ความคิดเห็นที่ 1 ฟังถี่ถ้วนแล้ว ดูมี นัยยะ ลึกซึ้ง มากมาย ขอความรู้ จากท่านผู้รู้ กรุณาอธิบายความ ให้ทราบกันบ้าง เถิดครับ. ขอบพระคุณครับ. แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 54 03:14:48 จากคุณ : พจนารถ๓๒๒ เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 03:03:42

ความคิดเห็นที่ 2 คุณ พจนารถ๓๒๒ ยังไม่พักผ่อนเหรอค่ะมาอยู่เป็นเพื่อนค่ะ จากคุณ : ประจบ เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 03:59:35

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบพระคุณมากครับ. จากคุณ : พจนารถ๓๒๒ เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 04:24:30

ความคิดเห็นที่ 4 นอนฟัง มาตั้งแต่เล็ก ไม่รู้ความหมายขอรับ ตอนนั้นกระผมเด็กเหลือเกิน คุณป๋า กะแม่ ก็ต้องไปทำงาน ฝากกระผมให้ คุณยายใกล้บ้านเลี้ยง  แบบว่า ว่าจ้าง คุณยายกะ แกรักกระผมมาก ป้อนข้าว ป้อนน้ำ อาบน้ำ ลงเปล กล่อมเพลงแบบ ต้นกระทู้นี้ ไม่รู้ ว่าจำได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่จำได้แค่ช่วงนี้ วัดเอ๋ย . . . วัดโบสถ์ . . . มีตาลตะโหนด อยู่เจ็ดต้น    ( มีต้นตะโหนด  อยู่เจ็ดต้น ) เจ้าขุนทอง ไปปล้น ป่านฉะนี้ ไม่เห็นมา . . . คดข้าว ใส่ห่อ ถ่อเรือ ไปหา เขา ก ร่ำฦๅมา    (เขา ก็ลือกันว่า ) ว่าเจ้าขุนทอง ตายแล้ว . . . พี่ๆ ล้อกระผม ตอนโตขึ้นมาอีกนิด ป๋าไปทำงาน แม่ไปทำงาน พี่ๆไปเรียน ขุน อยู่กับ ยายกะ ท่านเป็นคนแก่  (ตอนนั้น ก็ไม่แก่เท่าไหร่) แต่รักเด็ก   ตอนยายกะเสีย กระผมไปเผาท่าน ไปกันทั้งบ้าน   ไม่ใช่ญาติ  แต่ก็เหมือนญาติ ล่อเข้าไป อายุเก้าสิบ มั๊ง เพลงกล่อมเด็กของคุณ พจนารถ กระผมจำได้ ตามความที่กระผม แก้ในวงเล็บ ไม่รู้จำได้ไง แต่ยายกะ  ร้องให้ฟังทุกวัน อ้อยสร้อย จำได้แค่ ถึงตอน   เจ้าขุนทองตายแล้ว ตอนนั้น จำได้  ว่าสงสารเจ้าขุนทอง ไม่ถึงกับร้องไห้ ก็แค่หลับลงในเปล ที่ ยายกะกล่อม จากคุณ : ท่านขุนเดชา เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 05:02:42

ความคิดเห็นที่ 5 เจ้าขุนทองในเพลง วัดโบสถ์ เป็นเพลงที่คนภาคกลางใช้ร้องกล่อมลูกหลาน ... วัดเอ๋ยวัดโบสถ์ มีตาลโตนดอยู่เจ็ดต้น เจ้าขุนทองไปปล้น ป่านฉะนี้ไม่เห็นมา คดข้าวออกใส่ห่อ จะถ่อเรือออกตามหา เขาก็เล่าลือมา ว่าขุนทองเจ้าตายแล้ว ถือแต่กระดูกแก้ว เมียรักจะไปปลง ขุนศรีจะถือฉัตร ยกกระบัตรจะถือธง ถือท้ายเรือหงส์ ไปปลงศพเจ้าพ่อนา เจ้าขุนทอง   เป็นสามัญชนคนบ้านนอก มีอาชีพปากงวงตาลจากต้นโตนดเพื่อไปทำน้ำตาลขาย ในขณะนั้นพม่ายกทัพมารุกราน เจ้าขุนทองคว้าดาบหายไปจากหมู่บ้าน คนก็ร่ำลือกันว่า เจ้าขุนทองไปต่อสู้กับพม่า ปกปักรักษาบ้านเมืองจนตัวตาย พระเจ้าแผ่นดินจึงพระราชทานเพลิงศพถึงขั้น "ขุนศรีจะถือฉัตร ยกกระบัตรจะถือธง ถือท้ายเรือหงส์ ไปปลงศพเจ้าพ่อนา" เครดิตภาพ ... เจียวต้าย จากคุณ : nawaporn169 เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 05:17:28

