ความคิดเห็นที่ 1 1. สอบบรรจุนี่เลือกสถาบันที่จะสอนได้หรือเปล่าคะ เพราะต้องดูแลทางบ้าน (ขึ้นอยู่แต่ละสถาบันจะกำหนดเขตพื้นที่ในการฝึกงานครับ) 2. เงินเดือนเริ่มต้น และเงินเดือนจะมากขึ้นตามเกณฑ์อะไร (ถ้าเป็นครูพันธ์ใหม่เรียน 6 ปี เริ่มต้นที่ 15,000 บาท) 3. เคยเห็นอาจารย์ชอบพูดว่าต้องทำผลงาน เลื่อนระดับครู มันคืออะไรคะ (ผลงานคือ งานวิจัยในชั้นเรียน,นวัตกรรม คือ สื่อการเรียนการสอน) 4. เงินเดือนตันที่เท่าไหร่ อายุเท่าไหร่ถึงจะตัน (ผมไม่ทราบครับ.เพราะผมคำนวณไม่เป็น) อาชีพครู กับ ครูอาชีพ <<< สองคำนี้ถึงคำจะสลับตำแหน่งกันแต่ความหมายนั้นแตกต่างกันมากมาย.. จากคุณ : Angsarcdmsu เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 54 01:10:11

ความคิดเห็นที่ 2 คำว่า ครู...กับคำว่า ข้าราชการครู หรือแม้คำว่า ครูมืออาชีพ ต่างกันมากมาย ที่เล่ามาในตอนต้นของกระทู้ ๕ - ๖ บรรทัดของวรรคแรก เป็นการอธิบายได้ว่า จขกท. เป็นผู้มีอุดมการณ์ครูอยู่ในใจแล้ว แต่เพียงการเป็นผู้มีอุดมการณ์ครูอยู่ในใจ ก็ยังไม่พอ ยังต้องเรียนรู้ฝึกฝนศาสตร์ แห่งการเป็นครู ให้ชำนาญ ปฏิบัติได้ดี อีกด้วย จึงจะทำให้บรรลุความสำเร็จตาม อุดมการณ์ ข้อคิด...ครูสอนภาษา (เช่น ภาษาญี่ปุ่น) ที่มีอุดมการณ์ครู แล้วสอนในที่ที่ไม่ใช่ โรงเรียน (เช่น ที่สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี่ ไทย-ญี่ปุ่น) ก็อาจเป็น ครูมืออาชีพ ที่สร้างรายได้ที่พอเพียงได้ มีโคลงบทหนึ่ง ของหม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ท่านเขียนไว้ดี กล้วยไม้ ออกดอกช้า........ฉันใด การศึกษา ย่อมเป็นไป......เช่นนั้น แต่ออกดอกคราวใด.........งามเด่น การศึกษาปลูกปั้น............เสร็จแล้วแสนงาม จากคุณ : ลุงอ่ำ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 54 08:03:22

