ความคิดเห็นที่ 1 หน้า ๒ จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 05:39:02

ความคิดเห็นที่ 2 หน้า ๓ จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 05:40:36

ความคิดเห็นที่ 3 หน้า ๔ จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 05:42:07

ความคิดเห็นที่ 4 หน้า ๕ จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 05:43:21

ความคิดเห็นที่ 5 หน้า ๖ จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 05:44:38

ความคิดเห็นที่ 6 หน้า ๗ จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 05:45:50

ความคิดเห็นที่ 7 หน้าสุดท้าย จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 05:47:22

ความคิดเห็นที่ 8 อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณลุง  สงคราม คือ  ภาพ แห่ง หายนะ  การทำลาย  และ การล้มหาย ตายจากโดยแท้ +ภาพสะพานเหมือนกันค่ะ  แต่เป็น สารสิน ยามใกล้ค่ำ  ภูเก็ตค่ะ + จากคุณ : phuketian เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 05:57:41

ความคิดเห็นที่ 9 สวัสดีค่ะ คุณลุงเจียวต้าย สงครามไม่เคยปราณีใคร... หนูอยากใ้ห้โลกนี้..มีแต่สันติภาพและความสงบสุข อยากให้คนทั้งโลก...รักและให้อภัยซึ่งกันและกันนะคะ สาธุ จากคุณ : Zand เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 06:09:44

ความคิดเห็นที่ 10 เฮาเป็น ควาย จริงๆแหละ...555 จากคุณ : หนุ่มเมืองพาน เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 07:09:05

ความคิดเห็นที่ 11 สวัสดีค่ะ คุณลุง อ่านไปหัวเราะไป ด้วยสำนวนที่ใช้ กราบขออภัยคุณลุง จริง ๆ แล้วช่วงสงคราม ฝันไม่ควรหัวเราะเลยใช่ไหมคะ แต่สำนวนมันชวนไปหลายตอนอยู่ค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ขอพบในฝัน เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 07:46:04

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดียามเช้าครับ ลุงเจียวต้าย... เรื่องคนมุงดูความเสียหายนั้น เป็นธรรมชาติแท้ๆ ของคนเราครับ ถึงแม้จะรู้ว่าช่วยอะไรไม่ได้ก็ตาม สาเหตุตำรวจที่ตาย มาจากแรงอัดอากาศของลูกระเบิดที่ทิ้งลงมาครับ ถึงจะไม่มีสะเก็ดมาโดนเนื้อตัวก็ตาม  วิชาการหมอบแบบทหารจะมีประโยชน์ตรงนี้แหละ  ส่วนวัวควายที่แตกตื่นนั้น หากตายลง ท่านว่าให้รีบขายทรากดีกว่า เอาเงินคืนบ้าง ดีกว่าทิ้งให้เน่าเปื่อยไปเปล่าๆ ครับ ผมเพิ่งทราบข้อมูลในวันนี้เองว่า สะพานข้ามน้ำแม่ลาว เป็นสะพานแขวนสลิงเหล็กกล้า คงไม่ใช่แค่สะพานแห่งเดียวในประเทศไทย  เพราะยังมีเหลืออยู่อีกแห่งหนึ่งในทุกวันนี้ข้ามแม่น้ำงาว ตรงตัวชุมชน อ.งาว จ.ลำปาง แต่กรมทางหลวงไม่อนุญาตให้รถยนต์แล่นข้ามสะพานแห่งนี้ครับ แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 54 08:08:52 จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 08:07:37

ความคิดเห็นที่ 13 สวัสดีครับ คุณอาเจียวต้าย ทุกครั้งที่มีคนมุง ไฟไหม้บ้าน ฯลฯ คนที่มาทีหลังจะพูดว่า "เสียดายมาไม่ทัน" คนฟังนึกค่อนขอดในใจว่า "ไม่ทัน มาดูความหายนะหรอกหรือ ?" ผมเคยมีม้าตัวหนึ่ง ชื่อ เจ้ายุค เป็นม้าตัวโต ที่ผมเข้าหุ้นซื้อกับเพื่อน ส่วนม้าตัวเก่ง ที่ผมฝึกหัดขี่ชื่อ นวล เป็นม้าตัวผู้สีนวล ลักษณะดี ขณะที่ผมเข้ามาเรียนกรุงเทพ คืนหนึ่ง เจ้านวล ออกมาเดินกลางถนน ถูกรถชน ขาหัก ม้าขาหัก ขาจะต่อไม่ได้ เจ้าของจำใจต้อง merry kill เขาเล่าว่า พอดีเป็นหน้าฝน ขุดหลุมได้ง่าย ถ้าเป็นหน้าแล้ง ไม่ทราบจะทำยังไง จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 11:25:03

