ดิฉันเลยโทรถามคุณนิค 084-1498765 ถึงเบอร์คุณเต๋า 085-3655699 ซึ่งเมื่อดิฉันโทรก็ไม่รับสายและไม่มีการติดต่อกลับแต่อย่างใด ดิฉันเลยใช้เบอร์อื่นโทรไปคุณเต๋ารับสาย ดิฉันพูดว่า เรื่องเงิน 1 แสนจะคืนเมื่อไหร่ พูดยังไม่จบประโยคคุณเต๋าก็ได้ตัดสายทิ้ง ซึ่งดิฉันก็โทรไปอีกแต่ก็ไม่รับสาย และไม่มีการติดต่อกลับแต่อย่างใด ดิฉันจึงใช้เบอร์อื่นโทรและเมื่อรับสายดิฉันถามถึงเงินและอยากให้ทางคุณเต๋า ทำสัญญากู้ยืมเงินจึงตกลงนัดกันในวันที่ 16 มิ.ย2553 เวลา 18.00 น. ที่ซอยร่วมฤดี แต่คุณเต๋าไม่มา และไม่มีการโทรบอกแต่อย่างใด ดิฉันได้ทำการติดต่อแต่ก็ไม่มีการตอบรับใดๆ จนเช้าวันที่ 20 มิ.ย 2553 คุณเต๋าได้รับสายและได้บอกนัดดิฉันทำสัญญาเงินกู้ที่บ้านยายของคุณเต๋าเวลา 14.00 น. ดิฉันรอจน 18.00 น. ก็ไม่เจอคุณเต๋า เมื่อโทรไปก็ได้รับคำตอบว่าประชุมอยู่ ดิฉันถามว่าวันนี้วันอาทิตย์บริษัทไหนมีประชุมก็เงียบและบอกให้รอไปก่อน เมื่อวางสายดิฉันก็คิดว่าวันนี้ก็คงไม่มาตามนัดอีกก็ตัดสินกลับและได้ไปแจ้ง ความไว้ก่อน
ดิฉันได้นำเรื่องนี้ลง website ต่างๆ เท่าที่จะลงได้จุดประสงค์หลักเพื่อให้ผู้ว่าจ้างที่ทำสัญญาว่าจ้างหรือผู้ ประกอบการรายอื่นๆที่กำลังตัดสินใจจะใช้บริการกับ ทางบริษัทวาย.วี.ดี.ไอ.คลีนแอนด์การ์ดเซอร์วิสจำกัด ได้ตรึกตรองถถึงการบริหารงานที่ไม่มีประสิทธิภาพและความไม่มั่นคงของบริษัท และมันหมายถึงความน่าเชื่อถือ และการไม่มีสัจจะของคุณเต๋าเลย

และ นอกจากนี้ดิฉันได้นำบัตรปชช. สำเนาทะเบียนบ้าน และบัตรประจำตัวผู้เสียภาษี พราะอาจจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ว่าจ้างที่ต้องการตรวจสอบแนบ มาด้วย  

เมื่อ วันที่ 21 มิ.ย.2553 ประมาณ 15.00 น. ดิฉันได้รับโทรศัพท์จากคุณสมพร สุวรรณน้อย(ป้าต๋อย) ซึ่งเป็น 1 ในกรรมการของบริษัทวาย.ซี.ดี.ไอ.คลีนแอนด์การ์ดเซอร์วิสจำกัด ได้บอกกล่าวเรื่องบางอย่างกับดิฉันเกี่ยวกับพฤติกรรมของนางสาวณิชากร พรหมคีรี(เต๋า) ว่า ตั้งแต่ประมาณเดือนมกราคมได้รับโทรศัพท์จากประกันสังคมสอบถามเรื่องการขาด จ่ายเงินสมทบของบริษัทและก็เป็นอย่างนี้ทุกๆเดือนและก็แปลกใจว่าที่ประกัน สังคมโทรมาที่บ้านส่วนตัว(02-9447473) ของตนได้อย่างไร จึงได้สอบถามไปทางคุณเต๋าซึ่งได้รับคำตอบว่า เบอร์ที่สำนักงานไม่มีพนง.คอยรับโทรศัพท์พราะทุกคนได้ออกไปแล้ว แต่ป้าต๋อยก็ได้บอกถึงความเดือนร้อนที่เจอเพราะไม่เพียงแต่ทางประกันสังคม ยังมีบริษัทต่างๆ เช่น กรมสรรพากรเรื่องภาษี ผู้ว่าจ้างที่โทรมาแจ้งปัญหา บริษัทส่งอุปกรณ์ต่างๆ ฯลฯ และด้วยที่บ้านป้าต๋อยมีเด็ก 1 เดือนเศษอยู่ด้วยซึ่งเป็นการรบกวนเวลานอนเป็นอย่างมาก ประกอบกับการสุขภาพของตัวป้าเองที่ทำให้การเดินไม่สะดวกแต่ต้องคอยรับโทรจาก ที่ต่างๆที่คุณเต๋าให้เบอร์ไว้
และ เมื่อเดือนพฤษภาคมป้าต๋อยก็ได้รับความเดือนร้อนอีกคือมีเจ้าหน้าที่จาก ประกันสังคมมาถึงบ้านเพื่อสอบถามเรื่องการขาดจ่ายเงินสมทบของบริษัท แต่ป้าต๋อยก็ไม่สามารถให้คำตอบใดๆได้เพราะคุณเต๋าเองไม่เคยมาบอกหรือเล่า ความเป็นมาเป็นไปของบริษัทให้ฟังทั้งๆที่แกก็เป็น 1 ในกรรมการที่ควรรับรู้ในทุกๆเรื่อง และดิฉันก็ได้เล่าเรื่องเงิน1 แสนบาทที่คุณเต๋ายืมให้ฟัง       แกตกใจมากเพราะไม่เพียงแต่ดิฉันที่ไม่ได้คืน ยังมีที่คุณเต๋าได้กู้หนี้ยืมสินจากคนอื่นๆและไม่คืนเหมือนดิฉัน

