Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
~ เรื่องของ ..หอย ~ ติดต่อทีมงาน

หอยแมลงภู่ (Green Mussel) เป็นหอยสองฝา ลักษณะเปลือกรียาว ส่วนท้ายเรียวแหลม ส่วนปลายแบนป้าน คล้ายรูปไข่ ฝาด้านนอกมีสีเขียวอมน้ำตาล ฝาด้านในมีสีมุก อาศัยอยู่ในบริเวณปากแม่น้ำที่มีความลึก 2-8 เมตร
หอยแมลงภู่เมืองไทยมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Perna viridis Linneaus จากลักษณะภายนอกไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างเพศของหอยแมลงภู่ได้ แต่สามารถแยกได้จากสีของเนื้อหอยหรือลำตัว โดยเพศเมียจะมีสีแดงหรือสีแสด เพศผู้จะมีสีขาวครีมหรือสีน้ำตาลอมเหลือง
ความเชื่อเรื่องตัวยาจากทะเล

หอยแมลงภู่ที่พบในน่านน้ำสะอาดปราศจากมลพิษของนิวซีแลนด์ สามารถนำมาใช้รักษาแผลอักเสบได้ โดยการทดลองกับคนที่เจ็บปวดจากไขข้ออักเสบ แม้ว่าจะไม่หายขาด แต่ผู้ป่วยก็ทุเลาจากความเจ็บปวดและเคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น
คุณค่าทางโภชนาการของหอยแมลงภู่

คุณค่าทางโภชนาการของหอยแมลงภู่แตกต่างกันไปตามฤดูกาล ความอุดมสมบูรณ์ของอาหาร ปัจจัยจากสภาพแวดล้อมและองค์ประกอบที่ใช้ในการแปรรูป โดยเฉลี่ยหอยแมลงภู่และผลิตภัณฑ์หอยแมลงภู่มีคุณค่าทางโภชนาการดังนี้

หอยแมลงภู่สด มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม
โปรตีน 8.7 - 13.1 %
ไขมัน 0.8 - 1.4 %
ความชื้น 82.4 - 87.6 %
เถ้า 1.1 - 1.6 %
โซเดียม 61 - 121
โปแตสเซียม 220 - 434
ฟอสฟอรัส 130 - 160


หอยแมลงภู่ปรุงรส มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม
โปรตีน 37.5 %
คาร์โบไฮเดรด 30.7 %
ไขมัน 17.67 %
เกลือแร่ 7.03 %
ความชื้น 7.1 %


หอยแมลงภู่ชุบทอด มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม
โปรตีน 10.76 %
คาร์โบไฮเดรด 24.47 %
ไขมัน 1.84 %
เถ้า 2.13 %
ความชื้น 60.82 %

ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากหอยแมลงภู่
การแปรรูปหอยแมลงภู่ตามลักษณะการแปรรูปพื้นบ้าน สามารถแบ่งได้ดังนี้
1. แกะสด เป็นการจำหน่ายเฉพาะเนื้อหอย โดยแช่เนื้อหอยไว้ในน้ำเย็นพอท่วมเนื้อหอยเพื่อรักษาความสด สามารถเก็บไว้ได้ประมาณ 30 ชั่วโมง โดยปริมาณของเนื้อหอยที่แกะได้จำนวน 1 กิโลกรัม จะใช้หอยสดทั้งเปลือกประมาณ 3.37 กิโลกรัม
2. หอยต้มแกะเนื้อ ทำโดยนำหอยสดทั้งเปลือกไปต้ม แยกเนื้อออกจากเปลือกแล้วนำไปลวกในน้ำที่เติมเกลือเล็กน้อยนาน 1-2 นาที นำเนื้อหอยไปลวกอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นนำขึ้นผึ่งลมให้แห้งพอหมาด ๆ โดยผึ่งบนตาข่ายประมาณ 5 นาที ใส่ถุงพลาสติกแช่ในน้ำแข็งเพื่อรอส่งห้องเย็นต่อไป
3. หอยต้มตากแห้ง วิธีการเหมือนหอยต้มแกะเนื้อ แต่แตกต่างกันตรงระยะเวลาในการตาก ซึ่งหอยต้มตากแห้งใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง เก็บได้นาน 2-7 วัน
4. หอยดองปรุงรส นำหอยมาแกะเปลือกแยกเนื้อ นำไปใส่ในไหหรือโอ่ง ใส่เกลือเล็กน้อย ปิดฝาเก็บไว้ 7-21 วัน
5. เกสรหอย คือ ส่วนของเท้าหอยที่ยื่นออกมามีขนาดเล็ก อยู่ติดกับส่วนที่เป็นขน เอาส่วนที่เป็นขนออกแล้วนำไปตากแห้งประมาณ 6 ชั่วโมง
6. เนื้อหอยแมลงภู่แช่แข็ง ห้องเย็นจะซื้อหอยทั้งเปลือกและหอยต้มเพื่อทำการแช่แข็ง โดยนำหอยไปต้มแล้วคัดขนาด ต่อจากนั้นนำไปแช่แข็ง เก็บได้นานประมาณ 2 ปี
7. หอยผ่าตากแห้งหรือหอยผีเสื้อ ทำโดยนำหอยมาผ่าแกะเนื้อ เวลาตากจะแผ่หอยเป็นรูปผีเสื้อวางบนผ้าขาวบางก่อน แล้วจึงวางบนตะแกรงนำไปตากแห้ง
กินหอยอย่างไรให้ปลอดภัย

หอยแมลงภู่ที่ได้จากการเพาะเลี้ยงในประเทศไทยส่วนมากไม่เหมาะกับการบริโภคสดในทันที ต้องผ่านกระบวนการบำบัดเพื่อให้หอยแมลงภู่คายสิ่งสกปรกและจุลินทรีย์ที่ปนเปื้อนออกเสียก่อน ซึ่งยังไม่นิยมทำกันเนื่องจากต้องใช้เวลาและต้นทุนสูง
ความสดและสะอาดของหอยขึ้นอยู่กับแหล่งเลี้ยงเป็นสำคัญ เนื่องจากหอยจะกินอาหารโดยการกรองสิ่งแขวนลอยที่อยู่ในน้ำ หากแหล่งเลี้ยงนั้นอยู่ใกล้แหล่งชุมชนหรือโรงงานอุตสาหกรรมที่ทิ้งของเสียลงในแหล่งน้ำก็จะพบจุลินทรีย์ที่ก่อโรคหรือสารโลหะหนักปนเปื้อนในเนื้อหอย ดังนั้นการเลือกซื้อหรือรับประทานหอยแมลงภู่ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่มีสภาพแวดล้อมสะอาดและมลพิษต่ำ
วิธีเพิ่มความปลอดภัยในการกินหอยแมลงภู่

ถ้าไม่มั่นใจในแหล่งที่มาและความสะอาดของหอยแมลงภู่ ให้ลวกหอยในน้ำเดือดจัดจนหอยเปิดฝาออก (ประมาณ 3-5 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดหอย) จะลดและทำลายจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้
หลีกเลี่ยงการรับประทานหอยจากแหล่งที่อยู่ใกล้พื้นที่อุตสาหกรรมที่มีการบำบัดน้ำทิ้งไม่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการรับประทานหอยในช่วงน้ำทะเลเปลี่ยนสีเนื่องจากแพลงก์ตอนมีพิษ ซึ่งจะเกิดในช่วงฤดูร้อน ยกเว้นเป็นหอยจากแหล่งที่ได้รับการยืนยันว่าปลอดภัยตามเกณฑ์ของกรมประมง
กินหอยแมลงภู่หน้าร้อน

