หลากหลายความคิด หลากหลายความรู้สึก
สังคมทุกสังคมย่อมมีความขัดแย้ง เป็นของธรรมดา เพราะความขัดแย้ง ย่อมแสดงออกถึงแง่มุมต่างๆของปัญหาให้เราได้รับรู้ และแก้ไขในเหตุนั้นๆ
แต่ความขัดแย้งที่ว่าธรรมดานั้น ต้องไม่ใช่ความขัดแย้ง ที่นำไปสู่การแตกแยก
เพราะการแตกแยก จะทำให้เกิดการแบ่งฝ่าย เมื่อมีการแบ่งฝ่าย ก็ต้องมีกองเชียร์ของแต่ละฝ่าย
เมื่อมีกองเชียร์ เหตุผล ก็ไร้ความหมาย เมื่อเหตุผลไร้ความหมาย ก็จะเหลือแต่อารมณ์ล้วนๆ
อารมณ์นี่แหละคือตัวแปรสำคัญ ที่ทำให้เกิดการล่มสลายได้ในทุกกรณี
อณูเล็กๆที่ไร้ความหมาย เมื่อรวมตัวกันมากๆเข้า มัีนก็กลายเป็นปรมาณู พร้อมที่จะระเบิดทำลายทุกสิ่งทุกอย่างภายในพริบตา
พระพุทธองค์สอนมาสองพันห้าร้อยกว่าปี ว่า ธรรม (สรรพสิ่ง) ทั้งหลายอย่ายึดมั่น ถือมั่น รู้จักปล่อยวาง เมื่อถึงคราวต้องวาง ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่ยั่งยืนถาวร ให้เรายึดเหนี่ยวได้ตลอดไป
เชื่อว่าทุกคนรู้ ทุกคนเข้าใจ แต่เหตุที่มันเป็นไปเนื่องเพราะ...อารมณ์
อารมณ์ที่แปรปรวนจากการกระทบ สะสม เก็บกด แต่ไม่รู้จักละ...วาง...
มนุษย์ต่างจากสัตว์อื่น ที่มีสติระลึกรู้ รู้จักขัดเกลา และเก็บงำ ความดิบ เถื่อน ของจิตวิญญาณ ซุกซ่อนไว้ในส่วนลึกที่ถูกควบคุมไว้โดย สติ
แต่เมื่อใดที่ขาดสติ ขาดการควบคุม ความดิบ เถื่อน ซึ่งเป็นสัญชาติญาณ ในสัตว์ทุกชนิด จึงกระเจิง เผ่นโผน โจนทะยานออกจากที่ซ่อน โดยไม่สนใจใยดีต่อ เหตุ และผลใดๆทั้งสิ้น
และสร้างความเสียหายต่อสังคมส่วนรวมได้
การที่จะรู้จักละ วาง ยับยั้่ง แก้ไข ควบคุม ไม่มีใครอื่นที่จะกระทำได้ นอกจากตัวของตัวเอง
ถ้าตัวของตัวเองยังแก้ไขไม่ได้ ก็สุดที่สังคมจะเยียวยา....!!
"เย ธัมมา เหตุ ปัพพวา เตสัง เหตุง ตะถาคะโต เตสัญ จะ โย นิโรโธ จะ เอวัง วาที มะหาสะมะโณ"
ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ พระตถาคตทรงแสดงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น และความดับแห่ธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติทรงสั่งสอนอย่างนี้
จากคุณ |
:
~นายเฉิ่มศักดิ์~
|
เขียนเมื่อ |
:
30 มิ.ย. 54 23:12:03
|
|
|
|