ความคิดเห็นที่ 1 ผ่านมาหมดแล้วค่ะ แม่ขายข้าวแกง มัวแต่พึ่งไฟฟ้าตลอดไม่ได้น่ะ ต้องหุงให้เป็นทุกแบบ เช็ดน้ำ-ไม่เช็ดน้ำ ทั้ง เตาแก๊ส-เตาถ่าน แต่ไม่รู้จริงๆค่ะว่าทำไมถึงห้ามเปิดฝา มารอฟังคำตอบนะคะ จากคุณ : ป้าเอเจ เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:45:47

ความคิดเห็นที่ 2 รออยู่.... จากคุณ : หนุ่มเมืองพาน เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:49:31

ความคิดเห็นที่ 3 สวัสดีค่ะ..พี่ต้อย..... เพิ่งเสร็จภารกิจ.....ช่วยเพื่อน.... (เพิ่งถึงบ้านค่ะ.......) ++++++++++++++++++++ เข้ามารอchef ใหญ่ ...เฉลย..เหมือนกันค่ะ... จากคุณ : phuketian เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:50:40

ความคิดเห็นที่ 4 ห้ามเปิดฝา ? สงสัย กลัวข้าวจะสุกไม่ทั่วกัน พรานป่า ยุคโบราณ   ลืมเอาหม้อไป  หุงข้าว ด้วยการเอาผ้าขาวม้าชุบน้ำ  ใส่ข้าวที่ชุบน้ำ ลงไปในผ้า  แล้วขุดหลุม   กลบหลุม  แล้วก่อกองไฟบนหลุม ก็  ได้กินเหมือนกัน   อันนี้แบบ ไม่มีเครื่องมืออะไร  มีแต่ผ้าขะม้านะ จากคุณ : ~ทิดฉ่ำ~ เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:50:45

ความคิดเห็นที่ 5 สวัสดีคุณต้อย แหะคนทำอาหารรู้ครับ..แม้จะขี้เกียจตัวเป็นขนแต่ก็รู้เพราะเคยหุงข้าวมาแบบเก่าๆตั้งแต่ป.สองครับ..ห้ามเปิดเดี๋ยวข้าวมันจะไม่สุกเพราะไม่ระอุน่ะเอง.. จากคุณ : ขวัญชัยอิศรา (kwanchaiisra) เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:51:19

ความคิดเห็นที่ 6 ระอุ หม้อไฟฟ้าก็ห้ามเปิดเนอะ รอให้มันระอุก่อน เพราะพอมันดีดปุ๊บ พอเปิดจะตักแม่บอกเหมือนเตาถ่านเลย "รอให้มันระอุก่อนซิ"  แต่ด้วยความอยากรู้ หม้อไฟฟ้ามีระอุด้วยรึ พอเปิดดู ข้าวยังเป็นเม็ดใครเม็ดมันอยู่เลยน่ะ จากคุณ : ป้าเอเจ เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:55:59

ความคิดเห็นที่ 7 หุงข้าว  กินซักสี่ห้าคน ตอนน้ำเดือด  บีบมะนาวลงไปครึ่งลูกขอรับ พอข้าวสุกแล้ว  จะเนียน มาก สูตรใส่น้ำกระผม   ให้น้ำสูงเลยข้าวสารมาข้อนิ้วชี้ขอรับ ชอบกินข้าวแบบ แฉะ นิดๆ ก็ น้ำเกินมาอีกหน่อย สมัยเด็กๆ หุงข้าว ต้องมีรายการ เทน้ำข้าว แล้ว  ดง ข้าว สมัยนี้ คงหาน้ำข้าวกินยากแล้ว ลงเกลือหน่อย ซดอร่อยไปเลย  แบ่งกันกิน กะหมา จากคุณ : ท่านขุนเดชา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:57:42

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณมากครับคุณต้อยที่นำสาระดีๆ มาบอกกัน. จากคุณ : Angsarcdmsu เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:58:24

ความคิดเห็นที่ 9  (ต่อ)  เรื่องห้ามเปิดฝา นี่เป็นผลจากการทดลองวิทยาศาตร์ วิชาความร้อน-ไอน้ำ  โดยวิศวกรหนุ่ม ลูกชายเจ้าของโรงงานเส้นหมี่ เจียงคายเซ้ง ชื่อ พิเชียร จึงธีระพานิช  ปัจจุบันเป็น ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท Besco หนองแค สระบุรี 1) ถ้าไม่คน ...ไม่ใช้ไม้พายกวน ในขณะที่ข้าวกำลังเดือด ... ข้าว-หอมมะลิ 105 จะสุกเป็นข้าวสวย ลักษณะ(ค่อนข้าง)ร่วนเป็นตัว  คือ ตามปกติ ข้าวหอมมะลิ จะหุงไม่ขึ้นหม้อ และ ไม่ร่วน  ต่างกับ ข้าวขาวตาแห้ง ข้าวเสาไห้  ข้าวเหลืองประทิว ที่ "หุงขึ้นหม้อ"  และ "ร่วนเป็นตัวเมล็ดร่วนสวย" ... คุณสมบัติข้าว 2 ชนิด จะเล่าตอนท้ายกระทู้นี้ 2) เมื่อดับไฟแล้ว ปิดฝาไว้ ปล่อยทิ้งสักพัก 5-10 นาที ข้าวจะไม่ติดก้นหม้อ  ครับ เหตุผลที่เป็นอย่างนี้  เป็นเรื่องไอน้ำและความร้อน เกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ซึ่งมีความซับซ้อน จึงงดกล่าวในรายละเอียด ลองทำดู ...จะแปลกใจที่หุงข้าวไม่ติดหม้อ ราวกะหม้อเคลือบเทปลอนเชียวครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 16:03:30

ความคิดเห็นที่ 10 TinyNu....ข้าวไหม้แล้ว........................ จากคุณ : หนุ่มเมืองพาน เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 16:05:53

ความคิดเห็นที่ 11  ลักษณะของข้าว หอมมะลิ จะเกาะกัน เมล็ดไม่ร่วน ดังนั้น เวลาเหลาทำข้าวผัด จะใช้ข้าวขาวตาแห้ง เสาไห้ ที่ข้าวสุกเมล็ดร่วน ทำข้าวผัดได้ดีกว่า ภาพนี้ ข้าวหอมมะลิ 105 จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 16:06:42

