ความคิดเห็นที่ 1 อุดมการณ์ เมื่อเราได้ยินได้ฟังคำคำนี้ เรามักนึกไปถึงเรื่องที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าการลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว  ส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องที่เกินกำลังความสามารถของเราที่จะทำได้  ยิ่งเมื่อผู้พูดมีฐานะเป็นคนที่ทางสังคมออกจะนับถือในความคิดความอ่านอยู่สักหน่อย ก็จะพลอยให้อุดมการณ์ของเขาเป็นเรื่องสูงส่งน่าศรัทธา เช่น เมื่อนักการเมืองหนุ่มผู้เข้าสภาฯมาเป็นสมัยแรก ประกาศอุดมการณ์ทางการเมืองของเขาต่อหน้าทีวีว่า “ผมเข้ามาเพื่อจะล้างระบบคอรัปชั่นให้หมดไปจากสภาฯ”  เมื่อเราได้ฟังอุดมการณ์เช่นนี้ก็ทำให้เรามีความหวังกับนักการเมืองหน้าหนุ่มผู้นั้น มีศรัทธาในตัวเขา พร้อมทั้งอยากติดตามต่อไปว่าเขาจะทำอย่างไรในอนาคต เพื่อบ้านเมืองของเรา  ส่วนนักการเมืองรุ่นเก่าเมื่อฟังอุดมการณ์เดียวกันนี้ก็อาจจะหัวเราะ หึ หึ อยู่ในลำคอ หรืออาจจะรำพึงอยู่ในใจว่า เด๋ว มรึงก็จะรู้สึก  นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง จากคุณ : qsys เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 20:34:48

ความคิดเห็นที่ 2 แต่ อุดมการณ์  นั้นเป็นเรื่องที่มีอยู่จริง  แม้ในเชิงความหมายของคำนั้นเป็นเพียงคำที่เป็นนามธรรม ไม่สามารถจับต้องอะไรได้  และไม่ได้มีคุณประโยชน์ในการสร้างภาพให้จินตนาการของเราเลย  ในเชิงเปรียบเทียบ ถ้าเราพูดคำว่า กิน ทุกคนจินตนาการถึงกริยานั้นได้แม้ว่าอาหารจะแตกต่างกันก็ตาม  แต่เมื่อเราได้ยินคำว่า อุดมการณ์ ขึ้นมาลอยๆ เราไม่ทราบเลยว่าผู้พูดจะทำอะไร จนกว่าเขาจะบอกเราว่าอุดมการณ์ของเขาคืออะไร และการกระทำของเขาต่อจากนั้นจะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่า อุดมการณ์ของเขามีอยู่จริงหรือไม่จริง  ซึ่งเรื่องนี้มหาบุรุษ(และสตรี)ของโลกหลายท่านได้พิสูจน์ให้เราประจักษ์แล้วว่า อุดมการณ์มีอยู่จริง จากคุณ : qsys เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 20:35:06

ความคิดเห็นที่ 3 คำว่า อุดมการณ์ นี้มิใช่ห้าวหาญเกิดมาเป็นลูกโทนแต่ผู้เดียว แต่ยังมีน้องด้วย ชื่อ อุดมคติ  ที่ผู้เขียนกล้าเรียงลำดับญาติให้นั้น ก็อ้างตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕  ซึ่งพอสรุปได้ว่า ผู้เป็นมารดาของทั้งสองคำนี้ น่าจะชื่อ อดุม-(อุดมมะ) เป็นคำวิเศษ แปลว่า  สูงสุด , ยิ่ง , เลิศ , มากมาย , บริบูรณ์.  ส่วน อุดมการณ์ ผู้พี่นั้น เป็นคำนาม แปลว่า อุดมคติอันสูงส่งที่จูงใจมนุษย์ให้พยายามบรรลุถึง.  อุดมคติ ผู้น้องนั้น เป็นคำนามเช่นเดียวกัน(กับผู้พี่)  แปลว่า  จินตนาการที่ถือว่าเป็นมาตรฐานแห่ง ความดี ความงาม และ ความจริง ทางใดทางหนึ่งที่มนุษย์ถือว่าเป็นเป้าหมายแห่งชีวิตของตน. จากคุณ : qsys เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 20:35:28

ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อวิเคราะห์ตามนิสัยของคำของพี่น้องคู่นี้ดูแล้ว  แม้ว่าจะมีจุดมุ่งหมายไปในทางที่ดีงามเช่นเดียวกัน  แต่ทั้งคู่มีนิสัยหรือการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันอยู่ กล่าวคือ อุดมคติ ผู้น้องนั้น ค่อนข้างจะมีนิสัยเก็บตัว พึงพอใจในการดำเนินชีวิตของตน หรือถ้าพูดกันในศัพท์แสงสมัยนี้ ก็คงจัดอยู่ในประเภทดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง เจียมตนเจียมอยู่ รู้ว่าเป้าหมายในชีวิตของตนเป็นอย่างไร ดำเนินชีวิตไปเงียบๆไม่ต้องประกาศให้โลกรู้ว่า อุดมคติของตัวเองเป็นอย่างไร ส่วน อุดมการณ์ นั้น ตามนิสัยของคำแล้ว อยู่คนเดียวไม่ค่อยเป็นสุข จำเป็นต้องมีพวกพ้องบริวารในการช่วยให้อุดมการณ์เป็นความจริง เป็นคนชอบสังคมกับคนหมู่มาก  เพราะถ้าอยู่สมถะคนเดียวอุดมการณ์คงต้องเฉาตาย เพราะไม่รู้จะประกาศเจตนารมณ์ให้ใครฟัง จากคุณ : qsys เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 20:35:48

ความคิดเห็นที่ 5 ที่นี้ลองกลับมาดูที่คนบ้าง คนที่มีอุดมคติ กับ คนที่มีอุดมการณ์ นั้นก็มีวัตรปฏิบัติคล้ายๆกับนิสัยของคำดังที่กล่าวมา  กล่าวคือ คนที่มีอุดมคตินั้นมักจะรู้อยู่กับตนเองว่า ตนเองทำอะไร เพื่ออะไร แล้วก็ก้มหน้าก้มตาทำไปตามในสิ่งที่ตนเชื่อ ว่าจริง ว่างาม ว่าดี เหมาะกับตน โดยไม่ต้องประกาศกับใคร ว่าอุดมคติของตัวคืออะไร บุคคลประเภทนี้มักเป็นพวกปัจเจกชน เช่น ศิลปิน นักเขียน ปราชญ์ชาวบ้าน ฯลฯ  ส่วนบุคคลที่มีอุดมการณ์นั้น จำเป็นต้องอาศัยพลังของคนอื่นมาร่วมขับเคลื่อนด้วย จึงอยู่คนเดียวไม่ได้ จำเป็นต้องประกาศอุดมการณ์ของตนให้คนอื่นรับรู้ ว่าจุดมุ่งหมายของตนคืออะไร เพื่อจะอาศัยพลังของผู้ร่วมอุดมการณ์ในการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ(ไปสู่สิ่งที่ดีกว่า) ตามอุดมการณ์ของตน  ส่วนใหญ่บุคคลประเภทนี้จะเป็นผู้นำทางสังคม เช่น นักการเมือง นักปฏิวัติ ผู้นำแรงงาน ฯลฯ จากคุณ : qsys เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 20:36:06

ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อมองในแง่นี้แล้วคนที่มีอุดมคตินั้น มีโอกาสที่จะเสียคนน้อยกว่าคนที่มีอุดมการณ์ กล่าวคือ ถ้าปฏิบัติตามอุดมคติของตัวเองได้ไปสักระยะหนึ่ง จะด้วยอะไรก็ตามแต่ เช่นว่า เมื่อมีครอบครัวจำเป็นต้องเลี้ยงบุตรเลี้ยงภรรยา ต้องดูแลบิดามารดร หรือจู่ๆนึกอยากได้ iPad 2 ขึ้นมา จำเป็นจะต้องหาเงินให้มากขึ้น ซึ่งอุดมคติของตัวเองไม่อาจตอบสนองได้ ก็กลับไปเป็นคนธรรมดาที่กินข้าวเป็นอาหารเหมือนชาวบ้านทั่วไป ก็ไม่มีใครครหาได้เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา จากคุณ : qsys เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 20:36:22

