PANTIP.COM : M10942355 ภาพยนตร์เรื่อง Rise of the Planet of the Apes กำเนิดพิภพวานร ...มีข้อคิดดีดีแฝงอยู่ในหนังเรื่องนี้เยอะเลยค่ะ อิอิ []

ความคิดเห็นที่ 11

ดอกไม้ จข.กท.อ่านเจอบทวิจารณ์หนังเรื่องนี้..ขออนุญาตนำมาให้ทุกท่านอ่านนะคะ
ไม่ได้เล่ารายละเอียด เพราะเกรงว่าจะเสียอรรถรสสำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูหรอกนะคะ
แต่เป็นการวิจารณ์ภาพยนตร์จากคอหนังคนหนึ่งค่ะ..

Rise of The Planet of The Apes (2011)

หนังภาคก่อนหน้าจากซีรี่ย์ลิงครองโลกเรื่อง Planet Of The Apes ที่เล่าเรื่องราวของนักวิทยาศาสตร์หนุ่ม วิล ผู้ที่คิดค้นยารักษาเซลล์สมอง ที่ช่วยในการซ่อมแซมความทรงจำต่างๆของมนุษย์ + ทำให้คนแก่นั้นสามารถดึงส่วนต่างๆจากสมองมาใช้ได้อย่างสูงสุด แต่เนื่องด้วยความที่ยานั้นยังไม่มั่นคง บริษัทจึงต้องทำการทดลองกับ ซีซ่าร์ ลูกลิงกำพร้าที่ วิล ได้พบอยู่ระหว่างทาง ซึ่งภายหลังนั้น ซีซ่าร์ กลับดันฉลาดเกินมาตรฐานของลิงทั่วๆไป จน ซีซ่าร์ ได้เริ่มรังเกียจความเห็นแก่ตัว และ ความป่าเถื่อน ของมนุษย์ จนทำให้มันนั้น ลุกขึ้นมาครองโลกพร้อมกับลูกน้องลิงอีกเพียบ !!

Rise Of The Planet Of The Apes
ได้ผู้กำกับ Rupert Wyatt หลังจากเคยกำกับแต่หนังสั้นนิดๆหน่อย + หนังดราม่า สืบสวน เล็กๆอย่าง The Escapist ที่มาคราวนี้ถือว่าเป็นโอกาสแก้ตัวสำหรับเขาเลยก็ได้ ที่จะมาจับซีรี่ย์ ชุดนี้เข้ามาสร้างใหม่อีกครั้ง โดยออกตัวต่างๆนานาเกี่ยวกับ CGI อยู่มากพอสมควร โดยเฉพาะเทคนิดของ CG ลิง ซึ่งหลังจากได้ดูแล้วก็ต้องบอกว่า อย่างแรกที่เป็นจุดเด่นจริงๆของ Rise Of The Planet Of The Apes นั้นก็คือ สไตล์การเล่าเรื่อง และ ปูบท ที่ดูไม่เรียบยาก ออกมาเป็นแนวเรียบ เข้าใจง่าย แต่ก็แฝงไปด้วยฉากความตื่นเต้น และ ระทึกขวัญ เมื่อลืงครองโลกเข้าจะเป็นอย่างไร โดยสิ่งต่างๆ ผู้กำกับ ก็สามารถใส่เข้ามารวมกันในหนังซัมเมอร์เรื่องนึงได้อย่างกลมกล่อม โดยถ้าให้เทียบนี้ถือว่าเป็นอีกหนัง Prequel ที่ถือว่า...

ดีที่สุดในปีนี้รองจาก X-Men : First Class เลยก็ได้ โดยเฉพาะด้านความเป็นมิติของตัวละคร ลิง และ มนุษย์ ที่ดูแล้วเลือกกันไม่ถูกเลยทีเดียวว่าตกลงแล้วเราจะเอาใจช่วยฝ่ายของลิง หรือว่า คน ที่มีความน่าสงสาร + เหตุจำเป็นต่างๆนานาแตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะเรื่องราวการแฝงข้อคิดเกี่ยวกับด้านของ ธรรมชาติที่บางอย่างเราไม่ควรแตะต้อง พร้อมกับด้านของเหตุผลในการรุกรานของแต่ละฝ่ายที่ถือว่าทำออกมามีเหตุมีผล และหนึ่งในด้านที่ช่วยหนังได้เยอะคงหนีไม่พ้นของระบบ CGI ของหนังที่เล่นใช้เทคนิค Motion Capture โดยเฉพาะส่วนตัวผู้ที่แสดงเป็น ซีซ่าร์ อย่าง Andy Serkis มีเทคนิคในการ...

