ความคิดเห็นที่ 1 ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจไปที่นี่ เพราะดอยเสมอดาวที่กางเต้นท์เต็มก็เลยมาที่ผาชู้แทนค่ะ ก่อนอื่นขอลงรูปวิวระหว่างทางของดอยเสมอดาวก่อน ระหว่างรอที่รถอีกคันไปดูที่ผาชู้ว่าว่างมั้ย   จะเห็นแม่น้ำน่านอยู่ลิบ ๆ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 05:15:22

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ทันไรลืมรูปซะแล้ว จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 05:16:06

ความคิดเห็นที่ 3 เขยิบไปทางขวาอีกนิด จะเห็นผาชู้อยู่ไกล ๆ ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าเป็นผาชู้ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 05:17:30

ความคิดเห็นที่ 4 มารู้เมื่อไปถึงผาชู้แล้ว แล้วเห็นว่ามีธงชาติอยู่บนยอดเขา พอดีมีรูปที่ดึงยอดเขาที่ว่านี้มา จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 05:19:10

ความคิดเห็นที่ 5 เค้าบอกว่า...สายธงชาติยาวที่สุดในประเทศไทย จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 05:20:14

ความคิดเห็นที่ 6 สถานที่กางเต้นท์ค่ะ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 05:23:32

ความคิดเห็นที่ 7 ตามมาปาดดดด..อีกที ไม่หลับไม่นอนหรือคะนี่ ? . จากคุณ : หนูออน (Oncidium.) เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 05:24:53

ความคิดเห็นที่ 8 ยามเย็น มีที่จอดเฮลิคอปเตอร์ด้วย แต่...พอตอนเช้าจะกลายเป็นที่จอดรถกับกางเต้นท์แทน จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 05:26:07

ความคิดเห็นที่ 9 แบบนี้ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 05:29:17

ความคิดเห็นที่ 10 จากป้ายที่อยู่ที่นั่น ตำนานผาชู้ ตำนานผาชู้ ดอยผาชู้ เป็นโขดหินและหน้าผาขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางขุนเขาที่เขียวขจีหลายแสนไร่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ และสายน้ำของแม่น้ำน่าทอดตัวไหลคดเคี้ยวสู่ทิศใต้ยาวหลายสิบกิโล ยามหน้าหนาวจะมีทะเลหมอกสีขาวตัดกับความเขียวขจีของป่า และแสงสีทองของดวงอาทิตย์ขึ้นงามเช้าอย่างสวยงามมาก และเป็นสถานที่เกิดตำนานรักสามเส้าที่ตัดสินความรักด้วยความตาย จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 05:36:14

ความคิดเห็นที่ 11 โดยมีตำนานเล่าว่า ” ณ ที่แห่งนี้เมื่อหลายปีที่ผ่านมามีตำนานเล่าขานสืบทอดกันว่า ที่แขวงศรีษะเกษมีเจ้าแขวงเป็นชายรูปงามนามว่า "เจ้าจ๋วง" ได้เสกสมรสกับ "เจ้าจันทร์" เป็นชายา ครองรักกันมาหลายขวบปียังไม่มีบุตร – ธิดาแต่อย่างใดอยู่มาวันหนึ่ง เจ้าจ๋วงได้ออกประพาสป่าเพื่อล่าสัตว์ ขณะตามล่าสัตว์ป่าได้หลงทางมาถึงบริเวณโขดหินสูงใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางแมกไม้ที่เขียวขจีมีสภาพอุดมสมบูรณ์ มีทัศนียภาพที่สวยงามยิ่ง ได้พบกับกระท่อมของพรานป่าซึ่งมีลูกสาวสวยงามนามว่า เอื้อง อาศัยอยู่ด้วยกันสองพ่อลูก พอเจ้าจ๋วงได้พบประสบพักตร์กับเอื้องทำให้เกิดความหลงใหล หลงรักอย่างทอนตัวไม่ขึ้น จึงได้เฝ้าเพียรพยายามบอกรักเอื้องอยู่เป็นเวลานาน กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ซึ่งความรักเปรียบเสมือน "น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน" ในที่สุดเจ้าจ๋วงก็ได้ครองรักกับเอื้อง เป็นชายาอีกนางหนึ่ง จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 05:37:29

