จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี ตอนที่ 58 ดาวพฤหัสก็มาร่วมวงด้วย...โดย "ลุงแอ็ด"
|
 |
จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี ตอนที่ 58 ดาวพฤหัสก็มาร่วมวงด้วย
นับเป็นคราวเคราะห์อะไรก็ไม่ทราบ ที่ดาวพระศุกร์เข้าโดยการที่กรม
ศุลกากรบุกเข้ายึดเอกสารไปทั้งหมดบริษัท จนแทบทำมาหากินไม่ได้ ถัด
มาดาวพระเสาร์ก็เอากับเขาด้วย กรมสรรพากรไม่ยอมคืนเงินภาษี ที่หักเอา
ไว้ก่อนให้ แถมยังหาเรื่องเอาค่าใช้จ่ายไปบวกกลับ ทำให้บริษัทต้องเสีย
ภาษีเพิ่มขึ้นเจ็ดแสนกว่าบาท ดวงอาทิตย์เห็นดวงดวงอื่นกำลังลงมะรุม
มะตุ้มกับกัน คุณอมร ถาวรมาศ MD ผู้ยิ่งใหญ่แห่งซัมมิท คอมพิวเตอร์ พระ
อาทิตย์ก็คันไม้คันมือขึ้นมาบ้าง โดยแผลงฤทธิ์เอาเรื่องสัญญาของระดับผู้
บริหารของบริษัทที่ซัมมิท ออยส์ทำให้ไว้มาสำแดงเดชให้คุณอมรปวดหัว
เล่นๆ
เอากันเข้าไปครับ อยากทำอะไรก็ทำ อยากจะรุมเร้าอย่างไรก็เชิญ ลุงไม่
หวาดหวั่นอยู่แล้ว นี่มันเพิ่งเข้าปีที่ 2 เท่านั้นเอง ถ้าลุงไม่แน่จริง ก็ไม่อยู่
มาถึง 11 ปีหรอก ... จะบอกให้................................
ทางกลุ่มผู้บริหารของซัมมิท คอมฯ ผู้มีพันธะกรณีที่ซัมมิท อินดัสฯต้องชด
ใช้ ก็มีการประชุมกับสหภาพทุกวัน คราวนี้ประชุมกันโดยเปิดเผยเลยครับ
โดยบางมีก็มาขอห้องประชุมของบริษัท ซึ่งลุงเห็นว่าไม่น่าจะขัดอะไร
เพราะตอนนั้น ก็ไม่ได้มีลูกค้ามาให้ Present ที่ไหน ลุงก็อนุญาตให้ไป
และแล้วก็ถึงวันดีเดย์ ที่สหภาพแรงงาน ซึ่งจดทะเบียนใหม่เป็น สหภาพ
แรงงานน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันปิโตรเลียม จะเรียกร้องประจำปี ซึ่งมีอยู่
หลายข้อ ในนั้น ที่สำคัญก็คือ
1. จะต้องแบ่งผลกำไรที่บริษัททำได้ในปีนั้น ให้เป็นเงินรายได้ของ
พนักงาน 20% ของกำไรสุทธิตามสัญญา
2. ขอโบนัส 7 เดือน
ฯลฯ
ที่สำคัญก็คือ ตอนไปยื่นจดทะเบียนใหม่เพื่อก่อตั้งสหภาพฯ ให้ถูกต้องตาม
กฎหมายแรงงาน ดันพ่วงเอา บริษัท ซัมมิท คอมพิวเตอร์ จำกัด เข้า
ไปด้วย ซึ่งนายทะเบียนก็สอบถามมาทางบริษัท ซึ่งบริษัทฯ ก็ได้ทำ
จดหมายตอบไปว่า เราดำเนินธุรกิจของการขาย และจำหน่ายระบบ
คอมพิวเตอร์ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ สหภาพแรงงานน้ำมันและผลิตภัณฑ์
น้ำมันปิโตรเลียม
แต่ในที่สุดนายทะเบียนก็จดทะเบียนบริษัท ซัมมิท คอมฯ เป็นสมาชิกของ
