สวัสดีค่ะ :)
วันก่อน..เห็นน้องมังน้อยบอกว่า ทานยาจำนวนมาก..รู้สึกเป็นห่วงน้องนะคะ
พี่ไม่ได้ห้ามน้องไม่ให้ทานยาหรอกนะคะ แต่เป็นห่วงไตที่ต้องทำงานหนักมาก
น้องต้องดื่มน้ำให้มากกว่าปกติ เพื่อจะได้ช่วยระบายตัวยาที่ตกค้างออกไปให้หมด
มีอีกวิธีหนึ่ง ที่จะช่วยทำให้น้องหายป่วยเร็วขึ้น จะได้ลดการทานยาลงได้บ้าง
ก็คือ วิธีการรักษาด้วยแพทย์ทางเลือก ซึ่งมีศาสตร์การรักษาหลายวิธีด้วยกันค่ะ
บังเอิญมีญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ส่งเมลล์เรื่องนี้มาให้พี่เมื่อวานนี้เองค่ะ
พี่ก็เลยนึกถึงน้องมัง อยากจะนำมาฝากน้องด้วยค่ะ
เรื่อง ฝ่ามืออรหันต์พิชิตโรค ! "ตีลัญจกร"
ศาสตร์การรักษาบำบัดโรคจากเมืองจีน รักษาได้ด้วยตัวเองนะคะ
หากจะโฟกัสไปที่ศาสตร์การบำบัดสุขภาพ ด้วยการใช้กายบริหาร
ชั่วโมงนี้ที่ถือว่าได้รับการยอมรับอย่างมาก คือ ศาสตร์การบำบัดโรคจากเมืองจีน
ศาสตร์บำบัดโรคร้ายจากจีนล่าสุดที่ว่ากันว่า กำลังได้รับความนิยมสูงมาก
คือ "ตีลัญจกร" ของอาจารย์ศุภชัย จารุสมบูรณ์
ซึ่งเป็นผู้ที่ศึกษาวิชาการบำบัดโรคนี้มาจากหลักสูตรการแพทย์แผนจีน
"ไม่น่าเชื่อว่าร่างกายมีระบบการรักษาตัวเองได้ หมอที่เก่งที่สุดก็คือ ร่างกายของเรา
โรงงานผลิตยาที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็คือ ตัวของเรา
ร่างกายมีสารเคมีกว่าสองหมื่นชนิด นำมาผสมเป็นตัวยาได้เอง
มีครบทุกสารเคมี เพียงแต่ว่าจะรู้วิธีผสมหรือไม่เท่านั้น"
เคล็ดลับของการบำบัดและป้องกันโรคด้วยวิธี ตีลัญจกร
เป็นหลักการบำบัดโรคด้วยวิธีง่ายๆ ที่เน้นการบริหารมือ
เพื่อให้เกิดลมปราณปรับธาตุทั้ง 5 ของร่างกาย
ตลอดจนยังส่งผลต่อการปรับอารมณ์ให้สู่ความสมดุล
วิธี ตีลัญจกร
นับเป็นศาสตร์การรักษาที่ถ่ายทอดมาจากพุทธศาสนา
อาจารย์ศุภชัยเรียกว่า หัตถ์พุทธองค์เวชศาสตร์
หรือ คนทั่วไปจะรู้จักกันดีว่า เป็นการฝึกฝ่ามืออรหันต์
โดยมุ่งเน้นในการใช้มือทั้งสองข้าง กด พับ รัด เชื่อมจุดชีพจรหรือจุดฝังเข็ม
การประสานมือ จะเป็นการเปลี่ยนถ่ายคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ตามหลักของด้วยวิธีหัตถเวชศาสตร์ บนฝ่ามือของเราจะมีจุดต่างๆที่เชื่อมโยง
และส่งผลถึงการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย เมื่อเรากด พับ รัด ตามจุดต่างๆบริเวณฝ่ามือจะเกิดแรงสั่นสะเทือนเป็นคลื่นแม่เหล็ก
หรือ เรียกว่า "ชี่" ให้ไหลเวียนไปตามส่วนต่างๆของร่างกายตามแนวเส้นลมปราณหลัก
มือข้างหนึ่งของคนเรามีเส้นลมปราณ 6 เส้น ด้านหน้า 3 เส้น ด้านหลัง 3 เส้น เส้นลมปราณนี่เองจะเป็นตัวเชื่อมโยงกับอวัยวะ การไหลเวียนของไฟฟ้าสนามแม่เหล็กร่างกาย จะเข้าไปจัดการกับโมเลกุลที่เรียงตัวไม่เป็นระเบียบ ตามส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย
ดังนั้น หากฝึกท่าการวางมือตามหลักตีลัญจกรที่มีกว่า 100 ท่า และแต่ละท่าจะมีปฏิกริยาที่ส่งผลต่อร่างกาย
ทั้งนี้ ปัจจุบันได้มีการพิสูจน์มาแล้วพบว่า การฝึกตีลัญจกร จะสามารถบำบัดอาการป่วย และป้องกันโรคร้ายต่างๆได้ถึง 12 โรค คือ โรคซีสและมะเร็ง,อาการนอนไม่หลับ,อาการเครียด, อาการไมเกรน,โรคประสาทอัตโนมัติสับสน,โรคภูมิแพ้,อาการเสื่อมสมรรถภาพทาง เพศ,โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ,โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด,โรคหัวใจ,โรคความ ดันโลหิต และโรคอ้วน