ความคิดเห็นที่ 12 เจ้าจันทร์เมื่อเห็นว่าเจ้าจ๋วงได้ประพาสป่า และไม่กลับแขวงเป็นเวลานานจึงได้ติดตามเสาะหาอยู่หลายวัน จนกระทั่งวันหนึ่งได้ตามมาพบเจ้าจ๋วงกำลังพรอดรักกับเอื้อง อยู่บนยอดโขดหินใหญ่ จึงได้ตัดพ้อต่อว่าและยื่นคำขาดให้เจ้าจ๋วงเลือกเอาว่าจะตัดสินใจครองรักอยู่กับใคร แต่เพียงนางเดียว เจ้าจ๋วงได้ใช้ความคิดอยู่เป็นเวลานาน ก็ไม่สามารถที่จะตัดสินใจเลือกใครคนใดคนหนึ่งได้จึงอธิษฐานว่า ”ถ้าความรักของเราทั้งสามคนเป็นความรักที่บริสุทธ์เป็นรักแท้ตราบเท่านิจนิรันดร์ ขอให้ร่างกายเรากลับกลายเป็นต้นไม้ อยู่คู่กับโขดหินใหญ่แห่งนี้ตลอดกาลนาน” ได้ตัดสินใจกระโดดหน้าผา เจ้าจันทร์เห็นดังนั้นจึงได้กระโดดหน้าผาตามไป ฝ่ายเอื้องได้ทราบและเกรงกลัวต่อบาปกรรมจึงได้กระโดดหน้าผาตามไปอีกคน ทำให้เสียชีวิตทั้งสามคน ด้วยอำนาจคำอธิษฐานอันแรงกล้าเจ้าจ๋วงจึงได้กลายร่างเป็นต้นจ๋วง ส่วนเจ้าจันทร์ได้กลายร่างเป็นต้นจันทร์ผา และเอื้องได้กลายร่างเป็นกล้วยไม้หรือดอกเอื้องขึ้นอยู่ตามหน้าผาแห่งนี้ โขดหินใหญ่แห่งนี้จึงถูกเรียกขานนามว่า "ผาชู้" มาตั้งแต่บัดนั้น” จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 05:38:30

ความคิดเห็นที่ 13 เมืองน่าน มีที่เที่ยว ดี ๆ อีกหลายที่ หลายแห่ง ว่าง ๆ ก็กลับมาแอ่วเมืองน่าน ใหม่ นะครับ ช่วงนี้ เมืองน่าน อากาศ เป็นยังไงไม่รู้ กลางวันร้อน ๆ กลางคืนอากาศ ก็เย็น ๆ ยิ่งวันที่ 13 เมษา ที่ผ่านมา ไหนได้ ตอนเช้า ดันมีหมอก เหมือนหน้าหนาว ถ้าท่าน มาแอ่วเมืองน่าน ขอท่านระวังพวก ทางลงดอย ทางโค้ง บ้าง ไม่ต้องรีบแซง เหมือน เมืองใหญ่ บ่อยครั้ง ที่เห็นป้ายรถ ตจว. นอนแอ่งแม้ง อยู่ข้างทาง น่าเห็นใจเหมือนกัน จากคุณ : หัวอกพี่หนาน*.. เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 05:39:26

