ผมไม่เห็นด้วยกับการใส่ซองถวายเงินพระ พระที่มาสวดขึ้นบ้านใหม่ เปิดบริษัท อะไรพวกนี้ ที่จริงก็ไม่ใช่กิจของพระสงฆ์ พอสวดเสร็จ ญาติโยมก็พากันถวายปัจจัย วิธีการลำดับขั้นตอน เหมือนจ้างพระมาร้องเพลง งานศพก็เหมือนกัน คนไปงานศพ ที่พระสวดให้คนตาย ต่างพากันพนมมือกันสลอน ราวกะฝักถั่ว ยกมือตามๆกัน แต่ถ้าเด็กสะกิดถามว่า พระว่าอะไร ผมไม่เคยได้รับคำอธิบายที่เป็นเรื่องเป็นราวสักที เห็นผู้ใหญ่ได้แต่ดุเด็ก
พอผมใส่บาตรพระ ผมเห็นคนแห่กันไปทำบุญวันสำคัญ วันปีใหม่ เข้าพรรษา ที่เพิ่งผ่านมา คนใส่บาตรจนล้นเหลือ พระต้องให้เด็กวัดขนไป เทใส่ในถังสีในรถกระบะที่จอดรอ ของทำบุญ ล้นเหลือเหล่านี้ เป็นสิ่งของเกินพอดี เกินไปพอถึงวัดเด็กวัดก็ไม่เห็นคุณค่า กินทิ้งกินขว้าง
ถ้าเรายังงมงาย ส่งเสริมประเพณีทำบุญวันพระกันต่อไป นอกจากไม่ส่งเสริมศาสนาแล้ว ยังส่งเสริมให้พระและลูกวัดในทางที่ผิด
การใส่ซองผมจำได้พระธรรมยุตจะรับเงินไม่ได้ แต่รับซองที่มีเงินได้ พฤติกรรมอย่างนี้ ผมเรียก มือถือสาก ปาก ถือศีล
อีกอย่างหนึ่งที่ผมอยากจะพูด ผมเคยอาศัยอยู่กับผู้ใหญใจดี เคยเห็นการแสดงออกของคนใจบุญ เวลาท่านเห็นเด็กจะยิงนก จะแกล้งหมาแมว ผมได้ยินท่านผู้ใหญ่พร่ำสอนว่า สงสารมันลูก อย่าแกล้ง อย่าทำมันนะลูกนะ
บางทีและหลายทีจะได้ยินคุณป้า คุณลุง เล่าเรื่องสมัยก่อน เคยมีขโมยมาเข้าบ้าน ท่านเห็นขโมยเอามือล้วงเข้ามาจะเปิดกลอนประตู ท่านวิ่งไปหยิบมีดดาบ มาเตรียมไว้ แล้วร้องบอกโจรว่า เราจะฟันมือก็จะขาดเสียเปล่าๆ ขโมยก็รีบชักมือหลบหนีไป ...
ผมเล่าให้ฟังเพราะ ผมเห็นพระที่เดินรับบาตรตามท้องถนน เวลาที่เดินไป เห็นเด็กเกเร เตะ หมา รังแกแมว หรือ ชกต่อยกัน ...พระก็เดินเฉย ทำเหมือนทองไม่รู้ร้อน ...ผมนึกในใจ การบวชเรียน บวชทำไม ไม่เอามาสอนเด็ก สอนคน วันๆได้แต่เดินรับบาตร เอาไปเทรวมใส่ถังสี กลับวัด ก็นั่งร้องเพลง กิจวัตรอย่างนี้ บวชเรียนแล้วได้อะไร ครับ ?