ความคิดเห็นที่ 6 โดยนัยดังกล่าว  ทำให้ "ขุนทอง"  เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้   ดังนาม  "ขุนทอง"  ได้ปรากฏในวรรณกรรมของ  สุจิตต์  วงษ์เทศ   เมื่อช่วงหลังเหตุการณ์ทางการเมือง  ๑๔  ตุลาคม  ๒๖๑๖   ... วัดเอ๋ยวัดโบสถ์         ตาลโตนดเจ็ดต้น ขุนทองเจ้าไปปล้น     ป่านฉะนี้ไม่เห็นมา คดข้าวใส่ห่อ            ถ่อเรือไปตามหา เขาก็ร่ำลือมา           ว่าเจ้าขุนทองตายแล้ว นั่งรถยนต์เรไร          นั่งรถไฟนกแก้ว ส่งเสียงแจ้วแจ้ว        ว่าเจ้าขุนทอง เจ้าขุนทอง เจ้าออกจากบ้าน       เมื่อตะวันเรืองรอง แล้วหันมาสั่งน้องน้อง ว่าพี่จะไปหลายวัน ไปเพื่อสิทธิเสรี         เพื่อศักดิ์ศรีชาวบางระจัน โอ้เจ้นนกเขาขัน        แล้วเจ้าขุนทองก็ลงเรือน สะพายย่ามหาดเสี้ยว ซึ่งใส่หนังสือแสงเดือน ทั้งสมุดที่ลบเลือน     ด้วยรอยน้ำตาแต่เมื่อคืน ขุนทองเจ้าร้องไห้      อยู่ในเรือนจนดึกดื่น ว่าดอกจำปีถูกปืน      ตายอยู่เกลื่อนเจ้าพระยา ลูกเอ๋ยหนอลูกเอ๋ย     เข้าอย่าเฉยเชือนชา แม่มาร้องเรียกหา      นี่พ่อมาตั้งตาคอย เจ้ามิใช่นักรบ            ที่เคยประสบริ้วรอย รูปร่างก็น้อยน้อย       เพราะเรียนหนังสือหลายปี แม่ก็รู้ว่าลูกรัก           นั้นมีความภักดี พ่อก็รู้ว่าลูกมี            กตัญญูต่อแผ่นดิน แต่ใครเขาจะรู้           เพราะเขามิใช่พระอินทร์ มนุษย์อาจได้ยิน        แต่อำนาจมาบังตา ลูกบอกว่าลูกรู้           จึงสู้แบบอหิงสา แม่กับพ่อก็รอมา         หลายเพลาหลายเพล ดอกโสนบานเช้า        ดอกคัดเค้าบานเย็น ออกพรรษามาตระเวณ ที่อนุสาวรีย์ทูน ไม่มีร่างเจ้าขุนทอง     มีแต่รัฐธรรมนูญ พ่อกับแม่ก็อาดูร        แต่ภูมิใจลูกชายเอย. จากคุณ : nawaporn169 เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 05:24:34

ความคิดเห็นที่ 7 เพลงกล่อมเด็ก  วัดโบสถ์   คำร้องทำนอง เพลงกล่อมเด้กพื้นบ้าน จากละคร แม่นาค เดอะ มิวสิคัล ... จากคุณ : nawaporn169 เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 05:34:06

ความคิดเห็นที่ 8 คุณครูตุ๊  ตื่นเช้าดีจังขอรับ เดี๋ยวกระผมจะไปนอนแหล่ว ข้อมูลสุดยอดขอรับ จากคุณ : ท่านขุนเดชา เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 05:41:22

