Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
“กรดไหลย้อน” อันตรายหลังการกิน...มีข้อควรระวังนะคะ !!! ติดต่อทีมงาน

ดอกไม้ สวัสดีค่ะ :)

     พอดีมีเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่ง...ป่วยเป็นโรค "กรดไหลย้อน" ...
คนป่วยรู้สึกกังวลและทุกข์ใจมาก เธอบอกว่า โรคนี้คงไม่มีวันหายขาด..
เฮ้อออออ..ไม่รู้จะช่วยยังไงเนาะ...ดิฉันก็เลยช่วยหาข้อมูลเรื่องนี้..
จึงขออนุญาตนำมาฝากทุกท่าน เผื่อจะได้ป้องกันตัวไม่ให้เป็นโรคนี้ค่ะ :)
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>


รศ.พ.ญ.วโรชา มหาชัย หัวหน้าหน่วยทางเดินอาหาร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
ได้ออกมาเปิดเผยว่า โรคกรดไหลย้อนไม่ได้เป็นโรคแปลกใหม่สำหรับคนไทย
เป็นโรคที่พบมานานแล้ว

สาเหตุของโรคเกิดจากการไหลย้อนกลับของกรดหรือน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร
ขึ้นไปในหลอดอาหารส่วนบนอย่างผิดปกติ ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ
อาทิ หลอดอาหารส่วนปลายมีการคลายตัวอย่างผิดปกติ
หรือความดันของหูรูดของหลอดอาหารส่วนปลายลดลงต่ำกว่าในคนปกติ
หรือเกิดจากความผิดปกติของการบีบตัวของกระเพาะอาหารหรือหลอดอาหาร
รวมถึงพันธุกรรมอีกด้วย

          ส่วนเหตุสำคัญที่ทำให้คนเราเป็นโรคนี้คือ พฤติกรรมการบริโภค
ที่หันไปใช้ชีวิตแบบชาวตะวันตก ตื่นเช้ามาก็เร่งรีบไปทำงาน ไม่ค่อยกินข้าว กินแต่กาแฟ
แถมยังชอบกินอาหารเย็นหนักๆ แล้วก็นอน อาหารจึงยังตกค้างอยู่ในกระเพาะ
ร่างกายก็ต้องหลั่งกรดออกมาย่อยอาหารที่ยังตกค้างอยู่
ประกอบกับท่านอนไม่ถูกต้อง หัวเสมอหรือต่ำกว่าลำตัว
ทำให้กรดในกระเพาะไหลย้อนขึ้นมาที่ลำคอ เกิดอาการแสบระคายเคืองขึ้นมาบนคอ
และถ้าปล่อยให้หลอดอาหารส่วนปลายระคายเคืองไปนานๆ
อาจทำให้หลอดอาหารเป็นมะเร็งได้

          ถึงแม้ว่าโรคนี้จะไม่ใช่โรคร้ายแรงถึงชีวิตเหมือนโรคมะเร็งหรือโรคหัวใจ
แต่เป็นโรคที่สร้างความทุกข์ทรมานให้กับผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิต
และประสิทธิภาพการทำงานลดลงได้ ซึ่งจะมีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอเปรี้ยว
ปวดแสบร้อนบริเวณหน้าอกและลิ้นปี่แล้วลามขึ้นมาที่หน้าอกหรือคอ
และในบางรายอาจมีอาการแสดงออกนอกหลอดอาหารได้ เช่น อาการทางปอด
หรืออาการทางคอและกล่องเสียง เสียงแหบเรื้อรัง มีไอเรื้อรัง มีกลิ่นปาก
หรือในบางรายอาจมีอาการทางระบบหายใจ เช่น หอบหืด หรืออาการเจ็บหน้าอกได้


           แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ!!! โรคนี้จะมีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
คล้ายๆ กับอาการของโรคกระเพาะอาหาร จึงทำให้คนส่วนใหญ่มักจะเหมารวม ว่า
ตนเองอาจจะเป็นโรคกระเพาะอาหาร และไปซื้อยาเคลือบแผลในกระเพาะอาหารมารับประทานเอง
ทำให้การรักษาไม่ตรงจุด โดยเฉพาะคนไทยเรามักจะชอบซื้อยามารับประทานเอง
และคิดว่าการไปพบแพทย์เป็นเรื่องใหญ่
ระยะหลังมานี้ จึงพบโรคกรดไหลย้อนเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่คนไทย



          ด้าน ผศ.นพ.สมชาย ลีกากุศลวงศ์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์
ศิริราชพยาบาล อธิบายว่า โรคกรดไหลย้อนจะพบได้มากในทุกกลุ่มอายุ แต่ที่พบมาก
และมักจะมีอาการรุนแรง จะเป็นกลุ่มคนอ้วน ยิ่งกลุ่มคนที่สูบบุหรี่ยิ่งมีปัจจัยเสี่ยงมากขึ้น

           ส่วนเรื่องการวินิจฉัยโรคนั้น โดยปกติแล้วแพทย์สามารถวินิจฉัยได้จากอาการ
ดังที่กล่าวมา หากเป็นแพทย์สามารถให้การรักษาเบื้องต้นได้ โดยจะติดตามดูอาการของผู้ป่วย
ในบางรายอาจมีความจำเป็นต้องได้รับการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น ส่องกล้องทางเดินอาหาร
ตรวจทางรังสีวิทยา การตรวจวัดการบีบตัวของหลอดอาหาร และการตรวจวัดความเป็นกรด-ด่าง
ในหลอดอาหาร ซึ่งพบว่าได้ผลแม่นยำและดีที่สุดในปัจจุบัน

 
 

จากคุณ : แสนดีเหมือนทราย
เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 54 11:02:35




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com