ความคิดเห็นที่ 12 มาอีกรอบ...นะครับ...เรื่องหุงข้าวนี่ ผมทำอาหารในห้องครัวที่บ.จัดหาให้ และมีเพื่อนชาว อินเดีย ทำงานด้วยกันมาขอทำครัวด้วยเป็นครั้งคราว เขายังไม่เข้าใจการทำงานของหม้อหุงข้าวไฟฟ้า แม้จะมีหม้อหุงก็ยังไม่ยอมหุง เพราะเกรงข้าวจะไม่สุก เขาว่างั้นเปลื่ยนความรู้สึกยากจริงๆให้ตาย พับผ่าเหอะอนึ่งแม้ชาวอินเดียบางรัฐจะกินข้าวแบบไทย แต่ข้าวไทยเรานุ่มหอม และขาวสะอาดกว่าข้าวเขาจะสีคล้ำๆครับ และแพงกว่าข้าวไทยเท่าตัวในน้ำหนักเท่ากัน ชาวบังลาฯจะนิยมข้าวไทยครับ แต่อินเดีย ปากีสถานิ จะกินข้าวตัวเองผลิตครับ ข้าวอินเดียทำข้าวผัด ข้าวหมกไก่ดีครับ..แต่จะกินแบบข้าวไทย ไม่อร่อย และไม่มีกลิ่นหอมแบบข้าวไทย ขอบอก.. มาเพิ่มเติม จข.โรงหมี่นั่นเป็นบ.ทำหมี่ตรามังกรนะครับคุณต้อย แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 54 16:11:23 จากคุณ : ขวัญชัยอิศรา (kwanchaiisra) เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 16:08:55

ความคิดเห็นที่ 13  สวัสดีครับ  ผมรีบหุงข้าว จะรองท้อง ก่อนไปออกกำลังกายครับ อิอิ คุณ หนุ่มเมืองพาน ไม่ทันไหม้ ผมกินหมดแล้ว คุณ Angsarcdmsu  เชิญทานข้าวด้วยกัน ขอบคุณ ท่านขุนเดชา ครับ ผมใช้ฝ่ามือวัด เพื่อให้ฝ่ามือเฉลี่ย กดข้าวสารทั่วกันที่จริงจะวัดด้วย องคุลี เหมือนกัน แต่กลัวคนนิ้วยาว จะทำให้ข้าวแฉะ อิอิ คุณ ป้าเอเจ  ขอบคุณที่มาเล่าประสบการณ์อันมีค่า คุณ ขวัญชัย สวัสดีครับ ทิดฉ่ำ ตอนเป็นลูกเสือ เคยทดลองหุงข้าวด้วยผ้าขาวม้า เหมือนกัน แต่ผมทำไม่เป็น ข้าวดิบ ครับ คุณ หนิง เสร็จภาระกิจ ใช้เงินแล้วใช่ไหม ? ขอตัวไปออกกำลังกายก่อน จะรีบกลับมาเล่าต่อ ขอบคุณที่แวะมาคุยเป็นเพื่อน ครับ   จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 16:14:50

ความคิดเห็นที่ 14 จข.โรงหมี่นั่นเป็นบ.ทำหมี่ตรามังกรนะครับคุณต้อย >>>>>>>>>>>>>>>>  เจอคนรู้จริงเข้าแล้ว ถูกต้องครับ โรงงานเส้นหมี่ตรามังกร พิเชียร เป็นลูกชาย ที่เริ่มก่อตั้งโรงงาน เขาเป็นคนขยัน เอาจริงเอาจัง ตอนแรกที่เริ่มทำโรงงาน ออกหาปลามาทำกับข้าว วันไหนไม่ได้ปลา จะเก็บผักบุ้งมาทานกับน้ำพริก เป็นคนหนุ่มที่น่ายกย่องมาก ตั้งใจทำงาน เอาจริงเอาจัง รักการเรียน ต่อรองกับคุณพ่อว่า จะขอสอบเข้าครั้งเดียว ถ้าสอบไม่ได้ จะไม่เรียน เขานุ่งผ้าขาวม้านั่งอ่านหนังสือ จนผ้าขาวม้าขาด และสอบเข้าได้ตามต้องการ ที่สำคัญ ..เป็นคนรักเดียวใจเดียว ... จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 16:19:34

ความคิดเห็นที่ 15 คือ...โรงหมีนั้นเขาอยู่ในจ.สระบุรี อ.หนองแคครับ...ผมเองนั่งรถจะเข้ากทม. จักต้องผ่านที่นั่น และหมี่นั่นแม่ผมเองก็ซื้อกินประจำ ตอนที่โรงหมี่ยังไม่ทันสมัย เขาก็เอาตาก คือนำมาตากแดด ตรงข้างถนนพหลโยธิน แต่ตอนนี้คงอบเอาแล้วน่ะครับขืนตากแบบเดิม..คงกินไม่ได้น่ะครับ บ้านเราแม้อากาศหายใจในอนาคตอาจต้องซื้อใช้ แม้แต่น้ำฝนยังไม่ได้ดื่มมานานแล้วครับ เพราะโรงปูนซีเมนต์แถวๆบ้านก็เจ็ดแปดโรงไปแล้วนะครับ..แหะ กระทู้นี้บ่งบอกอายุผู้คอมเมนต์ด้วยนะครับ..ผมเองอยู่โน่น ก็ดื่มน้ำกรองสะอาด น้ำที่ใช้คือน้ำกร่อย จืดไม่สนิทครับ เพราะทะเลทรายในอดีตคือทะเลเก่า บางแห่งยังมีน้ำเค็มในฤดูนี้่ เอ่อมาครับ ไม่ใช่น้ำจืดดังคิด ขอตัวไปกินอาหารก่อนและเตรียมเข้างานครับผม.. จากคุณ : ขวัญชัยอิศรา (kwanchaiisra) เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 16:33:55

ความคิดเห็นที่ 16 จากภาพเดาว่า คุณพี่ : TinyNu   ถนัดซ้าย ครับ จากคุณ : ananrak เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 16:39:57

ความคิดเห็นที่ 17   มาหัดหุงข้าวด้วยคนฮะ   จากคุณ : หน้าต่างไร้กลอน เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 17:30:40