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบพระคุณค่ะลุงขุน ป๊าดๆๆ ..  ยังไม่นอนหรือคะ ฟังเพลงกล่อมเด็กก่อน แล้วไปนอนได้แล้วนะคะ แหะๆ. จากคุณ : nawaporn169 เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 05:44:33

ความคิดเห็นที่ 10 ว่า ก็ ว่า น้า พจนารถ แก ยก บทนี้มา กระผม แค่จำใด้ว่าเป็นเพลงกล่อม ยายกะ ร้องให้ฟัง คิดถึง  จำภาพตอนนอนเปลใด้เลยขอรับ ข้างบน เป็น พื้น ใต้ถุนสูง นอนอยู่ในเปล ยายกะ ป้อนข้าวป้อนน้ำกระผม หลอกล่อ เสร็จ อาบน้ำปะแป้ง จับลงเปล ดึงไป ก็ดึงมา ร้องเพลงกล่อมหลายเพลงมากขอรับ แต่กระผม  จำ เจ้าขุนทองได้แค่เพลงเดียว สงสาร เจ้าขุนทอง แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 54 05:55:04 จากคุณ : ท่านขุนเดชา เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 05:53:46

ความคิดเห็นที่ 11 หลังจาก ยายกะ มานอนกับแม่ แม่  เล่า เรื่องสังข์ทองให้ฟังก่อนนอน นอนฟัง แม่เล่า นอนฟังไป น้ำตาไหล สงสารพระสังข์ จากคุณ : ท่านขุนเดชา เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 05:58:46

ความคิดเห็นที่ 12 ค่ะคุณลุงขุน ... ความทรงจำในวัยเยาว์ แต่ละท่านก็มีแตกต่างกันไป บางท่านอาจมีนิทานหรือบทเพลง ที่ยังอยู่ในความทรงจำอยู่จนบัดนี้ ว่างๆ มาตั้งกระทู้รำลึกบทเพลงกล่อมเด็ก หรือนิทานในความทรงจำกันนะคะ เดี๋ยวได้พาหัวข้อกระทู้ของ  ครูพจ ออกนอกประเด็นมากไป. จากคุณ : nawaporn169 เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 06:25:54

ความคิดเห็นที่ 13 好 จากคุณ : ท่านขุนเดชา เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 06:34:53

ความคิดเห็นที่ 14 บทเพลงกล่อมเด็กบทนี้เพิ่งอ่านผ่านมาเมื่อไม่นาน อยู่ในหนังสือ กวีสยาม ของ ส.พลายน้อย ว่ากันว่าอาจเป็นบทประพันธ์ของสังฆราชองค์หนึ่ง ..สมัยกรุงศรีอยุธยา.....สันนิษฐานแค่นั้นเอง  ไม่มีอะไรไปยืนยัน จากคุณ : visitna เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 07:41:59

ความคิดเห็นที่ 15 จำเสียงเพลงกล่อม ที่ยาย ร้องกล่อมน้องชายของ เด็กชายอ่ำ ได้อยู่ลางๆ แตกต่างจากเพลงข้างบนอยู่ วัดเอ๋ยวัดโบสถ์ ปลูกข้าวโพด สาลี ยามลูกเขย ตกยาก แม่ยายก็พรากลูกสาวหนี..... อีกเพลงที่ได้ยินบ่อย นกเขาเอย ขันตั้งกะเช้า....ไปจนเย็น ขันไปเถิด....แม่จะฟังเสียงเล่น..... จากคุณ : ลุงอ่ำ เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 07:49:57

ความคิดเห็นที่ 16 ดีจังเลยครับ เจ้าขุนทอง..............ของครูนิมิตร ภูมิถาวร พอต้องย้าย ไปอยู่กับท่านผู้มีอำนาจเหนือ เจ้านายของครูนิมิตร โดยครูต้องให้นกไป ด้วยความรันทดใจอย่างยิ่ง ไปอยู่กับเจ้าของใหม่วันเดียว หรือ สองวัน เจ้าขุนทอง ของครูนิมิตร  ก็  นอนหงายเท้าชี้ฟ้า  ตรอมใจตาย จากคุณ : ~ทิดฉ่ำ~ เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 08:06:11

