ความคิดเห็นที่ 1 ก็ต้องทยอยใช้ครับ มีสมบัติอะไร จะขายได้ ก็ขายซะ ก็เราเอาเงินเขามาใช้ก่อนนี่ ตอนจะรูด ต้องคิดเยอะๆ ครับ จากคุณ : QDora เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 14:19:11

ความคิดเห็นที่ 2 ค่อยๆคิด.....อย่าหนีความจริง ตั้งสต และ ยิ้มสู้ค่ะ ค่อยๆเคลียร์ เรียงลำดับความสำคุญก่อนหลัง ปัญหามีไว้แก้ค่ะ............เอาใจช่วยนะคะ จากคุณ : ณัฐ วัชรพล เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 14:21:32

ความคิดเห็นที่ 3 ตอนใช้ไม่คิด ผมใช้ซื้อของใช้เอาคะแนนสะสมกับผ่อน 0เปอร์เซ็นต์ ให้ใช้หนี้ non bank  ก่อน พยายามใช้ให้หมด ส่วน bank ไปพบเพื่อประนอมหนี้ อย่าหนีไม่งั้นต้องหนีตลอดชีวิต จากคุณ : จบชลชายรุ่นไฟใหม้น้ำถ่วม เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 14:21:53

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นด้วยกับคุณจบชลชายรุ่นไฟใหม้น้ำถ่วม   พยายามใช้หนี้ non-bank ก่อน เพราะพวกนี้มักจะคิดดอกเบี้ยสูงกว่าแบงก์ และประนอมหนี้ยากกว่าแบงก์ จากคุณ : phahurat เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 14:27:47

ความคิดเห็นที่ 5 เค้ามีชมรมหนี้บัตรเครดิตด้วยนะครับ  ลองเข้าไปคุยกับเค้าดู คนมีประสบการณ์เพียบ ลองคลิกลิงค์ที่ผมทำไว้ให้ ชมรมหนี้บัตรเครดิต ผมลองเข้าไปศึกษาดูจากเว็บไซด์ที่ลิงค์ไว้แล้วแล้ว รู้สึกไม่ค่อยชอบพฤติกรรมบางอย่างของคนเป็นหนี้บัตร ที่ดูจะหัวหมอไงไม่รู้ แต่ก็เข้าใจว่า ความจำเป็น และสถานะการของแต่ละคนต่างกัน ที่จริงโดยปกติคนที่เครียดมักจะเป็นเจ้าหนี้มากกว่านะครับ และพวกทำธุรกิจบัตรเครดิต ก็แค่อยากได้เงินคืนแค่นั้น รับรองว่าเค้าไม่จับคุณไปข่มขู่รีดไถ่แน่ ไม่จำเป็นต้องเครียด จากคุณ : เด็กทุ่งครุ เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 14:54:37

ความคิดเห็นที่ 6 ที่นี่ช่วยได้แน่นอนครับ เป็นชมรมหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ในนี้จะมีหลายวิธี และคนที่ผมรู้จัก 2 คนเป็นหนี้บัตรอยู่ 5-6 ใบ ใบละ 20,000-40,000 และมีหนังสือมาว่าจะฟ้องทุกใบ เข้าไปปรึกษา ตอนนี้เขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไม่มีความเครียดเลยแม้แต่น้อย (เหตุการณ์ของเพื่อนผ่านมาประมาณ 2 ปีแล้วครับ) ลองเข้าไปที่  http://www.consumerthai.org/debt/  ของเพื่อนไม่ได้เข้าไปตั้งกระทู้นะครับ ใช้โทรขอคำแนะนำเลย จากคุณ : marnyee เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 14:59:01

