-22-
ประธานถามทุกคนอยากเป็น CEO ป่าว งง? นั่งเอ๋อกันหมด ถ้าอยากเป็นมาบอกผม ผมจะให้เป็น งง งงง??? ทุกคนนั่งเงียบ
แล้วก็เปลี่ยนเรื่องพูดถึงความก้าวหน้าในบริษัทว่า ทุกคนมีสิทธิ์เป็น CEO ถ้ามีความสามารถ ไม่เว้นแม้แต่ แม่บ้าน คนขับรถส่งของ
(เป็นการแสดงให้เห็นว่าบริษัทนี้ให้โอกาสทุกคนก้าวหน้าแล้วนะ
พวกคุณทำไม่ได้กันเองอาไรแบบนี้ ถ้ามีใครไปบอกว่าอยากเป็น เค้าก็ให้เป็นค่ะ แต่วันเดียวคือประเมินวันเดียวไม่ผ่าน เพราะรู้ๆอยู่ว่ามันไม่ใช่ CEOมันไม่ใช่ขี้ขี้)
ถ้าเดือดร้อนเรื่องอะไร หัวหน้าไม่ยุติธรรมมาบอกแกได้เลย ไม่ต้องผ่านหัวหน้า อยากเสนอเรื่องอะไร โทรได้ 24 ชม.ไม่ต้องผ่านหัวหน้า
แล้วก็ให้เบอร์มือถือ
อันนี้ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ แล้วอย่างนี้ตูจะคุมลูกน้องได้ไงวะ? มันก็ข้ามหัวตูไปหมด เอาละซิ ต้องไปถามพี่อีกละ
(ส่วนเรื่องที่ให้เสนองานผ่านได้โดยตรง ถ้าดี ก็ดีไปค่ะ เอาแนวคิดดีดีโดยไม่ถูกหัวหน้ากั๊กความคิดลูกน้องไว้ แต่ถ้าเสนอไม่ดีไร้สาระ ซวยแน่นอน
(ส่วนเรื่องที่ฟ้องได้ตลอด เป็นการควบคุมหัวหน้าอีกทีโดยใช้ลูกน้องนี่ล่ะ หัวหน้าจะต้องทำหน้าที่ให้ดีค่ะ เพราะฉะนั้นเค้าจะรู้ทุกเรื่อง เป็นการควบคุมด้วยความขัดแย้งเหมือนกัน อันนี้เด็กๆชอบ แต่หารู้ไม่ ถ้าฟ้องไร้สาระโดนเหมือนกัน)
ประธานถามอนาคตตอนอายุ 45 ทุกคนจะเป็นอะไร แต่แกบอกให้ไปทำการบ้านมาอีกอาทิตย์มาส่งที่เลขาฯ ไม่ต้องส่ง Mail เขียนเป็นลายมือแกจะอ่านเอง
ไม่ต้องผ่านหัวหน้า ส่งตรงเลย เอาละซิ คำถามนี้ งง งง งง??? แล้วเจือกให้ตูคัดลายมือส่งอีก มันแปลกๆว่ะคำถามนี้ ต้องถามพี่อีกละ
(อันนี้ให้เตรียมตัวไว้ทำตอน 45 ถ้ายังไม่มีผลงานขึ้นตำแหน่ง
อันนี้อันตรายมีโอกาสตกงานได้ ให้เตรียมไว้เลย และ 45 แก่ไปไหมสำหรับที่นี่)
ประธานถามรู้จักหัวหน้าหรือยัง ทุกคนบอกรู้แล้ว ประธานบอกเดี๋ยวผมหาฝ่ายให้ชมพู่ลงใหม่ คนเก่าผมไล่ออกไปแล้ว ทุกคนมองกันไปมองกันมา
(เป็นการบอกว่าประธานทำจริง ผจก.ฝ่ายก็ไล่ออกได้ง่ายๆ อย่าหือ และ
เป็นการทำให้ดูเหมือนว่าประธานดูแลชมพู่ซึ่งเป็นพนักงานใหม่กิ๊กๆเป็นอย่างดีค่ะ)