สหภาพฯหน้าตาเฉย.....เพื่อจะได้เอาพนักงานฝีมือดีของเราคนหนึ่งเข้าไป
เป็นกรรมการของสหภาพด้วย ลุงก็เลยได้รับข้อเรียกร้องทั้งหมดนั้นด้วย
การมองตาปริบๆ เพราะไม่รู้จะทำอะไร ต่อไป และอย่างไร
พอได้รับข้อเรียกร้องจากสหภาพฯ ซี เจ ฮวงก็ตั้งคณะกรรมการฝ่าย
นายจ้างขึ้นมาเจรจา โดยใช้ทนายความจากสำนักงานทนายความที่เกี่ยวกับ
แรงงานเป็นตัวแทนของบริษัท ก็คือ คุณวิศาล ภัทรธรรมมาศ เป็นหัวหน้าผู้
เจรจา ซึ่งคุณวิศาลนี้ก็เป็นเพื่อนรุ่นพี่ของลุง เคยทำงานอยู่ในยุวสมาคมแห่ง
ประเทศไทยด้วยกันมา แต่อยู่คนละสาขา
พอลุงรู้ว่ามีเพื่อนเป็นหัวหน้าผู้เจรจาอยู่ด้วย ลุงก็พยายามสืบความจากวงใน
ว่า เขาเจรจากันไปถึงไหนแล้ว เพราะถึงแม้ว่า ลุงจะได้รับจดหมายเรียก
ร้องด้วย แต่คุณจรัล บอกว่า คุณอมร ไม่เกี่ยว เป็นเรื่องของซัมมิท
ออยส์และซัมมิท อินดัสเทรียลเขา ไม่เกี่ยวกับบริษัท ซัมมิท คอมฯ และ
สหภาพแรงงานแต่อย่างใด
มันจะไม่เกี่ยวได้อย่างไร ลุงนึก.... ก็ในเมื่อนายทะเบียนเขาจดทะเบียนให้
บริษัท ซัมมิท คอมฯ เข้าไปเป็นบริษัทในเครือของซัมมิทกรุ๊ปด้วย ซ้ำยังมี
ตัวแทนของบริษัทเข้าไปเป็นกรรมการกับเขาด้วย และมีข้อเรียกร้องสำเนา
มาถึงซัมมิท คอมฯ ด้วย.....มันจะไม่เกี่ยวได้อย่างไร
แต่เอาละ ในเมื่อผู้ใหญ่เขาบอกไม่เกี่ยว ก็ไม่เกี่ยว ความจริงเราไม่อยาก
จะเข้าไปเกี่ยวข้องอยู่แล้ว เราไม่เคยเล่นกับสหภาพฯ และไม่นึกอยากจะ
เล่นด้วย ทั้งไม่มีความชำนาญ ให้ผู้เชี่ยวชาญเขาทำไปดีกว่า เราออกไป
ขายของตามที่ถนัดดีกว่า
ยังขำไม่หาย ตอนที่พนักงานซัมมิท คอมฯ พวกเก่า ที่เขายื่นเรื่อง
ฟ้องบริษัท ซัมมิท คอมพิวเตอร์ ให้ปฏิบัติตามสัญญาต่อศาลแรงงานกลาง
ตามธรรมเนียม ผู้ที่ไปให้การต่อศาลก็แบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งคือ ผู้
เรียกร้อง อีกฝ่ายหนึ่งคือฝ่ายบริษัท ก็ต้องตั้งตัวแทนไปสู้กันในศาล
คุณนงลักษณ์ซึ่งเป็นฝ่ายเรียกร้องคนหนึ่งก็ไม่อยากไป เพราะไม่รู้จะบอก
กับศาลว่าอย่างไร มาในฐานะอะไร รองกรรมการผู้จัดการอย่างนั้นหรือ
อีกอย่างเธอไม่เคยขึ้นศาล ตอนศาลซัก เธอก็ตอบไม่ค่อยจะถูกต้อง
ตกลงเปลี่ยนใหม่ เอาคุณพรเทพ ผู้จัดการฝ่ายช่าง ก็พอจะให้การในศาล
ได้ คุณอมรก็ต้องไปให้การในฐานะจำเลย
โอย....สู้กันสนุกมาก....ถึงศาลฎีกา บริษัทฯ แพ้ทั้งสองศาล ก็รู้กันอยู่แล้ว
นี่ แต่ที่มันสนุก เพราะขึ้นรถไปคันเดียวกัน ระหว่างที่รอศาล ก็นั่งปรึกษา
