ตามภาพ
กระบอกซ้ายสุด (ทางน้ำออก) เป็นไส้กรองเซรามิก สำหรับกรองละเอียด ถ้าตันก็เปลี่ยนอย่างเดียว สังเกตจากสีผิวของไส้ที่จะเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีคล้ำตามคุณภาพของน้ำ และอาจจะมีเมือกเหนียวๆ บางๆ ที่ผิวไส้ด้วย อันนี้เกิดจากแบคทีเรียในน้ำ
กระบอกกลางเป็นไส้คาร์บอน ทำหน้าที่กรองกลิ่นต่างๆ ที่มากับน้ำ มันสีดำอยู่แล้ว เลยไม่เปลี่ยนสี
กระบอกขวาสุด (ทางน้ำเข้า) เป็นไส้กรองเรซิน ทำหน้าที่กรองตะกอนหยาบและลดความกระด้างของน้ำ อายุการใช้งานจะนานหรือไม่ขึ้นอยู่กับคุณภาพของน้ำที่เข้าเครื่อง เมื่อมันเปลี่ยนสีหมดแล้ว แสดงว่ามันหมดความสามารถในการลดความกระด้างของน้ำ ก็ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนได้แล้ว
อาจจะไม่ต้องเปลี่ยนทั้งสามไส้กรองพร้อมกัน อันไหนหมดสภาพก็เปลี่ยนอันนั้น
ในสมัยก่อน เขาบอกกันว่า ให้เอาเรซินมาต้มกับน้ำเกลือที่มีความเค็มเล็กน้อยสักครึ่งชั่วโมง แล้วนำมาล้างไล่ความเค้มออก และให้สะอาด ก็จะนำเรซินมาใช้ได้อีก แต่ห้ามดื่มเกินวันละสองขวด ... ไม่ใช่สิ นำเรซินมาต้มน้ำเกลืกได้แค่สองครั้งอย่างที่สุด จากนั้นก็ซื้อของใหม่มาเปลี่ยนครับ
คห 8 - ลุงต้อยแกไปพักร้อนอยู่ครับ คงอีกหลายวันกว่าจะกลับมาเสวนากันใหม่
ลุงไก่เลยถือโอกาสตอบแทนซะเลย เพราะเคยใช้เครื่องกรองน้ำแบบสามไส้นี้
จากคุณ |
:
ลุงไก่ (ลุงแก่)
|
เขียนเมื่อ |
:
1 ก.ค. 54 16:28:09
|
|
|
|