ความคิดเห็นที่ 3 ยินดีด้วยครับที่มีผู้ตัดสินใจเลือกอาชีพครูเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน เพราะส่วนใหญ่ จะไปเรียนทางด้านสังคมศาสตร์ หรือบริหารจัดการมากกว่า สำหรับอาชีพครูนั้น หากจะว่ามีความก้าวหน้าในอาชีพไหม ผมว่ามีหนทางอยู่แยะครับ เพราะเป็นสาขาอาชีพที่ค่อนข้างขาดแคลน  แต่เนื่องจากไปทำงานตามชนบทนั่นแหละ พอทำงานได้สักพัก จะหาทางย้ายเข้ามาโรงเรียนในเมืองเพื่อต้องการความสะดวกสบายขึ้นทั้งการเดินทาง และที่พักอาศัย คำถามข้อแรก ขึ้นอยู่กับสาขาวิชาที่ขาดแคลนหรือไม่ และในปัจจุบัน ได้แบ่งเป็นเขตการศึกษาต่างๆ ในจังหวัดนั้นๆ อีกด้วย หากเป็นไปได้ พยายามเลือกบรรจุในพื้นที่เขตการศึกษาที่ใกล้บ้านให้มากที่สุดก็แล้วกันครับ ข้อนี้ให้ศึกษาข้อมูลเรื่องเขตการศึกษาในพื้นที่ตัวเองไปพลางๆ ก่อนครับ ข้อสองและข้อสี่ เงินเดือนเริ่มต้นรวมเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ น่าจะราวๆ หมื่นหกร้อยบาทกระมัง ส่วนขั้นสูงสุดในปัจจุบัน ต้องไปหาดูข้อมูลอัตราเงินเดือนครูแต่ละตำแหน่งซึ่งแตกต่างไปจากของข้าราชการพลเรือน ครับ ข้อสาม ใช่ครับ การทำผลงานนั้นจะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของผู้มีอาชีพครู เพื่อประโยชน์ด้านเลื่อนระดับตำแหน่ง และค่าตอบแทนวิชาชีพที่เพิ่มขึ้น ข้อนี้ต้องไปหาข้อมูลจากเว็บไซต์เกี่ยวข้องกับครู หรือทางกระทรวงศึกษาธิการ ตอบเท่าที่ทราบก่อนนะครับ คิดว่าคงมีผู้มีอาชีพครูตัวจริง เสียงจริงเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีก ซึ่งในห้องนี้มีอยู่หลายคนเชียวล่ะ จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 54 08:16:24

ความคิดเห็นที่ 4 การทำผลงานทางวชาการ  ความจริงเป็น  "การรวบรวมผลงานทางวิชาการ" ที่ต้องทำ  เพราะตอนทำงาน  ไม่ได้รวบรวมผลงานไว้  พอจะเสนอผลงาน  จึงต้อง "รวบรวม"  ไม่ใช่ "ทำ" ที่พบมาส่วนหนึ่ง  เป็นครูเพราะ ไม่รู้จะเรียนอะไร  จึงได้ครูที่ พร้อมจะจากไปเมื่อมีโอกาส ครูเก่งๆ  จึงมักจะถูกดึงไปอยู่ในสำนักงาน  ไปเป็น ศึกษานิเทศน์  ที่ไม่ได้เข้าถึง  "หัวใจของการนิเทศ"   ยนดีที่ จขกท. มีใจอยากเป็นครูตั้งแต่เริ่มแรก ข้าราชการครู  จริงๆ  แล้วเงินเดือนไม่ค่อยมีโอกาสตัน  ถ้า ไม่ทำงานดี  ได้เลื่อนเงินเดือนขึ้นเป็นกรณีพิเศษ  แล้ว  "ลืม"  รวบรวมผลงานทางวิชาการที่สร้างผลสำเร็จเอาไว้   อาจารย์ "สมาน  แสงมลิ"  อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการ  ท่านก็เริ่มจากครูประชาบาล แต่วันนี้  รัฐบาล นักวิชาการ  ท่านกำลังทำ.......... (ทำหรือไม่ทำ)  สิ่งที่ควรทำ/สิ่งที่ไม่ควรทำ  หรือเปล่า   เห็นแต่ปาก รมว. ศธ  ท่านออกมา  "ฉอดๆๆๆๆๆๆๆ......"   ดูปากยังแทบไม่ทัน จากคุณ : ขอนเก่า เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 54 09:34:05

ความคิดเห็นที่ 5  สังเกต ...จขกท ยังไม่รวบรวมความคิด ทำให้เขียนปนเป แทรกคำถามอยู่ในเนื้อหาปะปนกันไปหมด แล้วมา สรุป 1--2--3   การเขียนอย่างนี้ ลองกลับไปอ่านข้อความของตัวเองอีกครั้ง จะพบว่า คำถามที่แทรกในเนื้อหา ... นั่น ถามทำไม ต้องการคำตอบไหม ? ในเมื่อ จขกท ตั้งใจจริงว่า จะสอนเด็กให้เข้าใจ จขกท ควรจะเร่งแก้ไข วิธีการพูด ให้กระชับกว่านี้ แยกประเด็นให้ชัดเจน เพื่อว่า เวลาสอนเด็ก จะได้ผล คือ เด็กเข้าใจ ได้ตามความตั้งใจของ จขกท ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 54 12:31:27