ความคิดเห็นที่ 17 วรรณกรรมอีกเรื่อง  ที่ได้รับอิทธิพลจากเพลงกล่อมเด็ก "ขุนทอง" ได้แก่ตัวละคร  เจ้าขุนทอง จากบทกวี   "เพลงขลุ่ยเหนือทุ่งข้าว" ในหนังสือชุด เพียงความเคลื่อนไหว ของเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ (รางวัลซีไรท์ ปี ๒๕๒๓ )  ซึ่งเป็นบทกวีที่ได้สร้างแรงบันดาลใจ ให้ อัศศิริ ธรรมโชติ เขียนเรื่อง "ขุนทองเจ้าจะกลับเมื่อฟ้าสาง" โดยจินตนาการเหตุการณ์ ๑๔  ตุลาคม ๒๕๑๖ และ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ เพลงขลุ่ยเหนือทุ่งข้าว "วัดเอ๋ยวัดโบสถ์        ปลูกตาลโตนดอยู่เจ็ดต้น เจ้าขุนทองไปปล้น     ป่านฉะนี้ไม่เห็นมาฯ" ขลุ่ยข้าครวญหวนโหยระโอยโอด พิไรโรธนาการสะท้านพร่า เป่าคำหอมเหินลิ่วขึ้นปลิวฟ้า แล้วทอดช้า เฉื่อยฉ่ำประจำยาม พอพระพายชายพัดก็ชัดชื่น ทุกถ้อยคำย้ำยืนไม่ขื่นขาม "ทุ่งนี้ นานี้ มีนาม ของหวง เขตห้าม อย่าข้ามกัน ข้าวงาม น้ำดี ทุกปีมา แผ่นดินข้า ข้ารัก หนักมั่น ปู่ย่า พ่อลูก ผูกพัน เลือดเนื้อ ทั้งนั้น ทีในดิน" ใบข้าวพลิ้วริ้วระเนนเป็นคลื่นข้าว ใบตาลกราวกรากลมระงมถิ่น กระท่อมค้อมคร่ำคร่าอยู่อาจิณ หอมกลิ่นข้าวใหม่มาจางจาง คดข้าวใส่ห่อไปรอรับ ขุนทองเจ้าจะกลับเมื่อฟ้าสาง เพลงขลุ่ยผิวครื้นสะอื้นคราง ไม่มีร่างไม่มีเงาเจ้าขุนทอง ตะวันรุ่งเรื่อแรงจนแดงเลือด แผ่นดินเดือดดูน้ำก็คล้ำหมอง เพลงขลุ่ยขาดห้วงท่วงทำนอง เสียงตะโกนกู่ก้องมาไกลไกล. จากคุณ : nawaporn169 เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 08:32:30

ความคิดเห็นที่ 18 จาก บท(เพลง)กล่อมเด็ก สู่บท(เพลง)กู้ชาติและเสรี สาระเพียบ ขอบคุณทุกท่าน ค่ะ จากคุณ : samranjai เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 08:57:41

ความคิดเห็นที่ 19 อ่านไปด้วยขนลุกไปด้วย  เพลงกล่อมเด็ก ลองนึกดูแล้ว แสดงถึงความอดทน ความใจเย็นของผู้ขับกล่อมเพราะเป็นเสียง กล่อมที่เย็น  ไพเพราะ เหมือนเป็นมนต์สกด อยากแจกกิ้ฟ ให้เพื่อนๆ ทุกท่านแต่หมดไปหลายวันแล้วแปะไว้ก่อนนะคะ จากคุณ : รัตน์แปลว่าแก้ว เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 09:12:06

