Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
พันธมิตร กำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง ....... ด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง ติดต่อทีมงาน

ผมเชื่อว่าคนไทยทุกคนต่างก็มี ความรักในชาติไทยของตัวเองเหมือนกัน แต่การแสดงออกซึ่งความรักชาตินั้นอาจจะแตกต่างกันไปแล้วแต่บุคคล ใครคนหนึ่งอาจจะร้องตะโกนลั่นฟ้าว่า "ข้ารักชาติโว๊ย" ใน ขณะที่มีใครอีกคนหนึ่งอาจจะเก็บความรู้สึกรักชาตินั้นไว้ในใจ ไม่มีความจำเป็นต้องไปตะโกนบอกใคร แต่ถึงอย่างไร ผมก็ยังเชื่อว่าคนสองคนนั้นต่างก็มีความรักชาติเหมือนๆกัน

และเมื่อ ใดก็ตาม ที่มีใครคนหนึ่งลุกขึ้นตะโกนว่า ชาติของเราถูกรุกราน ผมเชื่อว่าถึงเวลานั้น คนไทยผู้มีความรักชาติของตนทุกคน ต่างต้องรู้สึกไม่พอใจและจะต้องเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ

พันธมิตรที่รัก คุณทำถูกต้องแล้วครับ กับการออกมาป่าวร้องให้พี่น้องชาวไทยได้รับรู้ว่า ไอ้เขมรชั่วช้ามันกำลังรุกรานแผ่นดินไทย
พันธมิตรที่รัก คุณทำถูกต้องแล้วครับ กับการออกมาป่าวร้องว่า ชาติไทยของเรากำลังจะเสียดินแดน

พันธมิตรที่รัก ผมเชื่อว่าสิ่งที่คุณพูดมาทั้งหมด เป็นความจริงครับ

จริงครับ ที่ ประชาชนและทหารกัมพูชา ต่างก็รุกล้ำเข้ามาปักหลักทำมาหากินอยู่บนผืนแผ่นดินที่เราเชื่อกันว่าเป็น ผืนแผ่นดินไทย(ที่ผมเองก็รู้สึกไม่สบายใจที่รัฐบาลใช้คำว่าพื้นที่ทับซ้อนมา โดยตลอด)

จริงครับ ที่ทหารไทย ได้ปล่อยปละละเลยให้ทั้งทหารและชาวบ้านชาวกัมพูชา รุกล้ำเข้ามาบนผืนแผ่นดินไทย โดยไม่ได้ทำหน้าปกปักษ์รักษาผืนแผ่นดินอย่างเต็มที่ อย่างที่ควรจะเป็น

จริงครับ ที่ผ่านๆมา ทหารไทย ได้ แสดงออกซึ่งความอ่อนแอให้เพื่อนบ้านได้เห็นมาเป็นลำดับ อันอาจเนื่องมาจากรัฐบาลที่ผ่านๆมา ซึ่งถือเป็นผู้บังคับบัญชาของทหาร ต่างมีแนวทางในการทำงานกับประเทศเพื่อนบ้านไปในแนวทางโอนอ่อนผ่อนตาม จะด้วยความหวังดีต่อชาติ หรืออาจจะเพื่อผลประโยชน์ทางธุกิจส่วนตัว ผมเองก็มิอาจทราบได้

จริงครับ ที่รัฐบาลไทย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดที่ผ่านๆมาหรือว่ารัฐบาลชุดนี้ ต่างก็ไม่มีความใส่ใจ หรือมีความตั้งอกตั้งใจในการแก้ปัญหาข้อพิพาทอย่างจริงจัง เพราะลำพังแค่แก้ปัญหาของตัว(รัฐบาล)เอง ยังแทบเอาตัวไม่รอดกันแทบทุกรัฐบาล