ความคิดเห็นที่ 7 ส่วนที่ว่าคนที่มีอุดมการณ์นั้นมีโอกาสเสียคนมากกว่า เพราะว่าอุดมการณ์จำเป็นต้องประกาศให้คนรู้  เมื่อสมัยที่ผู้เขียนยังไม่เบื่อนักการเมืองเหมือนเช่นทุกวันนี้  มีนักการเมืองหนุ่มหน้าใหม่เข้ามาในสภา เป็นนักการเมืองที่มีอุดมการณ์ เวลาอภิปรายในสภาฯทีไร พูดจาฉะฉานมีหลักการและเป็นคนแม่นในข้อกฎหมาย   เป็นดาวรุ่งในสภา  เป็นที่พึ่งที่หวังของคนจำนวนมาก ว่าต่อนี้ไปน้ำดีเริ่มเข้ามาล้างน้ำเน่าในสภาฯแล้ว  จำเนียรกาลผ่านไป เมื่อนักการเมืองหนุ่มผู้นั้นกลายเป็นนักการเมืองรุ่นใหญ่  นักข่าวก็ทวงถามถึงอุดมการณ์ของท่าน  ท่านตอบว่า “ตอนนี้อุดมการณ์ต้องเก็บใส่ลิ้นชักไว้ก่อน”  ก็เสียคนสิครับ จะไปเหลืออะไร  แต่สิ่งหนึ่งที่นักการเมืองท่านนั้นฝากไว้ให้ผู้เขียนได้รับรู้ก็คือ  อุดมการณ์นั้นต้องเป็นสสารแน่ๆ ถึงแม้จะกินไม่ได้แต่ก็ยังเก็บใส่ลิ้นชักได้ จากคุณ : qsys เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 20:36:41

ความคิดเห็นที่ 8 และเรื่องนี้วิญญูชนควรสดับ ว่าการที่จะทะเล่อทะล่าไปประกาศอุดมการณ์โดยไม่คิดหน้าคิดหลังให้รอบคอบนั้น รังแต่จะทำให้เราเสียคนได้ง่ายๆ เพราะการกระทำที่จะทำให้อุดมการณ์บรรลุถึงนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ มีองค์ประกอบหลายอย่าง มีแรงเสียดทานมากมาย และยังมีส่วนประกอบของระยะเวลาเข้ามาด้วย วันแรกที่เราประกาศอุดมการณ์ออกไป กับอีกสิบปีต่อมาเรายังยืนหยัดอยู่บนอุดมการณ์ของเราได้ไหม เป็นเรื่องที่ต้องไตร่ตรอง  แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้  เพราะถ้าทำไม่ได้คงไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นบนโลกเรา และผู้เขียนเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ๆบนโลกเราใบนี้ล้วนเริ่มมาจากอุดมการณ์แทบทั้งสิ้น จากคุณ : qsys เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 20:37:45

ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อตอนต้นที่เขียนว่าวันนี้ฤกษ์งามยามดีนั้นก็เนื่องมาจาก  วันนี้นิตยสารไรเตอร์ได้กลับมาสู่บรรณพิภพอีกครั้งหนึ่ง  หลังจากที่หยุดพักผ่อนมาหลายปี จึงถือว่าวันนี้เป็นวันฤกษ์ดี ที่วงการนักอ่านนักเขียน หรือนักวิชาการที่สนใจงานด้านหนังสือ จะมีหนังสือในแวดวงของตนเองเป็นเวทีให้พูดคุยแลกเปลี่ยนทรรศนะกัน  ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีกับทุกๆคน ทุกๆฝ่ายที่เกี่ยวข้อง  จะไม่ดีอยู่ฝ่ายเดียว ก็คือฝ่ายหาทุนเท่านั้นที่จะต้องเหนื่อย  เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าหนังสือแนวนี้นั้น ในประเทศของเราไม่เคยอยู่ยั่งยืนได้เลย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจ จากคุณ : qsys เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 20:38:03

ความคิดเห็นที่ 10 การที่ คุณบินหลา สันกาลาคีรี คุณวรพจน์ พันธ์พงศ์ และ คุณพรชัย วิริยะประภานนท์ ทั้งสามท่านได้ช่วยกันฟื้นไรเตอร์ให้กลับมามีชีวิตขึ้นอีกครั้งหนึ่งนั้น จึงเป็นเรื่องน่ายินดี  และในฐานะที่เราเสมือนพี่น้องกัน  ผู้เขียนจึงอยากจะบอกกับน้องในโอกาสฤกษ์งามเช่นนี้ว่า  จงก้มหน้าก้มตาทำไปตามอุดมคติ ที่เราเชื่อ ว่าดี ว่างาม ว่าจริง  สักวันหนึ่งข้างหน้าก็จะบรรลุผลตามที่ปรารถนา  และในระหว่างนั้นถ้ายังรักตัวกลัวตายก็ขออย่าได้ประกาศอุดมการณ์ออกมา...เพราะมันเป็นเรื่องเสี่ยง จากคุณ : qsys เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 20:38:21