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีค่ะ คุณครู และพี่ๆ.. อ่านเพลิน เกิดไม่ทัน เจ้านกขุนทอง... (ยกเว้น เจ้านกขุนทอง มาแล้ว มาแล้ว ของช่องเจ็ดสี) อ่านแล้วนกขุนทอง เป็นคนไปรบ..แล้วจะหายไปหรือตาย ในสนามรบ อย่างนี้ เพลงที่ได้ยิน คือ กาเหว่าเอย           ไข่ไว้ให้แม่กาฟัก แม่กาก็หลงรัก        คิดว่าลูกในอุทร คาบเอาข้าวมาเผื่อ   ไปคาบเอาเหยื่อมาป้อน ถนอมไว้ในรังนอน    ซ่อนเหยื่อมาให้กิน ปีกเจ้ายังอ่อนคลอแคลน ท้อแท้จะสอนบิน แม่กาพาไปกิน             ที่ปากน้ำพระคงคา ตีนเจ้าก็เหยียบสาหร่าย  ปากก็ไซร้หาปลา กินกุ้งแลกินกั้ง            กินหอยกระพังแมงดา กินแล้วก็โผมา           จับที่ต้นหว้าโพธิ์ทอง ยังมีนายพราน            เที่ยวเยี่ยมๆ มองๆ ยกปืนขึ้นส่อง ้           จ้องเอาแม่กาดำ ตัวหนึ่งนั้นว่าจะต้ม       อีกตัวหนึ่งนั้นว่าจะยำ กินนางแม่กาดำ          ่ำค่ำวันนี้อุแม่นา สงสัย เป็น ซีรีย์ เพลงกล่อมเด็ก พ่อขุนทอง แม่กาเหว่า ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย เป็นแม่กาดำ...  แถมยังถูกต้มยำทำแกง โดยฝีมือนายพราน.. น่าสงสาร แม่กาดำ...(คิดไปเรื่อย...) ... นกกาเหว่า มีวิธีพิเศษการขยายพันธุ์ คือโดยนิสัยจะเป็นนกที่ไม่สร้างรัง แม้การขยายพันธ์ก็จะไม่ฟักไข่เอง แต่ให้นกอื่น กกไข่และฟักไข่ให้   จึงต้องแอบเข้าไปวางไข่ในรังของนกกาดำ  ซึ่งทำรังวางไข่ในช่วงฤดูเดียวกัน   โดย เมื่อตัวเมียจะเข้าไปวางไข่ในรังนกกาดำ  นกตัวผู้จะต้องเข้าไปยั่วยุ พ่อนก-แม่นกกาดำา ให้ละทิ้งรัง และบินออกมาต่อสู้ขับไล่   ...ฉวยโอกาสนี้ นกกาเหว่าตัวเมีย จะลอบเข้าไปวางไข่ โดยใช้เวลาในการ วางไข่เพียง 2-3 นาที แล้วบินหนีออกไป เป็นอันเสร็จวิธีขยายพันธ์ แม่นกกาดำกลับเข้ารังก็ ทำหน้าทีกกไข่ ฟักไข่ไปตามปกติ แต่โดยธรรมชาติ ไข่ของนกกาเหว่า จะฟักเป็นตัวเร็วกว่าไข่ของนกกาดำ ด้วยเหตุนี้เมื่อลูกนกกาเหว่า ฟักออกจากไข่ไม่นานนัก ก็จะใช้ทุกส่วนของ ร่างกาย ดัน เบียด ผลัก จนไข่ของนกกาดำที่เป็นเจ้าของรัง ตกจากรังหมด เพื่อที่มันจะได้เป็นลูกนกเพียงตัวเดียว  ... แม่กาก็แยก ลูกนกไม่ออกว่าเป็น ลูกตัวหรือลูกกาเหว่า ก็เลี้ยง จนลูกนกโต บินออกจากอก เป็นอันหมดภาระ ของแม่นกกา ...ดำ พฤติกรรม ธรรมชาติของนกกาเหว่า นี้ได้ถูกนำมาแต่งเป็นเพลงกล่อมเด็ก เรื่องนกกาเหว่า... แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 54 10:46:44 แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 54 10:37:34 จากคุณ : nupvs เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 10:06:21

ความคิดเห็นที่ 21 ชอบวอร์ชั่นนี้... จากคุณ : nupvs เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 10:14:49