จริงครับ ที่รัฐบาลชุดนี้ ไม่ได้มีท่าทีขึงขังจริงจัง ต่อข้อพิพาทระหว่างประเทศ จนดูคล้ายกับว่า ชาติของเรากำลังอ่อนแอกว่าและปล่อยให้กัมพูชารุกราน

ผมยอมรับครับ ว่าทั้งรัฐบาลชุดนี้และแทบจะทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ใส่ใจและมุ่งมั่นที่จะตักตวงผลประโยชน์แก่ตัวเองและพวกพ้อง มากกว่าการมองเห็นความสำคัญของปัญหาการรุกล้ำชายแดนของเพื่อนบ้าน

ผมยอมรับครับ ว่าที่ผ่านมา คนไทยหลายๆคน(รวมทั้งตัวผมเอง) แทบจะไม่ได้ให้ความใส่ใจในปัญหานี้ อาจจะด้วยความรู้สึกว่า มันยังเป็นปัญหาที่ไกลตัว ลำพังแค่ทำงานเลี้ยงตัวเองให้รอดไปวันๆ มันก็แสนลำบากยากเข็ญเต็มที ไหนเลยจะมีเวลาไปห่วงหาอาทร ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องร่วมชาติตามแนวชายแดน

พันธมิตรที่รัก คุณทำถูกต้องแล้วครับ กับการออกมาปลุกให้ทั้งคนไทยและรัฐบาล ให้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหานี้ เพราะหากไม่มีกลุ่มคนเช่นพันธมิตร ก็อาจจะยังไม่มีใครคิดใส่ใจในปัญหาใหญ่ของบ้านเมืองอย่างจริงจังก็ได้

แต่ มันควรหรือไม่ครับ ที่คุณกำลังทำสิ่งที่ถูกต้องเหล่านั้น ไปพร้อมๆกับการยื่นเงื่อนไขทั้งสามข้อ ที่คุณก็น่าจะรู้อยู่แล้วแก่ใจ ว่าไม่น่าจะมีรัฐบาลไหน ให้การตอบสนองในข้อเรียกร้องของคุณได้

พันธมิตร ครับ ที่คุณบอกว่า "ด้วย MOU43 จะทำให้เราเสียดินแดน" นั้น ผมเชื่ออย่างที่พันธมิตรพูดครับว่า น่าจะมีความเป็นไปได้ และในขณะเดียวกัน ผมก็เชื่อที่นายกท่านรัฐมนตรีบอกด้วยว่า "ด้วย MOU43 เราจะมีกรอบในการเจรจาและเราจะไม่เสียดินแดน"

ทำไมผมถึงคิดหรือเชื่อ เช่นนั้น ในเมื่อสองฝ่ายมีความเห็นแย้งกัน แล้วผมมาบอกว่า เชื่อทั้งสองฝ่ายได้อย่างไร คำตอบง่ายๆ ก็คือผลของการเจรจามันยังไม่เกิดไงครับ จึงมีความเป็นได้ในทั้งสองทางว่า เราอาจจะรักษาดินแดนเอาไว้ได้หรือเราจะต้องเสียดินแดนเหล่านั้นไป เพราะตัวแปรที่จะทำให้เราได้มาหรือเสียไปนั้น มันไม่ได้อยู่ที่กระดาษเพียงไม่กี่แผ่นนั้น แต่มันขึ้นอยู่กับคนที่เราแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนในการเจรจาตามกรอบของสัญญา นั้นต่างหากล่ะครับ ว่าคนๆนั้น หรือกลุ่มคนกลุ่มนั้น จะพร้อมใจกันเจรจา ด้วยจิตวิญญาณของคนรักชาติ และมีความพยายามอย่างเต็มที่ในการที่จะปกปักษ์รักษาไว้ซึ่งผืนแผ่นดินที่เรา ทั้งหลายเชื่อกันว่ามันคือผืนแผ่นดินของเราหรือไม่ หากจะมีคนไทยซึ่งไม่มีความรักในชาติกำเนิดของตน แต่มุ่งไปที่ผลประโยชน์ส่วนตัวไปเป็นตัวแทนในการเจรจา ไม่ว่า MOU43 จะยังคงอยู่หรือโดนฉีกทิ้งไปแล้วหรือไม่ ผลที่ได้ก็คงไม่ต่างกัน

