วันนี้...ดิฉันขอนำเสนอบทความดีดี ซึ่งได้รับการส่งต่อมาจากเพื่อนทางเมลล์ค่ะ
อ่านแล้วรู้สึกว่าตรงกับเรื่องที่ตัวเองโดน..และทำให้ตัวเองมีสติ ระงับความโกรธได้ดีมากๆ ค่ะ
จึงอยากจะนำมาแบ่งปันให้ท่านที่ยังไม่เคยอ่าน...เผื่อจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย
และหากท่านใดเคยอ่านแล้ว ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ขออานิสงส์ผลบุญจงมีไปถึงผู้ที่นำเรื่องราวนี้มาจัดทำเป็น E-mail เผยแพร่ค่ะ
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ขอเสนอพระธรรมคำสอนของ พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
หวังว่าท่านจะนำไปใช้ในชีวิตของการทำงานและชีวิตครอบครัวได้ดีขึ้น...
"เรื่อง คนชอบยุ่งกับเรื่องของคนอื่น"
โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
ทุกท่านอย่าลืมทำบุญ ทำคุณความดีและทำกุศล
อย่ายุ่งกับเรื่องของคนอื่น ภาวนามาก ๆ ดูตัวเองมาก ๆ
หลวงพ่อ (พระโพธิญาณเถระ) บอกว่า
'ธรรมดาเราดูแต่คนอื่น 90% ดูตัวเองแค่10%'
คือคอยดูแต่ความผิดของคนอื่น เพ่งโทษคนอื่น คิดแต่จะแก้ไขคนอื่น
กลับเสียใหม่นะ
ดูคนอื่นเหลือไว้ 10%
ดูเพื่อศึกษาว่า เมื่อเขาทำอย่างนั้น คนอื่นจะรู้สึกอย่างไร
เพื่อเอามาสอนตัวเองนั่นแหละ
ดูตัวเอง พิจารณาตัวเอง 90% จึงเรียกว่า ปฏิบัติธรรมอยู่
ธรรมชาติของจิตใจมันเข้าข้างตัวเอง
โบราณพูดว่า เรามักจะเห็น....
ความผิดของคนอื่นเท่าภูเขา ความผิดของตนเองเท่ารูเข็ม
มันเป็นความจริงอย่างนั้นด้วย
เราจึงต้องระวังความรู้สึกนึกคิดของตัวเองให้มาก ๆ
เห็นความผิดของคนอื่น ให้หารด้วย 10
เห็นความผิดตัวเอง ให้คูณด้วย 10
จึงจะใกล้เคียงกับความจริงและยุติธรรม
เพราะเหตุนี้เราจะต้องพยายามมองแง่ดีของคนอื่นมาก ๆ
และตำหนิติเตียนตัวเองมาก ๆ
แต่ถึงอย่างไร ๆ เราก็ยังเข้าข้างตัวเองนั่นแหละ
พยายามอย่าสนใจการกระทำ การปฏิบัติของคนอื่น
ดูตัวเอง สนใจแก้ไขตัวเองนั่นแหละมาก ๆ
เช่น เข้าครัวเห็นเด็กทำอะไรไม่ถูกใจ แล้วก็เกิดอารมณ์ร้อนใจ
ยังไม่ต้องบอกให้เขาแก้ไขอะไรหรอก
รีบแก้ไข ระงับอารมณ์ร้อนใจของตัวเองเสียก่อน
เห็นอะไร คิดอะไร รู้สึกอย่างไร ก็สักแต่ว่า ใจเย็น ๆ ไว้ก่อน
ความเห็น ความคิด ความรู้สึกก็ไม่แน่ .....
ไม่แน่ว่า อาจจะถูกก็ได้ อาจจะผิดก็ได้
เราอาจจะเปลี่ยนความเห็นก็ได้
สักแต่ว่า.....สักแต่ว่า.....ใจเย็น ๆ ไว้ก่อน ยังไม่ต้องพูด
ดูใจเราก่อน สอนใจเราก่อน หัดปล่อยวางก่อน
เมื่อจิตสงบแล้ว เมื่อจิตปกติแล้ว จึงค่อยพูด จึงค่อยออกความเห็น
พูดด้วยเหตุ ด้วยผล ประกอบด้วยจิตเมตตากรุณา
ขณะมีอารมณ์อย่าเพิ่งพูด
ทำให้เสียความรู้สึกของผู้อื่น ทำให้เสียความรู้สึกของตัวเอง
ไม่เกิดประโยชน์เท่าที่ควร มักจะเสียประโยชน์ซ้ำไป
เพราะฉะนั้น อยู่ที่ไหน อยู่ที่วัด อยู่ที่บ้าน ก็สงบ ๆ ๆ
ไม่ต้องดูคนอื่นว่าเขาทำผิด ๆ ๆ
ดูแต่ตัวเรา ระวังความรู้สึก ระวังอารมณ์ของเราเองให้มาก ๆ
พยายามแก้ไข พัฒนาตัวเรา ..... นั่นแหละ
เห็นอะไรชอบ ไม่ชอบ ปล่อยไว้ก่อน
เรื่องของคนอื่น พยายามอย่าให้เข้ามาที่จิตใจเรา
ถ้าไม่ระวัง ก็จะยุ่งกับเรื่องของคนอื่นไปเรื่อย ๆ
หาเรื่องอยู่อย่างนั้น เอาเรื่องโน้นเรื่องนี้มาเป็นเรื่องของเราหมด
มีแต่ยินดี ยินร้าย พอใจ ไม่พอใจ ทั้งวัน
อารมณ์มาก จิตไม่ปกติ ไม่สบาย ทั้งวัน ๆ ก็หมดแรง
ระวังนะ
พยายามตามดูจิตของเรา รักษาจิตของเราให้เป็นปกติให้มาก
ใครจะเป็นอะไร ใครจะทำอะไร ดีหรือไม่ดี เรื่องของเขา
แม้เขาจะทำกับเรา ว่าเรา..... ก็เรื่องของเขา
อย่าเอามาเป็นอารมณ์ อย่าเอามาเป็นเรื่องของเรา
ดูใจเรานั่นแหละ พัฒนาตัวเองนั่นแหละ
ทำใจเราให้ปกติ สบาย ๆ มาก ๆ
หัด - ฝึก ปล่อยวาง นั่นเอง
ไม่มีอะไรหรอก
ไม่มีอะไรสำคัญกว่าการตามรักษาจิตของเรา
คิดดี พูดดี ทำดี มีความสุข
ถ้าหากถ้อยคำจากเมลนี้ เป็นดั่งประทีปธรรมในการสร้างจิตสำนึกที่งดงามให้แก่ผู้ที่ได้อ่านและศึกษา
พึงน้อมดวงจิตบูชาระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย แล้วไปสู่การประพฤติและการปฏิบัติตนในฐานะพุทธมามกะที่ดี
ก็คงจะนำมาซึ่งปีติอันใหญ่หลวงยิ่ง จากการอนุโมทนาบุญของผู้จัดทำขึ้นแล้ว
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
_/\_ อนุโมทนาบุญค่ะ