เรื่องเล่าจากสวนอ้อย (เรื่องไม่เป็นเรื่อง ๒)
|
 |
เรื่องเล่าจากสวนอ้อย
เรื่องไม่เป็นเรื่อง (๒)
" เพทาย "
ผมเป็นคนชอบเขียนหนังสือ ผมหัดเขียนเรื่องสั้นมาตั้งแต่อายุสิบหก แล้วก็เขียนเรื่องอะไรต่ออะไรเรื่อยมาจนบัดนี้ แม้จะได้ลงพิมพ์ในวารสารต่าง ๆ ตามโอกาส แต่ก็ไม่มีชื่อเสียง ไม่เคยมีเรื่องรวมเล่มที่ขายได้มาก เป็นหมื่นเป็นแสนกับใครเขา แต่ผมก็ไม่เลิกเขียน
ในปัจจุบันเรื่องที่ผมชอบเขียน ก็คือเรื่องของตนเอง เพราะผมคงไม่รู้จักผู้ใดในโลกนี้ มากเท่ากับตนเอง แล้วก็ขยายวงออกไปเป็นเรื่องของเพื่อน เรื่องของผู้คนรอบตัวที่ผมได้สัมผัส เรื่องของหนังสือที่ผมชอบอ่าน เรื่องในแวดวงที่ผมเคยทำงาน เรื่องของนาย เรื่องของลูกน้อง เพียงแต่ว่า ผมไม่ได้เขียนทุกเรื่องที่ผมรู้เห็น ผมจะเขียนแต่เรื่องราวที่ดี ๆ เท่านั้น
ส่วนเรื่องของเพื่อนนั้นคือนายหงอก เพราะเส้นผมบนศรีษะของผม เป็นสีขาวมาตั้งแต่หนุ่มแล้ว นายคนนี้เป็นเพื่อนสนิทกับนายแมวมาตั้งแต่เด็ก เพราะเรียนหนังสือที่วัดแจ้ง รุ่นเดียวกัน จบชั้นมัธยมออกมาพร้อมกัน
และเข้ามารับราชการหน่วยเดียวกันแต่คนละกอง เขาเป็นนักเรียนนายสิบรุ่นเดียวกับผม ก็เลยนับไม่ค่อยถูกว่า ใครเป็นเพื่อนใครกันแน่ แต่ว่าเราก็เป็นเพื่อนกันทั้งสามคนนั่นแหละ
วันหนึ่งเขาโผล่หน้ามาเข้าวงกับเพื่อนแล้วไม่ยอมยิ้ม ได้ความว่าฟันหน้าของเขาหายไปสามสี่ซี่ เมื่อเพื่อนถามเขาก็บอกสั้น ๆ ว่าหมากัด
เพื่อนก็ตกอกตกใจไปตาม ๆ กันว่า หมากัดอย่างไรถึงฟันหัก เขาบอกว่าไม่ใช่ฟันจริงหรอก เป็นฟันปลอม ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เพื่อนยังไม่หายข้องใจ หมาอะไรมากัดเอาจนฟันปลอมหลุดไปได้ แล้วปากคอไม่เยินไปหมดหรือ
เขาก็เลยต้องเล่ารายละเอียดให้ฟัง อย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
เขาว่าเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง เมียของเขาซื้อกระดูกหมูมาต้มยำ หอมน่าอร่อย แต่ยังไม่ทันจะเปื่อยดี เขาอยากจะกินมื้อนั้น แต่ก็แทะไม่ค่อยจะออก จึงถอดฟันปลอมออกวางไว้ แล้วก็กินอย่างเอร็ดอร่อย อิ่มแล้วเหลือแต่กระดูกกองโต ก็เอาไปทิ้งถังขยะหน้าบ้าน พอล้างปากจะหาฟันปลอมใส่ก็หาไม่เจอ
เพื่อนก็ซักว่าแล้วหมามันมากัดตอนไหน นายหงอกโบกไม้โบกมือพัลวัน แล้วก็บอกว่า
คืองี้
เวลากินกระดูกหมูแล้ว ก็กองเศษกระดูกไว้กับฟันปลอม พอเอาไปทิ้ง ก็กอบไปทั้งกอง กว่าจะนึกขึ้นมาได้รีบวิ่งไปดู ที่ไหนได้มีไอ้หมาเวรตัวหนึ่ง กำลังกัดแทะฟันเราเพลินไปเลย
เสียงหัวเราะก็ประสานขึ้นเกือบพร้อมกัน บางคนถึงกับสำลักเบียร์ บางคนน้ำตาไหลต้องเอากระดาษมาเช็ด บางคนกำลังจะซดต้มแซ่บ ต้องทิ้งช้อนลงในชาม เว้นแต่ตัวผู้เล่า คนเดียว ไม่ยอมยิ้มเพราะยังไม่ได้ใส่ฟันใหม่ แทนชุดเก่าที่หมาเคี้ยวแตกไปแล้ว
ผมชอบเขียนแต่เรื่องพรรค์อย่างนี้แหละ จึงไม่มีใครเขาเอาไปรวมเล่ม
และที่เล่ามานั่น เป็นเรื่องเพื่อนของเพื่อน ซึ่งดู ๆ ไม่น่าจะเป็นเรื่อง
แต่ก็ดันเป็นเรื่องขึ้นมาจนได้.
##########
นิตยสารทหารปืนใหญ่ กรกฎาคม ๒๕๔๗
จากคุณ |
:
เจียวต้าย
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ก.ค. 54 05:38:24
|
|
|
|