ผม ไม่ใช่นักประวัติศาสตร์ จึงไม่มีความสามารถที่จะไปยกเรื่องราวแต่ก่อนกาลที่ผ่านมา เพื่อที่จะโอ้อวดตน หรือเหยียบหัวคนที่ไม่มีความรู้ทางประวัติศาสตร์ได้ แต่เอาแค่เหตุการณ์ใกล้ๆตัวที่ผม(โชคร้าย)เกิดมาทัน ได้เห็นการกระทำอันพอจะเรียกได้ว่าน่าจะเข้าข่ายขายชาติได้ ก็อดีตรัฐมนตรีตาเหล่คนหนึ่งของไทยนั่นไงครับ ภายใต้การมีอยู่ของ MOU43 ไอ้คนๆนั้น มันก็ยังใช้ความสามารถในการเจรจาความเมือง ให้ประโยชน์ตกแก่ประเทศเพื่อนบ้านได้ และ(น่าจะ)เป็นชนวนชั่วร้ายหนึ่ง ซึ่งทำให้ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศนี้ มีโอกาสที่จะปะทุเป็นการรบราฆ่าฟันกันได้ในเวลานี้

เห็นไหมล่ะครับ ไม่ว่า MOU43 จะยังคงอยู่หรือโดนฉีกทิ้งหรือไม่ ความสำคัญก็ไม่เท่ากับเจตนาและความตั้งใจ ของคนที่จะเป็นตัวแทนของแต่ละชาติในการเจรจา

แล้วเราควรจะไว้ใจใคร รัฐบาลชุดที่ผ่านๆ หรือรัฐบาลชุดนี้ หรือรัฐบาลชุดหน้า ซึ่งเราก็ยังไม่รู้ว่าหน้าตาจะเป็นอย่างไร

การ ที่จะมีใครซักคน จะลุกขึ้นมาชี้หน้าด่าใครว่า "ไม่รักชาติ" นั้น ฟังแล้วมันเป็นเรื่องใหญ่นะครับ แล้วถ้าถึงขนาดว่า ถ้าจะมีใครซักคนโดนเพื่อนร่วมชาติลุกขึ้นมาชี้หน้า ว่าเป็น "คนขายชาติ" นี่ ผมเชื่อว่าคนๆนั้นต้องมีการกระทำอันเป็นความเลวให้ประจักษ์อย่างพอสมควรที เดียว และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่คุณกำลังลุกขึ้นมาชี้หน้าว่าขายชาติอยู่ตอนนี้ คือคนที่กำลังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งควรจะมีเกียรติมีศักศรีย์ของความเป็นผู้นำ หากคุณจะทำการศึกกับเพื่อนบ้าน

"นายกขายชาติ" ... "รัฐบาลทาสเขมร" ... "นายกไทย ใจเขมร" ... "นายกรัฐมนตรี ( ^o^ )รับใช้ฮุนเซน" และอีกสารพัดข้อกล่าวหาที่คุณกำลังประเคนใส่นายกรัฐมนตรี ที่ผมรู้สึกว่า มันเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงเกินไป ผมฟังแล้วหดหู่เต็มที ที่เรากำลังจะหาเรื่องท้าตีท้าต่อยกับเพื่อนบ้าน ด้วยการประจานด่าทอผู้นำของเราเอง

ผมไม่กล้าที่จะยืนยันหรอกว่า นายกรัฐมนตรีคนนี้ เป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุด หรือนายกรัฐมนตรีคนต่อไป จะเป็นนายกที่ดีกว่านี้หรือไม่ แต่ที่ผมได้เห็น นายกรัฐมนตรีคนที่ผ่านๆมา แย่กว่านี้