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณสำหรับข้อมูลความรู้ค่ะ คุณ qsys ที่เคารพ :) หนูก็มีอุดมคติ ยึดมั่นในความจงรักภักดีต่อในหลวง ในชีวิตนี้...ไม่มีสิ่งใดที่จะเปลี่ยนแปลงอุดมคตินี้ได้... ทุกวันนี้...ได้แต่ภาวนา ขอให้พระองค์ท่านทรงหายจากพระประชวรฯ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานเทอญ สาธุ _/|\_ จากคุณ : แสนดีเหมือนทราย เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 21:05:49

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าดี ๆ ค่ะ จากคุณ : ขอพบในฝัน เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 21:11:36

ความคิดเห็นที่ 13 ตั้งใจมุ่งไปไม่ลดละแต่ไม่ประกาศเท่ากับ อุดมคติ ประกาศไปแล้วจะตั้งใจหรือไม่จะมุ่งไปหรือไม่ไม่สน เท่ากับ อุดมการณ์ ถ้าเข้าใจไม่ผิดน่าจะเป็นแบบนี้ครับจากที่อ่าน สวัสดี จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 21:26:09

ความคิดเห็นที่ 14 คำว่า "อุดมการณ์" มีอย่างอื่นประกอบไปด้วย มันดี ถูกต้อง เป็นประโยชน์กับส่วนรวม ส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยกับคนเหล่านี้ อย่าทำมาหากิน หาชื่อเสียง โดยถือโอกาส บนสถานะการณ์ ส่วนตัวจริงๆ  ผมไม่ซื้อหนังสือของคนเหล่านี้ จากคุณ : visitna เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 21:50:26

ความคิดเห็นที่ 15 มาอ่านค่ะ สวัสดีค่ะคุณอาqsys สบายดีนะคะ:) จากคุณ : alinada เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 22:08:34

ความคิดเห็นที่ 16 ตามคคห.5   คนเหล่านั้นเรียกว่า "นักฉวยโอกาสตัวยง"มากกว่า ต้องอย่าง"ท่านด๊อกเตอร์ซุนย้ดเซน  หรือมหาตะมะคานธี  9ล9"  ถึงจะเรียกว่ามีอุดมการณ์แรงกล้าอยู่ในอุดมคติ จากคุณ : อยากรู้อยากพูด เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 22:21:52

ความคิดเห็นที่ 17 มาอยู่ในโลกสมมุติแล้ว จะอยู่เหนือสิ่งเหล่านี้ก็คงยาก เอาแต่ตามดูตน รู้ว่าก่อ รู้ว่าสาน พอจะจบยังต้องหาทางลงเอง ถ้าจะเปลี่ยนชื่อพี่คนโตเป็น อุดมกาล จะดีไหม จากคุณ : ครูเพชร เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 22:39:55

ความคิดเห็นที่ 18  สวัสดีครับ คุณ qsys วันนี้มาแนวแปลก หนัก ปรัญชา น่าดูเชียว ผมเห็นขำทุกครั้งที่ นักกวนเมืองทั้งหลาย ให้สัมภาษณ์ทำนอง ยินดีที่ได้เข้าทำงาน ...ให้เป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล หรือไม่ก็ตามป้ายหาเสียงตอนนี้ อ่านแล้วขำดี ล้วนสูตรสำเร็จ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 06:33:10

ความคิดเห็นที่ 19 สวัสดีค่ะ คุณ qsys อ่านจบไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เกิดลังเลใจว่าตัวเองมีอุดมคติในชีวิตอะไรกับเขาบ้างหรือเปล่า หรือว่าบัางที่อุดมคติของเราเปลื่ยนไปตามเวลา? แต่ที่แน่ๆไม่มีอุดมการณ์กับใครเขาแน่ ได้แต่ชื่นชมคนที่มีอุดมการณ์ทั้งในต่างประเทศและในประเทศบ้างคนค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 54 12:10:55 จากคุณ : นกยิ้ม เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 09:16:13

ความคิดเห็นที่ 20 อุดมการณ์กินไม่ได้...แต่มันเท่ห์ ทำให้ตัวเราเองรู้สึกมีคุณค่า. อิ่มใจ แม้จะไม่สำเร็จ แค่เมื่อมีผู้ร่วมอุดมการณ์แล้ว เราก็จะรู้ว่า    ...May the Force be with you.... สาวก Star wars จากคุณ : nupvs เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 11:54:34

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณมากครับสำหรับความคิดเห็นของเพื่อน น้อง และหลานทุกคน จากคุณ : qsys เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 22:42:48