ความคิดเห็นที่ 1 ภาพแม่พระธรณีบิดมวยผมภายในซุ้มเรือนแก้วภายใต้รัตนบัลลังก์ เขียนขึ้นตามแบบศิลปสมัยเริ่มแรกของสกุลช่างนนทบุรีซึ่งงามวิจิตร แสดงถึงศิลปะชั้นสูงฝีมือบรมครูได้ภาพที่ให้ความรู้สึกเหนือธรรมชาติ ประดุจภาพทิพย์เบาเหมือนลอยอยู่ในอากาศ ศิลปินจิตกรของกรมศิลปากร ยกย่องให้เป็นภาพเขียนพระแม่ธรณีที่งามที่สุดในโลก จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:39:35

ความคิดเห็นที่ 2 ภาพด้านขวาแสดงถึงการเข้าจะทำร้ายพระพุทธเจ้าด้วยการกล่าวตู่ว่า รัตนบัลลังก์ที่พระองค์ทรงประทับอยู่เป็นของพระยาสวัตดีมารเจ้าแห่งสวรรณ์ ปรนิมมิตวสวัตดีคือตัวเรา ด้วยนิสัยอิจฉาริษยาเห็นใครดีกว่าตนไม่ได้ โดยอ้าง เอาเสนามารเป็นพยานฝ่ายของตน แล้วขับช้างนาฬาคิลิเมขล์ตรงเข้าจู่โจม จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:40:19

ความคิดเห็นที่ 3 ภาพด้านขวา พระโพธิสัตว์ได้ยกอ้างบารมี ๓๐ ทัศ ที่ได้บำเพ็ญทานกรวด น้ำเอาไว้ประกอบด้วย ทาน ศีล เนกขัมมะ วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน อุเบกขา เป็นต้น มารวมกันเป็นตะบะเดชะช่วยปราบมารร้ายให้สิ้น ทรงชี้นิ้วพระหัตถ์ลง ยังพื้นธรณีแล้วตรัสว่าแม่พระธรณีเอ๋ยจงเป็นพยาน แม่พระธรณีก็ผุดขึ้นมาบิดน้ำ ที่ใช้ผมรองรับน้ำที่พระโพธิสัตว์ได้กรวดน้ำเอาไว้ พัดพาเหล่ามารร้ายให้จม หายไปจนหมดสิ้น ด้วยน้ำนั้นมากมายดังมหาสมุทรและทะเลหลวง จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:41:03

ความคิดเห็นที่ 4 ภาพด้านซ้ายข้างประตูทางเข้าพระอุโบสถเป็นภาพเรื่องพระเวสสันดรชาดก ตอนพระเวสสันดรเรียกกัณหาชาลีให้ขึ้นจากสระบัวเพื่อจะบำเพ็ญทานการยกลูก ทั้งสองให้แก่ชูชก จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:41:45

ความคิดเห็นที่ 5 ภาพต่อไปเป็นภาพตอนชูชกถามทางไปหาพระเวสสันดร จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:42:44

ความคิดเห็นที่ 6 ภาพนี้นึกไม่ออกครับว่าเป็นทศชาติชาดกตอนไหน ใคร ทราบช่วยบอกด้วยครับ แต่ถ้าให้เดาน่าจะเป็นการแสดงถึงการทำทาน ของพระเวสสันดร จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:43:31

ความคิดเห็นที่ 7 ในภาพนี้มีภาพจิตรกรรมที่ทำให้ภาพจิตรกรรมบางวัดที่ มีโดเรม่อนตกกะทะทองแดงเป็นภาพเด็กๆไปเลย ต้องนึกว่าภาพ นี้ผู้วาดมีกาลเวลาย้อนหลังกลับไป ๒๐๐ กว่าปี จับมือถือนมกัน กลางลานกว้าง ผู้หญิงนุ่งผ้าคลายๆกับกระโปรงยาวแต่ผ่าข้างขึ้น มาสูงมาก จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:44:10

ความคิดเห็นที่ 8 เป็นภาพทศชาติชาดกตอนพระภูริทัต แสดงถึงการบำเพ็ญบำเพ็ญศีลบารมี คือการรักษาศีล จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:45:21

ความคิดเห็นที่ 9 ภาพสัตว์ในนรกกำลังเสวยผลกรรมที่ตนได้ทำมา อยู่ ใต้ภาพพระพุทธะอดีตพระพุทธเจ้า จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:46:15

