ความคิดเห็นที่ 1 บางแสนในสมัยนั้นความเจริญยังเดินทางไปไม่ถึง ชาวบ้านชายทะเลก็ทำมาหากินกันไปตามประสา ยังมีโป๊ะจับปลา มีการปักเสาเลี้ยงหอยแมลงภู่ มีการขุดหาหอยตามชายหาดครับ จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 05:28:29

ความคิดเห็นที่ 2 ก้อนหินทางซ้ายมือตั้งอยู่ที่แหลมแท่น ปัจจุบันก็คงยังอยู่ ไม่มีใครย้ายไปไหนนะครับ. จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 05:30:11

ความคิดเห็นที่ 3 บางแสน ประวัติความเป็นมา จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี          เทศบาลเมืองแสนสุข เป็นองค์การปกครองท้องถิ่นรูปแบบหนึ่ง ครอบคลุมพื้นที่ 3 ตำบล คือ ตำบลแสนสุขทั้งตำบล, บางส่วนของตำบลเหมือง และบางส่วนของตำบลห้วยกะปิ  พื้นที่รวมทั้งสิ้น 20.268  ตารางกิโลเมตร       เทศบาลเมืองแสนสุข ได้รับการยกฐานะจากสุขาภิบาลตำบลแสนสุข เป็นเทศบาลตำบลแสนสุข ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 2531 ซึ่งในขณะนั้นนายกเทศมนตรีตำบลแสนสุข และสมาชิกสภาเทศบาล ร่วมกำหนดนโยบาย ร่วมคิดร่วมทำ และดำเนินการตามนโยบายต่าง ๆ ทำให้ท้องถิ่น มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลา 13 ปี จึงได้รับการยกฐานะ จากเทศบาลตำบลแสนสุข เป็นเทศบาลเมืองแสนสุข เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2544 ซึ่งในอดีตก่อนจะจัดตั้งเป็นเทศบาล การบริหารงานดำเนินการโดยคณะกรรมการสุขาภิบาลตำบลแสนสุข และภายในเขตเทศบาลฯ มีสถานที่พักผ่อน, ท่องเที่ยวที่สำคัญเป็นที่รู้จักแพร่หลายคือ ชายหาดบางแสน และเขาสามมุข สมัยนั้น ประชาชนนิยมมาท่องเที่ยว, ชมเขา และพักผ่อนตากอากาศ แต่การบริหารจัดการยังไม่ดีเท่าที่ควร เนื่องจากขาดทั้งงบประมาณ, บุคลากร และเครื่องมือเครื่องใช้ที่ดี อำนาจในการบริหารซึ่งขึ้นอยู่กับการปกครองส่วนภูมิภาค เมื่อสุขาภิบาลได้ยกฐานะขึ้นเป็นเทศบาลฯ จึงมีศักยภาพในการบริหารงานมากขึ้น เกิดการพัฒนาในทุกด้าน และเป็นไปอย่างรวดเร็ว พลิกฟื้นจากแหล่งเสื่อมโทรม กลายเป็นแหล่งชุมชน ที่มีศักยภาพในด้านการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของท้องถิ่น ทำให้ประชากรในท้องถิ่นมีรายได้หมุนเวียน โดยเฉพาะวันหยุดราชการมีรายได้หมุนเวียนหลายล้านบาทต่อวัน      เทศบาลเมืองแสนสุข ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ระยะทางห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 89 กิโลเมตร มีแหล่งท่องเที่ยวที่เก่าแก่ และมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทยคือ ชายหาดบางแสน  เนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ของประชาชนทุกระดับ เป็นที่รู้จัก และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นชาวไทย หรือต่างประเทศมาเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 50 ปี นอกจากชายหาดบางแสนแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น แหลมแท่น, เขาสามมุข (ซึ่งมีประวัติเกี่ยวกับความรักของหนุ่มสาวที่จบชีวิตลง ตามคำสาบานที่ให้ไว้ต่อกัน), สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล (ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยบูรพา), ตลาดหนองมน ซึ่งเป็นตลาดที่จำหน่ายสินค้าของที่ระลึก ผลิตภัณฑ์ทางทะเลทั้งสด และแห้ง, ผลไม้แปรรูป, ขนมขบเคี้ยว เหมาะที่จะเป็นของฝาก นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวทีน่าสนใจแล้วยังมีโบราณสถาน ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากรอีกหลายแห่ง เช่นวัดบางเป้ง, วัดตาลล้อม และยังมีประเพณีวัฒนธรรมที่สืบสานต่อกันมายาวนาน คือ ประเพณีสงกรานต์  หรือประเพณีก่อพระทรายวันไหลบางแสน ซึ่งเทศบาลเมืองแสนสุขยังคงอนุรักษ์ใว้ให้ชนรุ่นหลังได้สัมผัสกันทุกปี ภาพที่นำมาวางนี้ ถ่ายเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๙ ก่อนที่จะเขียนประวัตินี้กว่า ๓๐ ปี ครับ จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 05:35:59

