 |
ก่อนที่ลุงจะออกจากออฟฟิศ เพื่อตามไปที่กรมศุลกากร ก็ได้รับโทรศัพท์จากคุณสมชัย
ว่า เจ้าหน้าที่กรมศุลฯ บอกให้เอาตรายางของบริษัทไปด้วย ลุงจึงพกตรายางของ
บริษัทติดตัวไปด้วย
การเข้าไปในกรมศุลกากรในสมัยนั้น ก็คงยังเหมือนกับสมัยนี้ เพราะยังพลุกพล่านไป
ด้วยผู้คน คนเดินกันยั้วเยี้ย บางคนนั่งยองๆ บนม้านั่งกระดานตัวเล็ก เหมือนกับที่เขา
เอาไว้ขูดมะพร้าว เขียนอะไรก็ไม่รู้ไปบนกองกระดาษพะเนินเทินทึก......ลุงใส่สูท เดิน
บ้าง กระโดดหลบกองกระดาษและผู้คนเหล่านั้นบ้าง เพื่อไปยังห้อง หน่วยปราบ
ปราม... อะไรก็ไม่รู้ ซึ่งคุณสมชัยบอกให้ไปเจอกันที่นั่น
อ้อ....ผู้จัดการหรือครับ เอาตรายางมาด้วยหรือเปล่าครับ
เอามาครับ... ลุงตอบงงๆ
เริ่มประทับได้เลยครับ ประทับในเอกสารทุกใบที่เป็นของบริษัท ที่เจ้าหน้าที่ได้ไปเอา
มาจากบริษัทของคุณเมื่อเช้านี้.....
ประทับทำไมครับ? ลุงถามเพราะงงจริงๆ ไม่ได้งงเล่นๆ
จะได้เป็นหลักฐานว่า เอกสารทุกชิ้น เป็นเอกสารของบริษัทที่ได้มาจากบริษัทของ
คุณ....ประทับๆ ไปเถอะครับ อย่าเพิ่งถามเลย หรือหากคุณเห็นว่าจะเสียเวลามาก ก็
กรุณาลงนามตรงนี้สักนิด เพื่อมอบอำนาจให้คนของลุงประทับแทนคุณก็ได้.....แล้วเรา
จะติดต่อไปให้คุณทราบว่าเรื่องอะไรภายในสองสามวันนี้ครับ................
เจ้าหน้าที่คุยเสียยืดยาว แล้วก็เอากระดาษฟอร์มแผ่นหนึ่งมาให้ลุงเซนต์ เป็นการมอบ
อำนาจให้คุณสมชัยประทับตราแทน ซึ่งลุงเองก็กะไม่ถูกว่า แฟ้มจำนวน 10 กว่ากล่อง
นั้น มันจะมีเอกสารอยู่กี่แผ่น แต่หาคำนวณคร่าวๆ ว่า มาจากตู้เอกสารในห้องของลุง
5 ตู้ ของคุณนงลักษณ์ 3 ตู้ ของคุณพรเทพ 4 ตู้ จากของพี่ตั๋นอีก 1 ตู้ ก็คง
ประมาณ 13 15 ตู้ ตู้ละ 4 ลิ้นชัก ประมาณ 60 ลิ้นชัก.....โอย ลุงขอเป็นลมดีกว่ามา
นั่งประทับเอกสารเอง ปล่อยให้คุณสมชัยแกประทับไปคนเดียว......แล้วลุงก็บึ่งเข้า
บริษัท
ลุงรีบโทรศัพท์ไปหาคุณดิลก เพื่อนรักของลุงในสมาคมคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นทั้งคู่แข่ง
และคู่ซี้
ลุงเล่ารายละเอียดให้คุณดิลกฟัง ซึ่งคุณดิลกก็บอกว่า เคยมีคนเล่าให้ฟังเหมือนกัน
ว่า IBM ก็โดนค้นแบบนี้ แต่เขาปิดข่าวกันให้แซด ตอนแรกคุณดิลกคิดว่าเป็นข่าว
ลือ แต่พอลุงโดนเข้าให้บ้าง คุณดิลกก็ร้อนตัว ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องจริงเข้าให้แล้ว
ลุงเรียกประชุมสมาชิกกลุ่มผู้ค้าคอมพิวเตอร์ ซึ่งตอนนั้น ยังเป็นกลุ่มที่รวมตัวกันอย่าง
เหนียวแน่นอยู่ในสมาคมฯ และพรรคพวกเขาให้ลุงเป็นคนจัดการเรียกประชุม หรือแจ้ง
ข่าวสารไปให้ผู้ค้าในสมาคมฯ รับทราบเมื่อมีเหตุจำเป็น หรือเร่งด่วน
ประมาณบ่ายสี่โมงเย็น ผู้ค้าตัวยักษ์ใหญ่ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันในสมาคมฯ ก็เดินทางมา
พร้อมกันที่บริษัท ซัมมิท คอมพิวเตอร์ หัวมุมถนนสีลม มีคุณดิลกจาก CDC, คุณมนู
จาก Datamat, คุณประวิตร จาก IBM , คุณอนุวัฒน์ จากสนามม้า คุณสุธรรม จาก
NCR และมีอีกสองสามคน
