PANTIP.COM : M10941270 รวมข่าวต่างประเทศที่น่าประทับใจครับ อ่านแล้วรู้สึกดีมากๆ []

ความคิดเห็นที่ 2

ข่าวทีสองครับ

>>>>> ผู้กองจีนใจเด็ดฝืนคำสั่งช่วยชีวิตหนูน้อย 2 ขวบ จากเหตุรถไฟชน

พีเพิล เดลี - สื่อจีนเผย หมวยน้อยวัย 2 ขวบ 8 เดือน ที่รอดชีวิตปาฏิหาริย์ออกมาได้หลังติดอยู่ในซากรถไฟความเร็วสูงนานกว่า 21 ชั่วโมง จากอุบัติเหตุรถไฟฯในจีนชนกัน เป็นเพราะการตัดสินใจอันเด็ดเดี่ยวของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองเวินโจว ที่ยอมฝ่าฝืนคำสั่งเก็บกวาดที่เกิดเหตุ

       ร้อยตำรวจเอกเซ่า เย่หรง หรือ ผู้กองเซ่า ได้ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำสั่งเก็บกวาดที่เกิดเหตุซึ่งได้รับจากกองบัญชาการกู้ภัยรถไฟ พร้อมทั้งยืนกรานนำทีมค้นหาผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ในซากรถไฟความเร็วสูงต่ออีกหลายชั่วโมง หลังจากที่ทางการจีนได้ประกาศว่าไม่พบสัญญาณผู้รอดชีวิตแล้ว

       กรมตำรวจเมืองเวินโจวได้เผยในเว็บไซต์เมื่อวาน(26 ก.ค.)ว่า สำหรับข่าวลือที่เผยว่าจะมีการลงโทษผู้กองเซ่า จากกรณีฝ่าฝืนคำสั่งฯ ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

       อุบัติเหตุรถไฟชนกัน เกิดขึ้น ณ สะพานทางรถไฟฯ เมืองเวินโจว มณฑลเจ้อเจียงในวันเสาร์(23 ก.ค.) ราว 20.27 น.ตามเวลาท้องถิ่น เมื่อรถไฟความเร็วสูงขบวน D301 สายปักกิ่ง-ฝูเจี้ยน ได้พุ่งเข้าชนรถไฟความเร็วสูงขบวน D 3115 สายหังโจว-ฝูโจว ที่จอดนิ่งอยู่เนื่องจากเสียการควบคุมหลังจากที่ถูกฟ้าผ่า โดยตู้โดยสารรถไฟหมายเลข 16 ซึ่งเป็นตู้สุดท้ายของรถไฟความเร็วสูงขบวน D3115 ที่หนูน้อยเซียง เว่ยอี้ นั่งมากับพ่อ-แม่ ถูกชนอย่างแรงและตกจากสะพานทางรถไฟฯ โดยยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดในขณะนี้อยู่ที่ 39 คน

       ผู้กองเซ่าได้เผยว่า “ก่อนรับคำสั่งเก็บกวาดซากรถไฟฯ ทีมกู้ภัยของผมได้ค้นพบศพผู้เสียชีวิตจำนวน 12 ราย ที่อยู่ใต้ซากตู้โดยสารหมายเลข 16 ของรถไฟฯขบวน D3115 ”

       สำนักข่าวซินหวารายงานอ้างคำกล่าวของผู้กองเซ่าว่า “ทันทีที่มีคำสั่งมา ผมตอบกลับไปว่าไม่ และยืนกรานที่จะค้นหาผู้รอดชีวิตที่อาจติดอยู่ใต้ซากรถไฟฯต่อไป ผมคงทนดูไม่ได้ หากเห็นว่ามีผู้เคราะห์ร้ายที่ยังรอดชีวิตอยู่แต่กลับถูกเครื่องมือที่ใช้ในภารกิจเก็บกวาด ซ้ำจนต้องเสียชีวิต”