ผม ไม่กล้าที่จะยืนยันหรอกว่า รัฐบาลชุดนี้ เป็นรัฐบาลที่ดีที่สุด หรือรัฐบาลชุดต่อไป จะเป็นรัฐบาลที่ดีกว่านี้หรือไม่ แต่ที่ผมได้เห็น รัฐบาลที่ผ่านๆมา เลวกว่านี้

พันธ มิตครับ ผมไม่เข้าใจจริงๆว่า คุณกำลังเรียกร้องต้องการสิ่งใด คุณกำลังรุกไล่ กดดัน ยื่นเงื่อนไข ให้รัฐบาลนี้แก้ปัญหาที่ไม่ได้ก่อเกิดโดยตัวรัฐบาลเองให้จงได้ ถ้าแก้ปัญหานี้ไม่ได้ ก็จงไสหัวไป แล้วถ้าผมจะออกไปช่วยคุณ เพื่อขับไล่รัฐบาลชุดนี้ออกไป แล้วปัญหามันจะได้รับการแก้ไขอย่างไรครับ คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่า รัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาแทนที่รัฐบาลที่เราจะช่วยกันขับไล่ออกไป จะเข้ามาแก้ไขปัญหาที่สั่งสมมายาวนานได้อย่างทันท่วงทีอย่างที่คุณเรียกร้อง ต้องการ และถ้าเป็นอย่างนั้น เรามิต้องออกมาขับไล่กันทุกรัฐบาลหรือครับ

ถ้าคุณจะถามผมว่า แล้วผมมั่นใจหรือว่า รัฐบาลชุดนี้จะแก้ปัญหานี้ได้ ผมก็ขอตอบกลับด้วยความมั่นใจ ว่า "ไม่มีทาง" ครับ กับปัญหาที่สั่งสมมาเป็นเวลายาวนานนับหลายสิบปี ผมไม่เชื่อว่าจะมีรัฐบาลชุดไหน จะสามารถแก้ปัญหานี้ได้ในเร็ววันนี้ สำคัญอยู่ที่ เราจะมีความเชื่อมั่นในรัฐบาลชุดนั้นๆได้หรือไม่ ว่าเมื่อถึงเวลาที่จะต้องเดินไปสู่โต๊ะการเจรจา รัฐบาลชุดนั้นจะมีความจริงใจ ให้ความสำคัญต่อผลประโยชน์ของชาติหรือให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ส่วนตนมากก ว่ากัน

แต่ที่ผมพอจะมองเห็นได้ในรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผมมองไปที่หัวหน้ารัฐบาล ผมยังมองไม่เห็นว่า นายกรัฐมนตรีคนนี้ มีผลประโยชน์ส่วนตนใดๆแอบแฝงอยู่ในการทำหน้าที่เป็นหัวหน้ารัฐบาล และที่สำคัญ ผมยังไม่เห็นการกระทำใดๆของนายกรัฐมนตรี ที่ควรค่าแก่ข้อกล่าวหาอย่างรุนแรงว่า "ขายชาติ"

มัน แปลกดีนะครับ กับการออกมาเรียกร้องให้ผู้นำและรัฐบาล แสดงออกซึ่งความเป็นปฏิปักษ์กับเพื่อนบ้าน โดยการลุกขึ้นมาด่าทอรัฐบาลของตัวเอง แทนที่การประนามด่าทอประเทศเพื่อนบ้าน และยกย่องให้เกียรติผู้นำของตัวเอง และที่สำคัญไปกว่านั้น เริ่มเห็นมีเอกสารที่ประทับตราว่า "เอกสารลับ" ออกมาเพ่นพ่านอยู่กลางเวทีที่ชุมนุม ถ้าเป็นความขัดแย้งภายในประเทศก็คงไม่เป็นไร แต่ผมประหลาดใจ ว่าในขณะที่คุณออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลมีการดำเนินการใดๆกับเพื่อนบ้าน คุณกลับนำเอกสารที่ควรจะเป็นความลับสำคัญภายในประเทศ ออกมาเปิดเผยให้เป็นที่ทราบโดยทั่วกันซะอย่างนั้น มันจะมีประโยชน์อะไร ในการออกมาเรียกร้องเพื่อผลประโยชน์ของชาติเราบ้าง