ความคิดเห็นที่ 14 แต่อีกเรื่องนึงจากเว็บของการท่องเที่ยวแห่งแประเทศไทย http://thai.tourismthailand.org/where-to-go/cities-guide/attractions/info-page/destination/nan/cat/33/attraction/4291/parent/1105/lang/2/?subcat_id=33&cHash=b54c3bb025 ดอยผาชู้  บริเวณเชิงผาชู้เป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยานฯ มีลักษณะเป็นผาหินขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางขุนเขา ในฤดูหนาวสามารถมองเห็นทะเลหมอกได้จากยอดผาชู้ และเมื่อหมอกจางจะมองเห็นลำน้ำน่านทอดตัวคดเคี้ยวอยู่ที่ปลายผืนป่า เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น และลำน้ำน่านที่ทอดตัวคดเคี้ยวสวยงามมาก ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ช่วงใกล้ขึ้นถึงยอดผาเป็นหินแหลมคม จึงต้องเตรียมรองเท้าผ้าใบที่ใส่กระชับไปด้วยเพื่อความสะดวกในการปีนป่าย ใช้เวลาในการเดินไป-กลับ ประมาณ 1 ชั่วโมง ผู้ที่ประสงค์จะเดินขึ้นยอดผาชู้ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางที่อุทยานฯ จุดเด่น  เป็นสถานที่ตั้งสายธงชาติที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ต้องร้องเพลงชาติประมาณ 12 จบ กว่าจะเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา สายธงชาตินี้มีความยาวประมาณ 200 เมตร จากพื้นถึงยอดผาชู้ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 05:41:47

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณที่แวะมาค่ะคุณหัวอกพี่หนาน*..  ครั้งนี้ไปครั้งที่ 2 แล้วค่ะ ครั้งแรก http://topicstock.pantip.com/isolate/topicstock/2010/11/M9951348/M9951348.html ขากลับไปทางขุนสถานเพื่อไปแพร่ ทางคดเคี้ยวกว่าทางที่มาค่ะ บางทีก็ช่วยเหยียบเบรคเหมือนกันค่ะ ยังไปได้อีก ถ้ามีคนพาไปค่ะ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 05:47:58

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่ได้ย้อนไปดู เลยไม่เห็นว่าคุณหนูออนมาปาดแต่หัววัน ยังไม่ได้นอนค่ะติดพันแล้วพอดีวันนี้ไปสายได้ค่ะ ขอบคุณที่มาเป็นคนแรกนะคะ จากตำนานของ "ททท" ค่ะ ตามตำนานที่เล่ากันมาเกี่ยวกับผาชู้กล่าวว่า เจ้าเอื้องผึ้งซึ่งเป็นคู่รักกับเจ้าจันทน์ผา จำใจต้องแต่งงานกับเจ้าจ๋วง เจ้าเอื้องผึ้งเสียใจที่ไม่ได้แต่งงานกับคนที่ตนเองรักจึงตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดจากหน้าผาเจ้าจันทน์ผาตามมาพบว่าเจ้าเอื้องผึ้งได้กระโดดหน้าผาไปแล้ว จึงกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตายตามคนรักตกไปอยู่ใกล้กัน และเจ้าจ๋วงได้เห็นหญิงที่ตนรักกระโดดหน้าผาไปจึงรู้สึกเสียใจและตัดสินใจกระโดดหน้าผาตามลงไปด้วยแต่กระเด็นห่างออกไป ด้วยความรักแท้ระหว่างเจ้าเอื้องผึ้งและเจ้าจันทน์ผา ในชาติต่อมาเจ้าเอื้องผึ้งจึงเกิดเป็นดอกกล้วยไม้เกาะอยู่ใต้ต้นจันทน์ผา   และเจ้าจ๋วงก็เกิดเป็นต้นสน ณ จุดที่ตกไปนั้นเอง (“จ๋วง” เป็นภาษาเหนือแปลว่าต้นสน “เอื้องผึ้ง” แปลว่ากล้วยไม้) หน้าผาแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า “ผาชู้” นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 05:51:45

ความคิดเห็นที่ 17 แล้วจะเชื่อตำนานไหนดีล่ะเนี่ย 1 ชาย 2 หญิง กับ 1 หญิง 2 ชาย จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 05:54:13

ความคิดเห็นที่ 18 มาดูดอกไม้ที่นี่บ้างนะคะ เฟื่องฟ้า จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 05:55:50

ความคิดเห็นที่ 19 ฝ้ายคำ หรือสุพรรณนิการ์ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 05:58:26