ความคิดเห็นที่ 10 ที่ผนังหุ้มกลองด้านหลังพระประธานด้านขวามือเป็นภาพ พระพุทธะอดีตพระพุทธเจ้า มีลายดอกไม้ร่วงอยู่รายรอบ จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:47:00

ความคิดเห็นที่ 11 ผนังหุ้มกลองด้านหลังพระประธานด้านซ้ายมือเป็นภาพ พระพุทธะอดีตพระพุทธเจ้า มีลายดอกไม้ร่วงอยู่รายรอบ จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:47:44

ความคิดเห็นที่ 12 ข้างใต้มีภาพกินนรี กินนรา กำลังฟ้อนรำอยู่บนภูเขา จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:48:23

ความคิดเห็นที่ 13 ห้องสุดท้ายด้านขวามือของพระประธานหรือด้านซ้ายมือ ของเรา เป้นภาพหมู่เทวดากำลังไหว้พระธาตุจุฬามณีบนสวรรค์ ดาวดึงห์พิภพ จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:49:10

ความคิดเห็นที่ 14 พระธาตุจุฬามณีบนสวรรค์ดาวดึงห์พิภพ จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:50:08

ความคิดเห็นที่ 15 ภาพจิตรกรรมต่อมาเป็นเรื่องในทศชาติชาดก จากภาพต้องเดาเอาว่าน่าจะเป็นเรื่องจันทกุมารชาดก แสดงถึงการบำเพ็ญขันติบารมี คือความอดทน จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:51:00

ความคิดเห็นที่ 16 เรื่องพระสุวรรณสาม พ่อแม่ตาบอดเพราะอดีตชาติเคย เป็นหมอยารักษาตารักษาหายแล้วไม่ได้เงินเลยออกอุบายจนผู้ ป่วยที่เบี้ยวเงินตาบอด พระสุวรรณสามโดนธนูยิงด้วยถูกมองเห็น เป็นกวางทอง แสดงถึงการบำเพ็ญเมตตาบารมี คือการแผ่ไมตรีจิตคิดจะให้สัตว์ ทั้งปวงเป็นสุขทั่วหน้า จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:51:41

ความคิดเห็นที่ 17 พระมหาชนก แสดงถึงการบำเพ็ญวิริยบารมี จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:52:20

ความคิดเห็นที่ 18 มโหสถชาดก ภาพนี้ก็ต้องอาศัยเดาเอาครับ เป็นภาพด้านขวา ข้างประตูทางเข้าพระอุโบสถ เท่ากับเดินวนดูได้รอบแล้วครับ แสดงถึงการบำเพ็ญปัญญาบารมี คือความทั่วถึงสิ่งที่ควรรู้ จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:53:03

ความคิดเห็นที่ 19 จากภาพข้างบนเจาะมาให้ดู เขาทำอะไรกัน? จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:53:48

ความคิดเห็นที่ 20 ผนังด้านบนเหนือขอบหน้าต่างเขียนภาพอดีตพระพุทธะประทับ บนบัลลังก์เรือนแก้วมีซุ้มโพธิ์ เบื้องหน้ามีผ้าทิพย์ห้อยลง ระหว่างอดีต พระพุทธะมีพระสาวกนั่งถวายสักการะทั้งเบื้องซ้ายและขวา จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:54:30

ความคิดเห็นที่ 21 ภาพจิตรกรรมสีน้ำมันในพระอุโบสถหลังใหม่ จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:55:12

ความคิดเห็นที่ 22 จิตนาการของช่างวาดภาพมักรีผลหรือนารีผล จุดประสงค์ของต้นนารีผลคือเบนความสนใจของพวกอันธพาลพวกนี้ให้ไม่ ไปรบกวนพระนางมัทรีที่มีหน้าที่หาอาหารไปถวายพระเวสสันดร เมื่อได้ เอาไปเสพสังวาสจะทำให้สลบไปสามเดือนแล้วเสื่อมจากตบะเดชะหายซ่า ไปอีกหลายปีทีเดียว จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:55:59

ความคิดเห็นที่ 23 สุดยอดมากครับ ขอนำเรื่องราว ไปเป็นไกด์ไลน์ ในการไปชมเสาร์นี้ ด้วยเลยนะครับ จากคุณ : กอไผ่สีสุก เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:59:47

ความคิดเห็นที่ 24 จิตรกรรมหลังใหม่เหมือนภาพของถูกที่ขายกันข้างทาง          หรือเหมือนฉากหลังโรงยี่เก จากคุณ : visitna เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 14:24:24

