Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
“จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี” ตอนที่ 1 เริ่มต้นของชีวิต “นักขาย”...โดย "ลุงแอ็ด" ติดต่อทีมงาน

“จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี” ตอนที่ 1 เริ่มต้นของชีวิต “นักขาย” อีกครั้งหนึ่ง



ตอนบ่ายวันหนึ่ง ท่ามกลางอากาศร้อนระอุของเดือนเมษายน พ.ศ. 2515 ลุง

กำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องแอร์เย็นฉ่ำสบายใจเฉิบ ทันใดนั้น ก็มีเสียงจากรีเซ

บชั่นซึ่งนั่งอยู่ด้านหน้าของออฟฟิตดังขึ้น


“คุณอมรขา  มีคนมาขอพบคะ”


ลุงเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นคุณผู้ชายสองสามคน แต่ละคนแต่งตัว ใส่เสื้อแขน

ยาว ผู้เน็คไทเรียบร้อย มีคนหนึ่งในนั้น รูปร่างท้วมๆ อูมๆ ดูภูมิฐานประกอบ

กับสูทสีเข้ม ทำให้ลุงยืนขึ้นต้อนรับในทันที


“สวัสดีครับ ผมชื่ออมร  ถาวรมาศ….มีอะไรจะให้ผมรับใช้ครับ”      


ลุงมักจะติดคำว่า “อมร ถาวรมาศ”  เวลาแนะนำตัวเอง ไม่ว่าจะอยู่ในออฟ

ฟิต หรือออกไปหาลูกค้าข้างนอก ก็ต้องเอ่ยทั้งชื่อและนามสกุลพร้อมกัน

ไปเสมอ


“ที่นี่มีใครพอที่จะพูดคุยเรื่องธุรกิจกันได้บ้างครับ”


ชายคนใส่สูทพูดขึ้น


“ผมก็ได้ครับ ไม่ทราบว่าท่านต้องการอะไร ผมเป็นเซลส์ซูเปอร์ไวเซอร์ของ

แผนกเบอร์โร่ส์ครับ”


“ผมต้องการพูดกับคนที่ใหญ่กว่านี้….ไม่ใช่คุณไม่สำคัญนะ แต่นี่เป็นธุรกิจที่

สลับซับซ้อนและสำคัญมาก”


“ได้ครับ ผมจะให้คุณพบกับคุณธวัช ยิบอินซอย ซึ่งเป็นผู้จัดการของแผนก

นี้ …แต่จะให้ผมไปเรียนท่านว่าใครจะมาพบและด้วยธุระอะไรหรือครับ”


“เอาคุณเอานามบัตรนี้ไป…แล้วช่วยเรียนท่านว่า ผมเป็นตัวแทนจากหน่วย

ราชการแห่งหนึ่ง อยากคุยเรื่องธุรกิจคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่กับท่าน”


แล้วลุงก็เข้าไปเรียนคุณธวัช ยิบอินซอย ซึ่งนั่งอยู่อีกห้องหนึ่ง  ท่านเป็นทั้งผู้

จัดการของแผนกเครื่องใช้สำนักงาน “เบอร์โร่ส์”  ซึ่งเป็นสินค้าอุปกรณ์

สำนักงานครบวงจรจากสหรัฐอเมริกา ชื่อเต็มๆ คือ Burroughs  บางคนก็

อ่านว่า “เบอรูท”  บางคนก็อ่านว่า บูเล่อร์  แต่เราพวกเซลส์มักจะอ่านกัน

อย่างง่ายๆ ว่า “เบ้อเร่อ”  ซึ่งถ้าเจ้านาย หรือคุณธวัชได้ยิน ก็มักจะโดนแซว

ว่า จะให้เปลี่ยนชื่อแผนกหรือ  ท่านจะต้องให้เรียกให้ถูกต้องเสมอ



ลุงพาชายกลุ่มนั้น เข้าไปคุยกับคุณธวัชตามลำพัง  ลุงก็ไม่รู้ว่าธุรกิจที่สลับ

ซับซ้อนและสำคัญนั้นคืออะไร  เห็นหายอันไปอยู่นาน  พนักงานเอากาแฟ

เข้าเสริฟ 2-3 รอบ จนในที่สุด หลังจากที่ใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง ชายทั้ง

หมดก็เดินออกจากห้องมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส คุณธวัชเดินออกมาส่ง

ด้วยความสุภาพนอบน้อม



“ผมกราบลาละครับ  หากคุณธวัชตัดสินใจอย่างไรก็ติดต่อไปที่โทรศัพท์ใน

นามบัตรนะครับ  แต่อย่าช้านะครับ ท่านกำลังรอคำตอบอยู่…..”


เสียงชายผู้นั้นบอกลาคุณธวัช แล้วก็ขึ้นรถแท็กซี่กลับไป


คุณธวัชเรียกลุงเข้าไปพบทันทีหลังจากที่ชายกลุ่มนั้นกลับไป



“เราเห็นจะต้องลองทำงานใหญ่กันสักรอบแล้วคุณอมร”


ที่บริษัท ยิบอินซอย เรามักจะเรียกขานทั้งเจ้านายและลูกน้องว่า “คุณ” กัน

ทั้งนั้น  ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร  คนที่ได้รับการเอ่ยชื่อว่า “นาย” มีแต่ระดับผู้ก่อ

ตั้งบริษัทเท่านั้น ซึ่งก็มี “นายยิบอินซอย”  “นายฉันทร์ ลายเลิศ” “นายจู ชู

ตระกูล” ซึ่งเป็นทั้งเครือญาติและเริ่มก่อตั้งบริษัทด้วยกันมาตั้งแต่บริษัทยัง

เริ่มกิจการใหม่ในเหมืองแร่เล็กๆ และรับเหมาถมหินทางรถไฟอยู่ที่ อำเภอ

ทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช  ต่อมาจึงได้ย้ายมาตั้งสำนักงานใหญ่ที่ถนน

มหาพฤฒาราม กรุงเทพ


“มีอะไรหรือครับคุณธวัช  เห็นคุยกันอยู่เกือบชั่วโมง”


ปกติลุงไม่เคยเห็นคุณธวัชคุยกับใครนานขนาดนั้น


“พวกเขามาจากตัวแทนหน่วยราชการแห่งหนึ่ง เขาเสนอให้เราไปขายระบบ

คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่….”


“ระบบคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่..?????”  ลุงอุทานขึ้นด้วยความประหลาดใจ


“ใช่ ระบบคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่  ใหญ่กว่าที่เราขายอยู่นี้มาก  ซึ่งเขาได้

ติดต่อไปทางเมืองนอกแล้ว เมืองนอกจึงรีเฟอร์มาถึงเรา  เขาจะต้องใช้

ขนาด บี 4700 ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ที่เราไม่รู้จักมาก่อน…..มันใหญ่กว่า

เครื่องที่เราขายอยู่มากมาย  ราคาคงนับร้อยล้านบาท…..”


ลุงนั่งฟังคุณธวัชเงียบ เพราะไม่รู้จะออกความเห็นอย่างไร


“เราต้องลอง….ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้  ผมไม่ค่อยเชื่อใจนักหรอกว่าจะสำเร็จ รู้สึก

ว่างานมันจะสลับซับซ้อนมากมากมาย แต่ถ้าเราไม่ลอง  เราก็ไม่รู้ว่ามันเป็น

อย่างไร………………”



“แล้วคุณธวัชจะทำอย่างไรต่อไปครับ………..”



ลุงถามขึ้นมา ก็เพราะไม่รู้จะถามอะไร



“ผมจะโทรเลขติดต่อกับทางเมืองนอก  ลองขอข้อมูลมาแต่นี่ ทางเราต้องมี

ผู้รับผิดชอบ และงานนี้ต้องเป็นความลับเพราะผมรับปากเขาไว้แล้ว  การ

ติดต่อให้รู้กันน้อยคนที่สุดและนี่คือเหตุผลที่ผมเรียกคุณเข้ามา”


“คุณธวัชหมายความว่า……”


“ใช่ ผมจะให้คุณรับงานนี้ นอกเหนือจากงานที่คุณทำอยู่ การขายระบบ

คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่อย่างนี้ ในเมืองไทยก็มีเพียงรายเดียวที่ครองตลาด

เกือบ 100% ซึ่งเราจะต้องเอาชนะไอบีเอ็มให้ได้  ผมจึงอยากให้คุณลองจับ

งานนี้ดู เพราะจะเป็นของใหญ่ ใหม่และแปลกประหลาดที่สุด….



ถ้าเรามีโอกาสชนะ  ก็จะเป็นการขายที่ประหลาดใจคู่ต่อสู้ที่สุดที่จู่ๆเราก็ได้

ออเด้อร์มา ดังนั้น เราต้องทำโดยไม่ให้คู่แข่งขันรู้ตัว  ทุกอย่างที่ทำกัน รับรู้

กันอยู่เฉพาะเรา  สองคนเท่านั้น  คนในบริษัทก็รู้ไม่ได้ เพราะอาจจะเอาไป

พูดกันจนเสียแผน เข้าใจนะอมร  



และผมหวังว่า คุณไม่ควรหนักใจมากเกินไป เพราะหากเราขายไม่ได้ ก็ไม่

เห็นเสียหายอะไร มันเป็นการท้าทายที่คุณจะได้เรียนเรื่องแปลกใหม่……ผม

ดูแล้วคุณเป็นที่ชอบท้าทายไม่ใช่หรือ….ตกลงนะคุณอมร”



ครับ……คุณธวัชที่รัก   ก็ท่านเล่นพูดเอง สรุปเองอย่างนี้ ลุงจะมีอะไรไปขัด

คุณธวัชได้เล่า ก็ต้องรับปากไปอย่างนั้นเอง  ใจหนึ่งก็บอกดีเหมือนกัน จะได้

มีของใหม่ๆขาย  อีกใจหนึ่งก็บอกเฉยๆ เพราะเรื่องนี้อาจเงียบหายไปพร้อม

กับคนที่มาติดต่อเพราะได้ยินข่าวบ่อยๆ ว่าสมัย “เฮีย” ยังอยู่ก็มีมาติดต่อ

บ่อยๆ



แต่ความเป็นนักขายเก่า ถึงแม้ว่าตอนนี้จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นซูเปอร์ไวเซอร์

คุมลูกน้องถึงห้าคนแล้วก็ตาม  พลังของ “นักขาย” ยังลุกโพลงอยู่ไม่ได้ดับ

มืดมิดลงแต่ประการใด



อ้า….คุณอมรได้เริ่มต้นงานขายอีกครั้งหนึ่ง


แล้ว  แต่การขายครั้งนี้เป็นครั้งที่ประหลาดที่สุดที่ไม่มี Information อะไร

สักอย่างเดียวแม้กระทั่งแคตตาล๊อกและรายชื่อของคนที่จะมาเป็นลูกค้า …..

แต่ก็ต้องลองดูกันซักตั้ง

จากคุณ : ลุงแอ็ด
เขียนเมื่อ : วันเนา 54 16:50:07




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com