ความคิดเห็นที่ 1 ระบบอุปถัมภ์ คงจะแก้ไขยากค่ะ เพราะมันฝังรากลึกจนกลายเป็นวัฒนธรรม หรือธรรมเนียมของคนไทยไปแล้วมังคะ ถ้าจะแก้ไขไม่ให้มีระบบอุปถัมภ์..คงจะทำได้ยาก เพราะจะต้องเปลี่ยนแนวคิดของผู้บริหารองค์การ ...ซึ่งจะต้องใช้จริยธรรมของนักบริหาร.. มุ่งความสำคัญไปสู่จุดมุ่งหมายโดยรวม.. ได้แก่ 1) ประโยชน์ของส่วนรวม 2) สิทธิส่วนบุคคล 3) ความยุติธรรม จะเห็นว่า ทุกองค์กร ไม่ว่าภาครัฐ หรือ เอกชน ก็ยังไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ ยังมีการเห็นแก่เส้นสาย..ลูกท่านหลานเธอ.. มีการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล..กีดกัน..และเอื้อประโยชน์เฉพาะคนที่มีเส้นสาย ยังมีการเลือกปฎิบัติ..ขาดความยุติธรรม..และเห็นแก่พวกพ้องของตน โดยเฉพาะภาครัฐ ยังมีการใช้คำว่า เป็นไปตามความเหมาะสม ในกรณีโยกย้าย/สับเปลี่ยน/เลื่อนตำแหน่ง...เพื่อจะได้ยืดหยุ่นให้มีการใ้ช้อำนาจบารมี คนที่ทำงานเช้าชามเย็นชาม..ถ้ารู้จักประจบจ้าวนาย..ก็อาจจะได้ดี ส่วนคนที่ทำงานแทบตาย..แต่อยู่ไกลจ้าวนาย.. ทำงานจนตายก็ได้แค่ปูนบำเหน็จให้เมื่อตัวตาย เช่น จ่าเพียร่ขาเหล็ก เป็นต้น สรุปก็คือ ยากต่อการเปลี่ยนแปลงค่ะ ^_^ จากคุณ : แสนดีเหมือนทราย เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 54 21:32:06

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้ามากๆ องค์กรก็จะอ่อนแอ จากคุณ : ตังชัย เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 54 21:57:13

ความคิดเห็นที่ 3 ระบบอุปถัมภ์ก็คือระบบที่เอื้ออำนวยความสะดวกให้กับพวกพ้อง ลูกหลาน ญาติ พี่น้อง คนรู้จัก เืพื่อให้ได้ทำงานในส่วนราชการก็ดี  ส่วนอื่นๆ  ก็ดี  แต่ปัจจุบันส่วนราชการนับว่ามีระบบอุปถัมภ์ค่อนข้างเยอะ ยิ่งถ้ารู้จักคนที่มีตำแหน่งใหญ่โต  ก็จะมีโอกาสมากกว่าคนอื่นๆ  ปัจจุบันอีกอย่างนอกจากระบบอุปถัมภ์แล้วยังต้องมีปัจจัยเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าไม่มีก็แทบไม่มีโอกาสเหมือนกัน  เรียกได้ว่าอุปถัมภ์กับปัจจัยต้องควบคู่กันไป ยิ่งตอนนี้เป็นธรรมเนียมไปแล้ว จากคุณ : ผาบรรพต เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 54 22:24:09

ความคิดเห็นที่ 4 แล้วอย่างนี้ถ้ามีการใช้ระบบอุมปถัมภ์มากขึ้น จะส่งผลถึงประเทศชาติมั้ยคะ แบบว่าการพัฒนาประเทศจะล่าช้าอะไรแบบนี้อ่าค่ะ จากคุณ : PoRieZzz เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 54 23:57:58

ความคิดเห็นที่ 5 ข้อดีของมันก็มีบ้าง มิใช่จะเสียทั้งหมด จขกท ต้องการถามระดับบริษัทหรือระดับประเทศคะ จากคุณ : เกี่ยวดาวมาไว้ดิน เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 54 00:59:35

ความคิดเห็นที่ 6 คห.4 แล้วอย่างนี้ถ้ามีการใช้ระบบอุมปถัมภ์มากขึ้น จะส่งผลถึงประเทศชาติมั้ยคะ แบบว่าการพัฒนาประเทศจะล่าช้าอะไรแบบนี้อ่าค่ะ >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> กลับเข้ามาตอบคำถาม ของคุณ : PoRieZzz ค่ะ ถ้าทุกองค์กรของรัฐ..ยังมีการใช้ระบบเส้นสาย เห็นแก่พวกพ้องน้องพี่ มีระบบอุปถัมภ์ค้ำชูกันอยู่ คนที่ทำผิด ทุจริต ฉ้อราษฏร์บังหลวง...แม้ถูกจับได้..ก็ยังได้รับการผ่อนปรน..ลงโทษสถานเบา ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า..ก็ยังลอยนวล..ไม่ถูกไล่ออก เพราะมีคนหนุนหลัง..ช่วยเหลืออยู่เสมอ เผลอๆ ก็อาจได้ย้ายและเลื่อนตำแหน่งไปอยู่ใกล้ชิดนายด้วยซ้ำ ก็มีผลทำให้..คนที่ตั้งใจทำความดี ซื่อสัตย์สุจริต ทำดีแทบตาย..แต่ปิดทองหลังพระ เจ้านายไม่เคยเห็นความดี..หากโดนกลั่นแกล้งเมื่อไหร่..ก็โดนลงโทษหนักหนาสาหัส เพราะนายไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยเข้าหานาย ..ทำดีเท่าไหร่ พลาดเมื่อไหร่ ตายเมื่อนั้น เค้าถึงบอกว่า... จงทำดี แต่อย่าเด่น จะเป็นภัย ไม่มีใคร อยากให้ เราเด่นเกิน ปัจจุบัน..คนที่มีความสามารถในภาครัฐ..หลายคนที่บ่นท้อ..และเออร์รี่รีไทร์กันออกมา คนเก่งๆ มีความสามารถ..ก็ลาออกมาทำงานภาคเอกชนกันมากขึ้น เพราะงานในภาคเอกชนท้าทายความสามารถมากกว่า..ผลตอบแทนก็มากกว่าด้วยค่ะ ป.ล. นี่เป็น คหสต. ความเห็นส่วนตัวนะคะ อิอิ ^_^ จากคุณ : แสนดีเหมือนทราย เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 54 07:15:12

ความคิดเห็นที่ 7 ต่างกรรม  ต่างวาระ พนักงานในองค์กร อยากเป็นผู้ได้รับความ"อุปถัมภ์" แต่ไม่อยากอุปถัมภ์ใคร หรือไม่อยากให้เจ้านายอุปถัมภ์ ใครอีก ไม่เป็นผลดีในระยะยาว ทำให้คนอ่อนแอลงเรื่อยๆ จากคุณ : labor_pu เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 54 09:23:47