       ผู้กองเซ่าเผยต่อว่า “เป็นไปตามคาด ผมพบเซียง เว่ยอี้ เด็กน้อยวัย 2 ขวบกว่า ติดอยู่ข้างใต้ซากรถไฟฯนาน 21 ชั่วโมงในสภาพอากาศร้อนที่อุณหภูมิ 40-50 องศาเซลเซียส โดยเธอได้รับบาดเจ็บที่ขาอย่างหนัก จากนั้นทีมกู้ภัยก็ได้เริ่มช่วยกันทั้งคุ้ยทั้งยกซากชิ้นเหล็กด้วยมือเปล่า เพื่อช่วยชีวิตเด็กน้อย”

       เจ้าหน้าที่ในทีมกู้ภัยนายหนึ่งเล่าว่า “ในตอนที่เรากำลังยกซากเศษเหล็กออก ก็พบว่ามีมือน้อยๆขยับอยู่ในรอยแตกที่กว้างไม่ถึง 4 เซนติเมตร โดยเด็กน้อยได้หมอบตัวอยู่ในช่องว่างที่มีพื้นที่เพิ่มราว 50 เซนติเมตร ซึ่งมีท่อนเหล็กค้ำอยู่”

       พร้อมเล่าต่อว่า “ก่อนพบเด็กน้อยคนนี้ ผมได้ช่วยชีวิตผู้เคราะห์ร้ายที่ติดอยู่ใต้ซากได้เพียง 2 คน ผมรู้สึกเสียใจและคิดว่าอาจหมดหวังแล้ว”

       การตัดสินใจเก็บกวาดซากรถไฟฯและยกเลิกภารกิจค้นหาผู้รอดชีวิตของกระทรวงรถไฟจีนได้จุดชนวนความไม่พอใจและกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยชาวจีนจำนวนมากรู้สึกผิดหวังที่ทางการจีนต้องการให้รถไฟความเร็วสูงกลับมาให้บริการได้อย่างรวดเร็วมากกว่าที่จะขยายเวลาค้นหาผู้รอดชีวิต

       หวัง หย่งผิง โฆษกกระทรวงรถไฟเผยก่อนหน้านี้ว่า ภารกิจช่วยชีวิตหนูน้อยเซียง เว่ยอี้ ถือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์มาก

       ทั้งนี้ อุบัติเหตุรถไฟความเร็วสูงชนกันดังกล่าวได้ส่งผลให้หนูน้อยเซียง เว่ยอี้ ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับพ่อ-แม่โดยใช้บริการรถไฟฯเป็นครั้งแรก กลายเป็นเด็กกำพร้าไปโดยปริยาย เนื่องจากมีการยืนยันแล้วว่าพ่อแม่ของเธอได้เสียชีวิตแล้ว ขณะที่โรงพยาบาลได้ยืนยัน(26 ก.ค.)ว่า อาการของหนูเซียงดีขึ้นและคงตัวแล้ว ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดขาทิ้งแต่อย่างใด

ภาพ ร้อยตำรวจเอกเซ่า เย่หรง หรือ ผู้กองเซ่า แห่งสำนักงานตำรวจเวินโจว มณฑลเจ้อเจียง (ภาพเอเยนซี)

จากคุณ : "ตื่นมาก็คิดถึง"

เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 02:29:51

ความคิดเห็นที่ 4

ข่าวสุดท้ายครับ

>>>>> อย่างนี้สิ! ถึงจะเป็นสาวที่ "สวยที่สุด”

ฉงชิ่งเจ่าเป้า--ขณะนี้ชาวเน็ตจีนกำลังปลื้มประทับใจเรื่องราวของหญิงสาวเสื้อสีน้ำเงิน ช่วยชายชราตกน้ำ ด้วยวิธีผายปอดแบบปากต่อปาก ท่ามกลางชาวจีนที่กำลังตื่นตระหนกบ้างโทรเรียกรถพยาบาลฉุกเฉิน บ้างโทรหาสื่อให้ช่วยกระจายข่าวขอความช่วยเหลือ สาละวนหาวิธีช่วยชีวิตชายชรา

       หญิงสาวเสื้อน้ำเงินหายตัวไป หลังจากที่เธอช่วยผายปอดชายตกน้ำ ทิ้งให้ผู้คนในที่นั้นถามหาอยากรู้ชื่อเสียงเรียงนาม ชาวเน็ตต่างให้ฉายาเธอว่า “สาวน้อยที่งดงามที่สุด”