ชักสีหน้าต่างๆของตัวละคร ซีซ่าร์ ได้ดีกว่าการแสดงเสียอีก (แต่ถ้าให้เทียบผมว่าการแสดงใน LOTR ที่เป็น กอลลั่ม นั้นยังถือว่าเข้าท่ากว่าเรื่องนี้หน่ะ) แต่โดยรวมแล้วนั้น สำหรับ Planet of The Apes ภาคนี้จุดเด่นต่างๆก็จะมีแต่เฉพาะด้านทางบทการเล่าเรื่อง + ฉากแอ็คชั่นต่างๆที่ดูได้

และ รับรองว่าเป็นหนังซัมเมอร์ที่ไม่น่าผิดหวังอย่างแน่นอน แต่เมื่อมาลองมองในด้านสิ่งที่น่าผิดหวังเล็กๆน้อยๆของหนัง ที่โดยส่วนตัวยังดูแล้วมันยังไม่ได้ดีเท่า X-Men First Class ซึ่งอย่างแรกเลยคือ บทปูมหลังของตัวละคร วิล หรือว่าพระเอกของเรื่องนั้นเอง ซึ่งก็จริงที่มีมิติพอสมควร แต่ว่าในด้านของ ปูม หลังต่างๆหนังกลับไม่ค่อยบอกอะไรมากนัก เรียกได้ว่าเปิดหนังมาปุ๊ป ก็เริ่มสตาร์ทเครื่องความมันส์ จนแทบไม่สนใจบทต่างๆของพระเอกเลยก็ว่าได้ จะมีแต่เรื่องราวของ..

เขาและพ่อเท่านั้นที่พ่อจะมีความเป็นมาไปได้ จึงทำให้โดยส่วนตัวไม่ค่อยอินกับตัวละคร วิล นี้เท่าไหร่ + การปูบทอันแสนยาวนานที่กินเวลาไปเกือบ 1 ชม.กว่าลิงจะบุกโลกนั้น ถือว่าเป็นดาบสองคมอยู่พอตัว โดยในด้านนึงก็ต้องชื่นชมว่า หนังเล่าบทเหล่านี้ออกมาได้ ลื่นไหล และ ไม่น่าเบื่อ แต่ในอีกด้านนึงคือ 'เรามาดูลิงยึดโลก' หน่ะ คนดูคงรีบอยากเห็นลิงกันไวๆแล้วหละ แต่หนังดันกั๊กสิ่งเหล่านี้ไว้ใน 20 นาทีสุดท้ายของแทน ซึ่งโดยเฉพาะตอนจบที่เรียกได้ว่าน่าผิดหวังที่สุดของหนังคงหนีไม่พ้นการจบแบบให้คนดู อารมณ์ค้าง อยู่มาก ซึ่งเป็นข้อที่ผมไม่ถูกใจที่สุดเลยก็ว่า

แต่ยังไงซะสำหรับหนังซัมเมอร์เรื่องนี้..ก็ถือว่าเป็นหนังแอ็คชั่น ฟอร์มใหญ่ อีกเรื่องที่สร้างออกมาแล้วไม่เสียชื่อ Planet of The Apes โดยเฉพาะฉากแอ็คชั่น ระทึกขวัญ + สไตล์การปูบท และ เล่าเรื่องต่างๆที่ถือว่าออกมาในขั้นสอบผ่าน และ CGI ของหนังเทพจริงๆ ยกเว้นแต่ว่าในตอนจบของหนังจะจบแบบค้างๆคา มากไปหน่อยก็ตามทีเถอะครับ

เรื่องนี้ผมให้ B ครับ
http://goo.gl/g7xBB

ป.ล. แต่สำหรับ จข.กท. แล้ว เพิ่มให้เกือบ A เป็น B+ ละกันนะคะ น่าไปดูค่ะ อิอิ ^_^

จากคุณ : แสนดีเหมือนทราย

เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 20:01:19