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณ สำหรับวิธีหุงข้าวค่ะ... เมื่อหลายวันก่อน ฝนตก ไฟดับทั้งหมู่บ้าน.. ไม่มีไฟหุงข้าว..ต้องทำข้าวต้มกินค่ะ พี่ต้อย.....จะลองทำดู ค่ะ.. จากคุณ : ยายภูธร เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 17:52:56

ความคิดเห็นที่ 19 แล้ววิธีหุงข้าวต้ม มีเคล็คอย่างไรครับ   ให้เทข้าวสารลงในหม้อข้าวพร้อมน้ำเย็นตั้งไฟ  หรือ รอให้น้ำเดือดก่อน แล้วค่อยเทข้างสารลงไป ใช้ข้าวสารชนิดไหนหุงข้าวต้ม   ต้องคอยคนข้าวไหมระหว่างเคีี่ยว ผมเคยไปทานที่เยาวราช ข้างต้มขาวเขาหุงได้ดีมาก น้ำข้าวมีความเข้มข้นวดแล้วอย่าบอกใคร อร่อย  จากคุณ : SURAWISH เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 18:34:13

ความคิดเห็นที่ 20 <p><b>แล้ววิธีหุงข้าวต้ม มีเคล็คอย่างไรครับ &nbsp;</b></p><p><b>ให้เทข้าวสารลงในหม้อข้าวพร้อมน้ำเย็นตั้งไฟ &nbsp;หรือ</b></p><p><b>รอให้น้ำเดือดก่อน แล้วค่อยเทข้างสารลงไป</b></p><p><b>ใช้ข้าวสารชนิดไหนหุงข้าวต้ม &nbsp; ต้องคอยคนข้าวไหมระหว่างเคีี่ยว</b></p><p><b>ผมเคยไปทานที่เยาวราช ข้างต้มขาวเขาหุงได้ดีมาก น้ำข้าวมีความเข้มข้นวดแล้วอย่าบอกใคร อร่อย&nbsp;</b></p> จากคุณ : SURAWISH เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 18:35:33

ความคิดเห็นที่ 21 ขอโทษครับ อ่านใหม่..... แล้ววิธีหุงข้าวต้ม มีเคล็คอย่างไรครับ   ให้เทข้าวสารลงในหม้อข้าวพร้อมน้ำเย็นตั้งไฟ  หรือ รอให้น้ำเดือดก่อน แล้วค่อยเทข้าวสารลงไป ใช้ข้าวสารชนิดไหนหุงข้าวต้ม   ต้องคอยคนข้าวไหมระหว่างเคี่ยว ผมเคยไปทานข้าวต้มขาวที่เยาวราช ข้างต้มขาวเขาหุงได้ดีมาก น้ำข้าวมีความเข้มข้น  อร่อย...... จากคุณ : SURAWISH เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 18:40:13

ความคิดเห็นที่ 22 เย๊ย   คุณลุง SURAWISH ขอรับ ลงข้าวสาร  ซาวซะน้ำนึง ตามธรรมเนียม ลงน้ำ เข้าไป อยากกินข้าวต้มแบบไหนล่ะขอรับ น้ำน้อย ได้ข้าวต้มแฉะ เหมือนข้าวสวยเปียกๆ  กระผมชอบกินกะ ไข่เยี่ยวม้า กะ หมู่ชอยเข่าหยก  หมูสามชั้น ปรุงกับผักดองจีน ถ้าชอบซดน้ำข้าวต้ม ก็น้ำเยอะหน่อย ใส่ไปพร้อมกันเลยกับข้าวสาร ต้มโลด ห้ามคน จะเอาเม็ดข้าวเป็นยังไง ก็เลี้ยง ไฟอ่อนไฟแก่  ต้อนข้าวเริ่มนิ่มขอรับ จากคุณ : ท่านขุนเดชา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 19:02:10

ความคิดเห็นที่ 23 จะลองทำดูค่ะขอบคุณนะคะ จากคุณ : snyggen เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 19:13:33

ความคิดเห็นที่ 24 สวัสดีค่ะ..อาจารย์พี่ต้อยที่เคารพ :) เข้ามานั่งเท้าคาง.. ฟัง เอ๊ย อ่าน..ความรู้เกี่ยวกับการหุงข้าว ด้วยเตาถ่าน.. รู้ไว้ก็ดีนะคะ.. เผื่อแผ่นดินไหว ไฟดับ ... ขอบพระคุณอาจารย์ที่เคารพ...สำหรับความรู้ดีดีที่มาเพิ่มรอยหยักในสมองน้อยๆ ป.ล. นักเรียนเข้ามาทีหลัง...มาช้าดีกว่าไม่มานะคะ หวังว่า อาจารย์คงไม่หักคะแนนเนาะ อิอิ :)) จากคุณ : Super Girl ^_^ เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 19:29:22 A:182.53.130.85 X: TicketID:311560

ความคิดเห็นที่ 25 นึกถึง "ไม้ขัดหม้อข้าว" ยาแก้ดื้อขนานเอก จากคุณ : ลุงอ่ำ เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 20:44:22

ความคิดเห็นที่ 26 สวัสดีค่ะคุณพี่ต้อย เพิ่งเคยเห็น ทันสมัยดีจัง แหะๆ:) จากคุณ : alinada เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 21:27:17

ความคิดเห็นที่ 27 ... จากคุณ : Resource of life เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 23:12:04

ความคิดเห็นที่ 28 มารอทานข้าวครับ ผมไม่ได้ทานน้ำข้าว ใส่เกลือมานานแล้ว น้ำข้าว ใส่เกลือ น้ำตาลทราย เมื่อก่อน เรียกกันว่า กาแฟหมา ครับ จากคุณ : พี่กี้ร์ เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 05:09:28

ความคิดเห็นที่ 29 ^ พี่กี้ร์ คำว่า กาแฟหมา นี่โดนมากเลยครับ อุ อุ สมัยเด็กๆ ชอบกินน้ำข้าวเช่นกันครับ จากคุณ : กอไผ่สีสุก เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 08:04:09

