บันทึกของผู้เฒ่า (๑๒๒) ถ่ายรูปวันฝนตก
|
|
บันทึกของผู้เฒ่า
ถ่ายรูปวันฝนตกหนัก
เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๔ เวลาประมาณห้าโมงเช้า ฟ้ามืดด้วยเมฆฝนยังกับเวลาใกล้ค่ำ ฟ้ากระหึ่มครึมครางจนเราวิตกว่าจะมีเหตุอื่น มากกว่าฝนตกธรรมดา เช่นเกิดลมพายุงวงช้าง อย่างที่เกิดกลางกรุงไทเป ตามข่าวก่อนหน้านั้น ๒-๓ วัน แต่พอฝนตกจริงก็ไม่มากและไม่นาน
มาวันที่ ๑๖ พฤษภาคม เป็นวันหยุดราชการโดยไม่มีวันสำคัญอะไร ฟ้าโปร่งแจ่มใส ตั้งใจจะไปถ่ายรูปอาคารเก่า ที่ กทม.ปรับปรุงใหม่แถวหน้าพระลาน ท่าช้างวังหลวง ข้างมหาวิทยาลัยศิลปากร ตรงข้ามพระบรมมหาราชวัง เอามาอวดเพื่อนในพันทิป
ตามข้อมูลจากอินเตอร์เนต กล่าวว่าเป็นกลุ่มอาคารลักษณะสถาปัตยกรรมตะวันตก สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยแต่เดิมเป็นส่วนหนึ่งของวังเจ้านาย ต่อมาจึงได้สร้างเป็นอาคารพาณิชย์ เนื่องจากในอดีตเป็นย่านชุมชนและพาณิชยกรรม พื้นที่บริเวณพระบรมมหาราชวังนั้น นอกจากจะใช้เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์แล้ว ยังเป็นที่พำนัก ของผู้คนมากมาย ทั้งข้าราชการข้างใน ข้าราชการฝ่ายหน้า อีกทั้งยังเป็นวังที่ประทับของเจ้านายที่ยังอยู่ อีกหลายพระองค์
อาคารชุดนี้ได้มีอายุยืนยาวมาร่วม ๑๐๐ ปี จึงมีความทรุดโทรมมาก ไม่สง่างามสมกับเป็นสถานที่ซึ่งมีชาวต่างประเทศ ผ่านมาชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร กับ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จึงร่วมมือกันบูรณะปรับปรุงให้สวยงามดุจของใหม่ โดยได้รับความร่วมมือจากผู้อยู่อาศัยประชาคมท่าช้างวังหลังและหน้าพระลาน รวมทั้งการสนับสนุนจากกรมศิลปากร และมหาวิทยาลัยศิลปากรในการออกแบบปรับปรุง
หลังจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ประสบความสำเร็จจากการปรับปรุงฟื้นฟูตึกแถวหน้าพระลานอายุเก่าแก่กว่า 100 ปีจนงามสง่าคู่เกาะรัตนโกสินทร์ มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์แล้ว ทางสำนักงานทรัพย์สินฯ จึงได้จัดพิธีทำบุญอาคารอนุรักษ์และพิธีคฤหมงคล ให้กลุ่มผู้เช่า หน่วยงานราชการร่วมพิธี พร้อมกับจัดนิทรรศการแสดงประวัติความเป็นมาอาคารตึกแถวหน้าพระลาน นำภาพเก่าหาชมได้ยากมาโชว์ให้คนไทยและต่างชาติได้ศึกษา เรียนรู้ และเพิ่มความตระหนักในการดูแลอนุรักษ์อาคารเก่า
เราออกจากบ้านได้ไม่เท่าไร ฝนก็ลงเม็ดปรอย ๆ จึงต้องสวมหมวกกันศีรษะ เพราะไม่ได้เตียมอาร่มมาด้วย พอขึ้นรถแอร์ได้ ฝนก็ตกลงมาพอดี และเม็ดฝนค่อย ๆ เพิ่มความหนาแน่นขึ้นเมื่อมองดูพื้นถนน และกระจกหน้าพลขับ จนนึกในใจว่า ถ้าตกขนาดนี้จนถึงท่าช้าง ลงไปก็คงเปียกแน่เพราะไม่มีตึกแถวอยู่ทางฝั่งที่จะลงเลย จึงวางแผนว่าจะลงป้ายท่าพระจันทร์ หลบฝนตามชายคาตึกร้านขายยา แถวนั้น พอฝนซา ก็ข้ามฟากไปขึ้นรถเมล์กลับบ้านดีกว่า คงไม่มีแสงแดดจะให้ถ่ายรูปแล้ว
แต่พอถึงสนามหลวงฝนก็ซาลงและขาดเม็ดไป ดูได้จากที่พลขับปิดที่ปัดน้ำฝน ก็ไม่มีเม็ดฝนบนกระจกเลย จึงนั่งรถต่อไปลงที่มุมท่าช้างวังหลวง พอลงป้ายข้างมหาวิทยาลัยศิลปากร แดดก็ฉายแสงออกมาแจ่มจ้าน่าอัศจรรย์ จึงข้ามถนนไปดูมุมกล้องจากด้าน ทางเดินเลียบริมกำแพงพระราชวัง
แม้จะมีรถทัวร์ขนาดใหญ่ และรถตุ๊ก ๆ จอดขวางทางฝั่งตึกจนตลอดสาย แต่ก็พยายามหาช่องโหว่ หรือตอนที่เขาเลื่อนรถ ถ่ายภาพมาได้พอสมควร พอถึงภาพสุดท้ายมองไปทางท่าเตียน ก็เห็นเมฆดำมืดมาอีกแล้ว แดดหุบลงอย่างรวดเร็ว จึงรีบขึ้นรถแอร์กลับก่อนที่ฝนจะตกลงมา
๑.ภาพแรกถ่ายฝั่งเดียวกับตึกแถว ไม่มีมุมเลย
จากคุณ |
:
เจียวต้าย
|
เขียนเมื่อ |
:
21 พ.ค. 54 05:25:16
|
|
|
|