ความคิดเห็นที่ 4 เลยบางแสนไปทางใต้ ตามถนนสุขุมวิท ก็ถึงอำเภอบางละมุง จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 05:55:13

ความคิดเห็นที่ 5 อำเภอบางละมุง จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี อำเภอบางละมุง คืออำเภอหนึ่งในจังหวัดชลบุรี มีพื้นที่รวมประมาณ 727 ตารางกิโลเมตร หรือ 469,021 ไร่ แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 8 ตำบล 60 หมู่บ้าน ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ จะมีศาสนาอื่นบ้างเป็นกลุ่มย่อย อำเภอบางละมุงตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัด ห่างจากอำเภอเมืองชลบุรีไปทางใต้ประมาณ 45 กิโลเมตร และห่างจากกรุงเทพฯ 142 กิโลเมตร ประวัติ อำเภอบางละมุงแต่เดิมมีฐานะเป็นเมืองบางละมุง ตั้งอยู่ที่บ้านบางละมุง ตำบลบางละมุง จนถึงปี พ.ศ. 2444 ได้ยุบเมืองบางละมุงเป็นอำเภอขึ้นต่อจังหวัดชลบุรี โดยมีที่ว่าการอำเภอตั้งอยู่บริเวณริมคลองนกยาง ซึ่งขณะนั้นบริเวณดังกล่าวเป็นท่าน้ำที่สำคัญทั้งทางด้านการคมนาคมและเป็นที่ชุมนุมของเรือสินค้าต่าง ๆ ต่อมาคลองนกยางตื้นเขินไม่สะดวกต่อเรือสินค้าต่าง ๆ จะล่องเข้าออก ทั้งสภาพพื้นที่ไม่เหมาะสมที่จะขยายชุมชนให้กว้างขวาง นายอำเภอสมัยนั้น คือ นายเจิม (ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นพระยาสัตยานุกูล) จึงย้ายที่ว่าการอำเภอไปตั้งที่ใหม่บริเวณริมทะเลในตำบลนาเกลือ เมื่อ พ.ศ. 2452 ในปี พ.ศ. 2480 ทางราชการได้แบ่งแยกพื้นที่ตำบลสัตหีบเป็นกิ่งอำเภอขึ้นอยู่ในความปกครองของอำเภอบางละมุง จนถึงปี พ.ศ. 2496 จึงยกฐานะกิ่งอำเภอสัตหีบขึ้นเป็นอำเภอสัตหีบ แยกออกไปจากอำเภอบางละมุงโดยสมบูรณ์ตั้งแต่นั้นมา เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2495 เกิดวาตภัยร้ายแรง ตัวอาคารที่ว่าการอำเภอพังเสียหายจนไม่สามารถใช้การได้ จึงได้ย้ายไปตั้งที่ทำการชั่วคราวที่โรงเรียนบางละมุง ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท ต่อมา พ.ศ. 2496 ทางราชการได้อนุมัติเงินงบประมาณให้สร้างที่ว่าการอำเภอหลังใหม่บริเวณใกล้ ๆ กับโรงเรียนบางละมุง และได้ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติราชการจนทุกวันนี้ จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 06:06:40