"ตีลัญจกร ได้รับการยอมรับแล้วว่าเป็นการแพทย์ทางเลือกวิธีหนึ่ง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขการันตีแล้ว สามารถบำบัดและป้องกันอย่างได้ผล" อาจารย์ศุภชัย กล่าวทิ้งท้าย
ท่าสุดฮิต ลดอ้วน - แก้เครียด
การฝึกตีลัญจกรที่ถือว่า กำลังเป็นท่าที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในหมู่สาวๆ และผู้สนใจ คือ ฝ่ามืออรหันต์ลดอ้วน ซึ่งมีวิธีที่ง่ายมาก และแทบไม่น่าเชื่อว่าผู้เคยฝึกจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "น้ำหนักลดลง" อย่างรวดเร็ว โดยแทบไม่ต้องเข้าคอร์สความงามเลย
ขั้นที่ 1 เริ่มจากใช้มือขวางออุ้งเล็กน้อย ข้อศอกตั้งฉาก วางมือซ้ายลงบนมือขวาตามแนวเส้นโค้งของลายมือ
ขั้นที่ 2 ใช้นิ้วหัวแม่มือขวากดลงที่ปลายนิ้วชี้ข้างซ้าย นิ้วหัวแม่มือซ้ายกดลงที่ข้อแรกของหัวแม่มือขวา
ขั้นที่ 3 มือซ้ายดึงลงเล็กน้อย ส่วนมือขวาดันขึ้น ควรทำก่อนเวลาอาหาร และทำสมาธินาน 15 นาที
ผลจากการบำบัดด้วยวิธีนี้ จะเกิดปฏิกริยาเคมีในร่างกายเป็นผลให้ไม่อยากทานของหวาน ซึ่งผู้ฝึกที่อยากลดความอ้วน ลองฝึกทำ จะเห็นผลได้ภายในระยะเวลา 1 เดือน
ฝ่ามืออรหันต์ลดอาการเครียด ถือเป็นอีกท่าหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากเช่นกัน ด้วยวิธีการฝึกง่ายวันละ 15 นาที อาการปวดหัวจากความเครียดจะค่อยๆ หมดไป
ขั้นที่ 1 ทำมือเหมือนมีลูกบอลอยู่ข้างใน ปลายนิ้วมือทั้งสองข้างชนกัน
ขั้นที่ 2 ตั้งมือไว้ครอบกลางบริเวณหน้าอก ทำสมาธิประมาณ 15 นาที
ผลจากการบำบัด พบว่า ลมปราณที่เกิดขึ้น จะเข้าไปปรับหยินหยางของอวัยวะภายใน ทำให้สมองลดการหลั่งสารอะครีนาลีน คอร์ติซอน ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการเครียด
ศาสตร์กายบริหารเฟื่อง!
ศาสตร์การฝึกกายบริหาร เพื่อบำบัดและป้องกันโรคอีกแขนงหนึ่งที่ถือว่า ตลอดระยะเวลาได้รับความนิยมไม่แพ้กันคือ คือ การฝึกโยคะ
ปัจจุบันการฝึกโยคะได้แพร่หลาย และถูกบรรจุให้เป็นหนึ่งในทางเลือกในการดูแลสุขภาพที่ได้ผลดี ซึ่งมีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ได้จัดหลักสูตรโยคะขึ้นมา เช่น มูลนิธิหมอชาวบ้าน ตามโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ฯลฯ
การฝึกโยคะ จะแตกต่างกับการฝึกตีลัญจกร เนื่องจากโยคะจะเป็นออกกำลังกายโดยใช้ทุกส่วนในร่างกาย แขน ขา อาศัยหลักการออกกำลัง โดยอาศัยหลักการทำงานของ ร่างกาย โดยวิธีการของธรรมชาติ
การหายใจอย่างถูกต้องจะช่วยให้ร่างกายสามารถผลิตโลหิตดีๆ ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายและยังสามารถขับของเสียต่างๆออกมาอีก สำหรับวิธีฝึกโยคะอย่างง่ายๆอย่างมูลนิธิหมอชาวบ้าน เริ่มจาก ท่าจระเข้ ให้นอนคว่ำ มือรวบไว้ที่ต้นแขน วางหน้าผากบนมือที่รวบไว้ พักศีรษะให้สบาย ๆ อาจเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง กางขาออกให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ปลายเท้าชี้ออก พักอยู่ในท่าจระเข้ พักนิ่ง ๆ ให้เกิดความสบาย เป็นท่าพักในลักษณะนอนคว่ำ ผ่อนคลายแผ่นหลัง ผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ คลายเครียด