ผมเข้าใจครับว่า ปัญหาข้อพิพาทระหว่างชายแดน มีความสำคัญเป็นลำดับต้นๆในขณะนี้ ที่รัฐบาลจะต้องทำ แต่ผมยังไม่เห็นความจำเป็นที่จะเห็นประชาชน ลุกขึ้นมาปิดถนน เพื่อกดดันหรือรุกไล่รัฐบาล เพื่อให้ปัญหานี้ได้คลี่คลายทันอกทันใจในเร็ววัน หรือเพื่อการให้ได้มาซึ่งดินแดนในข้อพิพาทนั้น ซึ่งเป็นปัญหามายาวนานนับหลายสิบปี

ผมเชื่อว่า หลายๆท่านที่บังเอิญผ่านมาอ่านเอนทรีนี้ คงจะมีความคิดเห็นแตกต่างกันไป คนที่มีใจเชื่อมั่นในรัฐบาลหรือผู้นำคนปัจจุบัน ก็อาจจะนิยมชมชอบว่า เป็นการเขียนเอนทรีที่ดี และในขณะเดียวกัน คนที่มีใจเชื่อมั่นในแกนนำและการกระทำของพันธมิตร ก็คงจะมีข้อโต้แย้งต่างๆออกมามากมาย ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะเขียนเอนทรี เพื่อที่จะสร้างเรื่องขึ้นมามีข้อถกเถียงกับใคร เพราะนอกจากผมจะเป็นคนไม่ค่อยมีความรู้ทางประวัติศาสตร์ ผมก็ยังไม่มีความสามารถในการทำนายอนาคตได้ ดังนั้น ผมคงไม่อาจจะให้คำตอบสุดท้ายแก่ใคร ว่าสุดท้าย เราจะสามารถรักษาผืนแผ่นดินไทยเอาไว้ได้ ด้วยการคงไว้หรือยกเลิกเอ็มโอยู ๔๓ ตามที่หลายๆท่านกำลังถกเถียงกัน แต่ที่ผมเขียนเอนทรี ด้วยการชักแม่น้ำทั้งห้าท้องฟ้าทั้งเจ็ดมาซะยืดยาว เพียงเพื่อจะจบด้วยคำถามสั้นๆ ว่า ณ ปัจจุบันนี้ บ้านเมืองของเรายังมีความวุ่นวายไม่พออีกหรือ การออกมาชุมนุม ปักหลักพักค้างของพันธมิตรในเวลานี้ ผมคงมิบังอาจที่จะไปติเตียนหรือต่อว่า การแสดงของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยได้ แต่ลองช่วยกันคิดต่อเนื่องกันอีกซักหน่อยดีไหม ผมไม่ได้มองการไกลไปถึงการจะได้มาหรือเสียไปของผืนแผ่นดินอันเนื่องมาจากผล ของการชุมนุมในครั้งนี้ แต่ผมขออณุญาตที่จะตั้งสมมุติฐานเป็นคำถามว่า ถ้ากลุ่มคนที่อ้างว่ารักประชาธิปไตยอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งจะนัดชุมนุมกันอีกครั้งในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ได้ตัดสินใจที่จะปักหลักพักค้างอยู่กลางถนนราชดำเนินหรือยึดราชประสงค์อีก ครั้ง อย่างที่เคยทำมา ด้วยข้ออ้างที่ว่าอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งก็คือพันธมิตรยังทำได้ แล้วประเทศไทยของเราจะเป็นอย่างไรครับ แล้วถ้าหากว่า คนกลุ่มนั้น ได้ตัดสินใจทำการอย่างที่ว่าจริง ทั้งที่เรารู้กันอยู่แก่ใจว่า คนอีกกลุ่มหนึ่งนั้น ไม่ได้กระทำการด้วยความหวังดีต่อผลประโยชน์โดยรวมของชาติ เทียบเท่ากับกลุ่มมวลชนคนที่เรียกตัวเองว่าพันธมิตร แต่คุณจะให้รัฐบาล ดำเนินการอย่างไรครับ คุณจะให้รัฐบาลสลายการชุมนุมของคนกลุ่มหนึ่ง โดยปล่อยให้คนอีกกลุ่มหนึ่งชุมนุมอยู่ได้ หรือว่ารัฐบาลจะต้องปล่อยให้ คนไทยทั้งสองกลุ่มชุมนุมปิดถนนกันไปตามอำเภอใจ หรือว่าจะให้รัฐบาลใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมของคนทั้งสองกลุ่ม

