Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี ตอนที่ 56 พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก...โดย "ลุงแอ็ด" ติดต่อทีมงาน

จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี ตอนที่ 56 พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก


ลุงรีบกลับบริษัท  เข้าไปถึงก็รีบประชุมแม่ทัพนายกองทันที  แถมยังเชิญ

ท่านที่ปรึกษา ขุนพลใหญ่ คุณจรัลเข้าด้วย



ลุงก็ได้เล่าเรื่องทั้งหมดที่ได้ไปคุยกับเจ้าหน้าที่กองปราบฯ ของกรมศุลกากร

ให้ฟัง  พลางบอกด้วยว่า  ถ้าเราสารภาพเป็นลายลักษณ์อักษร  กรม

ศุลกากรก็พิจารณาลดให้ ครึ่งหนึ่ง  หรือหนึ่งในสามแล้วแต่เขาจะพิจารณา  



ลุงถามที่ประชุมว่าจะเอาอย่างไร  ทุกคนก็ใบ้รับประทานกันหมด  เพราะไม่

เคยมีใครมีประสบการณ์เยี่ยงนี้  ตกลงที่ประชุมบอกให้หาทนายมาให้คำ

ปรึกษาว่าจะเอากันอย่างไร  ข้ออ้างของกรมศุลกากรที่เขาอ้างมาฟังขึ้นหรือ

ไม่  ทางด้านเอกสารเป็นอย่างไร  โดยให้คุณสมชัย ซึ่งเป็น Admin Mgr รับ

ไปดำเนินการ



ตอนนั้น  การขาย  การดำเนินธุรกิจก็ดำเนินไปอย่างราบรื่น  การเงินการทอง

ไม่สะดุด  ถึงแม้จะมีปัญหาเรื่องเอกสารบ้างนิดหน่อย  แต่ก็ไม่มีความจำเป็น

ต้องอ้างอิงของเก่ามากนัก  ก็พอถูพอไถไปได้บ้าง  นานๆ เข้าก็ชินไปเอง  

และระบบเอกสารก็เริ่มเข้าที่  จากที่ไม่มีกระดาษสักแผ่นเดียว ก็เริ่มหนาขึ้น

หนาขึ้น  จนเกือบกองใหญ่โตเกือบเท่าเดิม



พอสิ้นปี  ก็ปิดบัญชีประจำงวด  ก็ออกมาได้กำไรนิดหน่อย  แต่เนื่อง

จากบริษัทถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้เยอะแยะในตอนเก็บเงินค่าเช่าจากลูกค้า  

ซึ่งเป็นภาษีหัก ณ ที่จ่าย จำนวนสักล้านกว่าบาท  จึงทำเรื่องไปขอคืนที่กรม

สรรพากรเขต ยานนาวา (ถ้าจำไม่ผิด)



ตอนนั้น  ก็รับสมุห์บัญชีมาใหม่ๆ  เธอจบจากสถาบันการศึกษาชั้นยอดเยี่ยม

ของเมืองไทยแห่งหนึ่ง  ท่าทางเอาเรื่อง  เป็นคนมีหลักการ ทำงานเก่ง  แม่น

ยำมากเรื่องบัญน้ำบัญชีต่างๆ  เธอบอกเสียงแข็งว่า  “ขอคืนได้”  เพราะ

ลูกค้าได้หักของบริษัทไปก่อน   และได้ไปคำนวณเสียให้แต่ละเดือนแล้ว



ตอนแรกก็ไม่ประหลาดใจเท่าไหร่ ที่เห็นเธอหายไปทีละครึ่งวัน  กลับมาจาก

สรรพากรเขต  ก็ไม่ค่อยพูดจาเท่าไหร่.....เข้าใจว่า  เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร

คงจะคนน้อย  และงานคงมาก  จึงบริการไม่ค่อยทั่วถึง ทำให้เธอหงุดหงิด  

พอถามเรื่องนี้ว่าเมื่อไหร่จะได้เงินคืนจากสรรพากร  เธอก็หงุดหงิด  หัวเสีย

ทุกที



มาตอนหลังเลยรู้ว่า  เธอถูกตรวจสอบบัญชีย้อนหลัง  เนื่องจากบริษัทไปขอ

เคลมค่าภาษี ณ ที่จ่ายคืนเข้า  พอไปเล่าให้คุณจรัลฟัง  แกตบโต๊ะผางเข้าให้



“ทำไมคุณไม่มาปรึกษาผมก่อน....”