                                                     *****
       คืนวันที่ 27 ก.ค. ชาวเน็ตแห่งเมืองซีหยัง นครฉงชิ่งได้โพสต์เรื่องราว หัวเรื่อง “อย่างนี้สิ ถึงจะเป็นหญิงสาวที่สวยที่สุดแห่งซีหยัง” พร้อมรูปภาพ 9 ภาพ เรื่องนี้โดนใจชาวเน็ตแดนมังกร ต่างชื่นชมกันใหญ่ ช่วยกันเผยแพร่ต่อ

       ในภาพ หนุ่มสามคนได้ประคองชายชราขึ้นมาจากสระน้ำ วางร่างที่หมดสติบนฝั่ง ผู้คนเข้ามามุงดู บ้างรีบเข้ามาหาวิธีช่วยชีวิตด้วยความตื่นตระหนก แต่ก็ไร้ผล ชายชรายังแน่นิ่ง

       จู่ๆ ก็มีหญิงสาวสวมเสื้อสีน้ำเงินแหวกกลุ่มคนเข้ามา คุกเข่าลงและใช้ปากประกบปากชายชราเป่าลมเข้าไป หลังจากนั้นยังใช้มือกดไปที่หน้าอกช่วยผายปอดต่อไป เมื่อเจ้าหน้าที่หน่วยพยาบาลฉุกเฉินมาถึงที่เกิดเหตุ หญิงสาวเสื้อสีน้ำเงินก็ส่งชายชราให้แก่เจ้าหน้าที่

       เมื่อผู้คนหันมาอีกที ก็ไม่เห็นหญิงสาวเสื้อสีน้ำเงินเสียแล้ว ผู้คนต่างบ่นเสียดาย อยากจะรู้จักชื่อแซ่ของเธอ

       “ประทับใจ” กันทั้งเมือง
       “ตอนนั้นผู้คนต่างตกอยู่ในอารมณ์ตื่นเต้นกัน ฉันก็ได้โทรศัพท์ไปที่สถานีโทรทัศน์ ให้ช่วยกระจายข่าวขอความช่วยเหลือ แต่แล้ว จู่ๆ ก็มีหญิงสาวเสื้อสีน้ำเงินเดินเข้ามาช่วยชีวิต ผู้คนในที่เกิดเหตุที่พยายามเข้ามาช่วยชีวิตชายชราต่างก็เป็น “วีรบุรุษ วีรสตรี” ทั้งนั้น โดยเฉพาะผู้หญิงสวมเสื้อสีน้ำเงิน เธอสร้างความประทับใจแก่ผู้คนมากที่สุด” เซี่ยง เพิ่งเซียน ผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่า

       สำหรับรูปภาพเหตุการณ์ช่วยชีวิตชายชราตกน้ำที่ถูกโพสต์เผยแพร่บนเว็บไซต์จีน เป็นรูปของ สยง เคอหลิน เขายังเล่าว่า “ตอนที่ชายชราตกน้ำ ผมกำลังขี่จักรยานกลับบ้านหลังจากเลิกงานแล้ว ได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือ ก็จอดจักรยานไว้ วิ่งเข้าไปดู ผมก็คิดจะเข้าไปช่วยเช่นกัน แต่เมื่อเห็นผู้คนจำนวนมากกำลังรุมชายชราอย่างร่วมแรงร่วมใจเต็มที่แล้ว ผมก็ถอยออกมาหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปไว้”

       สยง เคอหลิน บอกว่า ทีแรกเขาคิดว่าสาวเสื้อสีน้ำเงินที่ช่วยผายปอดชายชราด้วยวิธีปากต่อปากนั้น เป็นญาติของชายชรา เมื่อเขาเห็นหญิงสาวกำลังขับมอเตอร์ไซค์ออกไป ก็เดินเข้าไปถาม หญิงสาวเสื้อน้ำเงินบอกว่าเธอไม่รู้จักชายชรา เพียงแต่ขับมอเตอร์ไซค์ผ่านมาเห็น ก็เข้ามาช่วยเหลือ และไม่ยอมเปิดเผยชื่อ จากนั้นเธอก็ขับมอเตอร์ไซค์ออกไป