ความคิดเห็นที่ 6 ใกล้เคียงกับ บางละมุง นั้นเอง ก็ถึงหาดพัทยา เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๙ หน้าตาเป็นอย่างนี้ครับ แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 54 06:28:49 จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 06:10:03

ความคิดเห็นที่ 7 เมืองพัทยา จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี พัทยา หรือ เมืองพัทยา เป็นเขตปกครองพิเศษเขตหนึ่งที่ตั้งตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา ฉบับ วันที่ 29 พฤจิกายน พ.ศ. 2521 (เทียบเท่าเทศบาลนคร) ในเขตจังหวัดชลบุรี จัดเป็นเมืองท่องเที่ยวนานาชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลกโดยเฉพาะหาดทรายที่ทอดยาวไปตามแนวชายฝั่งทะเล จัดได้ว่ามีความสวยงามอีกแห่งของประเทศไทย อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 140 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนฝั่งทะเลทางทิศตะวันออกของอ่าวไทย ซึ่งพัทยาแบ่งเป็น 4 ส่วนได้แก่ พัทยาเหนือ พัทยากลาง พัทยาใต้ และหาดจอมเทียน ประวัติเมืองพัทยา เริ่มรู้จักกันจากคำบอกเล่าต่อกันมาว่า เมื่อ พ.ศ. 2310 ก่อนเสียกรุงศรีอยุธยาให้กับพม่า 3 เดือน พระยาตาก (สิน) ขณะนั้นยังเป็นพระยากำแพงเพชร ลงความเห็นว่า หากกรุงศรีอยุธยายังต่อสู้กับพม่าอย่างอ่อนแอเช่นนี้ ต่อไปจะต้องสูญเสียกรุงให้พม่าอย่างแน่นอน พระยากำแพงเพชรจึงรวบรวมสมัครพรรคพวกออกไปตั้งหลักใหม่ ให้มีกำลังทัพเข้มแข็งขึ้นค่อยกลับมากู้กรุงคืน พระยากำแพงเพชรได้เริ่มเคลื่อนทัพออกจากค่ายวัดพิชัยมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ สู้พรางร่นถอยหนีการตามล่า ของทหารพม่าไปพลาง จนกระทั่งเลยเข้าแขวงเมืองชลบุรี พระยากำแพงเพชรหยุดพักทัพที่บริเวณหน้าวัดใหญ่อินทารามในปัจจุบัน แล้วเดินทัพมุ่งตรงไปยังจันทบุรี ระหว่างทางได้พักที่บ้านหนองไผ่ ตำบลนาเกลือ แขวงเมืองบางละมุง ปัจจุบันอยู่ด้านหลังสถานีตำรวจภูธรพัทยา ตามพระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขาเล่ม 2 กล่าวเอาไว้ว่า ขณะที่ นายกลม เป็นนายชุมนุมคุมไพร่ พลอยู่ที่นั่น ตั้งทัพคอยสกัดคิดจะต่อรองพระยากำแพงเพชรในตอนนั้นขึ้นช้างพลายถือปืนนกสับรางแดงพร้อม ด้วยพลทหารที่ร่วมเดินทางมาแห่ล้อมหน้าหลัง ตรงเข้าไปในระหว่างพวกพลนายกลมมาสกัดอยู่ ด้วยเดชะบารมีบันดาลให้นายกลมเกิดเกรงกลัวพระเดชานุภาพวางอาวุธสิ้น พาพรรคพวกพลเข้าร่วมกองทัพกับพระยากำแพง เพชร จากนั้นพระยากำแพงเพชรก็นำทัพไปหยุดประทับ ณ สถานที่ที่มีหนองน้ำครั้งรุ่งขึ้น หรือวันอังคารแรม 6 ค่ำ เดือนยี่ นายกลมจึงนำไพร่พลหมี่นหนึ่งนำทัพไปถึง ณ ตำบลหนึ่ง และหยุดพักเสียหนึ่งคืน วันต่อมาจึงเดินทัพมาถึง นาจอมเทียนและทุ่งไก่เตี้ย สัตหีบ โดยหยุดพักแรมแห่งละคืน ต่อมาชาวบ้านก็เรียกตำบลนี้ว่า ทัพพระยา และเปลี่ยนมาเรียกใหม่ พัทธยา เนื่องจากเห็นว่าตรงบริเวณที่พระยาตากมาตั้งทัพนั้นทำเลดี และมีลมทะเลชื่อ ลมพัทธยา ซึ่งก็คือลมที่พัดมาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ไปทิศตะวันออกเฉียงเหนือในต้นฤดูฝน จึงเรียกสถานที่ แห่งนี้ว่า หมู่บ้านพัทธยา ต่อมาปัจจุบันคำว่า พัทธยา ได้เขียนใหม่เป็น พัทยา จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 06:13:41