ความคิดเห็นที่ 22 พอโตขึ้นสัก ขวบ สองขวบ จะชอบเพลง โยกเยกเอย น้ำท่วมเมฆ กระต่ายลอยคอ หมาหางงอ กอดคอโยกเยก... ชอบเวลา นั่งบนตัก ผู้ใหญ่จะกอดหลวมๆ แล้วโยกเยกไปตามเพลง ถ้าเป็นผู้ชาย ท่านจะให้นั่งปลายเท้า แล้วแกว่งไปซ้าย ขวา หรือ แกว่ง บน ลงล่าง เป็นกายบริหาร ข้อเข่า และปลายเท้า ของคน สมัยก่อน.. จากคุณ : nupvs เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 10:21:15

ความคิดเห็นที่ 23 ฮ้าววววววว......... จากคุณ : หนูออน (Oncidium.) เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 10:27:32

ความคิดเห็นที่ 24 วัดโบสถ์เนี่ยมีหลายวัด วัดดั้งเดิมจริงๆ มี 2 วัดคือ... ...วัดโบสถ์ที่มีข้าวโพดสาลี.......แม่ยายเค็มมาก ...วัดโบสถ์ที่มีต้นโตนด 7 ต้น....อันนี้เจ้าขุนทองดุ นอกนั้นเป็นวัดโบสถ์ที่สร้างขึ้นใหม่ เป็นการเสริมบทบาทเจ้าขุนทอง โดย สุจิตต์  วงษ์เทศ ส่วนมากเป็นประเภทเสียดสี สร้างความหึกเหิม และสรรเสริญมวลชน (สมัย ตุลา 16) ทีนี้มีที่น่าศึกษาค้นคว้าอยู่บางประการคือ.. 1 - เจ้าขุนทองเป็นใคร 2 - มีความสำคัญอย่างไร ถึงกับต้องมีฉัตร มีธง มีเรือหงส์ไปปลงศพ (โจร) 3 - ขุนศรี เป็นใคร 4 - ยกกระบัตร เป็นใคร วัดเอ๋ยวัดโบสถ์      มีต้นโตนดอยู่เจ็ดต้น เจ้าขุนทองไปปล้น ป่านฉะนี้ไม่เห็นมา คดข้าวใส่ห่อ        ถ่อเรือไปตามหา เขาก็ร่ำลือมา        ว่าเจ้าขุนทองตายแล้ว เหลือแต่กระดูกแก้ว  เมียรักจะไปปลง ขุนศรีจะถือฉัตร      ยกกระบัตรจะถือธง ถือท้ายเรือหงส์      ปลงศพเจ้าขุนทอง โดยรวมของนิทานพื้นบ้าน หรือเพลงกล่อมเด็ก มักจะเอ่ยอ้างถึง วิถีชวิตความเป็นอยู่ทั่้วๆไป การบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น เป็นที่โจษขาน ร่ำลือกัน บอกกล่าวกัน ปากต่อปาก มาเป็นระยะเวลายาวนาน   ความจริงนั้นพอมีอยู่บ้าง  แต่อาจไม่ทั้งหมด ข้่อสงสัย 1 - 4 น่าคิด น่าค้นเป็นอย่างยิ่ง..!! ฝากช่วยค้นหน่อยนะครับ จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 10:57:37

ความคิดเห็นที่ 25 ^^ จากคุณ : monkeynumber4 เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 10:59:13