ความคิดเห็นที่ 6  ถ้าต้องการคำตอบอย่างละเอียด ก็ได้นี่ครับ จะเอาละเอียดยังไง แค่ไหน ง่ายๆ แค่แยกเป็นข้อๆ  ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 54 12:33:09

ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องความมั่นคงของงานครูซึ่งเป็นงานราชการ เป็นที่มั่นคงอยู่แล้ว >>>>>>>>>>>>>  อยากบอกว่า ความคิดที่จะทำงานมั่นคง ... ก็ใช่ แต่ความมั่นคง มันอยู่ที่งาน หรือ อยู่ที่ตัวคนทำงาน ถ้ามั่นคง แบบว่าอยู่ไปวันๆ เช้าชามเย็นชาม ไม่มีใครไล่ออก ชีวิตทำงานมั่นคงแบบนี้ จะดียังไงครับ ? การทำงานที่มีประสิทธิภาพ ...ควรจะเป็นงานที่มีแรงกระตุ้น+มีแรงจูงใจ เพื่อว่า คนทำงานจะได้ กระตือรือล้น ครับ จริงไหมครับ ดังนั้น ความตั้งใจดี ตั้งใจจริง จะสำเร็จได้ เมื่อมีความเข้าใจดี เข้าใจจริงเสียก่อน จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 54 12:40:45

ความคิดเห็นที่ 8  นี่เป็นเรื่องจริง พ่อแม่ผู้ปกครองชอบสอนเด็ก ให้ขยันเรียน จะได้เรียนเก่งๆ แต่ผู้ใหญ่ไม่เคยบอกว่า ... ขยันนั้น ทำอย่างไร ? ถ้าเราสังเกต  เมื่อผู้ใหญ่เดินมา เด็กเห็นเข้า ก็รีบคว้าหนังสือ ก้มหน้าก้มตาอ่าน เพราะ เด็กคิดว่า ทำอย่างนั้น แปลว่า ขยัน เมื่อเด็กโตขึ้น ...ก็ไปทำงานบริษัท หรือ ราชการ พอเห็น "เงานาย" เดินมา พนักงาน ...ต่างรีบคว้าปากกาดินสอ หยิบจับแฟ้มจากซ้าย ย้ายไปวางข้างขวา สิ่งที่ผมพูดนี้ คือ ประสบการณ์จริง ที่พบเห็น ครับ ที่เล่าเชิงบ่นให้ฟัง เพื่อจะบอกว่า ความตั้งใจดี จะบรรลุผล ได้ไม่ใช่แค่แผนงาน แต่ต้องเข้าใจจริงจัง จึงจะบรรลุเป้าหมาย ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 54 13:13:41

ความคิดเห็นที่ 9  สิ่งที่คนตั้งใจจริง ไฟแรง จะทำงานได้ยาก คือ ระบบราชการของเรา ปัญหา อาทิ 1) เราไม่เอื้อ, ไม่ส่งเสริมให้คนรู้จัก "หน้าที่ของตน" และ "ขอบเขตอำนาจของตน" 2) ไม่สนับสนุนให้มีการ "กระจายอำนาจ"  คนในที่นี้ คือ ครูจึงตัดสินเองไม่ได้ 3) ผู้บังคับบัญชา(ส่วนใหญ่) จะรวบงานมาทำเองหมด เอะอะ ก็ถาม ผอ. ซิ ตัวอย่าง กรณีเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อน มีโรงเรียนแห่งหนึ่งจัดทัวร์ พาคณะครูไปเที่ยวตรัง ...นัยว่า งบประมาณฯไม่รีบใช้ จะต้องคืน จะไปอยู่วันสองวัน รายการมีอะไรบ้าง ยังไม่ได้กำหนด เมื่อมีข่าวภัยธรรมชาติ วิทยุทีวีประกาศโครมๆ น้ำท่วมตรัง ฯลฯ ที่รัฐฯประกาศเป็นเขตภัยฯ มีการประชุมครู ..จึงมีครูหลายคนแสดงความวิตก เสนอในที่ประชุมให้เลื่อนการเดินทางไปก่อน เกรงไม่ปลอดภัย และไม่ใช่เหตุจำเป็นเร่งด่วนที่จะไปให้จงได้ ครูที่จัดการแสดงอารมณ์ไม่พอใจ ... "เลื่อนไม่ได้" ได้จองโรงแรมแล้ว ได้จองรถแล้ว ใครไม่ยอมไปให้ไปถาม ผอ. แถมยังบอกว่า พวกคุณอย่าไปเสพข่าวให้มาก ...อ้าว แค่ประโยคนี้ ก็รู้สึกแย่แล้ว ...เป็นครูได้ยังไง ไม่ใส่ใจติดตามข่าวสารบ้านเมืองครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 54 13:30:57