ช่วงหน้าร้อนและหน้าฝน เป็นฤดูผสมพันธุ์ของหอยแมลงภู่ เนื้อของหอยแมลงภู่ ทั้งสองด้านจะปกคลุมไปด้วยเซลล์สืบพันธุ์ หอยตัวผู้จะเป็นสีน้ำนม และตัวเมียจะเป็นสีเหลืองส้มหรือแดง ซึ่งเป็นสีของไข่ ความเข้มของสีไข่จะขึ้นกับชนิดและปริมาณของเม็ดสีแคโรทีนอยด์ที่ได้จากอาหาร รสชาดของหอยทั้งสองเพศจะไม่แตกต่างกัน แต่คุณค่าทางอาหารอาจแตกต่างกันเล็กน้อย นอกจากนี้สีในไข่หอยยังประกอบด้วยเบต้าแคโรทีน ที่ทางการแพทย์รายงานว่ามีคุณสมบัติเป็นสารต้านมะเร็งและป้องกันหลอดเลือดหัวใจตีบตัน
การบริโภคหอยในหน้าร้อน แม้หอยจะอ้วนน่ารับประทาน แต่ควรนำไปทำให้สุกก่อน เพราะตัวหอยจะปนเปื้อนไปด้วยจุลินทรีย์ที่ขยายพันธุ์ได้ดี จุลินทรีย์บางชนิดแม้ไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำ แต่อาจทำให้เกิดโรคแก่ผู้บริโภค ส่วนของหนวดหอย (byssal thread) ที่ใช้เป็นอวัยวะสำหรับยึดเกาะจะเป็นที่สะสมของจุลินทรีย์และสัตว์น้ำขนาดเล็กที่อาจมีพิษ ควรดึงออกขณะล้างทำความสะอาด อย่างไรก็ตามหนวดหอยไม่สามารถดึงออกได้หมดขณะหอยยังสดอยู่ เนื่องจากมีส่วนที่ยึดอยู่กับกล้ามเนื้อ หลังจากทำให้สุกใช้มือบีบฝาทั้งสองหนีบกับหนวดหอยแล้วดึงออก การทำเช่นนี้จะช่วยรักษาส่วนของกล้ามเนื้อไม่ให้หลุดออก จะทำให้เนื้อสัมผัสของหอยออกมาดี การทำความสะอาดหอยสดจำพวกหอยสองฝาให้ปลอดเชื้อ ทำได้โดยนำหอยที่ล้างภายนอกจนสะอาดดีแล้วนำไปใส่ในภาชนะที่ปล่อยให้น้ำสะอาดไหลผ่านตัวหอย ช่วงระยะเวลาหนึ่งให้หอยคายสิ่งสกปรกออกจากกระเพาะ ก็จะได้หอยที่สะอาด เหมาะแก่การนำไปบริโภค
หอยที่เหมาะสมต่อการบริโภค

- สด ยังมีชีวิตอยู่ และเนื้อไม่มีดิน หรือสิ่งสกปรกติดอยู่
- มีจำนวนเชื้อ Faecal coliforms น้อยกว่า 300 หรือมีจำนวน E. coli น้อยกว่า 230 ต่อน้ำหนักของเนื้อหอย 100 กรัม
- ต้องไม่มีเชื้อไวรัสและแบคทีเรียในทะเล ที่เป็นสาเหตุแห่งโรค ซึ่งทำให้คนเจ็บป่วยได้
- ต้องไม่มีเชื้อซัลโมเนลลา (Salmonella) หรือพิษของสัตว์หรือสารที่เป็นอันตราย
- ต้องไม่มีพิษที่บริโภคหอยแล้วทำให้เป็นอัมพาต "ในระดับที่เกิดปฏิกิริยาได้" (พีเอสพี 80 ไมโครกรัม/100 กรัม) หรือพิษที่บริโภคหอยแล้วทำให้ท้องร่วง (ดีเอสพี)


 ค้นมาจาก
http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=367eb4a58b1100e5  
ขอบคุณค่ะ

 
 

จากคุณ : แกงไก่ไข่ดาว
เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 54 14:51:05




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com