    และยิ่งกว่านั้น  notebook ที่บริษัทมี 2 เครื่องได้ถูกกขายไป 1 เครื่องและอีก1 เครื่องคุณเต๋าได้ให้นางสาวเกตนภา กุมารสิทธิ์(ฝน)ไปจำนำ เมื่อได้ยินอย่างนั้นดิฉันยิ่งตกใจแสดงว่าทางบริษัทน่าจะประสบปัญหาการเงิน อย่างมาก และเมื่อคิดทบทวนจากเหตุการณ์ต่างๆทั้งเรื่องการขาดจ่ายเงินสมทบ การจ่ายเงินพนง.ไม่ตรงวันเงินออก หรือถึงขั้นไม่จ่ายเงินเดือนพนง.บางคนที่ทำให้ต้องออกจากบริษัทไปเอง  

      เมื่อ ป้าต๋อยทราบดังนั้นก็เริ่มเห็นความไม่มั่นคง และความเดือนร้อนที่ตัวเองจะได้รับในฐานะกรรมการของบริษัท จึงได้แจ้งกับคุณเต๋าว่าต้องการถอนชื่อออกจากการเป็นกรรมการเพราะไม่อยากมี ส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทอีกเพราะไม่อยากมีปัญหาในวันข้างหน้าหน้า คุณเต๋าได้รับปากจะนำเอกสารมาให้ แต่จนทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้รับเอกสารและเมื่อถามถึงก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด
ไม่ เพียงป้าต๋อยเท่านั้น นางกรฉัฐ สุวรรณน้อย(น้าสาว)ซึ่งเป็น 1 ในกรรมการอีกคนของบริษัทก็ต้องการขอถอนขื่อออกเช่นกันแต่ก็ไม่ได้รับการตอบ รับใดๆจากคุณเต๋าอีกเช่นเคย และน้าสาวยังเล่าอีกว่าตัวเองยังคิดอยู่ว่าได้เซ็นชื่อเป็นกรรมการให้กับคุณ เต๋าไปตอนไหน น้าสาวเลยถามถึงเอกสารต่างๆที่เค้าเซ็นในตอนแรกให้นำมาให้ดูเพื่อให้หายข้อ ข้องใจแต่       จนทุกวันนี้คุณเต๋าก็ไม่นำมาให้ตามเคย ทั้งการขอดูเอกสารการเป็นกรรมการและการขอถอนชื่อออกทำไมคุณเต๋าไม่แสดงเจตนา ที่ดีนำเอกสารที่ทุกคนต้องการมาแสดง ทำไมตั้งใจบ่ายเบี่ยงและหลีกเลี่ยงการนำเอกสารมาให้  จนตอนนี้น้าสาวกังวลว่าจะมีการปลอมแปลงลายเซ็นหรือไม่      ดิฉัน เลยแนะนำให้ป้าต๋อยและน้าสาวไปแจ้งความไว้ก่อน เพื่อวันข้างหน้ามีปัญหาจะได้มีหลักฐานว่าเราต้องการขอถอนชื่อออกแต่ทางคุณ เต๋าไม่ได้มีการตอบรับใดๆเลย

และนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่อยากให้ผู้ว่าจ้างตรวจสอบหรือตรึกตรองให้มากก่อนที่จะทำสัญญาต่างๆกับบริษัทนี้
 
ขอแสดงควานับถือ
รุ่งนภา ปิยนันท์จรัสศรี

ปล.และเพิ่งรู้มาว่าและนางสาวณิชากร พรหมคีรี เปลี่ยนชื่อมาแล้วถึง 2 ครั้ง

แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 54 07:29:14

จากคุณ	: rungnapa85
เขียนเมื่อ	: 6 ก.พ. 54 07:00:06