ความคิดเห็นที่ 10 โห  รักพันทิปก็ตรงนี้แหละ ให้ความช่วยเหลือดีจริงๆ ขอบคุณทุกคนมากค่ะ คุณ TinyNu ขอบคุณสำหรับคำแนะนำในคห.ที่5 นะคะ แหะๆ พอดีปั้นกระทู้ดึกมาก ง่วงมากด้วย ปั้นสดๆเลย ประมาณว่านึกอะไรมาก็พิมพ์ไว้ก่อนเลย ไม่ได้วางโครงหลักไว้ก่อนว่าจะต้องเรียงลำดับยังไง แย่จริงๆด้วย แหะๆ จะรับไปปรับปรุงแน่นอนค่ะ ^^ จากคุณ : รัลทริมา เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 54 19:35:54

ความคิดเห็นที่ 11 ตอบเป็นข้อๆ 1.การเลือกทำงานในโรงเรียนแบบเจาะจงเลย ยากมากครับ การสอบบรรจุเป็นข้าราชการครูนั้น เขตพื้นที่การศึกษาตามจังหวัดต่างๆ จะเป็นหน่วยเปิดรับ ตามอัตราและวิชาเอกที่ว่างซึ่งแต่ละปีจะมีอัตราไม่มากนัก หากเปิดสอบไม่ตรงสาขาที่คุณจบ คุณต้องสมัครสอบที่เขตอื่น บางทีต่างจังหวัดหรือต่างภาค เมื่อสอบแล้ว เขตจะคัดเลือกเรียงลำดับของผู้สอบได้ในแต่ละสาขาวิชาเอกที่ว่าง และเรียกบรรจุไปทำงานยังโรงเรียนยังขาดครูสาขานั้นๆ ซึ่งแน่นอนว่าการบรรจุครั้งแรกมักจะเป็นโรงเรียนเล็ก ห่างไกล เพราะโรงเรียนขนาดใหญ่ ชื่อดัง สะดวกสบาย จะมีพวกขอย้ายมาลงก่อนที่จะเหลืออัตราว่างบรรจุ เว้นแต่คุณจบสาขาขาดแคลนจริงๆจึงจะได้บรรจุในโรงเรียนใหญ่ๆ 2.เงินเดือนและค่าตอบแทน เมื่อบรรจุได้ ต้องเป็นครูผู้ช่วยก่อน และต้องผ่านการประเมินเป็นระยะๆ รวมสองปี เงินเดือนเริ่มต้นเก้าพันกว่าบาท พ้นสองปีจึงจะเข้าสู่ตำแหน่งครู การรับเงินเดือนเป็นตามระบบแท่งเงินเดือน 5 แท่ง เงินเดือนจะเลื่อนตามระบบขั้นไปเรื่อยๆจนตันที่แท่งนั้นหากไม่ทำผลงาน แต่..เมื่อเงินเดือนถึงขั้นต่ำของแท่งต่อไปตามที่กำหนด ครูสามารถทำผลงานวิชาการเพื่อเข้าสู่แท่งเงินเดือนแท่งต่อไปได้เลย และจะเริ่มได้รับเงินวิทยฐานะ 3500  5600*2  9900*2  13000*2 เป็นเงินเพิ่มต่างหากนอกเหนือจากเงินเดือน 3.การทำผลงานวิชาการ คือการรวบรวมแล้วเรียบเรียงผลจากการทำงานของครูที่เป็นประโยชน์และเกิดผลไปสู่ผู้เรียน มักเป็นนวัตกรรมทางการศึกษาหรืองานวิจัย ที่ต้องมีการทดลองใช้จริงแล้วพบว่าทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็กดีขึ้น