       ตอนค่ำวันนั้น สยงได้นำรูปภาพโพสต์ในเว็บไซต์ “เวทีพูดคุยชาวเมืองซีหยัง” ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากชาวเมืองอย่างล้นหลาม ชาวเมืองพร้อมใจกันให้ฉายาเธอว่า “หญิงน้อยที่งดงามที่สุด”

       ในที่สุด ก็ค้นพบเธอคือใคร
       ผู้คนมิวายติดตามค้นหาว่าสาวเสื้อสีน้ำเงินคือใคร บ้างว่าเธอน่าจะเป็นครู บ้างว่าเธอน่าจะเป็นนักศึกษาที่กลับมาเยี่ยมบ้านตอนปิดเทอม และเมื่อมีคนเดาว่าเธอน่าจะเป็นแพทย์หรือพยาบาล ผู้สื่อข่าวก็สนใจเพราะท่าทางการผายปอดของเธอดูเป็นมืออาชีพมาก จึงไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลประชาชนประจำอำเภอซีหยัง ก็ได้ความว่าเธอคือพยาบาล ชื่อ อี๋ว์ ซูหวา

       “ใช่ เธอเป็นพยาบาลของเรา พยาบาลที่ไปที่เกิดเหตุนั้นก็จำเธอได้” เจ้าหน้าที่บอก

       ผู้สื่อข่าวสามารถติดต่อจนได้คุยกับนายแพทย์ หลัว รุ่ย ผู้นั่งรถพยาบาลฉุกเฉินไปรับชายชราตกน้ำในที่เกิดเหตุ เขาบอกว่า ตามหลักการผายปอด ปากของผู้ช่วยเหลือและคนป่วยควรห่างออกมาหน่อย แต่หญิงสาวเสื้อสีน้ำเงินกลับใช้ปากประกบเป่าลมเข้าไปโดยตรง ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคจากผู้ป่วยได้ การกระทำเช่นนี้ทำให้เพื่อนในสายอาชีพเดียวกัน นับถือเธอมาก

       แต่นายแพทย์หลัว ได้กล่าวอย่างสลดว่า ชายชราจมน้ำเป็นเวลานานเกินไป แม้การช่วยเหลืออย่างสุดชีวิตเพียงไร ก็ไร้ผล เขาได้จากโลกนี้ไปแล้ว

       ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง อี๋ว์ ซูหวา เธอกำลังเข้าห้องผ่าตัด น้ำเสียงเหน็ดเหนื่อยมาก บอกว่าเธอคือผู้ที่ช่วยผายปอดให้แก่ชายชรา

       “ตอนนั้นเป็นเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน ฉันเชื่อว่าหลายคนก็ต้องทำอย่างนี้ ฉันเรียนการปฐมพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉิน เป็นพยาบาลคนหนึ่ง สิ่งที่ฉันทำไปก็เป็นเพียงสิ่งที่ตัวเองควรทำเท่านั้นเอง” อี๋ว์ ซูหวา กล่าวแค่นี้ แล้วบอกว่าต้องรีบไปดูคนป่วย ขอจบการสนทนา

       หัวหน้าพยาบาล อี้ว์ หวา บอกเล่าเกี่ยวกับตัวอี๋ว์ ซูหวา ว่า เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนแห่งปักกิ่ง สาขาหย่งชวน เพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่ไม่กี่เดือน เป็นคนที่รับผิดชอบมาก และทำงานดีมาก

       หลังจากที่ช่วยผายปอดชายชราตกน้ำ อี๋ว์ ซูหวากลับมาบ้าน ก็ยังได้โทรศัพท์มาถามอาการของชายตกน้ำ 3 ครั้ง.

ภาพ ชาวเมืองซีหยังกำลังช่วยชายชราขึ้นมาจากน้ำ โดยหญิงสาวเสื้อสีน้ำเงินเข้ามาช่วยผายปอด และประกบปากเป่าลมเพื่อช่วยชีวิตชายชรา

จากคุณ : "ตื่นมาก็คิดถึง"

เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 02:47:05