ร้อนใจมาก ขอคำปรึกษาและขอความคิดเห็นด่วนครับ เกี่ยวกับเรื่อง...........................................................

คิดว่าน่าจะอมเงิน (1 คน)

คิดว่าไม่น่าจะอมเงิน (3 คน)

	25.00%		คิดว่าน่าจะอมเงิน (1 คน)
	75.00%		คิดว่าไม่น่าจะอมเงิน (3 คน)
จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 4 คน

คือว่าผมมีเรื่องไม่สบายใจอย่างมาก ณ ตอนนี้มาขอความคิดเห็นครับ
ผมจะเล่าแบบกลางๆทั้งสองฝ่ายให้ฟังนะครับ

เรื่องมีอยู่ว่า  มีผู้หญิงคนนึงชื่อว่า ดวง ดวงได้ให้ญาติ ชื่อว่าดาว
มาช่วยเพราะว่าคุณดวงจะเปิดร้านอาหาร
คุณดวงไม่มีฝีมือได้ด้านการทำอาหารเลย  ก็เลยมอบหมายให้
คุณดาวเป็นคนทำอาหาร และเป็นคนอยู่หน้าเตา  โดยที่คุณดวง
จะไม่ค่อยอยู่ร้านเลย อยู่บ้างไม่อยู่บ้าง

  สาเหตุที่มีปัญหากันก็เพราะว่า เพื่อนของคุณดวง  มาที่ร้านตอนที่คุณ
ดวงไม่อยู่  อยู่แต่ดาว  บังเอิญเพื่อนของคุณดวงได้มองเห็น
คุณดาว เอาเงินออกมาจากไหนไม่รู้ แล้วเอาใส่กระเป๋ากางเกงของคุณดาว

โดยที่แบ่งส่วนนึงไว้ในกระเป๋าด้านหน้าของผ้ากันเปื้อน

*********************************************

นี่เป็นสาเหตุแรก ที่ทำให้คิดว่าเขาอมเงินคุณดวง

สาเหตุที่สอง  เป็นวันสุดท้ายที่ได้ขายของร่วมกันก็เพราะว่า
ส่วนใหญ่วันทั้งวันคุณดวงจะไม่ค่อยอยู่ร้าน  วันนั้นคุณดวงกลับมาที่ร้าน
ตอนเวลา ที่คุณเยอะมากพอดี  ซึ่งทำให้เข้าใจว่าต้องขายได้เงินเยอะมาก
แน่ๆ โดยการที่  ถามลูกจ้างสองคนที่เข้ามาทำงานวันแรกว่า
วันนี้ที่ขายได้  น่าจะถึง 200 จาน ได้ไหม  โดยลูกจ้างสองคนก็ตอบ
ไปว่า น่าจะได้นะ 200 จาน
คุณดวงก็ เอา 200 คูณ 30ทันที  ได้เงิน 6000  
แต่ว่ามีเงินหลังจากขายเสร็จแล้วจริงๆแค่ 4500 บาท  

คุณดวงก็โทษคุณดาวทันทีว่าต้องเป็นคนอมแน่นอน  เพราะว่า
ลูกจ้างที่มาใหม่บอกว่า 200 ก็ต้องประมาณ 200 ซิ คงไม่ต่ำกว่านี้
โดยมั่นใจการกะประมาณของลูกจ้างมาก    
***************************************

***************จบคำให้การของผู้เสียหาย**************



มาฟังคำให้การของจำเลยคือคุณดาวบ้าง

คุณดาวบอกว่า ปกติคุณดวงจะให้เงินไว้ทอนประมาณ 600 บาท
แต่วันที่มีเพื่อนคุณดวงเห็นว่าดาวอมเงินนั้น  คุณดวงรีบไปธุระ
เลยเอาเงินที่มีอยู่เป็นปึกๆทั้งหมด ยัดใส่ไว้ให้ดาว ดาวบอกว่า
ประมาณ 3พันบาท ทั้งแบงค์ 20 50 100 ซึ่งคำให้การของคุณดาว
บอกอีกว่า  กระเป๋าของชุดกันเปื้อนของดาวนั้นเล็กมาก และตื้นด้วย
เขาจึงจำเป็นต้องแยกเงินในส่วนที่เยอะเกินกว่าที่จะทอนแยกออกไว้
ในกระเป๋า  แต่พอขายเสร็จ เขาก็รวบรวมทั้งหมดส่งมอบให้คุณดวงที่บ้าน
ไม่ได้อม  
( ไม่ได้ทำหลบๆซ่อนๆ  ยืนอยู่หน้าร้าน  และก็แยกเงินหน้าร้านนั่นแหละ )
ไม่ได้มาหลบๆซ่อนๆหลังร้าน  ที่ดาวบอกแบบนี้ก็เพราะอยากให้เข้าใจว่า
เขาไม่ได้ทำลับๆล่อๆ  เพราะเขาบริสุทธิ์ใจ ( เขาบอกแบบนั้น )