ความคิดเห็นที่ 8 บางแสนเมื่อปีที่แล้วครับ จากคุณ : บ้านหนองจันสอน เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 06:14:00

ความคิดเห็นที่ 9 จากพัทยาเลี้ยวซ้ายผ่านอำเภอสัตหีบไปอีกพอสมควร ก็จะถึงเมืองระยอง เห็นภาพชายทะเลยามเย็น น่าพักผ่อนมาก แม้จะเปลี่ยวเต็มทีครับ จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 06:17:57

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณ คุณวิรุฬ บ้านหนองจันสอน สำหรับภาพบางแสนในปัจจุบัน ผมหลับตาทีไรเห็นแต่ร่มกันแดดเต็มไปทั้งหาดเลยครับ ขอเล่าเรื่องเมืองระยอง เป็นตอนสุดท้ายของชุดนี้ครับ ระยอง  จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี จังหวัดระยอง เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกของประเทศไทย เป็นจังหวัดที่มีรายได้ประชากรต่อหัวสูงที่สุดในประเทศ และผลิตภันฑ์มวลรวมจังหวัดอยู่ในอันดับ 3 ของประเทศไทย ประวัติศาสตร์ ระยองมีชื่อในประวัติศาสตร์ไทยครั้งแรกในครั้งที่กรุงศรีอยุธยาแตก พระเจ้าตากสินมหาราชเป็นช่วงสั้นก่อนที่จะเข้าตีจันทบุรีและรวบรวมกำลังทหารเพื่อยึดกู้กรุงศรีอยุธยา ระหว่างที่พระองค์ประทับอยู่ในระยอง กองทัพเรือก็ได้ถูกจัดตั้งขึ้นด้วย ปัจจุบันนี้ในเมืองระยองผู้คนก็ยังนับถือพระเจ้าตากสินมหาราช โดยเห็นได้จากอนุสาวรีย์ของพระองค์ ณ วัดลุ่มมหาชัยชุมพลในตัวเมืองระยองที่มีผู้คนมาสักการะมากมาย มากไปกว่านั้นถนนสายสำคัญในตัวเมืองระยองยังมีชื่อว่า "ถนนตากสินมหาราช" คำว่าระยองเพี้ยนมาจากราย็องเป็นภาษาชองอาจมีความหมายสองอย่าง คือ เขตแดน ไม้ประดู่ นอกจากนี้ยังมีภาษาชองคำว่า เพ ชะเมา แกลง ซึ่งการปกครองของระยองในอดีตเคยมีสามอำเภอ ท่าประดู่ บ้านค่าย และแกลง อำเภอท่าประดู่มีประชากรจำนวนน้อยเลยถูกยุบให้เป็นตำบลท่าประดู่ไปรวมตัวกับเมืองระยอง ส่วนอำเภอแกลงเคยเป็นจังหวัดมาก่อนแต่มีประชากรอยู่น้อยมากไปรวมตัวกับเมืองถูกยุบให้เป็นอำเภอ ประชากรที่นครระยองส่วนใหญ่เป็นชาวชองที่สืบเชื้อสายจากเขมรผสมกับจีนที่เหลือเป็นชาวจีนและชาวระยอง แต่ชาวชองบางส่วนผสมกับจีนอยู่ที่อำเภอแกลง ชาวระยองส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ นอกจากนี้ยังมีผู้นับถือศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม และลัทธิเต๋าส่วนมากเป็นชาวจีน ภาษาที่ใช้ในเมืองระยองคือภาษาชองพูดได้บางส่วน ภาษาจีนพูดได้เล็กน้อย แต่ภาษาไทยกลางพูดได้ทั่วจังหวัด การพูดของชาวชองคือการพูดธรรมดา หางเสียงของชาวชอง พูดคำว่า ฮิ หมายถึงค่ะ ครับ จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 06:24:27