ความคิดเห็นที่ 20 กล้วยไม้สกุล "เอื้อง" แต่ไม่รู้ว่าเอื้องไหน จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 05:59:18

ความคิดเห็นที่ 21 ดูใกล้ ๆ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 05:59:49

ความคิดเห็นที่ 22 แต่ที่แน่ ๆ รูปนี้คือ "เอื้องผึ้ง" ที่บ้าน จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 06:02:30

ความคิดเห็นที่ 23 ดูใกล้ ๆ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 06:03:23

ความคิดเห็นที่ 24 ที่บ้านยังมี "จันทน์ผา" แต่ยังต้นเล็กอยู่แถมไม่ได้ดูแลเลยดูโทรมไปหน่อย แก้ตัวสะกดตอนแรกพิมพ์เป็น "จันทร์ผา" แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 54 06:09:06 จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 06:06:57

ความคิดเห็นที่ 25 โอววว.... มิน่าเล่าเอื้องผึ้งของเค้ากอเบ้อเริ่ม ไม่เคยออกดอกเลย เดี๋ยวจะไปหาจันทร์ผามาให้เกาะ จากคุณ : หนูออน (Oncidium.) เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 06:10:00

ความคิดเห็นที่ 26 ขาดต้นสนไม่งั้นครบชุดตามตำนาน ขอบคุณที่มาเยี่ยม ๆ มอง ๆนะคะ ลาด้วยรูปนี้ค่ะ ที่โรงแรมพูคาน่านฟ้า จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 06:13:05

ความคิดเห็นที่ 27 คุณหนูออนคะ 2 รูปนั้นถ่ายปีก่อน ปีนี้ออกมาช่อเดียวค่ะ แถม "ตุ๊กตาเต้นระบำ" ก็ไม่ออกด้วยค่ะ แต่ที่ผาชู้ต้นจันทน์ผา มีอยู่ให้เห็นแทบทุกที่ค่ะ เอื้องผึ้งไม่เห็น (หรือมีแต่ยังไม่ออกก็ไม่ทราบนะคะ) มาลงกระทู้ที่ติดไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนรูปที่เหลือของน่าน 2 นี้ ขอดองต่อไปอีกค่ะ ยังไม่ได้ที่ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 06:20:43

ความคิดเห็นที่ 28 ^^^___^^^       จากคุณ : หนูออน (Oncidium.) เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 06:25:50

ความคิดเห็นที่ 29 ชอบพวก เอื้อง เอามาปลูก ออกดอกสีเหลือง ชมพู คงสดชื่นยิ่งนักครับ จากคุณ : ~ทิดฉ่ำ~ เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 07:28:59

ความคิดเห็นที่ 30 อยากไปบ้าง..... จากคุณ : หนุ่มเมืองพาน เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 07:29:24

ความคิดเห็นที่ 31 น่าประทับใจมากครับ ทำให้คิดถึงกระทู้ " น่าน...นะสิ " เมื่อปีกลายเลยครับคุณก้อย http://topicstock.pantip.com/isolate/topicstock/2010/11/M9951348/M9951348.html อยากไปมั่ง จังเลยครับ จากคุณ : กอไผ่สีสุก เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 08:12:16

ความคิดเห็นที่ 32 >>  ป้าก้อยครับ  เอื้องในรูป คห.20-21  คล้ายๆจะเป็น  เอื้องสายล่องแล่ง นะครับ        (บ้านผมเรียกแบบนี้) >>  ชื่อที่เรียกอีกอย่างของเอื้องนี้คือ   เอื้องสายไหม (ใช่ปล่าวเนี่ย) >>  รอให้ป้าเจ มาให้ความกระจ่างอีกทีครับ . จากคุณ : layla เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 08:47:34

ความคิดเห็นที่ 33 ที่บ้านมีทั้งดอกเอื้อง  จันทน์ผา  แต่ไม่รู้จักและไม่มีต้นจ๋วง เดี๋ยวต้องตามไปเสริทหารูปภาพดูค่ะ จากคุณ : จริงใจ.......สบายจริง เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 09:54:33