และถ้าเป็นอย่างที่ผมตั้งสมมุติฐานขึ้นมาจริงๆ ไม่ว่าจะรัฐบาลนี้จะเลือกทางออกทางไหน ประเทศไทยของเราก็จะมีแต่ความวุ่นวายไม่รู้จบ

ถ้าอยากจะรบกับเพื่อนบ้าน มาช่วยกันทำให้ชาติบ้านเมืองของเราสงบ มั่นคง เป็นอันหนึ่งอันเีดียวกันก่อนดีไหม หรือเราจะต้องตีกันเองให้ตายกันไปข้างหนึ่งก่อน แล้วจะเอากำลังที่ไหน ไปต่อกรกับเพื่อนบ้าน

ผม คงมิกล้า ที่จะไปกล่าวหาพันธมิตร ว่ากำลังคิดช่วยเหลือคนอีกกลุ่มหนึ่ง ในขณะที่คนอีกกลุ่มนั้น (ซึ่งผมมีความเชื่อว่า)มันมีความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครอง ของประเทศนี้ทั้งระบอบ และบันไดขั้นแรกที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนั้น คือการโค่นล้มหรือขับไล่รัฐบาลชุดนี้ ซึ่งพวกมันมีความเชื่อกันว่า รัฐบาลอันเป็นตัวแทนของ .....อำมาตย์

แล้ว พันธมิตรซึ่งเคยยืนยันกันอย่างหนักแน่นว่า จะช่วยปกปักษ์รักษาและดำรงค์ไว้ ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขนั้น กลับมาช่วยกันขับไล่รัฐบาล อันเป็นเป้าหมายแรกของคนอีกกลุ่มหนึ่งนั้น ..... อย่างไม่ตั้งใจ ?????

พันธมิตรที่รัก ผมเข้าใจในข้อเรียกร้องของคุณและขอขอบคุณ ที่ได้ช่วยกันนำปัญหาที่สั่งสมกันมายาวนาน มาจุดประเด็นให้คนในชาติและรัฐบาล ได้มีความตระหนักถึงความสำคัญของปัญหานี้ เพื่อที่ได้ช่วยกันรักษาผืนแผ่นดินของเราไว้ แต่ผมยังไม่เห็นมีความจำเป็นถึงขั้นที่ประชาชน จะต้องลุกขึ้นมาปักหลักพักค้างกันอยู่กลางถนน ในเวลาและสถานการณ์ของบ้านเมืองในขณะนี้


ด้วย ความรักและปรารถนาดี จากคนที่เคยเรียกตัวเองว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อย่างภาคภูมิใจ และยังคงมีความภาคภูมิใจ ที่ครั้งหนึ่งเคยเรียกตัวเองว่า เป็นพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย

ที่มา: http://www.oknation.net/blog/chaimanu/2011/02/02/entry-1

จากคุณ : wangchaiya
เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 21:45:16




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com