ความคิดเห็นที่ 25 อ้าว..อยู่วัดชมภูเหรอฮะ จากคุณ : จ่าหมาน เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 14:35:29

ความคิดเห็นที่ 26 เรื่อง นารีผล หรือมักกะลีผล หรือมัคคะลีผล เคยฟัง หลวงพ่อจรัล วัดป่าอัพวัน สิ่งห์บุรี ท่านเล่าให้ฟังเหมือนกันค่ะว่า ท้าวสักกะเทวราช ได้เนรมิตต้นมัคคะลีผล เป็นมัคคะบัญชา หรือเป็นต้นไม้ แห่งคำสาปของพระอินทร์ จำนวน 16 ต้น ไว้รอบทิศ ณ ที่ไกล ก่อนถึง บริเวณใกล้เขตบรรณศาลาของพระเวสสันดร และพระนางมัทรี เนื่องจากพระนางมัทรี ต้องออกหาผลไม้ในป่านั้น ถ้ามีดาบส ฤๅษี นักสิทธิ์ วิทยาธร คนธรรพ์ ทั้งหลายที่อาศัยอยู่ ยังมีกิเลส เกรงว่าจะมาล่วงศีล พระนางมัทรี เหล่านักสิทธิ์ วิทยาธร เดินทางมาพบนารีผล หากจิตใจไม่เข้มแข็งพอ ตบะแตก ก็จักได้เสพบำเรอกับนารีผล... เมื่อตบะแตก ฤทธิ์เสื่อม เหาะไปต่อไม่ได้ ... เมื่อไปต่อไม่ได้ ก็ไม่มีทาง จะได้พบกับพระนางมัทรี.... การจะเดินทางต่อ หรือออกไป จำต้องบำเพ็ญเพียรใหม่ ยกระดับจิตขึ้นแล้ว จึงกลับออกไปได้.... ขออนุญาต พี่ ชัดเจนน้องนาง  เพิ่มเติมเรื่องราวที่เคยได้ยินมา และอ่านจาก หนังสือนารีผล ของหลวงพ่อจรัล เสริมข้อมูลที่พี่ได้ให้ไว้ ให้ทราบที่มาที่ไป อีกนิดนะคะ ตามผลงาน ของพี่เสมอค่ะ แม้จะไม่ปรากฎ ตัว... จากคุณ : nupvs เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 16:31:16

ความคิดเห็นที่ 27 ภาพเก่าๆ บอกเล่าเรื่องราวในอดีตได้ดี ขอบคุณครับ จากคุณ : นฤรัตน์ เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 18:35:39

ความคิดเห็นที่ 28 ตามมาชมค่ะ สวยงามมากค่ะ โดยเฉพาะภาพแรก และภาพสอง ชอบมากค่ะ ขอบคุณคุณลุงเด่นมากๆค่ะ:) จากคุณ : alinada เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 00:23:49

ความคิดเห็นที่ 29 กอไผ่สีสุก ครับ ยินดีที่กระทู้พอจะมีประโยชน์ visitna  ครับ วัดต่างจังหวัดสมัยย้อนหลังไป ๓๐ กว่าปี มีภาพจิตรกรรมได้นี้ก็ยอดมากแล้วครับ ผมว่าแบบนี้ก็เป็นความงามแบบพื้นบ้าน ดีออก แบบช่างฝีมือบางวัด ๒๐ กว่าปีแล้ว ยังวาดไม่เสร็จ ช่างวาดยังไม่มีอารมณ์ติส เงินทุนก็หมด จ่าหมาน  ครับ วัดชมภูผมก็มารู้จักไม่กี่วันก่อนหน้านี้เองครับ nupvs ครับ ขอบคุณครับที่เข้ามาบอกเล่าเสริมข้อมูล ถ้าแบบวาดตามพระครูเจริญ ใบต้องใหญ่เท่าใบ ตองแต่มีรูปแบบคลายใบมะม่วงครับ ผมนารีผล ต้องมีสีทอง นฤรัตน์ ครับ ขอบคุณครับที่เข้ามาชม alinada ครับ ยินดีที่ชอบครับ สวัสดี จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 09:14:09

ความคิดเห็นที่ 30 ชอบภาพจิตรกรรมฝาผนังค่ะ ไปไหนถ้ามีโอกาสก็จะถ่ายเก็บไว้เหมือนกันค่ะ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 01:23:12