ความคิดเห็นที่ 34 ภาพสวย...แต่เรื่องเศร้าครับ... ทำไมความรักต้องจบลงด้วยความตาย... จบแบบหวานๆแบบหนังไทยหน่อยไม่ได้หรือครับ... จากคุณ : ananrak เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 09:57:13

ความคิดเห็นที่ 35 สวยงามครับ ความงามของธรรมชาติไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่คนชอบไปแปลงเปลี่ยนมันซะร่ำไป จากดอยผาชู้  ผาวิ่งชู้  ปัจจุบัน กลายเป็นผาเชิดชู  เปลี่ยนซะจนมึน ! เมื่อหลายปีก่อน  (ปีไหนจำไม่ได้แล้ว)  ก่อนที่จะมีทางรถสะดวกสบายเหมือนทุกวันนี้ ผมเคยขึ้นไปนอนนับดาว เล่าตำนาน ดอยผาชู้ ให้สาวฟัง   สาวบอกอยากเป็นดอกเอื้องผึ้งจัง ผมเลยยุส่ง อยากเป็นดอกเอื้องผึ้ง ก็ต้องโดดหน้าผาก่อนดิ สาวถามแล้วพี่จะโดดตามมั้ย... เอ้อ....ปี้บ่าจ๊ดง่าวปานนั้นดอกอี่หล้าเอ๊ยยยยยยยย..!! จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 11:21:32

ความคิดเห็นที่ 36 สวยมากค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่นำมาให้ชมค๊า:) จากคุณ : alinada เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 11:37:50

ความคิดเห็นที่ 37 ตามไปเที่ยวน่านด้วย                                         ภาคเหนือเหลือจังหวัดน่าน.....น่ะสิ     นี่แหละ  ที่ยังไม่เคยไป จากคุณ : Jiu_Bond เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 11:49:26

ความคิดเห็นที่ 38 สดชื่นดีจังเลยค่ะ จากคุณ : @NBC เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 12:09:08

ความคิดเห็นที่ 39 ไปเที่ยว  เชียงใหม่  เชียงราย  ซะหลายครั้ง จังหวัดน่าน  ต้องตั้งใจไป  จึงจะถึง    คนอยู่ไกลก็แบบนี้แหละ  อิอิ ได้แต่...เคยไปแถวๆ วัดภูมินทร์ พระธาตุแช่แห้ง แค่นั้นเองค่ะ... จากคุณ : phuketian เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 12:14:28

ความคิดเห็นที่ 40 เอ้า..รูปไม่มา.... จากคุณ : phuketian เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 12:15:37

ความคิดเห็นที่ 41 ติดตามชมค่ะ สวยงามเช่นเคยค่ะพี่ จากคุณ : รัตน์แปลว่าแก้ว เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 13:03:59

ความคิดเห็นที่ 42 ภาพสวยงามเลยค่ะ คุณก้อย......ขอบคุณค่ะที่นำมาให้ชม จากคุณ : ณัฐ วัชรพล เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 13:15:52

ความคิดเห็นที่ 43 หูยยยยยยยย ลืมชื่อจว.นี้ไปเลย   ปล.ตอนนี้ที่บ้านมืดมาแล้วค่า...... จากคุณ : เห้อออออออออ เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 13:21:20

ความคิดเห็นที่ 44 ดอกไม้สวย ๆ ภาพสวยทุกรูปค่ะ ชอบภาพแรก ๆ มาก ขอ save นะคะ จากคุณ : ขอพบในฝัน เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 14:46:24

ความคิดเห็นที่ 45 อ่านตำนานผาชู้แล้ว อึ้งไปเลยค่ะ เคยผ่านไป แต่ไม่ได้แวะพัก บรรยากาศ เหมือนได้หลุดไปอยู่อีกโลกนึงจริงๆ ชอบ จ. น่าน มากๆ เลยค่ะ อยากกลับไปอีก... จากคุณ : WonDerFulSumMer เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 15:01:06