ความคิดเห็นที่ 30 สวัสดีครับ  ขอโทษติดภาระกิจ กลับดึกหน่อย คุณ  ananrak มัวตั้งการ์ด ซ้าย ขวา โดน ปาด ไปเลย คุณ หน้าต่างไร้กลอน  ยังขาดคนหุงข้าว ? คุณ สวย  พี่ต้อยหุงข้าวไว้เยอะๆ เก็บใส่ตู้เย็น ครับ คุณ SURAWISH ช่างสังเกต ผมชอบไปกินแถว ซอยแปลงนาม ..มีปลาช่อนเกียมฉ่าย เมนูนี้ ท่านสมัคร ชวนชิม ผมสั่งพวกปลานึ่ง ปลาๆ ที่ผมชอบ จริงๆ ด้วยครับ ร้านข้าวต้ม เยาวราช เขาหุงข้าวต้มเก่ง ไม่เหมือนใคร รู้สึกจะเปิดตลอด 24ชั่วโมง แวะ ..ทานข้าวต้มกลางวัน ดีไหม ? ขอบคุณ ท่านขุนเดชา แวะมาบอกเกร็ดการหุงข้าวต้ม ผมจะทำกินมื้อกลางวันนี้ อิอิ หมู่ชอยเข่าหยก  ..ผมเคยได้วิธีทำ เข้าหยก .. จากร้านอร่อย ปัตตานี กรรมวิธีมากเหมือนกัน  คุณ snyggen ลองทำดู ปิดแก็สแล้ว อย่าเพิ่งเปิดฝา ข้าวจะไม่ติดหม้อ และอีกอย่างคือ ข้าวหอมมะลิ เมื่อเย็นแล้ว เอามาอุ่นใหม่ ข้าวจะนุ่มเหมือนเดิม อันนี้ต่างกับข้าว เสาไห้ ข้าวขาวตาแห้ง ที่เย็นแล้วแข็ง อุ่นใหม่ จะไม่นุ่ม ครับ Super Girl มาช้า กับข้าวหมด เหลือแต่ข้าวหุงหม้อดิน ของน้องโม ..ไม่ต้องไฟดับ บ้านพี่ต้อยหุงข้าวเตาแก็ส หุงทีละหลายกระป๋อง เสร็จแล้ว ตักใส่ตู้เย็นแช่เอาไว้ คุณสมบัติเด่นของข้าวหอมมะลิ 105 คือ เอามาเข้าไมโครเวป อุ่นเสร็จ ข้าวร้อน จะนุ่มเหมือนหุงใหม่ๆ คุณ ลุงอ่ำ ใจร้าย ?? ตีเด็กได้ลงคอ คุณ น้องโม หุงข้าวหม้อดิน นี่เป็น อาหารชั้นหรู ข้าวสุกมีกลิ่นหอม อร่อย ครับ คุณ ต่าย สวัสดีครับ คุณ พี่กี้ร์  ดีจังวันหลัง เรามาทำใส่ขวดขาย คุณ กอไผ่สีสุก  น้ำข้าว เป็นภูมิปัญญาไทยอย่างหนึ่ง น้ำข้าว สารอาหารสูง ดูดซึมเร็วพอสมควร เวลาผมขาดน้ำตาล(ในเลือด) อาการเป็นลม  ผมจะรีบเข้าร้าน 7/11 สั่ง เปา 2 โค๊ก 1 รวมเงิน 44 บาท เติมสารอาหารทันใจ ในใจก็นึกถึงน้ำข้าว ครับ ภาพ .. อาหารเช้า มีค่า GI Glycemic Index = 0  แค่นี้ อิ่มถึง 13.00 น. ครับ แคปซูล คือ ยาอายุวัฒนะ Coenzyme Q10 ต้องกินพร้อมอาหาร  กันลืมจึงเอาใส่จานไว้ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 09:02:51

ความคิดเห็นที่ 31  สวัสดีครับ คุณ ขวัญชัยอิศรา แสดงว่ารู้จักโรงหมี่ เจียงคายเซ้ง ตรามังกร ทางเข้าโรงงานอยู่ตรงเชิงสะพาน ถ้าไปจาก แก่งคอย .. วิ่งชิดเลนใน ก่อนข้ามสะพาน ให้เลี้ยวซ้าย เข้าไปสักนิดเป็น สนามไดกอล์ฟ มีร้านอาหารญี่ปุ่น ถ้าเมื่อยก็มีบริการนวดอีกด้วย ร้านญี่ปุ่นชื่อ ??? แปลเป็น มงคล พี่ชาย พิเชียร เป็นฝ่ายขาย ใช้วิธีเดินเข้าไปเสนอขายตามร้านก๋วยเตี่ยว เจอร้านไหนก็เข้าไปขาย วันนี้เขาไม่ซื้อ ก็ไม่เป็นไร เดินคอตก กลับมา ... ไม่เป็นไร วันพรุ่งนี้ วันต่อๆไป ก็แวะไปถามอีก .. ถามจนเขาซื้อ .. นี่คงจะเป็นบทเรียนให้ มีความมุ่งมั่น ทำอะไร ทำจริง และติดตามผล .. จนสำเร็จ ก่อนพิเชียรจะเรียนจบกลับมา โรงงานยังใช้วิธีตากแดด วันไหนฝนตกจะวิ่งเก็บกันชุลมุน ตอนนี้มีเครื่องอบอัตโนมัติ ไม่ต้องพึ่งแดด ... จะว่าไปผมเป็นคนออกแบบเครื่องอบต้นแบบ เป็นเครื่องอบไม้ กรรมวิธีอบแห้ง เส้นหมี่ มีตัวแปรสำคัญ ที่ต้องคุมเข้ม คือ ความร้อน และ เวลา การควบคุมความร้อนให้คงที่ ..ลักษณะกราฟ-ไม่เป็นเส้นตรง คือ ไม่ใช่ว่า ร้อนแล้ว Off ..พอเย็นแล้ว ON  การควบคุมอย่างนี้ ความร้อนจะไม่คงที่ ถ้าร้อนเกินไป เส้นจะกรอบ หักง่าย ข้าวที่ใช้ทำเส้นหมี่ ต้องใช้ข้าวที่มีค่า Density  ความแข็งสูง เช่น ข้าวขาวตาแห้ง เสาไห้ ข้าวที่เคยตรวจวัดความแข็งสูงสุด เป็น ข้าวพิจิตร ครับ การซื้อขายข้าวสารทีละมากๆ คุณพ่อพิเชียรนั่งคุย เจี๊ยะเต้ กับ เจ้าของโรงสี นั่งเจรจากันต่อรอง กก. ไม่กี่สตางค์ ซื้อจำนวนมากเป็นเงินมากโข เรื่องเลี้ยงหมู ... ผมฟังพิเชียรเล่า ทำไมคนถึงชอบเลี้ยงหมูตอนหมูแพง พอหมูโตพร้อมกัน ก็ล้นตลาด ราคาหมูก็ตก พิเชียรจะเริ่มเลี้ยงหมูตอนหมูราคาตก ครับ โดยรวม ...ผมเก็บเกียวข้อคิด วิธีการดีๆ จากพิเชียร ไม่น้อยเลย จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 09:24:29