ความคิดเห็นที่ 26 ขำ คุณพี่ ~นายเฉิ่มศักดิ์~ พลิกกลับสู่โหมด ประวัติศาสตร์ จริงๆ แล้ว บทเจ้าขุนทองไปปล้น ปรากฏอยู่บนจิตรกรรมภาพลายรดน้ำ แกะสลักแก้วชิงดวง ประดับกระจก ด้านล่างของบานหน้าต่าง วัดเชตุพนฯ จะมีเรื่องราวคติชาวบ้าน วัฒนธรรม ที่ล้นเกล้ารัชกาลที่สาม ทรงพระกรุณา ให้เก็บบันทึกถ่ายทอดไว้... เรื่อง "เจ้าขุนทองไปปล้น" เป็นเพลงกล่อมเด็ก ของชาวภาคกลาง เกิดในสมัยปลายอยุธยา ตอนกรุงแตก ตอนนั้นผู้ปกครองบ้านเมืองอ่อนแอ ชาวบ้านต้องทำการรบกับศัตรูผู้รุกราน ตามกำลัง ที่มีอยู่ อย่าง ชาวบ้าน บางระจัน  ที่มีการรวมกลุ่มชาวบ้านและอาวุธที่มี และใช้วิธี การดักปล้นสดมภ์ ของข้าศึก เพื่อเป็นการตัดกำลังกองทัพ เจ้าขุนทอง ก็เป็นชาวบ้านคนหนึ่งที่มีใจรักชาติ บ้านเมือง จึงรับอาสา ทำหน้าที่เป็นโจร ดักปลันสดมภ์ ข้าศึก แต่ชื่อ " เจ้าขุนทอง" ไม่ปรากฏในผู้กล้า บางระจัน... เพราะท่านผู้นี้ ล่องเรือไปทางตะวันออก... มีการใช้  เจ้าขุนทอง แทนชาวบ้าน ผู้มีหัวใจ รักประเทศชาติ ในสมัยต่อมา จากคุณ : nupvs เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 12:37:36

ความคิดเห็นที่ 27 เรื่อง "เจ้าขุนทองไปปล้น" เป็นเพลงกล่อมเด็ก ของชาวภาคกลาง เกิดในสมัยปลายอยุธยา ตอนกรุงแตก ตอนนั้นผู้ปกครองบ้านเมืองอ่อนแอ ชาวบ้านต้องทำการรบกับศัตรูผู้รุกราน ตามกำลัง ที่มีอยู่..... .....มีการใช้  เจ้าขุนทอง แทนชาวบ้าน ผู้มีหัวใจ รักประเทศชาติ ในสมัยต่อมา.... ขอบคุณครับป้าหน่อยครับ.....แหมเจ้าขุนทองอยู่แค่ปลายจมูกนี่เอง **จะว่าไปแล้ว เห็นทีว่าเจ้าขุนทองนี่ถูกปลุกวิญญานขึ้นมาด้วยน้ำมือของ "อัศศิริ ธรรมโชติ"  เป็นแน่แท้ จากเรื่องสั้น "ขุนทอง เจ้าจะกลับเมื่อฟ้าสาง" และปั้นต่อด้วยฝีมือ และฝีปาก ของคุณ "สุจิตต์ วงษ์เทศ" และ "เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์"  ในเวลาต่อมา  ในยุคของ ตุลา 16 อย่างที่เกริ่นไว้ แต่...เอ.. ณ พ.ศ.นี้ ณ เวลาขณะนี้   จะมีเจ้าขุนทองมาเกิดมั้ยน้อ.....!! แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 54 15:11:23 แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 54 13:08:04 จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 12:47:48

ความคิดเห็นที่ 28 ชอบกระทู้นี้จังเลย กิ๊ฟหมด....อยากแจกทุกๆท่านเลยค่ะ ก๊อปปี้ไปอ่านกล่อมลูกเกือบหมดค่ะ ทุกวันนี้ร้องเพลงกล่อมลูกแบบสั้นตัดตอน แต่มีเพลงหนึ่ง ไม่เข้าใจ โยนโย่นโย่น โยนชิงช้า ทำนาท้องไหน ทำนาท้องป่อง ควายเจ็บท้อง ออกลูกมาตั้งพันธ์ ขนมทอดมัน สองอันสิบเบี้ย ไปซื้อไก่เตี้ย ถวายต้นโพธิ์ ไอ้แก้วหัวโน รักส้มโอเค้ากิน คือฟังยายร้องกล่อมหลาน แม่ก็เอามาร้องมั่ง แต่ร้องผิด เจ้าลูกก็ท้วงว่า"แม่ยายร้องแบบนี้น่ะ" จากคุณ : ป้าเอเจ เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 12:56:08

ความคิดเห็นที่ 29 ป้าหน่อย ทุกวันนี้ เจ้าเด็กคนนี้ที่นน.32กิโล ยังให้แม่โยกเยกอยู่เลย...และสองรอบด้วยนะ "แม่ขอ2ที" จากคุณ : ป้าเอเจ เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 13:00:10