ความคิดเห็นที่ 46 ไปมาเช่นกันค่ะพี่ก้อย ไปวัดพระธาตุแช่แห้งด้วย จำได้ว่าเดินสวนกับใครบางคน  ^^ จากคุณ : โสดในซอย เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 16:01:01

ความคิดเห็นที่ 47 สวัสดีครับ คุณ หญ้าหนวดแมว ภาพสวยประทับใจทุกภาพเลยครับ และได้รับทราบเรื่องราวในตำนาน ที่มาที่ไปของ "ผาชู้" ควบคู่กันไปด้วย ผมยังไม่เคยไปเลย ถ้ามีโอกาสต้องลองไปชมสักครั้ง เพราธรรมชาติสวยจริงๆ ขอบคุณมาก นะครับ จากคุณ : นฤรัตน์ เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 16:23:57

ความคิดเห็นที่ 48 อ่าน ค่ะพี่ก้อย.. ตำนาน ของเอื้องผึ้ง และจันทร์ผา แถมมีต้นสน แต่ขำ พี่~นายเฉิ่มศักดิ์~  ปี้บ่าจ๊ดง่าวปานนั้นดอกอี่หล้าเอ๊ยยยยยยยย..!! จะไปเล่าให้พี่ผู้หญิงฟัง... ความลับ ที่ ดอยผาชู้  ผาวิ่งชู้  ผาเชิดชู ว่าแต่ อี่หล้า เป็นผู้ใด๋นะปี้... จากคุณ : nupvs เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 16:37:27

ความคิดเห็นที่ 49 ตามไปแอ่วด้วยเจ้า ขอบคุณเจ้า จากคุณ : อุ่นใจ เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 19:46:05

ความคิดเห็นที่ 50 จะเสียดายมากที่ไม่ได้เข้าทู้นี้ ประทับใจภาพมากครับ มีเรื่องราวมาประกอบด้วย ไม่รู้เป็นไงครับชอบภาพตะวัน ชอบภาพฟ้าใส จากคุณ : บ้านหนองจันสอน เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 21:36:59

ความคิดเห็นที่ 51 ตั้งเข็มชีวิต ไว้ว่า ในชีวิตนี้ จะต้องไป น่าน ให้ได้ แต่...ยังไม่ได้ไปสักที่ 10 ปี แล้วนะเนี่ยยยยย ขอบคุณค่ะ ขอยาด เก็บรูป เก็บกระทู้นะคะ จากคุณ : [OO] SULAI JAI MARNNN เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 54 09:43:52

ความคิดเห็นที่ 52 ปู่ฉ่ำคะ(แอบดีใจนานๆ จะเห็นปู่เข้ามาดูซักที) ถ้าที่บ้านพอมีที่แขวนก็น่าลองปลูกนะคะ เวลาที่เค้ามีดอก เราจะชื่นใจเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ น่าจะไม่ไกลจากบ้านนะคะลุงเขย ลองหาโอกาสไปดูสิคะ ก่อนที่จะคนมามากมายทำให้ไม่เงียบสงบแบบปาย แต่ที่ไปครั้งที่ 2 นี้ก็รู้สึกได้บ้างแล้วค่ะว่า คนเริ่มมาเยอะแล้ว ขอบคุณค่ะพี่กอไผ่ฯ ขอเรียกแบบนี้เลยนะคะ(น่ารักดี) ถ้ามีโอกาสไปเลยค่ะ นี่ถ้ามีโอกาสก็ว่าจะไปอีก จะว่าไปแล้ววัดในตัวเมืองยังไปไม่ทั่วเลยค่ะ และส่วนอุทยานฯ ก็ยังไปไม่ทั่วเช่นกันค่ะ ถ้าให้ครบจริง ๆ ต้องไปหลาย ๆ วัน ที่ไป 2 ครั้งยังมีซ้ำบ้าง(ถือว่าไปถ่ายซ่อม) ไม่ซ้ำบ้างค่ะ บางวัดไปคนละเวลาก็สวยคนละแบบ เช่นครั้งแรกไปวัดพระธาตุเขาน้อยตอนเย็น ครั้งนี้ไปตอนเช้ามืดได้วิวพระอาทิตย์ขึ้นสวยไปอีกแบบค่ะ (รูปยังไม่ได้จัดการ นี่เป็นตัวอย่างค่ะ) จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 54 13:44:13