คุณจรัลพูดกับสมุห์บัญชี  ก็เพราะแกเป็นคนเอาเข้ามาเอง



“ใครเข้าไปยื่นขอคืนกันบ้าง  มีแต่เขาแถมให้อีก....”



“ผมไม่ค่อยเข้าใจครับคุณจรัล....ก็ภาษีเราเสียถูกต้อง  เวลาลูกค้าเขาหักเรา

ไว้  เขาก็บอกพอสิ้นปี  เราเอาภาษีคืนได้  นี่คุณ ....(ไม่รู้เธอจะให้เอ่ยชื่อ

หรือเปล่า  ...  อย่าเอ่ยเลย...)  เขาก็ไปขอคืนธรรมดา  แล้วมันผิดตรง

ไหน  รัฐเขาต้องจ่ายให้เราถูกต้องไหมครับ”




ลุงนั่งอยู่ด้วย ก็เลยอดแทรกขึ้นไม่ได้  และแน่ใจว่าเราปฏิบัติถูกต้อง



“เป็นธรรมเนียมที่เขาปฏิบัติกันโดยทั่วไป  คุณเคยดูเหอะ  อ้อยเข้าปากช้าง

แล้ว  มีที่ไหนที่มันจะคายได้ง่ายๆ  มิหนำซ้ำ  เขาจะตรวจดูรายละเอียด ย้อน

หลังจนกว่าเขาจะหาเรื่องปรับเราจนได้.....”




“คุณทำมะรง....(อ้าว....เผลอไปเอ่ยชื่อของเธอเข้าให้แล้ว)  เราไม่ได้ลง

บัญชี 2 เล่มใช่ไหม  เราไม่ได้โกงภาษีใช่ไหม เราทำทุกอย่างถูกต้องตามที่

คุณได้เล่าเรียนมา...ใช่ไหม....เอาละ  ไม่ต้องไปกลัว  เขาจะถามอะไร ถ้า

คุณชี้แจงไม่ได้ ผมจะไปชี้แจงให้เอง  เราทำไม่ผิดซะอย่าง....จะมาทำอะไร

กับเราได้.....”



แล้วหลังจากวันนั้น  ลุงก็ได้บทเรียนที่เจ็บแสบอีกหน่วยงานหนึ่งของรัฐ  คือ

กรมสรรพากร  โดยเริ่มตั้งแต่



ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม  ซึ่งระยะนั้น  เป็นระยะตอนที่เราได้ออเดอร์จาก

ธนาคารแห่งประเทศไทยใหม่ๆ  บริษัทก็รับพนักงานแผนกซับพอร์ตเข้ามา

หลายคน  และแต่ละคนก็ต้องไปรับการอบรมถึงฮ่องกงบ้าง  สิงคโปร์บ้าง  

แผนกช่าง  ต้องไปรับการฝึกอบรมถึงอังกฤษ  เพราะในแถบนี้เขาไม่ได้เปิด

คลาส  บริษัทเสียค่าใช้จ่ายในการส่งพนักงานทั้งใหม่และเก่า ไปฝึกอบรม

เป็นมูลค่าหลายล้านบาท



เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรบอกว่า  “ไม่มีเหตุผล  ไม่มีใครเขาให้การอบรมกับ

พนักงานใหญ่โตมโหฬารแบบนี้”




ทั้งๆ ที่เราเอาตั๋วเครื่องบิน  เอาระเบียบการเบิกจ่าย  เอาบิลของโรงแรมไป

ให้ดูว่า  เราได้ใช้จ่ายไปจริงๆ เท่าไหร่  คนหนึ่งไปเรียนอย่างน้อยก็สอง

สัปดาห์ขึ้นไปจึงจะรู้เรื่อง  เอาสัญญาที่ทำกับแบงก์ชาติไปชี้แจงให้เขาฟัง  

ว่าเราจะต้องให้การซับพอร์ตเขาอย่างไร  ถ้าไม่ซับพอร์ตจะโดนปรับอย่าง

ไร  อธิบายกันจนคอแหบคอแห้ง......เจ้าหน้าที่เธอก็บอกว่า



“มันเกินไป  ไม่มีเหตุผล  ตัดกลับ...ไม่ให้เป็นค่าใช้จ่าย”....เอาไปบวกกับ

กำไร ทำให้ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นอีก......

จากคุณ : ลุงแอ็ด
เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 10:49:13




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com