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม ฮิ ! ? จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 06:27:16

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีครับท่านเจียวต้าย......        ดูภาพบางแสนของท่านแล้วนึกถึงอดีต  ในสายตาของเด็กอายุ 6ขวบที่ได้เที่ยวบางแสน ครั้งแรก ตอนนั้นช่างไกลซะเหลือเกิน มีโป๊ะอยู่ไม่ห่างจากฝั่งนักพอมองเห็น แต่คงว่ายน้ำไปไม่ถึงแน่         มีเรือใบลำเล็กๆนั่งได้ซักสี่ห้าคน ให้เช่านั่งเป็นชั่วโมง วิ่งวนรอบโป๊ะ ตอนน้ำลงพวกผู้ใหญ่ ให้เรือจอดแล้วโดดลงน้ำ ลึกแค่หน้าอก แล้วดำน้ำช่วยกันงม หอยคราง (ตัวใหญ่กว่าหอยแครง) เก็บใส่ถังได้มากมายสนุกสนาน ก่อนกลับเข้าฝั่ง          จำได้ว่าที่บางพระ มีบ่อน้ำพุร้อน เดี๋ยวนี้ไม่เห็นมีใครกล่าวถึงเลย ยังร้อนอยู่ไหมหรือว่าไม่มีใครสนใจจะไปเที่ยวกันแล้ว...ขอบคุณที่นำภาพเก่าๆมาให้รำลึกอดีต ครับ จากคุณ : นายเก่าคนก่อน เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 06:54:08

ความคิดเห็นที่ 13  สวัสดีครับ คุณอาเจียวต้าย ชอบภาพสัตหีบ บรรยากาศธรรมชาติโดดเดี่ยวอย่างนั้นหาไม่ได้อีกแล้ว ที่บางแสนผมเคยขี่จักรยานนาวาไปกับสาว ไปไกลถึงโป๊ะจับปลา อยู่ห่างจากฝั่งไกลพอสมควร มานึกอีกทีไปได้อย่างไรไม่รู้จักกลัว จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 08:20:23

ความคิดเห็นที่ 14  บางแสนยามเย็น มีเก้าอี้ผ้าใบให้นั่งนอนเล่น แม่ค้าเอาปูม้าต้มกุ้งหอยมาเดินขาย น้ำจิ้มรสเด็ด อยากกินเบียร์ก็มาส่งถึงที่ ค่ำลงก็เข้าร้านสุดหาด มีอาหารทะเลสดๆ อร่อยๆ  เพื่อนเล่าว่ามีร้านของดาราคนหนึ่ง ที่แสดงเรื่อง พิภพ มัจจุราช แสดงเป็นพระยายม ผมคงกลัวผีจึงไม่กล้าไป ขับเลยไปทางศรีราชา หาดผาแดงร้านริมทะเล กลางคืนเวลามีเรือใหญ่มาจอด ในเรือเปิดไฟสว่าง มองออกไปสวยงามมาก  ไปถึงศรีราชาริมทะเลมีร้านอาหารหลายร้าน ล้วนบรรยากาศดี มีร้านหนึ่งคนเสริฟแต่งกายมีผ้าคลุมผม ประกอบกับโคมไฟที่โต๊ะ ผมไปเล่าเพื่อนรุ่นพี่ฟังอย่างตั้งใจ ถามพิกัดเสร็จสรรพ ทราบข่าวภายหลังแอบชวนสาวที่ทำงานไปทานมื้อเย็น บรรยากาศโรแมนติกเป็นใจ ไม่นานก็ได้ข่าวดี สงสัยจะเข้าร้านสุดทางรัก จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 08:40:21