ความคิดเห็นที่ 32  ขอปิดกระทู้ ด้วยเรื่อง ข้าวหอมมะลิ ประวัติที่มา และ คุณสมบัติเฉพาะที่ควรรู้ ประวัติ ข้าวหอมมะลิ 105 ...ได้จากการคัดเลือกข้าว ที่ทดลองปลูกในแปลงทดลอง หมายเลข 105  จึงเป็นที่มาของ ข้าวหอมดอกมะลิ 105 ทดลองปลูกจากรวงข้าว 199 รวง เมื่อปี 2497 ที่ โคกสำโรง จ. ลพบุรี ข้าวหอมมะลิ 105 มีกลิ่นหอม เมื่อหุงสุกมีกลิ่นเหมือนใบเตย ผมหุงหลังบ้าน หอมถึงบ้านน้องหน้าบ้าน ตอนหลังมีการพัฒนาได้ข้าว "กข.15"  ข้าวหอมมะลิ-แท้ จะมี 2 พันธ์ คือ ขาวดอกมะลิ 105 และ กข่. 15 ตามประกาศกระทรวงพานิช ข้าวหอมมะลิ เป็น ข้าวไวแสง  หมายความว่า ไวต่อสภาพแสงแดด เช่นเดียวกับ องุ่น ดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิประเทศและแสงแดด ...เพราะเหตุนี้ ข้าวหอมมะลิ 105 (แท้) จะเป็นข้าวนาปีเท่านั้น  คือ ปลูกได้เพียงปีละครั้ง เริ่มปลูกตุลาคม เก็บเกี่ยวในช่วงต้นปี ผลผลิตต่ำ ...ไร่ละ 30-40 ถังต่อไร่  ปัจจุบันมีการพัฒนาข้าวหอม "สายพันธ์-ไม่ไวแสง" กล่าวคือ ปลูกได้ทั้งปี นาปรัง นาปี ได้ตลอดปี ข้าวชนิดนี้มีลักษณะคล้ายข้าวหอมมะลิ 105 มาก  เช่น  ข้าวปทุมธานี,  ข้าว ?? อีกสองสามตัว ที่ผมจำไม่ได้ ... หุงมาชิมกัน นักวิชาการบอกว่า แยกได้ยาก ....ตามท้องตลาดที่เราซื้อกัน ส่วนใหญ่เป็นข้าวหอมปทุมธานี ครับ ข้าวหอมมะลิแท้ๆ ที่อร่อย ที่ผมชอบเป็นข้าวที่ปลูกแถวอิสาน ทุ่งกุลาร้องไห้ เช่น ข้าวสุรินทร์ ข้าวเชียงราย เป็นที่นา ที่ปลูกข้าวเหนียวได้ดี (ต่อ) ปลูกข้าวเหนียวได้ผล vs ข้าวหอม จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 09:47:39

ความคิดเห็นที่ 33    ที่นาที่ปลูกข้าวเหนียวได้ผล เกี่ยวข้องกับ ข้าวหอม อย่างไร ? --ข้าว ประกอบด้วยแป้ง 2 ชนิด คือ Amylose และ Amylopectin 1) ข้าวหอมมะลิ มีปริมาณ Amylose ไม่เกิน 19%  ใกล้เคียงกับข้าวเหนียว ในทางวิชาการข้าว ถ้าเขาบอกว่า ข้าวชนิดนี้มี Amylose เท่าไรเปอร์เซนต์ ก็หมายความว่า ส่วนที่เหลือ เป็น Amylopectin ครับ Amylose และ Amylopectin  มีผลกับการดูดน้ำ ..และอุณหภูมิแป้งสุก โดยที่ .... Amylopectin is the water-soluble ... *** คุณสมบัติสำคัญที่น่าสนใจ คือ ก) ข้าวหอมมะลิ เป็นข้าวที่ "หุง-ไม่ขึ้นหม้อ" ข) เมื่อหุงเป็นข้าวสุก แล้วปล่อยทิ้งให้เย็น เอาไปอุ่นใหม่ ข้าวจะกลับมานุ่มเหมือนเดิม เหมือนหุงใหม่ๆ ได้อีก ..... คุณสมบัติข้อนี้สำคัญ ที่ทำให้ผมหุงทีละมากๆ ใส่ตู้เย็นไว้ นึกจะกินก็เอามาเข้าไมโครเวป อุ่น 2 นาที ก็ได้ข้าวสุกร้อนๆ นุ่มเหมือนหุงเสร็จใหม่ๆ ครับ ค) ลักษณะเมล็ดข้าวหอมมะลิ จะมีขนาด Length - Ratio  3.2 ต่อ 1 หมายความว่า เมล็ดยาว ต่อ ความอ้วน = 3.2 ต่อ 1 โดยที่ข้าวหอมมะลิแท้ จะมีเมล็ดยาว 7 มิลลิเมตร **** เป็นข้าว Long grain เมื่อไม่กี่วันก่อน มีชาวบ้านหาบข้าวมาขายตามตลาดนัด บอกเป็นข้าวหอมสุรินทร์ ขายถูก กิโลกรัมละ 30 บาท พอหยิบมาดู เห็นเมล็ดสั้นๆ คนขายบอกว่า "เป็นชาวนา ทำนาเอง" ข้าวหอมมะลิ เดี่ยวนี้ มีสองอย่าง เมล็ดสั้น กับ เมล็ดยาว ...  (5555) จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 10:06:03

