Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เรื่องของคำพูด ติดต่อทีมงาน

บันทึกของคนเดินเท้า

เรื่องของคำพูด

“เทพารักษ์”

เมื่อหลายวันก่อนมีธุระ ที่ธนาคารทหารไทย สาขาศรีย่าน ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนนครชัยศรี ใกล้แยกร่วมจิต ซึ่งอยู่ห่างจากแยกสวนรื่นหลังบ้านผมที่สวนอ้อยไปเพียง แยกไฟแดงเดียวกว่า ๆ เท่านั้น

แต่ขณะที่ออกจากบ้านเป็นเวลาใกล้เที่ยง แดดจัดมาก ไม่อยากเดินให้เปลืองแรง จึงไปที่คิวรถมอร์เตอร์ไซค์  คันแรกที่มารับเป็นรถสูงกว่าปกตินิดหน่อย และมีเหล็กด้านท้ายให้เกาะโด่งขึ้นมา

ผมเห็นแล้วก็นึกถึงว่าครั้งหนึ่งเคยขึ้นรถแบบนี้แล้ว พอยกขาจะคล่อมอาน ก็ไม่พ้นหน้าแข้งฟาดกับเหล็กจับที่โด่งขึ้นมานั้นจนเป็นแผลถลอก แต่ทำใจแข็งลองอีกที คือขึ้นไปยืนบนที่วางเท้าด้านซ้าย แล้วก็ตวัดขาขวาคล่อมอานหลังคนขับขี่  

ผลก็คือตะคริวกินต้นขาปวดจี๊ดจนต้องร้องบอกพลขับให้แล่นเบา ๆ หน่อย แล้วก็ทนมาจนถึงที่หมาย คือที่ทำการไปรษณีย์ดุสิต ที่อยู่ไม่ไกลจากจุดหมายที่ผมจะไปวันนี้ ขาลงที่หน้าไปรษณีย์ แกใจดีจอดให้ชิดทางเท้า ค่อยหย่อนตัวลงจากอานได้ง่ายหน่อย แต่ก็ไม่วายเป็นตะคริวอีกจนได้ จึงจำมาจนถึงวันนี้

คราวนี้จึงขออภัยพลขับคันนั้น บอกว่าขอรถที่อานเตี้ย ๆ หน่อยเพราะขึ้นไม่ไหว โชเฟอร์ก็ใจดี บอกให้คนที่ขี่มอเตอร์ไซค์แบบผู้หญิงมารับแทน ผมก็ขอบคุณทั้งสองคน

วันนั้นเป็นวันอะไรไม่ทราบ คนแน่นเต็มธนาคาร ดูด้วยตาคะเนว่ามีคนรอคิวประมาณ  ๓๐ ราย ผมไม่อยากยืนรอ และเรื่องของผมมันจิ๊บจ๊อยเสียเหลือเกิน คือการเอาเงินปันผลอันน้อยนิด เข้าสมุดบัญชีออมทรัพท์ที่ใช้รับเงินบำนาญ ซึ่งทำเมื่อไรก็ได้ จึงลงบันไดมาซื้อเย็นตาโฟกลับไปกินที่บ้านดีกว่า

ผมเดินกลับมาถึงคิวรถมอร์เตอร์ไซค์  ปากตรอกวัดแคสามเสน ซึ่งอยู่ใกล้กัน  ก็เจอมอเตอร์ไซค์ก้นโด่งเข้าอีก  จึงขอร้องเช่นเดียวกับขามาว่า ขอคันอื่นเถิด แล้วก็ชี้แจงความจำเป็นให้ทราบ

โชเฟอร์ท่านหนึ่งซึ่งอาจจะเป็นหัวหน้ากลุ่มก็ได้ตอบว่า

“โอ๊ย...ลุงไปคันนี้ไม่ได้ คันอื่นก็ไปไม่ได้เหมือนกันน่ะแหละ”

ผมจึงต้องขอโทษ และขอบคุณในความมีน้ำใจของเขา แล้วก็ก้มหน้าก้มตาเดินเลาะทางเท้า ด้านที่มีร่มเงาของต้นไม้กลับบ้านอย่างไม่รีบร้อน แต่ก็เมื่อยน่องและบั้นเอวมากพอสมควร

ผมหวนไปนึกถึง ข้อความเห็นของเพื่อนในไร้สังกัดท่านหนึ่ง ที่ยกเอาพุทธพจน์เกี่ยวกับคำพูด มาวางหลายบรรทัด ผมก็จำไม่ได้หมด แต่สรุปแล้วมีความว่า

“การพูดจานั้น แม้จะพูดความจริง แต่ถ้าพูดแล้วไม่มีประโยชน์ ก็อย่าพูดจะดีกว่า”

ผมจึงนึกถึงคำพูดของโชเฟอร์มอร์เตอร์ไซค์คนหลัง ที่ฟังแล้วอยากจะบอกว่า คุณจะไม่อยู่จนแก่บ้างเลยหรือไง  แต่จิตที่ฝึกแล้วทำให้พูดเพียงขอโทษและขอบคุณคำแนะนำนั้น

ผมถือปฏิบัติมานานมากแล้ว ว่าจะต้องไปทำบุญที่วัดใดก็ได้ และหาโอกาสทำทานทุกวันอาทิตย์ และรักษาศีลห้า ตลอดวันหนึ่งคืนหนึ่งนั้น แม้จะไม่ได้ครบทุกสัปดาห์ แต่ก็มากกว่าปีละ ๔๐ ครั้ง

ผมเห็นว่า ศีลข้อสี่นั้น ปฏิบัติยากที่สุด เพราะท่านห้ามว่า

ไม่พูดเท็จ  พูดคำหยาบ พูดส่อเสียด และพูดเพ้อเจ้อ

ผมต้องระวังเรื่องพูดเพ้อเจ้อ ด้วยการเก็บตัวอยู่กับบ้าน ไม่พบหาเพื่อนฝูง แม้แต่ทางโทรศัพท์ เพราะคุยกับเพื่อนก็อดที่จะเพ้อเจ้อไม่ได้

แต่ท่านก็สอนต่อไปอีกว่า เมื่อจะพูด ต้องพูดความจริง พูดไพเราะอ่อนหวาน พูดสมานไมตรี และพูดให้มีประโยชน์

ผมจำได้ติดใจ และพยายามทำตามเสมอ จนแม้กระทั่งเมื่อเข้ามาพูดหรือเขียน ในอินเตอร์เนต หรือเวปพันทิปนี้.


##########

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 06:21:28




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com