ประธานหันมาทางนู๋บอก หัวหน้าคุณแข็งแกร่งมาก ใจสู้ ใจนักเลง อ่อนนอก แข็งใน ผมชอบมากคนกล้าได้กล้าเสียแบบนี้ แกบอกว่าแกสอนไปหมดแล้วทุกเรื่อง
(อันนี้เป็นคำชมลูกน้องตัวเองในที่แจ้งค่ะ อันนี้ถูกต้อง แต่ถ้าเค้าชมแล้ว มาตรฐานต้องสูงขึ้นเรื่อยๆค่ะ ตกไม่ได้ โดยเฉพาะของพี่เค้า ยอดขายยิ่งขายเยอะ ประธานยิ่งรวยค่ะ แน่นอนค่ะคนในองค์กรจะต้องไม่ชอบขี้หน้าเค้า มันจะต้องมีคนจับผิดเค้า เอาไปฟ้อง ประธาน หรือชงเรื่อง เหมือนกับเป็นหูเป็นตาดูพี่เค้าแทนประธานอาไรแบบนี้ เป็นการควบคุมกันด้วยการขัดแย้งค่ะ)
คุณต้องเรียนรู้จากเค้าให้มากๆ เค้าทำอะไรคุณต้องจดจำไว้ เค้าพูดอะไรต้องจำไว้ ถ้าเค้าไม่สอนคุณ มาบอกผม ผมจะให้ไปทำอย่างอื่นที่ไม่ต้องมีลูกน้อง
(อันนี้เตือนคนเข้าใหม่ที่มีตำแหน่ง มีลูกน้องให้ทำหน้าที่ ไม่อย่างนั้นต้องโดนย้ายค่ะ และให้ความสำคัญกับพนักงานใหม่ตัวเล็กๆว่าไม่ต้องกลัวหัวหน้ากลั่นแกล้ง และอีกนัยยะคือ คนเข้าใหม่ทุกคนไม่ต้องกลัวหัวหน้าอาไรแบบนี้)
เป็นผู้ช่วยต้องทำงานเหมือนผัวเมียกัน ทะเลาะกันยังไงก็ต้องอยู่ด้วยกัน จำไว้
นึกในใจ พี่มันเจ๋งว่ะ ประธานชมยังเลย รุ่งแน่ๆ รุ่งแน่ๆ แล้วมันเป็นนักเลงหัวไม้ตอนไหนวะ? แป่ววว…ผัวเมียกัน?
อย่าหมั่นไส้ค่ะตรงนี้ประธานยิงนกนัดเดียวได้ทั้งองค์กรเลยคะ มารู้ทีหลังจากพี่ หนาวโคตรร จิตวิทยาขั้นเทพ
ประธานบอกต่อ “หัวหน้ามีหน้าที่ดูแลลูกน้องใครมีตำแหน่งไม่ทำตามบทบาท ก็ไม่ต้องทำ ให้มานั่งที่เหมาะสม!”
ประธานบอกต่อ ”ผู้นำต้องอยู่ข้างหน้า ไม่ใช่ข้างหลัง!” แล้วมองมาทางนู๋ แบบยิ้มๆ แล้วบอกว่า “จริงไหมครับคุณ...(ชื่อตาอ้วน)?” ตาอ้วนตอบใช่ครับ
(อันนี้ เตือนตาอ้วนแบบตรงๆเลยว่า คุณเป็น ผจก. แต่ไปหลบนั่งข้างหลัง แสดงให้เห็นถึงความไม่รับผิดชอบค่ะ)
จบมีใครจะถามไหม ไม่มีใครกล้าถาม เลิกได้ ประธานเดินออกไป
หัวหน้าแต่ละส่วนงานมามอบช่อดอกไม้ให้พนักงานใหม่ของตัวเอง
โหยยดีว่ะ ต้อนรับดี แล้วตูล่ะ...ชะเง้อหาพี่
แป่วว...มอบช่อกุหลาบเบ้อเริ่มเลยยย...เขินว่ะ
ยืนรอลิฟท์มองกันไปมองกันมายิ้มๆ ยังเขินดอกไม้ไม่หาย
ลิฟท์เปิดอัดกันเข้าไปหลายคน แป่ววว อ๊อออดดดดด!!! คนเกิน
นู๋เข้าทีหลังเดินออก พี่เดินออกมาตาม ยืนมองกันไปมองกันมารอลิฟท์
“พี่คะ...นู๋ปวดฉี่...รอก่อนนะ...แล้วก็วิ่งไปห้องน้ำ...