หากผ่านการประเมินก็จะได้เข้าสู่แท่งเงินเดือนที่สูงกว่าเดิมและมีเงินวิทยฐานะเพิ่มขึ้น ในความเป็นจริงขณะนี้ผลงานวิชาการทำยาก ผ่านยากมาก กว่าร้อยละ 90  จึงมีการทุจริต โดยคัดลอกผลงานวิชาการกันมากบ้างน้อยบ้าง จ้างกันทำก็ไม่น้อย โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับรายงานการนำไปทดลองใช้จนเกิดผลดีต่อผู้เรียน มั่ว ลอกกัน อย่างไม่เกรงกลัวต่อบาป จรรยามารยาท หรือวินัย 4.เงินเดือนครูขณะนี้ ส่วนใหญ่ตันที่แท่ง 2 (ชำนาญการ)   เงินเดือน 35400 บวกเงินวิทยฐานะ 3500 บางคนตันเป็นสิบปี เพราะทำผลงานไม่ผ่าน หรือไม่คิดจะทำ ส่งผลให้ครูกลุ่มนี้บางส่วน เมื่อเงินเดือนตันนานๆเข้า จึงมักขอเกษียณก่อนกำหนด(เออรี่) ปีละเป็นหมื่นคน หมายเหตุเพิ่มเติมอาจนอกประเด็นคำถามไปบ้าง   ที่รัฐบาลโชว์ว่าเป็นผลงานโบว์แดง ที่มีการแก้กฏหมายปรับเพิ่มเงินเดือนครู 8 % ความจริงแล้วเป็นการปรับเพื่อให้ขั้นเงินเดือนได้รับเท่าข้าราชการพลเรือนอื่น ที่เพดานเงินเดือนแต่ละขั้น สูงกว่าของครูมาสองสามปีแล้วเท่านั้น มิได้หมายความว่าครูได้ปรับเงินดือนสูงกว่าข้าราชการพลเรือนอื่นแต่อย่างใด จากคุณ : yott เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 54 20:40:20

ความคิดเห็นที่ 12 เพิ่มข้อ 4 เรื่องเงินเดือนสูงสุด หากทำผลงานเก่งมากๆ เงินเดือนสูงสุดอยู่ที่แท่ง 5 เท่าระดับเชี่ยวชาญพิเศษ หรือ ซี 11เดิม รวมเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งใกล้แสนบาท แต่..ในจำนวนครู หกเจ็ดแสนคนขณะนี้ จะหาสักคนสองคนที่ได้ถึงจุดนี้ยังยากมากครับ สักวันหนึ่งคนที่ได้ถึงตำแหน่งนี้อาจเป็นหนูเจ้าของกระทู้ก็ได้ จากคุณ : yott เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 54 20:55:02

ความคิดเห็นที่ 13 โอ้โห  อ่านแล้วเหนื่อยเลย แหะ ๆ  ^^;; เมื่อวานแอบเกริ่นๆกับคุณแม่ว่า 'หนูจะเป็นอะไรดีเนี่ย ครูดีมั้ยแม่' แม่สายหัวใหญ่เลย เพราะย่าจะให้เป็นเภสัช แต่วันๆจะให้อยู่ก่ะยาเนี่ยนะ ยอมขลุกอยู่กับเด็กดีกว่าอ้ะ ไม่เหงาด้วย เฮ้ออออออออออ  ยังเหลือเวลาคิดอีกนิด ขอบคุณทุกข้อมูลมากๆเลยค่ะ จากคุณ : รัลทริมา เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 54 21:18:25