ลุงได้เล่าให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งลุงบอกว่า เราไม่ได้ทำผิดอะไร ของที่สิ่งเข้า
มาจากยูนิแวคก็เสียภาษีถูกต้อง ไม่เคยต้องจ่ายเงินจ่ายเงินจ่ายทอง ไม่ต้องเสียค่า
ปรับ ไม่เคยหลบภาษี การออกของก็ราบรื่นดี.....เขาจะมาค้นหาอะไรจากเรา
ที่ประชุมต่างก็รับทราบกันด้วยความงุนงง บางคนก็โทรศัพท์ไปเช็คกับซิบปิ้ง หรือแผนก
บัญชีของบริษัท ว่าเคยเกิดปัญหาอะไรอย่างนี้บ้างไหม เห็นคุณประวิตร โทรศัพท์คุย
กับพรรคพวกเสียนาน แล้วกลับมาบอกว่า
ที่บริษัทบอกว่า ก็เคยมีปัญหาอย่างนี้ แต่อย่าให้ผมพูดมากเลย....เจ้าหน้าที่ของ IBM
แนะนำให้คุณปรึกษานักกฎหมายโดยด่วน..แล้วมีอะไรแจ้งให้พวกเราทราบด้วยนะครับ
ในที่สุด วันนั้นก็แยกย้ายกันกลับไปโดยที่ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น .... แต่ลุงคิดว่า คุณ
ประวิตรรู้.....และเดาเหตุการณ์ได้ถูกต้องว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ด้วยมารยาทอันเข้มข้นล้น
เหลือจากสถาบันเลือดสีฟ้า ซึ่งจะไม่พูดอะไรที่เกี่ยวกับงานในบริษัทของตนแม้
กระทั่ง พ่อของเขาอยากจะรู้ ชาว IBM ก็บอกไม่ได้ ซึ่งพวกเรารู้ดีกันทุกคน จึงไม่มี
ใครว่าอะไรคุณประวิตร
เย็นนั้น ลุงตั้งวงเหล้ายาปลาปิ้งกันในห้องทำงานของลุง ซึ่งมีแอร์พิเศษ ไม่ต้องปิด
แอร์ตามกำหนดของตึกใหญ่ พร้อมด้วยชีวาด และโซดา และสมุนคู่ใจอีกสองสามคน
ต่างคนต่างนั่งถกปัญหากันด้วยความคับข้องใจ ว่า ทำไมหนอ เราต้องมาเจอเหตุการณ์
เช่นนี้ ในขณะที่กำลังก่อร่างสร้างตัว
ลุงเปิดลิ้นชักที่โต๊ะทำงานออกมาดู ก็ใจหายวาบ เอกสารทุกชิ้นโดนเก็บไปหมด เหลือ
แต่ปากกาดินสอ ที่เขาคงไม่ต้องการ
ลุงเดินไปที่ตู้เอกสาร เปิดออกมาทีละตู้ ที่ละลิ้นชัก ยิ่งใจหายวาบ..เหมือนกุหลาบ
กลีบกระจายเข้าไปอีก เพราะเหลือแต่ความว่างเปล่า
ไม่มีแฟ้มอะไรเหลืออยู่เลยแม้แต่แฟ้มเดียว ทั้งแฟ้มใบเสนอราคาที่เก็บไว้เป็นระเบียบ
แฟ้มเทลเล็กซ์ แฟ้มการโต้ตอบเรื่องอีแกต แฟ้มพนักงาน แฟ้มเอกสารการติดต่อจาก
ลูกค้า ฯลฯ ล้วนแล้วแต่ความว่างเปล่าในทุกชั้นของทุกตู้เก็บเอกสาร
แล้วตูจะทำงานได้อย่างไรว๊ะนี่.....
ลุงอุทานขึ้นอย่างเหลืออด
เขาเอาเอกสารไปหมดแบบนี้ เราจะทำงานกันได้อย่างไร
เรายังต้องทำมาหากินกันต่อไป ทำอย่างนี้ มันตัดมือตัดตีนกันนี่หว่า.......................
คุณอมรครับ กลับบ้านเถอะครับ ดึกแล้ว.....แล้วค่อยคิดหาทางดูกันใหม่ในวันพรุ่งนี้
วันนี้ก็เครียดมาทั้งวันแล้ว......
เสียงลูกน้องคู่ใจ พูดพลางค่อยๆ พยุงร่างที่ซวนเซไปด้วยไปด้วยซีวาดซึ่งหมดขวดไป
ตั้งนานแล้ว ลงมาส่งที่รถ
พอลูกสมุนของลุงจับลุงยัดให้เข้าไปนั่งในรถได้สำเร็จ.....สติของลุงก็ดับวูบลงไปโดยยัง
ไม่ทันได้บอกให้คนขับรถทราบว่าจะไปไหน
แต่เขาจะต้องรู้ละครับ.....ว่าอาการสาหัสแบบนี้ คงเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่แล้ว
อมร ถาวรมาศ amorntvm@hotmail.com
จากคุณ |
:
ลุงแอ็ด
|
เขียนเมื่อ |
:
10 ส.ค. 54 09:56:24
|
|
|
|
 |