กันเรื่องโครงการประกวดราคาที่รถไฟ พอศาลเข้ามานั่งบัลลังก์ พวกเราก็
นั่งปะปนกันหมดไม่ว่าโจทย์หรือจำเลย จนศาลปวดหัว ไม่รู้ฝ่ายไหนเป็น
ฝ่ายไหน ต้องให้พวกเราแยกนั่งเป็นสองฝ่าย จนเสร็จสิ้นกระบวนความ
ศาลก็ตัดสินให้ข้อเรียกร้องของพนักงานชนะ เฉพาะพวกเก่าที่ได้รับโอน
มา ส่วนพวกใหม่ไม่ได้ผลประโยชน์เหล่านั้น
ตอนนั้น ที่บริษัทฯ ก็แบ่งพนักงานออกเป็นของพวก พวกหนึ่งคือพวกที่โอน
มาจากบริษัท ซัมมิทเก่า มีประมาณ 35 คน ก็ประชุมกันไป เรียกร้องกัน
ไป แต่จะไปเดินขบวนกันหรือเปล่าลุงก็ไม่อาจจะทราบได้
อีกพวกหนึ่ง คือพวกเซลส์ ซับพอร์ต พวกช่าง Admin ที่ลุงรับเข้ามาใหม่
เชื่อไหมครับ จำนวนเท่ากันเป๊ะ คือ 35 คน เช่นกัน ตอนแรกพวกนี้ก็ไม่รู้
เรื่องอะไร บริษัทฯ บอกปีนี้ ได้กำไรนิดหน่อย ขอขึ้นเงินเดือนให้ 5% ก็
ไม่ว่าอะไร ก้มหน้าก้มตาทำงานลูกเดียว
ผิดกับอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งคอยติดตามอย่างใกล้ชิดกับสถานการณ์บ้านเมือง
เอ้ย.....สถานการณ์การเจรจาต่อรองระหว่างซัมมิทกรุ๊ป กับสหภาพฯ การ
เจรจายืดเยื้อมาจนถึงเดือนมกราคม 2522 ก็ตกลงกันได้ คือซัมมิทฯ ยอม
ขึ้นเงินเดือนให้ 15% และยินยอมให้โบนัสพนักงานทุกคนจำนวน 3
เดือน.......ทุกคนก็ได้ เฮ.....กัน
แต่ปัญหาของซัมมิท คอมฯ ยังไม่จบ คนอื่นเขาได้เงินเดือนขึ้น 15% ได้
โบนัส 3 เดือนกันไปแล้ว แต่ของซัมมิท คอมฯ ยังอีหลักอีเหลืออยู่ เพราะ
อีกพวกหนึ่งได้เงินเดือนขึ้น 5% และได้โบนัส 1 เดือน ทั้งๆ ที่ทำงานหนัก
เท่ากัน
ทำเอาพวกกลุ่มใหม่เป็นงง อะไรวะ พนักงานบริษัทเดียวกัน ได้เงินเดือน
ขึ้นไม่เท่ากัน ได้โบนัสไม่เท่ากัน คือซัมมิทฯ ยอมให้คนเก่า 3 เดือน แต่ให้
พนักงานที่เข้าใหม่ 1 เดือน โดยเฉลี่ยตามจำนวนเดือนที่ทำงาน
คราวนี้ก็เกิดโกลาหลกันนะซี.......พากันเรียกร้องจะเอาอย่างพนักงานเดิม
บ้าง มันก็เดือนร้อนคุณอมรอีกซีครับ ที่ต้องประชุมพนักงาน ชี้แจงกันหน้า
ตั้ง ว่าเรื่องมันมีที่มาที่ไปอย่างไร แต่อย่างไรก็ตาม การชี้แจงของคุณ
อมร ก็ไม่ค่อยจะเป็นประโยชน์เท่าไหร่ ในเมื่อ ผลประโยชน์ มันค้ำคอ
อยู่ บริษัทต้องหาทางแก้โดยทำเรื่องขอให้ ซี เจ ฮวงช่วยจ่ายเงินให้
พนักงานใหม่ด้วย มิฉะนั้น อาจะจะเกิดสหภาพที่สองตามมา เป็นสหภาพ
ไฮเทค คือ สหภาพซัมมิท คอมพิวเตอร์
| จากคุณ |
:
ลุงแอ็ด  
|
| เขียนเมื่อ |
:
20 ส.ค. 54 20:55:56
|
|
|
| 