ความคิดเห็นที่ 34  ข้าวเสาไห้ ข้าวขาวตาแห้ง ข้าวเหลืองปะทิว ... มีดี อะไร ? ข้าวเสาไห้ ขาวตาแห้ง เป็นข้าวที่มี Amylose สูง ปลูกได้ดีแถว สระบุรี  มีข้อดี ...เป็นข้าวที่ "หุงขึ้นหม้อ"  ข้าวสุกเมล็ดร่วน เอามาทำข้าวผัดได้ดี เนื่องจากมีเปอร์เซนต์แป้ง Amylopectin ต่ำ (มีคุณสมบัติดูดน้ำ) ข้าวสุกที่หุง จะบูดเสีย ได้ยาก แม่ค้าขายข้าวแกง จะใช้ข้าวชนิดนี้ หุงเช้า เก็บใส่ "กระติกเก็บความร้อน" ไว้ได้ตลอดวัน โดยข้าวไม่เสีย ไม่บูด ---สังเกตุ ผมเน้นคำ "กระติกเก็บความร้อน"  ไหมครับ -- ข้าวชนิดนี้ เมื่อหุงเป็นข้าวสุก ร้อนๆ จะนุ่ม เคี้ยวอร่อย --แต่ถ้าปล่อยให้ข้าวเย็น แล้ว ข้าวจะแข็งกระด้าง ... ที่สำคัญ เอามาอุ่นให้ร้อน ข้าวก็จะไม่กลับมานุ่มเหมือน สุกใหม่ๆ ครับ ** นี่เป็น คุณสมบัติที่แตกต่างกันในสาระสำคัญ ระหว่างข้าวหอมมะลิ กับ ข้าวเสาไห้ ** ตามวัด... เวลามีงาน กรรมการครัวของวัด จะหุงข้าวสุก ตักใส่โอ่งปิดฝาเอาไว้ เป็นวิธีเก็บรักษาให้ข้าวร้อนได้นานๆ  ครับ หมายเหตุ คำว่า หุงขึ้นหม้อ  นักวิชาการเขานิยามไว้แล้ว ข้าวพองตัวเท่าไร อย่างไร ? ดังนั้น... ข้าวสุกทุกชนิดที่มันพองตัว .. จะเหมาว่า หุงขึ้นหม้อ ไม่ได้ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 10:16:58

ความคิดเห็นที่ 35 ประวัติความเป็นมา http://www.hommali.net/index.php?lay=show&ac=article&Id=538856187&Ntype=1 มาตรฐานข้าว ... http://www.purethaihommali.com/thai/standard.htm ส่วนประกอบแป้งในข้าว http://www.thairice.org/html/aboutrice/about_rice2.htm จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 10:19:04

ความคิดเห็นที่ 36   สวัสดีค่ะคุณ TinyNu       วิ่งตามมา เกือบไม่ทันปิดกระทู้ ข้าว ข้าว ข้าว ค่ะ   จากคุณ : แม่หมูใจดีจริง เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 10:39:10

ความคิดเห็นที่ 37  ข้าวมีการส่งออกเสรี โรงสีเจียเม้ง (แปลว่า สว่างแท้) ส่งข้าวออกไปขายยุโรปหลายสิบปีก่อน เขารักษาควบคุมคุณภาพ จนได้รับความเชื่อถือจากตลาดฝรั่งเศส และยุโรปหลายประเทศ สมัยนั้น ในตลาดยุโรป มีข้าวเมล็ดยาว(มาก) จากอเมริกาเข้าไปขาย ถ้าผมจำไม่ผิด ปลูกในรัฐฯ บ้านเกิดของ บิล คลินตัน ข้าวชนิดนี้ มีคุณสมบัติเหมาะให้ม้ากินมากกว่าให้คนกิน เพราะข้าวแข็งมาก หุงยังไงก็แข็งทดลองกันหลายคน .. แต่พวกเราคนไทย กินข้าว มีกินดีกว่าไม่มีกินครับ พอผมกลับเมืองไทย เข้าไปด้น (แปลว่า ซน)  ใน ม. เกษตร ไปรู้จักอาจารย์ที่พืชสวน เดินไปเดินมาแถวนั้น ...ผมก็เจอเพื่อนผู้หญิง นร. อังกฤษ ที่รู้จักตอนเรียนหนังสือ หลังจากทานข้าวแล้ว กลับมานั่งทานกาแฟต่อในออฟฟิสของ ผมเจอฝรั่งอเมริกาคนหนึ่ง บอกตรงๆส่วนตัวผมชอบฝรั่งอเมริกา ด้วยท่าทางเป็นคนใจดี ชื่อ Mr Fischer  เป็นผู้เชี่ยวชาญข้าว ..คำนี้เอง ทำให้ผมเอะใจ เรื่องข้าวไทยเราเป็นผู้นำ แล้วผู้เชี่ยวชาญข้าวฝรั่งมาทำไรที่ ม. เกษตร  ผมไม่อยากเล่าต่อ ฝากเพื่อนๆค้นข่าวเรื่องข้าวหอม ต่อ นะครับ   จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 10:42:43

ความคิดเห็นที่ 38  สวัสดีครับ แม่หมูใจดี  ผมเห็นแม่หมูใจดียังไม่มานี่เอง ... ถึงได้ยืดเรื่องต่อ สำรับกับข้าวของแม่หมู น่ากินจังเลย จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 10:44:42

ความคิดเห็นที่ 39            ขอบพระคุณค่ะ  ดีใจจัง       กำลังจะพิมพ์เพิ่มรูปข้าวข้างบนว่า  เป็นภาพที่เมื่อไปเที่ยวเชียงใหม่ แล้วแวะ จังหวัดตากค่ะ  สั่งข้าว 1 โถ ปรากฎว่า มาเป็น ถ้วยดินแบบนี้ค่ะ เลยต้องสั่งเพิ่ม     สำหรับกับข้าว ที่เห็นแว๊บๆ คือ ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน ชอบเหมือนกัน    แต่สำหรับเช้านี้  ทานข้าวกับไข่ต้ม +  น้ำพริกเผา  ง่ายมาก แต่อร่อยเหาะ ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : แม่หมูใจดีจริง เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 10:52:50