ความคิดเห็นที่ 14 สวัสดีครับคุณอา... อ่านสนุกครับ  แต่อยู่ในเหตุการณ์จริง คงเครียด.. จากคุณ : ananrak เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 15:38:37

ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อภัยมาถึงตัว ไม่ว่ามนุษย์ หรือสัตว์ ต่าง ตระหนกตกใจ หนี ให้พ้นภัย เป็นสิ่งที่อยู่ใน สัญชาตญาน อย่า ว่า แต่ ไอ้แก้ว ที่หนีจนตกหลุม  คนทีหนีไฟไหม้ แล้ว ไปลงตุ่มน้ำ ใบเล็กนิดเดียว จนน้ำเดือดครอกตาย ก็ปรากฏ อยู่ในพิพิธภัณฑ์ ให้ได้ สงสัย ว่า คนตัวสูงใหญ่ กว่าตุ่มน้ำ นั้น ลงไปอยู่ ในตุ่มใบเล็กนั้นได้อย่างไร.. จากคุณ : nupvs เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 16:10:47

ความคิดเห็นที่ 16 ภาพพระอาทิตย์ตกที่ภูเก็ตสวยเสมอครับ คุณphuketian เราคงไม่สามารถเกลี้ยกล่อมให้ใครคิดเหมือนเราได้ เราก็ต้องเริ่มที่ตัวเราเองครับ คุณZand อ้าว....ทำไมคิดยังงั้นล่ะครับ คุณหนุ่มเมืองพาน ผู้เขียนท่านมีอารมณ์ขันเหลือเฟือครับ คุณขอพบในฝัน สะพานพวกนี้เป็นสะพานรถยนต์ หรือรถไฟข้ามครับ คุณowl2 เพราะเมื่อเสร็จสงคราม ทหารไทยต้องเดินเท้าจากชายแดนถึงที่ตั้งปกติเป็นส่วนมากครับ น่าสงสารครับ คุณTinyNu อยู่ในเหตุการณ์นั้น ไม่สนุกแน่ครับ คุณ ananrak และเขาทำเราข้างเดียวเสียด้วยครับ สัตว์หรือมนุษย์ก็เหมือนกัน ครับ คุณnupvs เพราะรักชีวิต กลัวภัย กลัวเจ็บ กลัวตายเหมือนกันครับ ขอบคุณ คุณ tintila, คุณ alinada, คุณจันทรกานต์, และคุณ babeheart ด้วยครับ. จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 17:52:26

ความคิดเห็นที่ 17 สวัสดีค่ะคุณตาเจียวต้าย อ่านแล้วนึกถึงหนังสงครามเวียดนามเลยค่ะ สงครามมีแต่ความสูญเสีย และความเศร้าค่ะ จากคุณ : alinada เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 18:06:51

ความคิดเห็นที่ 18 บ้านเราหมดสงครามโลกครั้งที่ ๒ ก็เป็นสงครามกับ ผกค. สงครามเวียตนาม สงครามลาว สงครามเขมร สงครามชายแดนใต้ แล้วก็สงครามชนชั้น ไม่ได้มีว่างเว้นเลยนะครับ คุณalinada จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 18:41:01

ความคิดเห็นที่ 19 สะพานที่เป็นโครงเหล็กนั้น ใช้เป็นสะพานรถไฟก็ได้ เอาไม้ปูพื้นให้รถยนต์แล่นข้ามก็ดีครับ ลุงเจียวต้าย สมัยก่อน สะพานโครงเหล็กจะขนง่าย ประกอบง่าย มักนิยมใช้กันเยอะ  โดยเฉพาะถนนยันตรกิจโกศล ช่วง เด่นชัย - แพร่ - น่าน ก่อนที่จะบูรณะก่อสร้างใหม่ในปัจจุบัน ก็ใช้สะพานโครงเหล็กนี้ ทอดข้ามลำน้ำ ส่วนการเดินเท้าทางไกลจากสนามรบกลับที่ตั้งนั้น เข้าใจว่า ทางรัฐบาลสมัยนั้น ไม่มียานพาหนะขนส่ง และประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง เลยปล่อยให้เดินกลับกันเองกระมังครับ ? จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 20:46:10

ความคิดเห็นที่ 20 เคยได้อ่านพบว่าทางเราขาดแคลนน้ำมันจึงไม่มีการขนส่งโดยรถยนต์ สะพานขาดทำให้รถไฟไปไม่ตลอดสาย จึงต้องเดินเท้าหลายตอน แต่การปลดก่อนถึงที่ตั้งนี่ไม่ทราบว่าแก้ตัวอย่างไรครับ อาจจะประหยัดเบี้ยเลี้ยงเงินเดือนก็ได้มังครับ. จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 06:07:21