ความคิดเห็นที่ 1 สวัสดีค่ะ น้องเอก :) หายไปนานเลยนะคะ..พี่ก็เป็นห่วงว่าเป็นยังไงบ้างน๊อ ? เรื่องเข้าหุ้นกับใครก็ตาม...อย่าว่าแต่เพื่อนเลยค่ะ แม้แต่กับญาติพี่น้อง ก็เช่นเดียวกัน ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง..ไม่แฟร์..มันก็จะจบลงแบบไปกันคนละทางเลยแหล่ะ บางคนก็ถึงกลับกลายเป็นศัตรูกันไปเลยนะคะ ก่อนที่จะเข้าหุ้นทำอะไร..ก็ต้องตั้งกติกาโดยใช้ระบบ หจก. หรือแบบบริษัทจำกัด ถึงแม้จะเป็นกิจการเล็กๆ แต่ถ้ามีหุ้นส่วน ก็ต้องมีระบบการจัดสรรปันส่วนที่ตายตัว และควรจะต้องมีผู้นำ ที่ทุกคนยกให้เป็นประธาน เพื่อจะได้เป็นผู้ตัดสินใจได้เด็ดขาดค่ะ ป.ล. ที่พี่เขียนมานี้..พี่ไม่ได้เก่งเรื่องนี้หรอกนะคะ..เพียงแค่เคยมองเห็นคนอื่นเค้าทำค่ะ จากคุณ : แสนดีเหมือนทราย เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 21:14:51

ความคิดเห็นที่ 2 อย่าไปคิดมาก..... อย่าได้หุ้นกับใคร แม้แต่พี่น้อง... ถ้าจะเจ๊ง  ก็ขอให้เจ๊งด้วยตัวเอง อย่างน้อยก็มีประสบการณ์  !! คุณยังหนุ่มยังแน่น  นับ 1 ใหม่ก็ยังไม่สาย ถือเป็นบทเรียนก็แล้วกัน..... .. จากคุณ : เห้อออออออออ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 21:23:59

ความคิดเห็นที่ 3 . จากคุณ : LIU FON เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 21:45:19

ความคิดเห็นที่ 4 ให้กำลังใจล่ะกันครับ สู้ต่อไป จากคุณ : บ้านหนองจันสอน เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 22:28:30

ความคิดเห็นที่ 5 ขอขอบคุณทุกท่านสำหรับคำแนะนำและกำลังใจครับผม พี่แสนดีครับ สำหรับเรื่องหลังไมค์  เดี๋ยวเอกตอบนะครับ  ขอบิวท์อารมณ์ก่อนครับ จากคุณ : สถานการณ์มันพาไป เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 22:37:40

ความคิดเห็นที่ 6 ตั้งใจอ่านจนจบ ตั้งใจเพื่อจะดูว่าขอคำแนะนำ อะไร ก็ไม่พบ คำขอ ผมจึงไม่แนะนำ แต่จะมาเพิ่มเติม เล่าให้ฟัง จากประสบการณ์ของคนซอกแซก ชอบสังเกต ชอบดูรอบตัว พบว่า ทุกรายที่ลงทุนทำอะไรกับ *เพือนสนิท* ไม่มีสักรายที่จะสำเร็จ ไม่มีข้อยกเว้น เห็นสุดท้ายทะเลาะกันทุกราย ยกตัวอย่างรายหนึ่ง เป็นเพื่อนสนิทกับผมมาก สนิทขนาดตอนลำบากด้วยกัน กินข้าวจานเดียวกัน ช้อน คนละคัน อย่างนี้คงจะสนิท คิดว่าทำงานหุ้นกันได้ใช่ไหม ? พอเขาคิดจะเปิดบริษัท ทำรถไถนา แบบควายเหล็ก เพื่อนๆ คนอื่นต่างร่วมกันเข้าหุ้น คนหนึ่งจบด้านออกแบบรถยนต์ ไฟแรงดี ฯลฯ (รีบบอกก่อนว่า ผมไม่ได้เข้าหุ้น ไม่ใช่อะไร แต่ตอนนั้นโชคดีผมยังอยู่อังกฤษครับ) กลับมาถึงเมืองไทย ผมไปเยี่ยมเขา เห็นบริษัทคึกคักดี  ผมยังเอารถไถนา ไปทดลองไถนาเอง สนุกดี พอทำงานกันได้พักเดียว ไม่กี่เดือน เริ่มทะเลาะกันแล้ว เรื่องไม่เป็นเรื่อง อาทิ แฟนของเพื่อนคนหนึ่ง บ่นว่า กับข้าวจืดบ้าง หลังจากนั้นก็มาบ่นว่า เพื่อนคนนี้ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้หลักบริหาร ทำไมจะต้องทำอย่างนั้น อย่างนี้ ตลอดจนการออกแบบ รถไถจะต้องกระทัดรัด คันเล็ก คล่องตัว ถึงจะถูก อันนี้คือความคิดด้านออกแบบ(ของเขาคนเดียว) แต่อีกคนออกตลาดลุยเอง เขารู้ว่า ชาวนาชอบควายตัวใหญ่ ควายตัวโต แรงดี ถ้าออกแบบรถคันเล็ก คนไม่ชอบชื้อ ฯลฯ ที่จะมาถกเถียงกัน แทนที่จะเอาเวลาไปทำงานให้ก้าวหน้า การทำงานก็ชักช้า พองานไม่เดิน ก็โทษกันซิ คนหนึงว่า ฝ่ายเซลไม่ดี คนหนึ่งว่าการออกแบบไม่ดี ที่จริง เขาน่าจะแบ่งแยกหน้าที่ให้เด็ดขาด ทำแบบผมคือ profit center ตัวหัวรับผิดชอบเอาเอง จะทำยังไงตีลังกาทำก็ตามใจ แต่ต้องได้ profit ตามเป้า ฯลฯ ไม่นานก็แยกวง เพราะเก่งทุกคน เพื่อนผมก็งานคล่องตัว คิดอะไร ก็ทำได้เร็ว ไม่นานก็ร่ำรวย มีบริษัทเพิ่มอีกหลายบริษัท ร่ำรวยขนาดจ้างญี่ปุ่นมาเขียนจดหมาย ติดต่องานกับญี่ปุ่นเชียวครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 10:21:31

ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องเข้าหุ้นทำธุรกิจกับเพื่อนๆ ผมพอมีประสบการณ์มาบ้างครับ มีกำไรก็ทะเลาะกันเรื่องแบ่งผลประโยชน์ ขาดทุนก็ทะเลาะกัน สุดท้ายก็ต้องเลิกลากันไป เรียกว่าเสียทั้งเงิน งาน และเพื่อนนั่นแหละ ที่คุณเอกถามว่าแล้วทำยังไง ก็ต้องทำใจครับ หลบหน้าเจ้าหนี้อยู่พักใหญ่ เพราะดันไปลงชื่อในเช็คกับเค้าด้วย จากคุณ : หนุ่มร้อยปี เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 10:29:16