ความคิดเห็นที่ 15 สวัสดียามสายครับ ลุงเจียวต้าย... ภาพชุดนี้ ทำให้ผมนึกถึงบรรยากาศที่เงียบสงบของหาดบางแสนและชายฝั่งทะเลตะวันออก ก่อนที่จะกลายเป็นสถานที่อึกทึกครึกโครมเช่นในปัจจุบันนี้ สำหรับชาวระยองแท้ๆ จะมีคำพูดติดปากซึ่งคนต่างถิ่นไม่ค่อยได้ยิน เวลาตกปากตกคำ หรือเห็นพ้องกับคนพูด คือคำว่า "เอาได้" "แม่สาวคนนี้สวยจริงๆ นะ ?" "เอาได้" หากใครไปเที่ยวชมตลาดร้านถิ่นในระยอง ลองฟังดูดีๆ เถิดครับ ฮ่าๆๆ แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 54 09:03:04 จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 09:00:19

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีครับคุณอา ตอนเด็กเคยไปเที่ยวทะเลบ่อยๆจำได้ว่าเคยเก็นปูเสฉวนมาด้วย ไม่นานก็ตาย ไม่รู้ทำไมไม่ลืมคงเป็นเพราะวัยเด็กไม่รู้อะไร สมัยนี้ไปเที่ยวต้องช่วย กันอนุรักษ์ฝากไว้แต่เพียงรอยเท้าบนผืนทรายเท่านั้นพอ ขอบคุณครับคุณอา จากคุณ : นายธุรการ เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 09:13:09

ความคิดเห็นที่ 17 ณ.ปัจจุบันนี้ มองภาพในอดีตไม่เห็นเลยนะคะคุณลุง จากคุณ : รัตน์แปลว่าแก้ว เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 09:17:02

ความคิดเห็นที่ 18 ขอตามไปบางแสน - พัทยา ด้วยคนคะ อยากไปจังเลย ไปหม่ำหมึกกับปู ของโปรด จากคุณ : KaNKaMoN เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 11:22:03

ความคิดเห็นที่ 19 สวัสดีครับคุณอา บางแสนสมัยเด็กๆ ผมเคยไปเช่ารถจักรยานขี่เล่นตามถนน ไม่ค่อยมารถมากเท่าไหร่ เดี๋ยวนี้ถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ แค่เดินข้ามถนนก็ยังยากเลยครับ จากคุณ : ตาแว่น (chanyout) เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 11:40:28

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีค้าบคุณตา คิดถึงคุณตาเสมอนะค้าบ แง๊วววว จากคุณ : ข้าวโพดแมวติสต์แตก เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 12:13:31

ความคิดเห็นที่ 21 ก้อนหินทางซ้ายมือตั้งอยู่ที่แหลมแท่น ปัจจุบันก็คงยังอยู่ ไม่มีใครย้ายไปไหนนะครับ. ................................................................................................................ อารมณ์ขันของ คุณลุงเจียวต้าย จากคุณ : ขอพบในฝัน เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 14:39:22

ความคิดเห็นที่ 22 ทะเลบางแสน เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ของคนสมัยก่อน ที่ไม่ไกลมาก และสะดวก  กว่า ไปหัวหิน ที่ต้องนั่งรถไฟ ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง ครึ่งวัน ต้องพักค้างคืน แต่ที่บางแสน นั่งรถจากขนส่งเอกมัย แถววัดธาตุทอง เดินทางเช้าไป เย็นกลับได้ หรือจะขับรถจี๊บคันเก่าก็ไปถึง โดยเครื่องไม่ร้อน... คิดถึงเปลือกหอย ที่นำมาทำเป็นปิ่นปักผม เป็นสร้อยคอ สร้อยข้อมือ มีปูเฉสวน ให้ไล่จับ เก็บใส่ถัง เล่นน้ำทะเลเค็มๆ ขี่จักรยาน สามตอน ที่ต้องสามัคคี ปั่น...ไปทางเขาสามมุก แหลมแท่น ตอนนี้ ได้แต่  ไปเช่าเก้าอี้ผ้าใบ นอนอ่านหนังสือ รับลมทะเล ไม่กล้าลงเล่นน้ำแล้วค่ะ สมัยคุณอา  ไม่มีเตียงผ้าใบ ร้านอาหารชายหาด ก็ไม่มี โล่ง..มาก...อิอิ จากคุณ : nupvs เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 16:03:49