ความคิดเห็นที่ 30 ตอนนี้ขอไปนอนก่อน กระทู้นี้ชอบมาก ๆ ค่ะ เคยฟังแต่การกล่อมแบบต่างภาษา ได้ทราบเรื่องแล้ว..............................สุดยอดทุกคนค่ะ   จากคุณ : ขอพบในฝัน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 13:05:30

ความคิดเห็นที่ 31 ง่วงนอนจังเลย ~ จากคุณ : ป้าหนาสองนิ้ว เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 14:33:36

ความคิดเห็นที่ 32 ดีมากเลยครับ กระทู้นี้ ใครมีข้อมูลอะไรเพิ่ม อยากให้นำมาลงด้วยครับ ขอบคุณ จากคุณ : ไอ้หนุ่มพลังเกาเหลา เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 14:52:17

ความคิดเห็นที่ 33 ... จากคุณ : Resource of life เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 15:37:10

ความคิดเห็นที่ 34 สวัสดีค๊า ชอบมากเลย อ่านเพลิน ขอบคุณค่ะ:) จากคุณ : alinada เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 20:41:53

ความคิดเห็นที่ 35 อ่านไปอ่านมา เพลงกล่อมเด็กนี่ดูเศร้าๆจังเลยนะคะ สงสารเจ้าขุนทองค่ะ:( จากคุณ : alinada เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 20:47:00

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณทุก ๆ ท่านครับ เพลงกล่อมเด็กแต่ละที่มีความหมาย และมีเบื้องหลังนะครับ . . . ถ้าแถวบ้านผมตอนเด็ก ๆ ก็ร้องเพลง "สิกก้องก๋อ บ่าลอก้องแก้ง   ...."  จำได้แค่นี้ครับ จากคุณ : วังเหนือ เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 23:49:46

ความคิดเห็นที่ 37 เมื่อลูกสาวของ ลุงอ่ำ ยังเล็ก แม่ยายของ ลุงอ่ำ เคยพาไปเลี้ยงในวันเสาร์และ อาทิตย์หลายครั้ง และกล่อมลูกสาวของ ลุงอ่ำ ด้วยเพลงกล่อมเด็กในภาษาจีน แต้จิ๋ว ลูกสาวของ ลุงอ่ำ จำเพลงกล่อมได้ แล้วก็นำกลับมาร้องที่บ้าน ลุงอ่ำ จำเนื้อเพลงบางตอนได้อย่างลางๆว่า... อ่องอ๋องเอ... อ่องกิมก๋อง... กิมก๋องจ้อเหล่าเตีย... อาบุ๊ง อาบู้ จ้ออาเฮีย... ตาเฮียตาผู่พู้... ฉี่ตือตั่วก้วยงู้... ตั่วงู้แซแบ๋เกี้ย... ... จากคุณ : ลุงอ่ำ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 08:14:06

ความคิดเห็นที่ 38 เพื่อนพ้องน้องพี่ที่น่ารัก ทุกท่าน ครับ ผมยุ่ง ๆ อยู่กับธุระ เพิ่งมีโอกาสมาตอบ ขอบพระคุณ ทุกท่าน มาก มาก ครับ . . . จากใจจริง ที่กรุณามาแบ่งปันความคิดเห็น และกรุณาโหวตให้ ถึงกับเปน กระทู้แนะนำ ทั้งนี้ ก็ต้องขอยกความงามทั้งปวง ให้กับ บรรพชน ผู้รจนา เรียงร้อยถ้อยคำ ได้อย่าง เข้ม ขลัง และ ศักดิสิทธิ์ ขอยกความงาม และ ความดี ให้กับ เจ้าขุนทอง ปัจเจกชนผู้หาญกล้า สู้ศึกจนตัวตาย ไว้ลาย ไว้ชื่อ วีรชน แห่ง อโยธยาศรีรามเทพนคร ด้วยความ คารวะ ยิ่ง ครับ. ป.ล. ครูตุ๊ ( # ๕ ) ครับ ไปเอารูปเด็กที่ไหนมาลงน่ะครับ น่ารักเชียว โตขึ้น . . . คงหล่อน่าดู . . . แฮ่ . . . . . จากคุณ : พจนารถ๓๒๒ เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 02:00:37