***********************************************

อีกข้อนึงที่บอกว่า  วันนั้นขายได้น่าจะ 200 จาน แต่ว่าได้เงินแค่ 4500 นั้น
คุณดาวบอกว่า  การประมาณของลูกจ้างนั้นจะต้องแม่นตรงขนาดนั้นเลย
หรือไง  อาจผิดพลาด ขายได้แค่ 150 จานก็ได้150คูณ30
ก็ได้ประมาณ 4500เพราะว่าวันนี้
ร้านเรากว่าจะได้เปิดร้านก็เกือบบ่ายสองโมงแล้ว
ปกติจะต้องเปิด 11.00 น  ก็จะได้ลูกค้าตอนเที่ยงๆด้วย แต่ว่าวันนี้
เปิดขายช้า กว่าทุกวัน ลูกค้าจะเริ่มเข้ามาซื้อของก็ช่วง หกโมงเย็นถึงสองทุ่มเท่านั้น  ก็เลยขาดรายได้ในช่วงเที่ยงไป ทำให้ยอดขายลดลงกว่าทุกวัน
และที่สำคัญ  วันที่มีปัญหากันวันนี้ คุณดวงเข้ามาช่วยที่ร้านเป็นวันแรก
คุณดวงเข้ามาที่ร้านก็ประมาณ หกโมงกว่าๆ จนร้านปิดเลย  

และหลักฐานสำคัญที่ถ่ายไว้โดยบังเอิญก็คือ  คุณดาวนั้น ไม่มีหน้าที่คิด
เงินและเก็บเงินแล้ว  จากภาพวิดิโอนั้น คุณดาววุ่นแต่การอยู่หน้าเตา
โดยคนคิดเงินเก็บเงินก็จะเป็นหน้าที่ของคุณดวงและลูกจ้างคนใหม่สองคน
( มีภาพวิดิโอเป็นหลักฐาน ว่าคุณดาวไม่ได้ยุ่งกับเงินเลย )

แต่พอขายเสร็จ  เดาเอาว่า 200 จานคูณ 30 ต้องได้เงิน 6000
แต่พอไม่ได้เงินตามที่ลูกจ้างคนใหม่บอก ก็หาว่าคุณดาวอมเงิน

**********************************************

ตอนแรกที่เถียงกัน คุณดวงบอกว่าได้สั่งให้นับจาน ( สั่งให้นับจาน )
ขอย้ำว่า  คุณดวงบอกกับคนอื่นๆว่า เขาให้ลูกจ้างนับจานว่าได้กี่จาน  ซึ่งทำไมคุณดวงถึงบอกว่าสั่งให้นับ  
ขอเดาว่า ก็เพราะว่าน้ำหนักในการเดาของลูกจ้างจะได้น่าเชื่อถือและแม่น
ยำหน่อย( เพิ่มความน่าเชื่อถือ )
 แต่ว่า วันรุ่งขึ้น  คุณดาวข้องใจอย่างมากก็เลย
เข้าไปถามลูกจ้างสองคนว่า  คุณดวงให้นับจานหรือเปล่า
ลูกจ้างสองคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า  ไมได้ให้นับ
( มีวิดิโอเป็นหลักฐาน เพราะคุณดาวถ่ายเก็บไว้ด้วย )  
ฝ่ายคุณดาวก็เลยบอกว่า  การคิดเงินทอนเงินตนเองก็ไม่ได้เป็นคนเก็บ
และทอน  ยังจะหาว่าตัวเขาเป็นคนอมเงินอีก

*************จบคำให้การของคุณดาว************


*******เรามาฟังต่อครับว่า มีอะไรอีก ทำไมคุณดวงถึงได้คิดว่า
คุณดาวเป็นคนอมเงิน***********

1. คุณดวงบอกว่าก็บ้านของคุณดาวจน  พอเห็นเงินก็เลยคิดอยากได้เงิน
เพื่อส่งให้พ่อแม่ตัวเอง
1.1  *** คุณดาวสวนกลับ ถึงครอบครัวเขาจะยากจน แต่พ่อแม่
ขอเขาก็ไม่เคยสอนให้ลักขโมยของใคร  


คร่าวๆเรื่องราวก็ประมาณนี้ครับ  คือว่าเรื่องนี้รับทราบกันแค่ไม่กี่คน
บางคนที่ฟังแล้วก็เชื่อว่า อมเงินจริง ส่วนบางคนก็คิดว่า หลักฐานไม่เพียงพอ
สำหรับจะให้ปักใจเชื่อว่าเขาอมเงิน ก็เลยไม่เชื่อ

แล้วคุณหละครับ ถ้าข้อเท็จจริงทั้งหมดเป็นประมาณนี้ คุณเลือกที่จะเชื่อ
ว่าคุณดาว โกงเงินหรือไม่โกงเงินครับ

ปล.รายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆไม่เข้าใจถามได้นะครับ ถ้าผมทราบข้อมูลผมก็จะบอกครับ เผื่อช่วยประกอบการตัดสินใจครับ

จากคุณ	: คิดนอกกรอบ
เขียนเมื่อ	: 27 มิ.ย. 54 18:33:15