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณค่ะลุงโจ (จะแก่ไปมั้ยเนี่ย อิอิ) ลองเอาชื่อที่ให้มาไปหารูปในอากู๋ดูก็น่าจะใช่นะคะ ไว้รอคุณเจมาช่วยดูอีกทีก็ดีค่ะ (หายไปไหนนานเลยคะ) ป้าหนิงขา ในเว็บเค้าบอกว่าเป็นต้นสน แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นสนพันธุ์ไหนค่ะ ไปหาในอากู๋กลายเป็นต้นจั๋งไปเสียอย่างนั้น ถ้าหาเจอรบกวนฝากมาแปะด้วยนะคะ คุณananrak คะ ถ้าไม่เศร้าก็คงไม่มีต้น เอื้องผึ้ง-จันทน์ผาสิคะ (ชื่อเหมือนคล้าย ๆ ว่าจะมีร้านอาหารชื่อนี้อยู่นะคะ) แต่เรื่องเล่าส่วนใหญ่จะเศร้าทุกทีเหมือนกันค่ะ ขอบคุณค่ะคุณ~นายเฉิ่มศักดิ์~  แต่ป้ายชื่อก็ยังใช้ผาชู้อยู่นะคะ หรือไม่ได้รับความนิยมเลยเปลี่ยนกลับ ว่าแต่ไปตอบแบบนั้นสาวไม่งอนหรือค่ะ (ว่าแต่ที่ป้าหน่อยถามนั้น จะเป็นเรื่องมั้ยล่ะเนี่ย) แก้ไข - เมื่อกี้ลืมใส่ชื่อคุณ~นายเฉิ่มศักดิ์~ค่ะ แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 54 14:02:50 จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 54 14:00:02

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณค่ะน้องโม แบบนี้ต้องรบกวนมาดูเป็นขาประจำนะคะ แล้วพี่จิวเว้นวรรคจ.น่านไว้ทำไมล่ะค่ะ ไปได้ทุกอารมณ์นะคะ วัดก็มาก ภาพจิตรกรรมก็สวย ท่องเที่ยวธรรมชาติก็ได้ ผจญภัยก็ดี (แต่ยังไม่เคยไปเหมือนกันค่ะ จากที่อ่านมาว่ามี ) นอนเต้นท์ก็ได้บรรยากาศ มัวแต่ไปจีนอยู่นั่นแล้ว อิอิ ขอบคุณค่ะป้าเยาว์  ถ้าตั้งกระทู้อีกรบกวนตามไปสดชื่นต่อด้วยนะคะ ป้าหนิงไปวัดภูมินทร์กับพระธาตแช่แห้งก็เป็นที่ขึ้นชื่อของเค้าแล้วล่ะค่ะ เพราะพระธาตุแช่แห้งก็เป็นปูชนียสถานที่สำคัญของเมืองน่าน ที่มีอายุกว่า 600 ปี และเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เป็นพระธาตุประจำคนเกิดปีเถาะด้วยค่ะ ส่วนวัดภูมินทร์เป็นวัดเก่าแก่ภาพจิตรกรรมโบราณสวยงาม ยิ่งตอนที่ไปครั้งที่ 2 นี้ เค้าโปรโมทภาพปู่ม่านย่าม่านว่าเป็นภาพคู่รักบันลือโลก เพนท์ลงเสื้อ(ซื้อมาด้วย อิอิ) ทำเป็นที่ติดแม่เหล็กด้วยค่ะ แถมตอนนี้มีรูปโมนาลิซ่าเมืองน่านด้วย จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 54 14:28:15