ต่อจากนั้นเป็น ท่างู จากท่าจระเข้ที่นอนคว่ำ ให้รวบขาชิดกัน มือทั้ง สอง วางข้างทรวงอก หัวแม่มือชิดหน้าอก หน้าผากจรดพื้น ค่อนเลื่อนคางไปข้างหน้า ยกศีรษะขึ้น ยกทรวงอกขึ้นช้า ๆ ด้วยแผ่นหลัง ระวังอย่างเกร็ง ยกได้สูงเท่าที่จะทำได้ นานเท่าที่จะทำได้ ขณะยกให้สะดือและขาแนบพื้นตลอด นิ่งอยู่ในท่างูอย่างสบายให้นานที่สุด อย่าฝืน เมื่อเมื่อยแล้วต้องลงพัก โดยการลดไหล่ ศีรษะ หน้าผาก
ท่านี้ เป็นการบริหารกล้ามเนื้อลึกชั้นในบริเวณกระดูกสันหลัง ให้แข็งแรงเปรียบเสมือนการทำความสะอาด ทางด่วนให้ระบบประสาททำงานได้ นำเลือดซึ่งมีสารอาหารและออกซิเจนมาเลี้ยงร่างกาย เมื่อเซลล์ได้รับอาหารและออกซิเจนเต็มที่กลไกในร่างกายดีขึ้น แล้วปฏิบัติท่าอื่น ๆ จนครบ ปิดท้ายด้วยการผ่อนคลายท่าศพ เป็นเวลาสิบนาที นาที ให้นอนหงาย แยกเท้าให้ปลายเท้าชี้ออก รับรู้ความรู้สึกต่าง ๆ ตลอดร่างกายที่เกิดขึ้น
ปัจจุบันมีการพิสูจน์พบเช่นกันว่า นอกจากจะส่งให้ระบบร่างกายดีขึ้น อาการจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆเช่น ภูมิแพ้ ไมเกรน ผู้ที่ฝึกจะมีอาการดีขึ้นและทุเลาลงอย่างได้ชัด
นอกจากศาสตร์ของโยคะแล้ว ศาสตร์การฝึกกายบริหารอื่นๆที่ได้รับความนิยม และได้รับการยอมรับว่ารักษาโรคภัยได้ผลดียิ่ง คือ
การฝึกชี่กง การฝึกฝ่าหลุนกง และการฝึกฤาษีดัดตน
ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเลือกฝึกตามสถานที่ต่างๆได้ และวิธีการบำบัดด้วยวิธีเหล่านี้ได้รับการตรวจสอบจากกระทรวงสาธารณสุขแล้วพบ ว่า ได้ผลดียิ่งกว่าพึ่งยาแพทย์แผนปัจจุบัน
แพทย์ทางเลือกชุบชีวิต
"การแพทย์ทางเลือก กำลังเป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยชุบชีวิตใหม่ให้กับผู้ป่วยและผู้ห่วงใยสุขภาพ ปัจจุบันมีศาสตร์การบำบัดสุขภาพ เข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือผู้ป่วย และเป็นทางออกสำหรับผู้สิ้นหวัง ในการรักษากับแพทย์แผนปัจจุบัน ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ยอมรับศาสตร์ทางเลือกใหม่ๆ ซึ่งได้พิสูจน์แล้วพบว่าสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยได้อย่างได้ผล"
พ.ญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย อธิบายว่า ปัจจุบันคนสมัยใหม่มักจะเจ็บป่วยด้วยโรคที่แปลกใหม่ โดยเฉพาะโรคที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค หากแต่เป็นการเจ็บป่วยที่เกิดจากความเครียด และการเจ็บป่วยภายในจิตใจ
สาเหตุสำคัญส่วนใหญ่มักเกิดจากพฤติกรรมที่ผิดธรรมชาติ ไม่ส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดี ขาดการออกกำลังกาย บริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสมล้นเกินความจำเป็น ดังนั้นการหันมาเอาใจใส่เรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะการใช้แพทย์ทางเลือก เป็นทางออกสำหรับการบำบัดและป้องกัน
ปัจจุบันมีศาสตร์ต่างๆมากมาย เช่น ไทเก็ก โยคะ ฝ่าหลุนกง ฤาษีดัดตน ซึ่งหลักกายบริหารต้านโรคเหล่านี้ ได้รับยอมรับแล้วว่า ต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บอย่างได้ผล โดยไม่ต้องพึงยาแผนปัจจุบัน
เครดิตจาก http://www.ayuyuen.com/treerunchakorn.html
ป.ล. ขอแก้ไข คำว่า "ตีสัญจกร" พิมพ์ผิดค่ะ ที่ถูกต้องคือ "ตีลัญจกร" นะคะ

แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 54 09:56:01
แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 54 09:53:31