การบริหารองค์กรควบคุมคนเป็นท่านประธานเรียกสำนวนแนวๆสามก๊กว่าแบ่งแยกแล้วปกครอง บริษัทถูกแยกกระจายออกไปหลายบริษัท เป็น OutSource ให้กลุ่มบริษัทตัวเอง และมีรายได้ภายนอกด้วย เช่น บัญชี ทำให้โครงสร้างสั้นขึ้น ระดับชั้นไม่สูง ตำแหน่งไม่ต้องมีมากอะไร
ควบคุมได้ง่าย มันคล่องตัว
แน่นอนค่ะ อันนี้ลูกๆแกเป็นคนทำ ก็จบเมืองนอกซะชนาดนั้น
มันมีสองสิ่งที่ขัดแย้งกันในคอนเซ็ปทางธุรกิจอยู่ในบริษัทนี้ก็คือ สไตล์พ่อค้าคนจีนสู้ชีวิต กับสไตล์ MBA ตะวันตกค่ะ เช่น ยอดขายมั่นคงขนาดนี้ควรจะเข้าตลาดหุ้นได้แล้ว
แต่แกบอกว่า "แกบอกแกไม่เดือดเรื่องเงินลงทุน แกสร้างของแกมาคนเดียว จะมาแบ่งให้คนอื่นทำไม"
…ก็อย่าไปเถียงกะแกเลย คนมีตังค์ทำไรถูกหมดละค่ะ…
HR ที่นี่ใช้คน 1 คนเค้าใช้วิธีการคือกระจายงานออกไป ให้ส่วนอื่นๆทำหมด (ตอนนั้นนะคะ)
-งานเกี่ยวกับเงินเดือน ให้บัญชีทำค่ะ ที่นี่ไม่มีOT.ง่ายมากๆ ปั๊มมือ เข้าคอมพ์ฯคำนวณสบาย ภาษีก็ในคอมพ์ฯ บัญชีทำให้หมด งานประกันสังคมก็บัญชีค่ะ เพราะเค้าต้องไปติดต่อกับหน่วยราชการอยู่แล้ว
-งานเกี่ยวกับ Operation เอกสารเบิกสวัสดิการ ใช้น้องที่ HR คนเดียวนั่นล่ะทำ
- งานเสนอ-บริหารสวัสดิการ ใช้คณะกรรมการสวัสดิการ คือเอาพนักงานมาตั้งทีมขึ้นมา แล้วนำเสนอ ถ้าใช้ได้ก็ใช้ไปทั่วทั้งกลุ่มบริษัทค่ะ
- งานฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร แต่ละ MD หรือ CEO แต่ละบริษัทต้องนำเสนอทำงบขึ้นมาเอง เพื่อให้ตรงกับงานของแต่ละบริษัท ถ้าสามารถอบรมรวมกันได้ก็ประหยัดไปอีก
- งานกฎระเบียบ หัวหน้าแต่ละฝ่ายดูค่ะ แล้วจะมีฝ่ายออดิตดูอีกที
- งาน rescue ดูกันเองเหมือนกัน น้อง HR .แค่พิมพ์ลง Net หรือนำไปโฆษณา
- ส่วนสถิติก็ดูในคอมพ์ฯกันเอาเองตามรหัสของตัวเอง
- rescue ผู้บริหาร รองประธานทำค่ะ
- น้อง HR ก็ทำเกี่ยวกับเอกสารอื่นๆ แบบนี้ค่ะ
- งาน career part HRD. กำลังวางระบบ ซึ่งไม่รู้ว่าตอนนี้เสร็จหรือยัง
- ส่วนโรงงาน 2 บริษัท อันนั้นแยกออกไป ไม่ทราบค่ะ
แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 54 04:37:02