ความคิดเห็นที่ 40 เข้ามาอ่านต่อค่ะ... สวัสดีค่ะ..แม่หมูใจดีที่หนึ่งเลย.. หนูได้ยินคำว่า "อร่อยเหาะ" ก็เลยสงสัยอีกแล้วค่ะ ถามอาจารย์พี่ต้อยดีกว่า (อย่าเพิ่งปิดกระทู้เลยเนาะ ทานข้าวกางวันก่อนละกันค่ะ อิอิ) คำว่า "อร่อยเหาะ" มีที่มายังไงเจ้าค๊ะ ? แห่ะๆ จากคุณ : Super Girl ^_^ เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 11:01:14 A:182.53.132.199 X: TicketID:311560

ความคิดเห็นที่ 41 ว๊า...พิมพ์ผิดจนได้ 555+ ขอแก้ไขคำผิดนะคะ "ข้าวกางวัน" ใน คห.40 แก้เป็น "ข้าวกลางวัน" เจ้าค่ะ อิอิ :) ป.ล. เห็นแม่หมูใจดีที่หนึ่งเลย บอกว่า... ทานข้าวกับไข่ต้ม + น้ำพริกเผา ง่ายมาก แต่อร่อยเหาะ ฮ่าๆๆๆ ทำให้นึกถึงเพลงลูกทุ่งเพลงนึงที่มีเนื้อร้องว่า "กินข้าวกับน้ำพริกสิจ๊ะ ถึงได้สะได้สวย" ชื่อเพลงอะไรน๊า ?...น้องจำไม่ได้จริง ๆ เจ้าค่ะ แห่ะๆ จากคุณ : Super Girl ^_^ เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 11:12:58 A:182.53.132.199 X: TicketID:311560

ความคิดเห็นที่ 42   สวัสดีจ้าน้องจริง &  Super Girl        ชื่อเพลง  กินข้าวกับน้ำพริก จ่ะ คุณผ่องศรีร้องแก้เพลง กินอะไรถึงสวย   ส่วน อร่อยเหาะ  สำหรับที่มา  ยังไงไม่ทราบเหมือนกันจ่ะ         ทราบแต่ว่า  แม่หมู อร่อยเหาะ  แล้วเป็นแบบนี้ จากคุณ : แม่หมูใจดีจริง เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 11:24:44

ความคิดเห็นที่ 43       วันนี้ตั้งใจจะไปทาน ส้มตำ ไก่ย่าง ร้านไก่ย่างหลัง อ ต ก  ดูเวลา ไม่น่าเชื่อว่า จวนเที่ยงแล้ว       ไปทานส้มตำกันนะคะ คุณTinyNu  น้องจริงSuper Girl                วันนี้ ขอสวัสดี ก่อนนะคะ โอกาสหน้า จะมาทักทายกันใหม่ จากคุณ : แม่หมูใจดีจริง เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 11:35:54

ความคิดเห็นที่ 44  สวัสดีครับ วันนี้พี่ทำอะไรเพลิน จนเห็นส้มตำปูม้า จึงรู้สึกหิวขึ้นมาทันที ส้มตำปูม้า ที่บางแสน เคยมีร้านหนึ่ง อร่อยมาก ไม่ทราบตอนนี้ยังอยู่ไหม ร้านส้มตำ ไก่ย่าง หลัง อ.ต.ก. เจ้านี้ขายดีมาก พี่ต้อยไปยืนดูคนตำ ไม่ได้หยุดมือเลย เมื่อก่อนขายอยู่ใน ตลาด อ.ต.ก. เจ้าสุดท้าย ประมาณนั้น ตรงหน้าร้าน มีคุณยายขายมีดอรัญญิก วางหาบขายมีด พี่ต้อยแวะดูมีด คุณยายไม่พูดอะไรเลย หยิบมีดเล่มนั้น เล่มนี้ ใส่ห่อกระดาษยื่นให้พี่ ... บอกว่า เห็นหน้าถูกชะตา ให้ฟรีๆ พี่ตกใจไม่ยอมรับ คุณยายทำตาแดงๆ พี่ก็ต้องรับ ให้เงินไม่เอา พี่ต้อยเลยเดินซื้อผลไม้กลับมาให้ คุณยาย บอกให้ไปเที่ยวบ้าน ที่บ้านยายทำมีด และบอกว่า มีดอรัญญิก ชื่อนั่น อรัญญิก แต่เขาไม่ได้ทำมีดที่นั่นครับ วันหลัง ... อีกหลายปีต่อมา พี่ไปสืบถามคนที่นั่น จนได้ชื่อที่อยู่มาเรียบร้อยแล้ว จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 12:56:14

ความคิดเห็นที่ 45  กลับไปค้นใน  (tiny Prince) Diary บันทึกเรื่องคุณป้าใจดี ดังนี้ ป้าสำราญ (ปัจจุบัน) ขายข้าวอยู่ในกลุ่มบ้านแพ้ว ตลาด อตก. สามีชื่อ ลุงเปื่ยม ขายมีด ขายครกหินอ่างศิลา อยู่ตลาด อตก. 01-838-2xxx เบอร์ของลูกสาว ชื่อ ต้อย หมายเหตุ ป้าสำราญ เคยให้มีดอรัญญิกห่อใหญ่โดยไม่คิดเงิน .. เมื่อสิบกว่าปีก่อน จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 12:59:58

ความคิดเห็นที่ 46 จข.กท.ทานข้าวกลางวันรึยังคะ พี่ต้อยที่เคารพ :) น้องจะกลับมาฟังคำเฉลย "อร่อยเหาะ" มีที่มาอย่างไร ? 555+ ก็เลยได้ความรู้เรื่อง "มีดอรัญญิก" อีกเรื่องนึงอ่ะค่ะ ดีแล้วค่ะ จะได้เพิ่มความรู้ในสมองน้อยๆ ... เห็นรูปส้มตำ ของคุณแม่หมูใจดีที่หนึ่งเลย...คงจะต้องออกไปตลาดแล้วค่ะ ตอนเย็นจะเข้ามาอ่านต่อนะคะ สวัสดีเจ้าค่ะ ป.ล. พี่ต้อยคะ..เพลงในเวอร์ชั่นนั้นน้องเปิดแล้วไม่เวิร์คค่ะ รบกวนกลับไปดูอีกทีนะคะ ขอบพระคุณอีกครั้งเจ้าค่ะ อิอิ :) จากคุณ : Super Girl ^_^ เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 13:25:56 A:182.53.132.199 X: TicketID:311560