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณน้องแก้วขาประจำอีกคนด้วยค่ะ (ขอเหมารวม อิอิ) ขอบคุณเช่นกันค่ะคุณณัฐที่เข้ามาชม   ลืมแล้วอย่าลืมไปเที่ยวด้วยนะคะพี่นั้ง เมื่อวานตอนที่พี่ตอบไม่มืดแต่ได้ยินเสียงฟ้าร้องอยู่ไกล ๆ ตอนก้อยตอบอยู่นี้ก็ไม่มืดแต่ก็ได้ยินเสียงฟ้าร้องไกล ๆ อีกเหมือนกันไปตกอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ขอบคุณค่ะพี่ฝัน ชอบรูปไหนเซฟไปได้เลยค่ะ ดีใจที่มีคนชอบค่ะ ถ้าน้องแป๋มผ่านไปอีกก็ลองแวะพักดูนะคะ จะในเมืองหรือบนดอยก็บรรยากาศคนละแบบค่ะ แต่ถ้ายังวัยรุ่นอยู่แนะนำบนดอยค่ะ วิวสวย อากาศดี แล้วน้องวีก็ไม่ทักกัน เห็นคนอื่นเจอญาติแล้วทำไมเราไม่เจอบ้าง อิอิ คุณนฤรัตน์หาโอกาสไปให้ได้นะคะ (ถ้าหาคนเลี้ยงแมวได้พาไปด้วยก็ดีค่ะ) แต่ถ้าไปผาชู้ไม่ต้องพาสาวไป 2 คนนะคะ อิอิ ป้าหน่อยไปถามคุณ~นายเฉิ่มศักดิ์~แบบนั้น ตกลงกันก่อนว่าถ้าเค้ามีเรื่องขึ้นมา ต่างคนต่างวิ่งนะคะ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 54 14:48:58

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณค่ะคุณอุ่นใจ อยากจะทึกทักว่าเป็นขาประจำอีกคนเหมือนป้าศรีกับคุณหนูออนค่ะ แต่ยังมิกล้าออกหน้าออกตา ขอแอบเก็บไว้ในใจ (แล้วมาบอกในทู้ทำไมล่ะ น่าน...น่ะสิ) ขอบคุณค่ะคุณบ้านหนองจันสอน ดีใจที่ชอบค่ะ เก็บได้เลยค่ะป้าต้อม ตอนแรกก็ว่าจะรอไปกับเจ้านายเค้าก็ไม่ว่างซะที ดีที่ไม่รอ เพราะถ้ารอก็อดไปตั้ง 2 เที่ยว ถ้ามีโอกาสไปได้ไปเลยค่ะ ขอขอบคุณสำหรับกิฟท์ด้วยนะคะ หนุ่มเมืองพาน, กอไผ่สีสุก, Jiu_Bond, รัตน์แปลว่าแก้ว, samranjai, นฤรัตน์, อุ่นใจ, บ้านหนองจันสอน, [OO] SULAI JAI MARNN จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 54 14:59:52

ความคิดเห็นที่ 57 สวยมากค่ะ น่าไปเที่ยวจัง จากคุณ : ตองเจ็ด เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 00:00:35

ความคิดเห็นที่ 58 งามมมมมมมมมค่ะ จากคุณ : Mochica เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 03:43:24

ความคิดเห็นที่ 59 พี่ต๋อยคะ วิวสวยค่ะ เสียดายที่ตอนเค้าขึ้นไปดูที่กางเต้นท์บนสันเขาดอยเสมอดาวนั้นไม่ได้ไป เค้าลงมาบอกที่เต็มแล้วเตรียมย้ายก็เลยอดขึ้นไปดูวิว และให้รออยู่ตรงที่พักระหว่างทาง ก็ได้วิวระหว่างทางมาแทนค่ะ ขอบพระคุณค่ะคุณยาย จะวิวงาม หรือรูปงาม ก็ขอทึกทักว่าเป็นคำชมรูปนะคะ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 22:39:23