ความคิดเห็นที่ 7  บัตรเครดิตนี่น่ากลัวจริง ที่ทำงานมีพนักงานแบงค์บ้าง อิออนบ้าง ฯลฯ แวะเวียนมาให้พนักงานทำบัตร ที่น่าตกใจคือ เขาใช้วิธีรูดบัตรหนึ่งไปชำระอีกบัตรหนึ่ง ดอกเบี้ยแพง เดิม 18% ตอนนี้ผมเห็นประกาศที่แบงค์ คิด 6.5%  ลองถามเพื่อนนายแบงค์ เขาว่าแบงค์ชาติกำหนดเพดานให้คิดเท่านั้นเท่านี้ (คง 6.5%) แต่มันมีค่า ผิดนัด บ้าง ค่า อะไร อีกเยอะ ทำให้ยิ่งเพิ่มภาระลูกหนี้ บางแห่งเขาว่า ถ้าชำระช้า จะคิดดอกเบี้ยเพิ่ม ... ผมว่า มาตรการนี้ เท่ากับซ้ำเติมลูกหนี้ คนที่ชำระช้าเพราะเขาลำบาก ยิ่งไปขูดรีดเขา เขาจะชำระไม่ได้ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 15:24:01

ความคิดเห็นที่ 8 รวมให้ทั้งหมดมาอยู่แบงค์แบงค์เดียว ยกเลิกบัตรให้หมด แล้วผ่อนชำระ ขายของที่ไม่จำเป็นให้เพื่อนหรือญาติ เอาเงินที่ได้ไปโปะนอนแบงค์  คือคำแนะนำตอนนี้... จากคุณ : คนอุดมเดชครับ เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 16:47:00

ความคิดเห็นที่ 9 อย่าเครียดค่ะ ค่อยๆใช้ไป ลองคำนวนรายได้ ค่าใช้จ่าย ในแต่ละเดือน จะหลือเงินผ่อนเท่าไหร่ เอามารวมบัญชีเดียวกัน ผ่อนที่เดียว ถ้าไปไม่ไหวจริงๆ ก็ต้องคุยกับแบ๊งค์ โดยทั่วไปแล้วแบ๊งก็ไม่อยากฟ้องหรอกค่ะ ถ้าเงินไม่มากเกินไป  แต่ถ้ามีหลายแบ๊งค์ก็ต้องคำนวนรายจ่ายได้ รายจ่ายดีๆ ปัญหาทุกอย่างมีทางออกค่ะ อย่าเครียดและตั้งสติให้ดี จากคุณ : jujeeca (ครอบครัวตัวจอ) เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 54 13:36:48

ความคิดเห็นที่ 10 สี่ปีที่แล้ว มีรวมๆกัน ตกเกือบล้านฯ  หนี้รถอีกสี่แสน ปีนี้ เหลือ ไม่ถึงแสน ที่ผ่านมา อันนี้มันให้บ.ที่มารับหนี้ เราก็ต่อรอง ส่วนมากจ่ายที่ 55 -70% และก็ผ่อนเป็นเดือนๆ  อันไหนไม่ไหวก็ผลัดเป็นสองเดือนจ่ายที...ส่วนมาก มันจะยอม ไม่ต้องไปกลัว...ถ้ามันจะฟ้องจริง ก็ให้มันฟ้อง  ..ไม่ใช่ท่้านะครับ แต่ส่วนมากไม่อยากเสียตังค์ไปศาล  และจริงๆ เราเสียประวัติแล้วหล่ะ เพราะ แบงค์ และ ได้เครดิตบูโร ทั่ง มันก็บันทึกไปแล้ว และ ยาวถึงสามสี่ปีด้วย(นรกมาก) ผมมีเกือบ ๆ สิบบัตร ตอนนี้เหลือ สองบัตร ใบแรก กรุงไทย(นรกนะ อย่าไปสมัครมันเด็ดขาด) ไม่ยอมลดดอกเบี้ย ก็อึดใจจ่ายอีกสองครั้ง ครั้งละสองหมื่นก็หมด อีกใบ เป็นบ.เก็บหนี้แทน เอไอจี ไม่กี่พันบาท หมดอีกไม่กี่เดือน ส่วนฮ่องกงแบงค์ ก็จ่ายไปจนกว่าหนี้คงค้างจะเหลือศูนย์ (ไม่เสีย ยังใช้ได้ เป็นบัตรใบเดียวที่รอดมาได้....งง เหมือนกัน) ชีวิตนี้คงไม่ทำบัตรอีกแล้ว ถ้ากลับเมืองไทยคงซื้อรถมือสองเงินสด ...5555 ปรึกษาได้ครับ gift_thai@ย้าฮูดอทคอม ผมทำงานอยู่โฮจิมินครับ จากคุณ : cvsaigon เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 54 20:17:25