ความคิดเห็นที่ 47  มีคนกระซิบหลังไมค์ กระทู้กลายพันธ์อีกแล้ว พี่บอกว่าเป็นกระทู้ชวนคุย ก็แล้วกัน  อร่อยเหาะ พี่ต้อยตอบไม่ได้ รอฟังคำตอบเป็นเพื่อนน้อง Super Girl นะครับ มีคำถามที่ดี หลังไมค์ ถามว่า คห. 9  "ไม่เปิดฝา ข้าวไม่ติดก้นหม้อ"  ใช้กับหม้อหุงข้าวไฟฟ้าได้ผลไหม ? คำตอบ ... ไม่ได้ ครับ ผมทดลองแล้วไม่ได้ผล พยายามค้นหาเหตุผล  ความแตกต่างระหว่าง หุงด้วยแก็ส กับ หม้อไฟฟ้า คือ ตอนที่ข้าวเดือด น้ำงวดถึงระดับปริ่มๆข้าว .... เราหรี่ไฟ ปล่อยให้ข้าวระอุสักพัก เราค่อย "ปิดไฟ" + ดับไฟ แล้วปิดฝาปล่อยทิ้งไว้ให้ ค่อยๆเย็นลง   ............. (1) ในขณะที่ หม้อหุงข้าวไฟฟ้า มันยังไม่ยอมปิดไฟ มันตัดไปที่ระบบ "อุ่น" ก้นหม้อยังมี "ความร้อนอุ่นให้คงที่"  เพราะ ระบบอุ่น่นี่เอง ที่ทำให้ข้าวติดก้น  ...........(2) สรุป จะเห็นความแตกต่าง ระหว่าง ข้อ 1  และ ข้อ 2  ต่างกันที่ "ก้นหม้อ ค่อยๆเย็นลง กับ ร้อนคงที่" คราวนี้ ก็มีการบ้านให้ทดลอง 2 ข้อ  เลือกทดลองเอาสักข้อ 1) รื้อวงจร "อุ่น"  ตัดออกไป ... ข้าวจะติดก้นหม้อไหม ? 2) ทำให้ง่ายกว่านั้น พอหม้อหุงข้าวสวิทช์ตัดสักพัก คะเนให้ข้าวสุก เรายกหม้อชั้นใน ออกมาวางข้างนอก เงื่อนไข ... ก้นหม้อค่อยๆ ลดความร้อน = เหมือนกัน มันจะติดก้นหม้ออีกไหม ? จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 14:06:02

ความคิดเห็นที่ 48  คราวนี้ เป็นการทดลอง "ต่อยอด"  วิธีทำให้ข้าวระอุ โดยไม่เปลืองพลังงาน พอข้าวเดือด จนน้ำงวดปริ่มๆผิวหน้าข้าวสารแล้ว ความร้อนในหม้อยังมีอยู่ เรายกหม้อข้าวออกมา ...ห่มผ้าห่ม ห่มให้กักเก็บความร้อนให้เย็นช้า ปล่อยให้ข้าวระอุ ข้าวสุกได้เหมือนกัน ครับ วิธีนี้ ผมยกเครดิตให้ Mutti แม่บ้านเยอรมัน ที่ผมอาศัยด้วยตอนเรียนหนังสือ แกเห็นพวกผมหุงข้าว แกดูด้วยความสนใจ จนถึงขึ้นตอน หรี่ไฟ แกก็ปิ้งไอเดีย จะต้อง "หรี่ไฟ" เปิดแก็ส (ไฟฟ้า) ให้เปลืองทำไม ???? แกยกออกมาวางบนโซฟานวม เอาผ้าห่มห่อหม้อข้าว ....  ใช้ได้ครับ ... นี่คงจะเป็นหลักการต้นตำรับ .... หม้อตุ๋นไร้สาย ... ที่ขายกันครึกโครม นั่นเอง หม้อตุ๋นไร้สาย ...ทำงานแบบเดียวกับการห่มผ้าห่ม กล่าวคือ เราเอาขาหมู ต้มให้เดือด แล้วยกหม้อตุ่น มาสวมใส่ในหม้อชั้นนอก .. ซึ่งก็คือ ฉนวนกันความร้อน กักเก็บความร้อนไว้ ลักษณะทำงานเหมือนผ้าห่ม นี่เอง ...ผมคงเป็นนักพัฒนา พอเห็นหลักการอย่างนี้ ผมก็ไม่ต้องซื้อหม้อตุ๋นไร้สาย ผมแค่เอา "ปิ่นโต-เก็บความร้อน"  ที่มีสองชั้น ชั้นนอกเป็นฉนวนกักความร้อน เอา "ปิ่นโต-เก็บความร้อน" มาใช้เป็น หม้อตุ๋นไร้สาย ได้เหมือนกัน ที่สำคัญ ราคาไม่กี่ร้อยบาท (ซื้อ Makro)  ต่างกับ หม้อตุ๋นไร้สาย ราคาหลายพันบาทครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 14:18:42

ความคิดเห็นที่ 49  ผมจะขอตัวออกไปข้างนอก เย็นนี้จะกลับมาค้น ปิ่นโต สารพัดนึก มาให้ดู ผมเคยซื้อไว้หลายเถา มาแจกเพื่อนครับ   จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 14:27:09

ความคิดเห็นที่ 50 จากความคิดเห็นที่ 47 ถ้าเราถอดปลั๊กหม้อข้าวทันทีที่สวิทดีดตัว รออีก 10 นาทีแล้วมาคดข้าว ข้าวจะติดก้นหม้อไหม ผมคุ้น ๆ ว่าติด ยิ่งหุงข้าวแฉะนิด ๆ นี่ติดบานเลย รบกวนผู้อยากรู้ทดลองด้วยครับ จากคุณ : ตวงสิทธิ์ เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 14:57:59

ความคิดเห็นที่ 51 ผมจะทดลองหุง ถ่ายรูปมาให้ดู จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 16:27:51

ความคิดเห็นที่ 52 ..ทดลองหุงข้าว ตามสัญญา .. จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 54 10:59:11

ความคิดเห็นที่ 53 ขอแตกประเด็น หม้อตุ๋นไร้สาย ทำเองก็ได้ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 54 09:11:56