ความคิดเห็นที่ 23 สวัสดีครับ             ติดตามรับชมรับฟังครับ จากคุณ : Jiu_Bond เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 17:35:34

ความคิดเห็นที่ 24 คงไม่มีใครรู้แล้วละมังครับ คุณนายเก่าคนก่อน  ว่าบางพระมีบ่อน้ำร้อน เพราะเขาเลยไปดูระบำที่พัทยากันหมดแล้วครับ ผมเคยไปบางแสนสมัยหนุ่มแน่นครับ คุณ TinyNu ดันลุยน้ำแค่เอวไปจนถึงไม้ไผ่ที่เขาปักไว้ให้หอยแมลงภู่เกาะ พอน้ำขึ้นขากลับเท้าหยั่งไม่ถึงต้องว่ายน้ำ เวลาก็ค่ำลงรอน ๆ รู้สึกว่าเหนื่อยเหลือเกิน กว่าจะถึงที่ยืนได้ เพราะหาดบางแสนมีความลาดชันมากกว่าทางฝั่งหัวหินครับ คำของคนกรุงเทพมีอยู่คำหนึ่งครับ คุณowl2 พอได้ ซึ่งย่อมาจาก พอไปได้ หรือพอใช้ได้ เช่น "เด็กคนนี้สวยดีนะ" "พอได้ว่ะ" ดังนี้ครับ ทะเลของคุณ นายธุรการ สวยจริง ๆ ครับ ใช้คอมช่วยหรือเปล่าครับ ทุกสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาครับ คุณรัตน์แปลว่าแก้ว ยิ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เขายิ่งต้องพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วครับ ผมเคยไปหาดจอมเทียน เข้าร้านสุดท้ายปลายโต่ง อาหารทะเลเขาดีจริง ๆ แต่เดี๋ยวนี้ตัดขาดกันแล้วครับคุณ KaNKaMoN จักรยานสองล้อชิดซ้ายไปแล้วครับคุณ ตาแว่น (chanyout) รถยนต์ยังต้องวนไม่มีที่จะจอดเลยครับ เช่นกันครับ คุณ ข้าวโพดแมวติสต์แตก สบายดีหรือครับ คือแถวนั้นดูเหมือนเขาทำศาลายื่นลงไปในทะเลครับ คุณขอพบในฝัน ผมเลยมองไม่เห็นหินก้อนนั้นครับ ในสมัยก่อน ของที่ระลึกผลิตจากเปลือกหอย มีมากมายนะครับ คุณ nupvs เดี๋ยวนี้คงไม่มีแล้วมังครับ ขอบคุณครับ คุณJiu_Bond  เชิญตามสบายครับ ขอบคุณ คุณลุงแก่, คุณ Oncidium., และคุณจริงใจ.......สบายจริง ด้วยครับ. จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 18:57:07

ความคิดเห็นที่ 25 สวัสดีค่ะคุณตา ดีใจจัง มาเที่ยวแถวๆบ้าน หนูเกิดที่กรุงเทพค่ะ แต่ครอบครัวที่บ้านย้ายมาระยองนานแล้วฮิ ค่ะ:) จากคุณ : alinada เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 23:13:09

ความคิดเห็นที่ 26 ร่มชายหาดระยองก็สวยดีนะครับ ผมไปหารูปเรือใบเช่าแถวบางแสนได้แล้วครับ เวลาห่างจากภาพในกระทู้หลายปี แต่ก็ยังก่อนปัจจุบันหลายสิบปีครับ. จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 18:33:32